ตอนที่ 2645 เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงขั้นสูง

เมื่อเห็นไวโอเล็ตคลาวด์เดินไปที่เครื่องหมายแปดสิบหลาที่อยู่ด้านหน้าของซือเฟิงนั้น อควาโรสและคนอื่นๆก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ เพราะท้ายที่สุดวัดจากสีหน้าและท่าทีของไวโอเล็ตคลาวด์นั้น การต่อต้านแรงกดดันทางจิตในระยะแปดสิบหลานั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาสำหรับเธอด้วย ในความเป็นจริงเธออาจจะขยับเข้าใกล้รูปปั้นได้มากกว่านั้นด้วย

นี่เธอสามารถปรับปรุงการควบแน่นทางจิตของตัวเองได้แล้วงั้นหรอ ? ในตอนนี้แม้แต่ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ ขณะที่เขามองไปยังไวโอเล็ตคลาวด์

หากผู้เล่นต้องการจะดูดซับดีไวน์วิลให้ได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถพึ่งพาได้แค่การควบแน่นทางจิตเท่านั้น นอกเหนือจากพวกไอเทมที่ช่วยฟื้นฟูค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจ เพราะท้ายที่สุดยิ่งจิตใจของคนๆหนึ่งมีการควบแน่นมากเท่าไหร่ การจะปะทะกับดีไวน์วิล และดูดซับมันได้มากขึ้นก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก

มันไม่มีเทคนิคที่เป็นรูปธรรมที่จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถปรับปรุงการควบแน่นทางจิตของตัวเองได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพจิตใจของมนุษย์นั้นไม่มั่นคง ซึ่งบางครั้งผู้เล่นก็จะสามารถสัมผัสมันได้บ้างหรือไม่ก็ไม่ได้เลย ดังนั้นสิ่งเดียวที่ผู้เล่นทำได้คือมุ่งความสนใจและต่อต้านสิ่งรบกวนเท่านั้น

ในขณะนี้เห็นได้ชัดว่าไวโอเล็ตคลาวด์ได้ปรับปรุงการควบแน่นทางจิตของเธอเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้สภาพจิตใจของเธอแข็งแกร่งขึ้นมาก เป็นผลให้เธอสามารถต้านทานแรงกดดันทางจิตได้มากขึ้น ไม่งั้นมันจะไม่มีทางที่เธอจะทนต่อแรงกดดันทางจิตในระยะแปดสิบหลาได้อย่างง่ายดายเลย

ซือเฟิงรู้มานานแล้วว่าไวโอเล็ตคลาวด์นั้นมีความสามารถและพรสวรรค์สูงมาก
เพราะท้ายที่สุดแล้วในชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้น เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่พึ่งพาเพียงแค่ความแข็งแกร่งของตัวเองจนสามารถไปถึงขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าได้ ในขณะที่อัจฉริยะกว่าเก้าสิบเปอเซ็นต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจต่างๆนั้นลงเอยด้วยการติดอยู่ที่ขั้นห้า และไม่เคยผ่านเข้าสู่ขั้นหกได้เลยตลอดชีวิต ดังนั้นนี้มันก็น่าจะทำให้ใครๆสามารถจินตนาการได้ว่าความสามารถและพรสวรรค์ของไวโอเล็ตคลาวด์นั้นน่ากลัวขนาดไหน เพราะเธอนั้นสามารถจะทำสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จได้โดยที่ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆเลย

อย่างไรก็ตามความสามารถและพรสวรรค์ของไวโอเล็ตคลาวด์นั้นก็ยังคงไปไกลเกินความคาดหมายของซือเฟิงมากๆ แม้ว่าเขาจะได้ยินชื่อเสียงของเธอมาจากชีวิตที่ผ่านมาแล้วก็ตาม

นี่เป็นครั้งแรกที่ซือเฟิงให้ทุกคนมาฝึกอะไรแบบนี้ ซึ่งแม้แต่ซือเฟิงก็ไม่ได้มีวิธีการหรือเทคนิคใดๆที่จะทำให้ตัวเองปรับปรุงการควบแน่นทางจิตได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามหลังจากฝึกฝนมามากกว่าหนึ่งชั่วโมงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไวโอเล็ตคลาวด์ก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแล้ว พรสวรรค์ของเธอนั้นมันช่างน่ากลัวมากจริงๆ

ในขณะเดียวกันความก้าวหน้าอย่างกะทันหันของไวโอเล็ตคลาวด์นั้นก็ได้กระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของทุกคน พวกเขารีบลองก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อทดสอบว่าพวกเขาจะสามารถทนต่อแรงกดดันทางจิตได้มากแค่ไหน และพวกเขาจะสามารถทำได้เท่าไวโอเล็ตคลาวด์ไหม ….

ในสถานการณ์นี้แม้แต่ตัวซือเฟิงเองก็ลองดูเช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาก็สามารถขยับไปได้ถึงแค่ระยะแปดสิบห้าหลาเท่านั้น

ซึ่งที่ระยะแปดสิบห้าหลานั้นซือเฟิงก็หน้าซีดลงทันทีในความพยายามที่จะต่อต้านแรงกดดันทางจิตที่เขาได้รับ ขณะเดียวกันมันก็ทำให้สติของเขาพร่ามัวไปในบางครั้ง

ฉันก้าวมาข้างหน้าอีกแค่ห้าหลาเท่านั้น แต่ฉันกับเสียค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจไปเกือบสิบเปอเซ็นต์ในการเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางจิตแต่ละครั้ง ฉันแทบจะไม่ได้ดูดซับดีไวน์วิลใดๆได้ด้วยซ้ำในเวลานี้ แน่นอนเลยว่าการควบแน่นทางจิตนั้นทำไม่ได้ง่ายๆเลย ซือเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ขณะที่เขามองไปยังไวโอเล็ตคลาวด์ที่สามารถทนและต่อต้านแรงกดดันทางจิตที่แปดสิบหลาได้อย่างสบายๆ

ตอนแรกเขาคิดว่าสภาพจิตของเขาน่าจะแข็งแกร่งขึ้นในระดับหนึ่ง หลังจากที่ทนและต่อต้านแรงกดดันในระยะเก้าสิบหลาได้ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขาจะประเมินตัวเองสูงเกินไป

ดูเหมือนว่าฉันจะทำได้แค่ต้องกลับไปที่ตำแหน่งเดิม และค่อยๆเรียนรู้ไปอย่างช้าๆสินะ ซือเฟิงคิดพลางส่ายหัว ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อเดินกลับไปตำแหน่งเดิม

โดยขณะที่เขาลุกขึ้นยืนนั้น รูปปั้นเบื้องหน้าเขาก็แผ่แรงกดดันทางจิตออกมาอีกระลอก ซึ่งในตอนนี้นั้นซือเฟิงไม่ได้พยายามที่จะต่อต้านัน เขาเพียงแค่อดทนกับมันเท่านั้น

หลังจากอดทนต่อแรงกดดันทางจิตระลอกนี้ ซือเฟิงก็รู้สึกว่าจิตใจของเขานั้นพร่ามัวเล็กน้อย และการควบคุมร่างกายทางกายภาพของเขาก็ช้าลง ซึ่งโดยรวมแล้วเขามีอาการดีกว่าตอนที่พยายามจะต่อต้านมันอย่างถึงที่สุดมากๆ

แม้จะเผชิญกับแรงกดดันทางจิตแบบเดียวกัน แต่มันก็มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการอดทนกับการต่อต้านอย่างถึงที่สุด ถ้าอดทนแล้วให้ผลแบบนี้ ฉันน่าจะสามารถค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปในระยะสามสิบหลาจากรูปปั้นได้อย่างรวดเร็ว ซือเฟิงนั้นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างมีความสุข เมื่อเขาเริ่มสัมผัสได้ถึงวิธีการที่เขาต้องใช้สำหรับการฝึกนี้

ตอนนี้ซือเฟิงเข้าใจแล้วว่าการพยายามต่อต้านจนถึงที่สุดนั้นไม่ใช่อะไรที่ดีเลย ซึ่งมันตรงกันข้ามกับการอดทน และเลือกจะปล่อยให้ร่างกายไหลไปตามสภาพจิตใจ และสัญชาตญาณที่ได้ผลดีกว่า ซึ่งเมื่อซือเฟิงเริ่มเข้าใจจุดนี้และสามารถควบคุมหลายสิ่งได้มากขึ้น ซือเฟิงจึงจะมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นมากในการดูดซับดีไวน์วิล

หลังจากคิดมาถึงจุดนี้ ซือเฟิงก็ทรุดนั่งลงทันที และเริ่มจะทดสอบความคิดทั้งหมดของเขา

ก่อนหน้านี้เขามัวแต่จดจ่ออยู่กับการใช้สภาพจิตใจเพื่อต่อต้านแรงกดดันทางจิตที่เขาได้รับ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเลือกจะกระจายโฟกัสไปทั่วร่างกายของเขาแทน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งใดขึ้นมามีอิทธิพลเหนือการควบคุมของเขา

ในเวลาต่อมาแรงกดดันทางจิตอีกระลอกก็มาถึง ซึ่งแม้ว่าแรงกดดันทางจิตระลอกนี้มันจะทำให้หน้าของซือเฟิงซีดลงไปเล็กน้อย แต่รอยยิ้มก็ได้ปรากฎขึ้นบนหน้าเขาแล้ว

ใช่แล้ว !!! แบบนี้แหละ !!! ซือเฟิงตื่นเต้นมากเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงค่าความแข็งแกร่งางจิตใจที่เขาสูญเสียไปในครั้งล่าสุด

ในตอนแรกเขาจะสูญเสียค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจไปประมาณหนึ่งในสี่ เมื่อเขาทำการต่อต้านแรงกดดันทางจิตที่ระยะเก้าสิบหลา อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาสูญเสียค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจไปแค่หนึ่งในห้าสิบเท่านั้น และแม้ว่ามันจะยังนับว่าเป็นการปรับปรุงไม่มากนัก แต่อย่างน้อยที่สุด เขาก็ได้เข้าใจถึงก้าวแรกของการเริ่มต้นฝึกเรื่องนี้แล้ว

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ถอยห่างออกไป และนั่งลงนอกระยะของแรงกดดันทางจิตจากรูปปั้น จากนั้นเขาก็เริ่มคิดพิจารณาถึงวิธีที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการควบคุมร่างกายของเขาเพื่อที่เขาจะสามารถกระจายจุดโฟกัสไปได้มากที่สุด หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ เขาพยายามจะออกแรงกล้ามเนื้อทั้งหมดไปในทิศทางเดียว ซึ่งด้วยวิธีนี้มันจะทำให้เขาสามารถควบคุมร่างกายของเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จ

อย่างไรก็ตามนี่เป้นครั้งแรกที่ซือเฟิงได้ลองทำสิ่งนี้ แม้ว่าเขาจะมาถึงขอบเขตโดเมนแล้วและสามารถควบคุมประสาทสัมผัสทั้งห้ารวมทั้งร่างกายของเขาได้อย่างแม่นยำ แต่เขาก็ไม่เคยพยายามออกแรงกล้ามเนื้อทุกส่วนให้ไปในทิศทางเดียวกันเลย และเมื่อซือเฟิงลองทำจริงๆนั้น เขาก็ได้รู้ว่านี่มันเป็นสิ่งที่ท้าทายมากๆ โดยในตอนนี้เขายังออกแรงกล้ามเนื้อทุกส่วนให้ไปในทิศทางเดียวกันได้แค่สิบเปอเซ็นต์เท่านั้น

แน่นอนเลยว่ามันเป็นเรื่องยากจริงๆ มันจะดีมากถ้าฉันมีเทคนิคการต่อสู้ที่ช่วยปรับทิศทางการออกแรงของกล้ามเนื้อ

ขณะที่ซือเฟิงกำลังพยายามออกแรงกล้ามเนื้อทุกส่วนให้ไปในทิศทางเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่าการจะทำมันให้สำเร็จจริงๆนั้นยากกว่าการเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงซะอีก เพราะท้ายที่สุดในตอนที่ใช้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงนั้น กล้ามเนื้อทุกส่วนไม่ได้จำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันแบบนี้

แต่ก็นั่นแหล่ะนะ !!! เนื่องจากฉันไม่มีเทคนิคการต่อสู้แบบนี้ ฉันก็ทำได้แค่พยายามสร้างมันขึ้นมากเท่านั้น !!! แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว ฉันจะไม่สามารถใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายได้ตามที่คิด แต่หากใช้มันได้มากขึ้นในทิศทางเดียวกัน มันก็จะยังเป็นประโยชน์ต่อฉันมากแน่นอน !!! ซือเฟิงครุ่นคิด

หลังจากครุ่นคิดแล้ว เขาก็เริ่มการสร้างเทคนิคการต่อสู้ทันที

เมื่อเทียบกับเทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงแล้ว เทคนิคการต่อสู้ที่ซือเฟิงคิดไว้เป็นแนวคิดนั้นมันมีความยากและซับซ้อนกว่ามาก หากคิดจะใช้มันจริงๆ อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้ที่โชกโชน และความสามารถในการผสานรวมเทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงเข้ากับทุกการเคลื่อนไหว มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับซือเฟิงที่จะทำมันขึ้นมาให้สำเร็จ เพราะท้ายที่สุดนี่มันก็เหมือนกับการจัดการมานาและสร้างวงเวทย์นั่นแหละ ….

เมื่อคิดได้ดังนี้ ซือเฟิงก็เริ่มทดลองในทันที ….

หนึ่งชั่วโมง ….

สามชั่วโมง ….

เก้าชั่วโมง ….

หลังจากผ่านไปสิบชั่วโมงในการลองผิดลองถูก พื้นอันมั่นคงของเมืองไลท์ฟอร์จก็เริ่มกระเพื่อม ในเวลาเดียวกัน เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นมาที่หูของซือเฟิง และเนื้อห้าของมันก็ดังก้องอยู่ในใจเขา

….

ระบบ : ยินดีด้วย !!! คุณได้สร้างเทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงขั้นสูงขึ้นมาได้สำเร็จ กรุณาตั้งชื่อเทคนิคการต่อสู้ของคุณ