ตอนที่ 2644 ดีไวน์วิลที่ค่อนข้างจะน่าสนใจ

รูปปั้นขนาดมหึมาบนกำแพงสูงของเมืองไลท์ฟอร์จนั้นให้ความรู้สึกที่สง่างาม และแผ่แรงกดดันออกมา อย่างที่ไม่อาจจะอธิบายได้ ซึ่งเมื่อซือเฟิงและสมาชิกสภาสิบแปดปีกคนอื่นๆอยู่ห่างจากรูปปั้นนี้ในระยะหนึ่งร้อยหลา พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ทรงพลังมากๆพุ่งเข้าใส่จิตใจของพวกเขาทันที ครู่หนึ่ง พวกเขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของพวกเขานั้นไม่ได้เป็นของตัวเองอีกต่อไป ในขณะที่สติของพวกเขาเริ่มสั่นคลอน พวกเขานั้นกลายเป็นเหมือนเรือลำเล็กที่กำลังแล่นข้ามมหาสมุทรที่มีพายุ และแม้แต่ความผิดพลาดเพียงแค่เล็กน้อย มันก็อาจจะทำให้พวกเขาตายลงได้เลย

“ช่างเป็นแรงกดดันทางจิตที่รุนแรงมากๆ !!! เพียงแค่โดนการแรงกดดันนี้พุ่งเข้าใส่จิตใจครั้งเดียว ฉันก็รู้สึกราวกับว่าฉันพึ่งใช้เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงไป หากยังโดนแบบนี้ต่อไป ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของฉันคงจะหมดลงในเวลาไม่นานนัก” เสวี่ยเหวินโหรวกล่าวแสดงความคิดเห็น พลางขมวดคิ้ว เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงแรงกดดันทางจิตที่รูปปั้นแผ่ออกมา

เธอนั้นตระหนักดีว่ารูปปั้นเหล่านี้มีความพิเศษ ตั้งแต่เธอมองมันจากนอกเมืองแล้ว เพราะท้ายที่สุดแม้ว่ารูปปั้นเหล่านี้จะอยู่ในระยะไกล แต่มันก็ส่งผลต่อค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเธออย่างมากแล้ว และเมื่อเธอได้ยืนอยู่ใกล้กับรูปปั้นนี้ เธอก็ได้ตระหนักว่าพวกมันน่ากลัวกว่าที่เธอคิดไว้มาก และแม้ว่าเธอจะไม่ได้มองไปยังรูปปั้นพวกนี้ แต่ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเธอก็ยังคงถูกผลาญไปเรื่อยๆ ภายใต้ออร่าที่มันแผ่ออกมา และมันก็ทำให้จิตใจของเธออ่อนแอลงเรื่อยๆ

“หัวหน้ากิล อย่าบอกนะว่าการฝึกที่หัวหน้าพูดถึงจะเกิดขึ้นที่นี่ ?” อควาโรสกล่าวเชิงคัดค้าน เมื่อเธอมองไปยังซือเฟิง

“ใช่แล้ว เราจะฝึกกันที่นี่ …” ซือเฟิงกล่าว ขณะที่เขายิ้ม และพยักหน้า

“หัวหน้ากิล รูปปั้นเหล่านี้มันส่งผลต่อค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเรามากเกินไป ไม่ต้องพูดถึงการใช้สกิลและเวทย์ แม้แต่การควบคุมมานาขั้นพื้นฐานก็จัดเป็นปัญหามากแล้ว มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่เราจะทำการฝึกที่นี่ …” อควาโรสแย้ง เมื่อเธอได้ลองพยายามจัดการและรวบรวมมานาของเธอก่อนหน้านี้นั้น แรงกดดันของรูปปั้นได้ปราบปรามเธออย่างรุนแรงจนทำให้เธอไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย นี่ไม่ต้องพูดถึงการจะใช้สกิลหรือเวทย์สักสกิลที่นี่เลย

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอควาโรส

มันอาจจะดีกว่านี้ถ้าแรงกดดันทางจิตที่พวกเขาได้รับนั้นไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้แรงกดดันทางจิตที่พวกเขาได้รับนั้นมันทำให้พวกเขาแทบหมดสติ และการจะต่อต้านแรงกดดันทางจิตที่รุนแรงมากขนาดนี้ให้ได้อย่างต่อเนื่องนั้นมันก็ทำได้ยากมากๆ เพราะท้ายที่สุดแล้วแค่การควบคุมร่างกายทั่วไปของพวกเขาก็ยังทำได้ยากเลยในสภาวะแบบนี้

ดังนั้นแทนที่จะมามัวเสียเวลาที่นี่ มันจะดีกว่าถ้าพวกเขาไปที่หนึ่งในโรงแรมในเมืองเพื่อฝึกฝนการควบคุมมนา ซึ่งประสิทธิภาพในการฝึกนั้นมันจะดีกว่าที่นี่หลายร้อยเท่าเลย

“มันยากมากที่จะฝึกการควบคุมมานาที่นี่ แต่ฉันไม่ได้พาทุกคนมาเพื่อฝึกควบคุมมานานะ เรามาที่นี่เพื่อฝึกความแข็งแกร่งทางจิตใจ” ซือเฟิงอธิบาย

“ฝึกความแข็งแกร่งทางจิตใจ ?! เป็นไปได้ยังไง ?!” อควาโรสเต็มไปด้วยความตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง และเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาอย่างสงสัย

ในขณะนี้ไม่เว้นแม้แต่อควาโรส เสวี่ยเหวินโหรว และคนอื่นๆก็ล้วนมองมายังซือเฟิง
อย่างสงสัยเช่นกัน เพราะพวกเขาคิดว่าซือเฟิงกำลังล้อเล่นกับพวกเขา

ใน God domain มันเป็นความรู้โดยทั่วไปที่การเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจนั้มันทำได้ยากกว่าค่าสตามิน่ามากๆ

แน่นอนว่าความอยากในการเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของทุกคนนั้นมีสูงมาก เพราะท้ายที่สุดผลตอบแทนที่จะได้รับจากการที่สามารถเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจได้นั้น มันเหนือกว่าการสามารถเพิ่มค่าสตามิน่าได้ซะอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นนักเวทย์ และบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ความช่วยเหลือที่พวกเขาจะได้รับจากการเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจนั้นมันมากกว่าการเพิ่มค่าสถานะพื้นฐาน หรือค่าสถานะลับหลายอย่างซะอีก เพราะท้ายที่สุดค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้เล่นในการใช้เทคนิคการต่อสู้

อย่างไรก็ตามตอนนี้มันมีเพียงสองวิธีเท่านั้นที่รู้กันที่สามารถจะใช้ปรับปรุง และเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจได้ หนึ่งคือการเพิ่มขั้น และเลเวล ส่วนสองคือการเพิ่มคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิต
ดังนั้นไอเทมใดๆก็ตามที่สามารถจะช่วยเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของผู้เล่นได้ชั่วคราวจึงมีค่าอย่างน่าเหลือเชื่อ และมันก็จะขายได้ในราคาสิบเท่าของไอเทมอื่นๆที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกันหรือเท่ากัน อย่างไรก็ตามแม้ว่าราคาจะเป็นแบบนี้ แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังล้วนแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง เมื่อไอเทมแบบนี้ปรากฎขึ้นในตลาด

อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกำลังบอกพวกเขาว่ามันเป็นไปได้ที่จะปรับปรุง และเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจโดยตรง ดังนั้นความสงสัยของพวกเขาจึงจัดเป็นเรื่องธรรมดา

“โดยปกติแล้วการปรับปรุงและเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจนั้นมันเป็นงานที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตามรูปปั้นที่นี่มันมีความพิเศษ แรงกดดันที่ทุกคนรู้สึกได้นั้นคือดีไวน์วิล ซึ่งหากทุกคนดูดซับเข้าไปได้มันจะช่วยปรับปรุงและเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของทุกคนได้” ซือเฟิงอธิบายพลางหัวเราะเบาๆ “ถ้าให้ฉันชี้ให้ทุกคนเห็นถึงสมบัติที่มีค่าที่สุดในเมืองไลท์ฟอร์จ รูปปั้นเหล่านี้จะเป็นหนึ่งในนั้น อย่างไรก็ตามดีไวน์วิลภายในรูปปั้นเหล่านี้นั้นจัดเป็นของสิ้นเปลือง เมื่อผู้เล่นดูดซับมันเข้าสู่ตัวเอง ปริมาณที่มันมีอยู่ในรูปปั้นก็จะลดลง และแม้ว่ารูปปั้นเหล่านี้จะสามารถฟื้นฟูดีไวน์วิลที่หายไปได้ แต่มันก็ไม่มีใครรู้ว่ารูปปั้นเหล่านี้จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการฟื้นฟูดีไวน์วิล และหากเราพลาดโอกาสนี้ไป มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่เราจะเจอโอกาสแบบนี้อีกในอนาคต”

“นั่นคือเหตุที่หัวหน้าให้เราใช้คะแนนสะสมทั้งหมดแลกเปลี่ยนเป็นโพชั่นฟื้นฟูค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจระดับปรมาจารย์สินะ …” อควาโรสอุทานออกมา เมื่อตระหนักรู้ได้ถึงทุกสิ่ง “ถ้าคนของไวโอเล็ทซอร์ดรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะส่งผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดทั้งหมดมาฝึกที่นี่ โดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายแน่นอน”

เพราะท้ายที่สุดแล้ว พูดกันตรงๆแม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะเซ็นสัญญาเป็นหุ้นส่วนกับไวโอเล็ทซอร์ด และตอนนี้ แม้ว่ากิลจะได้รับช่องทางเข้าสู่ดินแดนลับโบราณมาแล้วหนึ่งร้อยช่อง แต่สภาสิบแปดปีกก็ไม่ได้มีฐานปฎิบัติการในเมืองไวโอเล็ทไลท์ ดังนั้นทรัพยากรที่สภาสิบแปดปีกสามารถหาได้จากดินแดนลับโบราณนั้นมันก็จะเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่ไวโอเล็ทซอร์ดจะหาได้จากดินแดนลับโบราณ ไวโอเล็ทซอร์ดนั้นจะสามารถหาคะแนนสะสมภายในเมืองไลท์ฟอร์จได้เร็วกว่าที่สภาสิบแปดปีกจะสามารถทำได้แน่นอน และหากไวโอเล็ทซอร์ดพบความลับของรูปปั้นพวกนี้ พวกเขาจะส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเข้ามาเพื่อดูดซับดีไวน์วิลของรูปปั้นให้หมดไปอย่างรวดเร็วจนไม่เหลือไว้ให้สมาชิกสภาสิบแปดปีกแน่นอน

“เอาล่ะทุกคน เริ่มเพ่งสมาธิไปที่การต่อต้านแรงกดดันทางจิตนี้ และยิ่งทุกคนเข้าไปใกล้รูปปั้นมากเท่าไหร่ แรงกดดันที่จะต้องเผชิญก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น ในขณะเดียวกันยิ่งทุกคนสามารถทนและต่อต้านแรงกดดันทางจิตนี้ได้มากเท่าไหร่ ทุกคนก็จะยิ่งได้รับการปรับปรุงและเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามอย่าโลภมากเกินไป ให้ค่อยๆดูดซับดีไวน์วิลอย่างค่อยเป็นค่อยไป และฝึกอย่างเหมาะสม เพราะหากฝืนเกินไป มันจะมีข้อเสียแบบถาวรมากกว่าข้อดี” ซือเฟิงกล่าวขณะที่เขามองไปยังคนอื่นๆ

เมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิง อควาโรสและคนอื่นๆก็พยักหน้าอย่างตื่นเต้นก่อนจะเริ่มฝึกกันทันที

อย่างไรก็ตามหลังจากเริ่มต้นการฝึกทุกคนก็ต้องเต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงความยากในการฝึกของเรื่องนี้ และแม้แต่ซือเฟิงนั้นก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นๆมากนัก แม้ว่าเขาจะสามารถขยับเข้าไปใกล้รูปปั้นได้มากกว่าคนอื่น แต่ในความพยายามครั้งแรกเพียงครั้งเดียว มันก็ลดค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาลงไปถึงหนึ่งในสี่

หลังจากลองฝึกอยู่อีกประมาณสองนาที ซือเฟิงก็แทบจะไม่มีค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจเหลืออยู่เลย ซึ่งมันก็ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดื่มโพชั่นฟื้นฟูค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจระดับปรมาจารย์เพื่อช่วยให้เขาสามารถฝึกต่อไปได้

หลังจากฝึกไปแบบนี้อีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ซือเฟิงก็ลืมตาตื่นขึ้น และมองไปที่รูปปั้นที่ใกล้ที่สุดด้วยสีหน้าหดหู่

ในช่วงหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขานั้นดีขึ้นในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับเป้าของเขาแล้ว มันก็ยังคงอยู่ห่างไกลมาก และหากเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้เขาใช้โพชั่นโพชั่นฟื้นฟูค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจไปจนหมด และฝึกอีกยี่สิบชั่วโมง ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาก็จะไม่สามารถขึ้นไปอยู่ที่มาตราฐานขั้นสี่ได้แน่นอน

ในอัตรานี้ ฉันจะไม่สามารถทำให้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของตัวเองไปถึงขั้นสี่ได้ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆจะเริ่มท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ด้วยซ้ำ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญในชีวิตที่ผ่านมาของฉันถึงไม่ค่อยพึ่งพาดีไวน์วิลเพื่อช่วยในเรื่องนี้เลย

อย่างไรก็ตามในขณะที่ซือเฟิงกำลังจะตั้งสมาธิและฝึกต่ออีกครั้ง ไวโอเล็ตคลาวด์ซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังเขาก็ลุกขึ้นยืน และเดินไปที่เครื่องหมายแปดสิบหลาที่อยู่ด้านหน้าของซือเฟิง