TQF:บทที่ 698 ข่าวน่าตกใจ (1)
บรรลุเทพเทวาทั้ง 2 ปรากฏตัว ถึงเวลาที่พวกนางต้องลงมือแล้ว
“พวกเจ้าเป็นใคร ถึงกล้ามาหาเรื่องสำนักมาร” บรรลุเทพเทวาหน้าไม่อายในสายตาหยูเฮงน้อยเหมือนกับหาที่ลงได้ ตะคอกชายหนุ่ม 2 คนอย่างเกรี้ยวกราด
“ชิ…”
หยูเฮงน้อยส่งสายตาดูหมิ่นไปให้เขา “หน้าไม่อายจริงๆ อายุปูนนี้แล้วยังกล้าเล่นชู้กับเมียคนอื่นอีก ขายขี้หน้าชะมัด”
“เจ้าวอนซะแล้ว….” แผลยังไม่ทันหายดีก็โดนเปิดออกต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง บรรลุเทพเทวาหน้าไม่อายบันดาลโทสะ คำรามและกำหมัดแน่นทั้ง 2 ข้าง การโจมตีที่เป็นดั่งพายุโหมกระหน่ำเข้าใส่หยูเฮงน้อยทันที
“ดูซิว่าใครกันที่วอน” หยูเฮงน้อยสบถเสียงเย็น โบกมือเบาๆก็มีฝ่ามือสีขาวปรากฏขึ้นในอากาศ พุ่งเข้าใส่อีกฝ่าย
“อ๊ากกก….”
ภายใต้การถล่มของแสงสีเขียวทั่วนภา ได้ยินเพียงเสียงร้องโหยหวนเสียงนึง บรรลุเทพเทวาหน้าไม่อายรับไม่ไหว จมลงใต้พื้นด้วยฝ่ามือเดียวของหยูเฮงน้อย วิญญาณแหลกสลาย หมดลมหายใจไป
ล้อเล่นรึเปล่า หยูเฮงน้อยเป็นคนที่สู้กับคนระดับจักพรรดิเทพเซียนได้เชียวนะ จะต่อกรกับบรรลุเทพเทวาที่สูญเสียการควบคุมอารมณ์ ใช้เป็นแต่กำลังน่ะ ท่าเดียวก็พอ
แน่นอนว่าหากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเสียความใจเย็นและการตั้งสติไป หยูเฮงน้อยจะเก็บกวาดเขาก็ต้องใช้หลายท่าอยู่ คงไม่เร็วขนาดนี้
มหาผู้อาวุโสตายแล้ว!
ทุกคนตะลึงกันหมด มองชายชุดดำ 2 คนอย่างไม่อยากจะเชื่อ ใครกันที่ฆ่าบรรลุเทพเทวาได้ในพริบตาเดียว น่าตกใจเสียจริง
ผู้เฒ่าที่ถือกระบองไม้ไผ่ก็ตกอยู่ในความตะลึง เขาสัมผัสได้ว่าชายชุดดำไม่มีพลังเซียน แต่ลงมือสังหารเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของเขาได้ ล้อเล่นรึเปล่า
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าคือเรื่องจริง ไม่ใช่เขาตาฝาดไป
“พะ พวกเจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงมาอยู่ที่สำนักมารของพวกเรา” ผู้เฒ่าชุดเทาจ้องเขม็งไปที่ทั้ง 2 อย่างเย็นยะเยือก
คนหนึ่งวิทยายุทธระดับก้าวสู่เทพเทวา ส่วนอีกคนดูวิทยายุทธไม่ออก ทั้งคู่ปรากฏตัวขึ้นอย่างพิศวง
หยูเฮงน้อยเชิดคางพูดด้วยความโอหัง “ข้าจะล้างบางพวกเจ้าสำนักมาร กำจัดไอพวกชั่วๆอย่างพวกเจ้าให้หมด บังอาจยื่นมือเข้าไปยุ่งกับของๆคนอื่น สมควรตาย”
“พวกเราได้ยุ่งกับของๆคนอื่นรึเปล่าเรารู้ตัวเองดี ในเมื่อทั้ง 2 กล้าจะมาถึงนี่ก็เอ่ยชื่อมา หรือกลัวว่าใครจะรู้ว่าพวกเจ้าเป็นใคร ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่หลบซ่อนตัวเองนะ”
ผู้เฒ่าชุดเทาไม่เคยยุ่งเรื่องในสำนัก ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่าใครกันที่อยากจะล้างบางพวกเขาสำนักมาร
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเหลือบมองเขาและอยากรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “พวกเจ้ารู้หรือไม่มันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือพวกเรารู้ว่าพวกเจ้าเป็นคนลงมือก็เพียงพอแล้ว เหล่าลูกศิษย์สำนักมารไปได้ ผู้อาวุโสทุกคนต้องอยู่ที่นี่ อย่าคิดจะไปไหน พวกเจ้าหนีไม่พ้นหรอก”
“บังอาจ….”
จะล้มสำนักพวกเขาที่อายุนับพันปีเป็นเรื่องที่เขาไม่อนุญาตเด็ดขาด
หยูเฮงน้อยเมินแววตาอาฆาตของอีกฝ่าย พูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “อยากตายก็อยู่ที่นี่ ข้าไม่คิดมากที่จะส่งให้ไปที่ชอบๆ”
“รนหาที่ชัดๆ…” บรรลุเทพเทวาชุดเทาไม่รอช้า โต้กลับทันทีด้วยแรงทั้งหมดที่มีอย่างไม่ยั้งมือ
“ฟิ้วว….”
เสียงแหลมดังผ่าอากาศมา ไม้เท้าไผ่ในมืออีกฝ่ายกลายเป็นมังกรเขียวและพุ่งใส่ทั้ง 2 ด้วยความเกรี้ยวกราด
“หืม มังกรตัวเล็กๆ ไม่สนุกเลย”
หยูเฮงน้อยไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย นางกระชากเถาวัลย์ออกมาและฟาดไปที่หัวของมังกรเขียวอย่างแรง
ในขณะที่พวกเขาสู้กันอยู่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ได้ว่าง ในเมื่อไม่คิดจะปล่อยให้คนของสำนักมารรอดไปได้ก็แค่ลงมือ
“ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหมดเลือกที่จะอยู่ งั้นข้าจะสงเคราะห์ให้” นางตะโกนออกมาพร้อมด้วยดาบในมือที่มีตอนไหนไม่รู้ สิ้นเสียง ส้วบ ก็มีเงาแสงจากดาบวาบผ่านไป เหล่าผู้อาวุโสและลูกศิษย์ที่ไม่ทันตั้งตัวหัวกระเด็นกันหมด เลือดโปรยปรายลงมาดั่งฝน พวกเขาตายได้น่าสงสารจริงๆ ยังไม่ทันจะรู้ตัวก็ถูกคนอื่นฟันหัวขาดซะแล้ว
เหล่าผู้อาวุโสและลูกศิษย์คนอื่นที่ยืนอยู่อ้าปากค้างมองคนที่ปรากฏตัวด้วยความตะลึง พร้อมกับมีความคิดผุดขึ้นในหัวว่าควรจะรีบหนีจากสำนักมารดีมั้ย ก่อนที่ชีวิตจะหาไม่
แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ยังภักดีต่อสำนักมารอยู่ ในที่สุดพวกเขาก็ได้สติกลับมา เมื่อเห็นหน้าฆาตกรต่างคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “พวกเราลุย ฆ่าพวกเขาแก้แค้นให้เหล่าผู้อาวุโส….”
“ฆ่า ทุกคนอย่าปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้….”
“พวกเราจะสับพวกเขาให้เป็นชิ้นๆ”
“เร็วเข้า ล้อมพวกเขาไว้…”
…..
เหล่าผู้อาวุโสและลูกศิษย์ที่ได้สติกลับมาตะโกนกู่ร้องด้วยความแค้นเคือง แต่ละคนลงมือสุดแรงพุ่งเข้ามาใส่เฉิงเสี่ยวเสี่ยว”
“มาก็ดีแล้ว” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่กลัวแต่กลับดีใจ สายตานางเย็นยะเยือก และลงมือฆ่าคนราวกับเสือที่หลุดเข้าฝูงแกะ ไม่ยั้งมือเลยสักนิด
ที่ๆนางไปถึงมีแค่เสียงร้องโหยหวน ศพนอนเกลื่อนไปหมด ไม่มีศัตรูคนไหนสู้ได้ ในช่วงเวลาสั้นๆก็มีศพในสำนักมารถึงหลายพันศพ
“ตู้มม….”
มีเสียงดังคล้ายระเบิดออกที่กลางอากาศ หยูเฮงน้อยก็กำลังสู้กับบรรลุเทพเทวาอย่างออกรส ส่วนขันทีชราที่คอยคุ้มกันให้พวกนางส่ายหัวไปมา
แม่นาง 2 ผู้นี้ลงมือ เขาได้แค่ยืนดูเท่านั้นแหละ เหล่าผู้อาวุโสและลูกศิษย์ข้างล่างนั้นไม่ใช่คู่มือของคุณหนู ส่วนหยูเฮงน้อยก็แค่เล่นสนุกกับบรรลุเทพเทวาเท่านั้น ฝึกปรือฝีมือดู
ไม่ต้องเดาก็รู้จุดจบของสำนักมาร
ฝูงชนที่พุ่งเข้ามาล้มครืนกันไปฝูงแล้วฝูงเล่า พลังของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ใช่อะไรที่เหล่าผู้อาวุโสและลูกศิษย์พวกนี้จะจินตนาการได้ เมื่อลมปราณแห่งดาบวาดผ่านไป ศพก็เกลื่อนพื้นทันที
เสียงกรีดร้องและกลิ่นสาบเลือดจากที่นี่ส่งผลให้ลูกศิษย์และผู้อาวุโสสำนักมารพากันมาที่นี่มากขึ้น เมื่อพวกเขาได้เห็นการเข่นฆ่าจากฝ่ายเดียวและศพที่เกลื่อนกลาดก็มีสีหน้าซีดเผือด เผยแววตาหวาดกลัวและตกตะลึงออกมา
“หยุดนะ ข้าบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้…”
ผู้เฒ่าชุดเทาเห็นผู้อาวุโสและลูกศิษย์สำนักตัวเองล้มตายเป็นเบือทั้งโกรธทั้งร้อนรน หมายจะช่วยคนอื่นโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเอง
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาสำนักมารได้จบเห่แน่
“ตู้มม…”
ในชั่วขณะที่เขาหันเหความสนใจไปที่อย่างอื่น ฝ่ามือ 2 ข้างของหยูเฮงน้อยก็ประทับเข้าที่หลังของผู้เฒ่าชุดเทาอย่างจัง
เสียงพรวดดังขึ้น เขากระอักเลือดออกมา คนทั้งคนปลิวออกไป
แต่ในเสี่ยวนาทีที่เขากำลังจะร่วงลงพื้น แววตาของเขาก็เป็นประกายเย็นยะเยือก มือขวาของเขาพยุงร่างไว้และใช้เอาแรงที่เหลืออยู่จากฝ่ามือของหยูเฮงน้อยเด้งพรวดพราดไปที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวราวสายฟ้าฟาด
เหตุการณ์นี้เกินความคาดหมายของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหยูเฮงน้อยหรือขันทีชราจากที่ไกลๆก็ห้ามเขาไว้ไม่ทัน
——————————