Chapter 277 : Battle Lich
เดฟ กลับมาที่เมืองอันเดตอยู่ข้างๆกับวังกระดูก เขาเห็นเมือง Arotsa เก่าที่เปลี่ยนเป็นดินแดนอันเดต มันมีแจ้งเตือนหลายอันโผล่มาตรงหน้าเขา เขาตรวจสอบแจ้งเตือนเลเวลเพิ่มและตระหนักได้ว่าเลเวลเขาขึ้นมาเกือบ 20 เลเวล ตอนนี้เขาเลเวล 346 แล้ว เควสระดับ SS ให้ exp กับเขามหาศาล
ที่เหลือตอนนี้คือคลาสที่เปลี่ยนไปของเขา
***
Battle Lich
ลิชเป็นนักเวทย์ที่เรียกอันเดตมาสู้ให้กับตัวเองและใช้เวทย์ในการกำจัดศัตรูแต่ แบทเทิลลิชนั้นได้พลิกผันความคิดนี้ไป การเข้าใกล้นั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดของคลาสนี้เพราะมันสามารถจัดการตัวเองได้ทั้งในการต่อสู้ระยะใกล้และระยะไกล
สกิลทั้งหมดที่มีจะมีคุณสมบัติธาตุมืด คุณจะทำดาเมจธาตุแสงได้เพิ่ม 50% และได้รับดาเมจเพิ่ม 50% จากธาตุแสง
[Magic Over Sword(ติดตัว) : สกิลเวทย์ทั้งหมดเพิ่มดาเมจและการพัฒนาขึ้น 20%]
[Battle Lich] คือส่วนหนึ่งของคลาสนักเวทย์ คุณสามารถใช้สกิลได้ 12 สกิลจากหนังสือสกิลแทนที่จะจำกัด 10 สกิลสำหรับคลาสโจมตีใกล้
***
เดฟ ตรวจสอบแจ้งเตือนอีกอัน
***
สกิลพื้นฐานของคุณได้เปลี่ยนไปเพราะคลาสของคุณในตอนนี่้
สกิลติดตัว [Life Siphon] ได้เปลี่ยนเป็น [Drain]
สกิล [Death Surge] เปลี่ยนเป็น [Blot the Sun]
สกิล [Jeopardy] เปลี่ยนเป็น [Dark Harvest]
สกิลตัวละคร [Sword Lunge] เปลี่ยนเป็น [Defile]
สกิลตัวละคร [Concussive Blow] เปลี่ยนเป็น [Raise Undead]
***
“ หือ เรียกอันเดต ฉันทำสิ่งที่ Dog ทำได้แล้ว สวย “
เดฟ ตรวจสอบความสามารถต่อ
***
[Drain : เคลือบอาวุธด้วยความสามารถของสกิลโดยจะดูดซับดาเมจ 50% เป็นมานาและเลือด คูลดาวน์ 30 วินาที]
[Blot the Sun: เรียกความมืดของโลกใต้ดินมาในพื้นที่ ลดความเร็วของศัตรู 66% เป็นเวลา 5 วินาที สกิลธาตุแสงไร้ค่าในระยะเวลานี้ ถ้าเป้าหมายได้รับความกลัวตอนที่อยู่ในพื้นที่สกิล พวกเขาจะรับดาเมจเพิ่มขึ้น 300% คูลดาวน์ 3 นาที]
[Dark Harvest (ติดตัว): ได้ดาเมจเพิ่มขึ้น 5% สำหรับทุกเป้าหมายที่ฆ่า ซ้อนทับกันได้ 5 ครั้งและคงอยู่เป็นเวลา 60 วินาทีรึจนกว่าเป้าหมายอีกเป้าหมายจะโดนฆ่าเพื่อเป็นการรีเซ็ตเวลา หลังจากที่ซ้อนทับกัน 5 ชั้นจะได้รับความสามารถ [Soul Discharge] ที่สามารถระเบิดวิญญาณที่เก็บมาในพื้นที่รอบตัวและทำดาเมจ 200% โดย [Soul Discharge] นี้จะมีคูลดาวน์ 3 นาที ]
[Defile : สาปพื้นที่เป้าหมายลดความเร็วศัตรูลง 33% เป็นเวลา 5 วินาที หลังจากหมดเวลารากจะโผล่มาพันรอบเป้าหมายที่ยืนอยู่กับที่ ทำดาเมจ 200% และทำให้เกิดเลือดไหลทำดาเมจ 100% เป็นเวลา 5 วินาที คูลดาวน์ 3 นาที]
[Raise Undead: เรียกคนตายกลับมาเป็นอันเดต คูลดาวน์ 1 นาที การเรียกอันเดตผ่านทาง [Raise Undead] นั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของดินแดนอันเดตหากพวกเขาตาย ผู้ใช้จะเรียกคนอื่นมาทดแทนกองกำลังของตัวเอง การเรียกอันเดตจำเป็นต้องมีมานานเพียงพอเพื่อให้พวกนั้นคงอยู่ได้ อันเดตที่ได้รับการตั้งชื่อที่คุณเรียกออกมานั้นสามารถเรียกออกมาได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่ามันจะตายไปแล้ว สกิลนี้อยู่ที่เลเวล 1 คุณสามารถเรียกอันเดตได้ 5 ตัวมารับใช้คุณ]
[Final Phantasm(สกิลสืบทอด) : รัศมี 100 ม.รอบตัวผู้ใช้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเทพอันเดต เรียกพลังของเทพมายังพื้นที่ซึ่งเขาจะช่วยคุณในการต่อสู้กับศัตรูในพื้นที่ คูลดาวน์ 72 ชม.]
***
“ เหี้ยอะไรวะ ? ทำไมฉันถึงได้สกิลสืบทอดแค่อันเดียว ? “ – เดฟ ตะลึง
Warlord มีสกิลสืบทอดระดับ S ซึ่งสามารถใช้สกิลสืบทอดได้หลายสกิล แม้แต่ วาเนสซ่า กับ เคทลิน ก็ยังมีสกิลสืบทอดหลายสกิล ส่วนเขามีแค่อันเดียว
“ Alfred ! “ – เดฟ ตะโกนเรียก
***
Alfred ไม่สามารถใช้การได้ โปรดเรียก Albert มาแทน
***
“ อ่ะ ลืมไปเลย Albert ! “
เดฟ ตะโกนเรียกพร้อมกับมีชายที่หน้าตาคล้าย Alfred ปรากฏตัวขึ้นมา สิ่งเดียวที่ต่างคือชายคนนี้ไม่ได้ใส่ทักซิโด้
เขามีผมขาวและมัดมันเอาไว้ เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองและกางเกงขาสั้นสีฟ้า มีลายดอกไม้ที่คอเสื้อและที่มือ เขาใส่รองเท้าแตะและดูตลกเมื่ออยู่ในดินแดนอันเดต
Albert จิบน้ำมะพร้าวในมือแล้วถามขึ้นมา – “ โฮล่า ! ให้ฉันช่วยอะไรนายดี ?”
“ โฮล่า ? “
“ ใช่ ฉันเพิ่งไปเที่ยวมาเลยชินไปหน่อย บอกมา นายมีปัญหาอะไร ? “
“ ใช่ เรื่องเควสการสืบทอดของฉัน ทำไมฉันถึงมีสกิลสืบทอดแค่อันเดียว ? มันเป็นการสืบทอดระดับ SS เลยนะ “
“ นี่คือสิ่งที่ฉันคิดมาจริงจังแล้ว ฟังนะ Death Stroke นายเคยได้ยินเรื่องคุณภาพที่สูงกว่าปริมาณมั้ย ? สกิลสืบทอดของนายน่ะแข็งแกร่งจนรับมือกับสกิลสืบทอดหลายอันได้ นายน่าจะลองใช้ดู “
“ โอ้ ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย แล้วทำไมนายต้องเอาฉายาทั้งหมดของฉันไป ? มันมีสเตตัสหายไปตั้งหลายส่วน ! “
“ ฮ่ะ ฉันชอบสีหน้าแบบนี้ มันไม่แฟร์สำหรับผู้เล่นยุคเก่า เราต้องลบโบนัส 5% ออกจากสเตตัสเพื่อความสมดุล เรายังเปิดโอกาสให้กับผู้เล่นให้ได้สเตตัสพิเศษที่พวกเขาขาดไประหว่างเล่นเกม “
“ สมดุลอีกแล้ว ฉันล่ะไม่ชอบคำนี้จริงๆ “
“ ฉันเองก็ไม่ชอบ พี่ฉันเคยบ้าเพราะเขาพยายามทำให้ทุกอย่างสมดุลแต่ฉันไม่เหมือนกับเขา ตราบใดที่นายไม่โกง นายก็ทำอะไรก็ได้ตามใจนายต้องการ “
เดฟ รู้สึกถึงความจริงใจจากอีกฝ่ายและพูดขึ้น – “ ไงก็ขอบคุณ “
“ ยินดีที่ได้ช่วย สนุกกับเกมเอาไว้ “ – Albert หายตัวไปจากตรงหน้า เดฟ ทันที
“ เอาล่ะ เดาว่าได้เวลาที่ฉันจะรีสเตตัสแล้ว “
เดฟ ตรวจสอบสเตตัสของตัวเอง เมื่อเห็นคะแนนสเตตัส 692 หน่วยที่ยังไม่ได้ใช้ เขาก็ตัดสินใจที่จะปรับสเตตัสตามคลาสใหม่ของตัวเอง
เดฟ คิดสักพัก เขาคิดว่าคลาสเขาเอียงไปทางเวทย์และดาบ เขาต้องทำให้ค่า Int กับ Str สมดุลกัน
เดฟ ได้เพิ่มค่าสเตตัส 140 หน่วยเข้าไปในค่า Str จนมันกลายเป็น 750 หน่วย
เขาเพิ่มอีก 340 หน่วยเข้าไปใน Int จนทำให้มันเป็น 750 หน่วย
เขายังเหลือค่าสเตตัสอีก 202 หน่วย
เขาได้ใช้ 90 หน่วยไปในค่า Wis เพื่อเพิ่มมานาและอีก 90 หน่วยเข้าไปในค่า Dex เพื่อเพิ่มสกิลหลบหลีกของสเตตัสนี้เป็น 5%
สเตตัสใหม่ของเขาเป็นดังนี้ :
[
ชื่อ : Death Stroke
เลเวล : 346
คลาส : แบทเทิลลิช
เผ่า : มนุษย์ ( อันเดต)
Health : 436,600
Mana : 34,200
Stamina( ค่าแรง ): ไม่จำกัด
Rage/Focus: 100
Int 750
Wis 500
Dex 500
Agi 410
Str 750
ป้องกันเวทย์ : 6,001
ป้องกันกายภาพ : 12,001
HP Regen ( ฟื้นฟูเลือด ) : 1%
Mana Regen (ฟื้นฟูมานา) : 1%
Stamina Regen ( ฟื้นฟูแรง ) : +∞
Rage/Focus (ค่าโฟกัส/ความคลั่ง) : 1/วินาที
ชื่อเสียง 1,800
ค่าสเตตัสที่ยังไม่ใช้ : 22
ฉายา : นักวางแผนสงคราม
ผู้ถือโล่
เกียรติของอันเดต
]
ต้องขอบคุณที่อุปกรณ์ของเขานั้นแข็งแกร่งพอๆกับของผู้เล่นเลเวล 420
“ Kis’Shtiengbrah “ – เสียงของ Samael ดังขึ้นจากด้านหลัง เดฟ ใจของ เดฟ หล่นวูบลงเพราะเขามัวแต่สนใจสเตตัสจนไม่สนผีดิบที่มายืนตรงข้างเขา
“ นายอย่าทำแบบนี้ได้มั้ย ! “ – เดฟ พูดขึ้น
“ ใช่ ฉันผิดเอง บอกมาสิว่านายจะทำยังไงต่อ ? “ – Samael ถาม
“ ฉันก็ไม่รู้ ฉันคิดว่าจะเอาลูกน้องกลับคืนมาและฆ่ามอนเตอร์ในโลกใต้ดินต่อ “
“ ดี นายคิดจะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น มันน่าชื่นชมแต่ก่อนที่นายจะไป Dagla บอกให้ฉันเรียกนายไปหา”
“ โอ้ ได้สิ “
เดฟ ได้กลิ่นเควส เขาจึงตาม Samael ไป
ทั้งสองได้ขึ้นไปในวังกระดูกและเข้าไปในห้องบัลลังก์
เดฟ รู้สึกอึดอัดตอนที่เห็นราชานั่งอยู่บนบัลลังก์ ตาของเขายังคงไม่เป็นมิตรต่อ เดฟ Dagla อยู่ข้างๆราชา ทั้งสองคนคุยกันอยู่และหยุดคุยตอนที่ Samael เข้ามาในห้อง
“ Samael ทำไมถึงต้องเอาอันเดตต่ำต้อยมาหาเราด้วย? “
“ ราชา ฉันมีเรื่องต้องพบกับเขา “ – Dagla พูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปหา เดฟ
“ มีเรื่องอะไร ? “ – ราชาถาม
“ ราชา ฉันยังจำได้ว่าอันเดตผู้นี้ช่วยเราจากความตายและต้องได้รับรางวัล “ – Dagla พูดขึ้น
ตอนที่เขามายืนข้าง เดฟ Dagla ก็พูดขึ้นมาอย่างพอใจ – “ นายมีออร่าของลิชแล้ว ! Kis’ Shtiengbrah นายแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม! “
เดฟ ยิ้มและพูดขึ้น – “ ขอบคุณ Dagla ฉันหวังว่าจะแข็งแกร่งให้ได้อย่างนายในสักวัน “
“ อย่าจำกัดตัวเองด้วยเป้าหมายที่ต่ำแบบนั้น นายแข็งแกร่งกว่าฉันได้ ฉันรู้สึกถึงพลังเทพในตัวนาย พลังของนายไร้ขีดจำกัด ! นี่จะช่วยในการเดินทางของนาย “
Dagla ได้ส่งสร้อยคอเพชรสีม่วงให้กับ เดฟ
ตอนที่ เดฟ ตรวจสอบมัน ปากเขาก็ต้องอ้าค้าง
***
[Necklaces of the Untold Fate]
ผูกมัดกับ :Kis’Shtiengbrah/Death Stroke
ระดับ : Celestial
คุณสมบัติ : Int + 200, Wis +200
[Change Fate : เมื่อใช้สกิลนี้จะเปิดการทำงานของความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่ง 50% : Double รึ Juggler
Double : หนึ่งในสกิลจะมีความสามารถเป็นสองเท่าเป็นเวลา 30 วินาที
Juggler : ค่าสเตตัสทั้งหมดทั้งหมดจะรวมไปที่ค่าเดียวยกเว้นแค่เลือดกับมานา]
***
“ ของระดับ Celestial นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นของระดับนี้และสกิลนี่มันก็โคตรโกงเลย ! “ – เดฟ แทบอดใจไว้เกือบไม่ไหวที่จะโดดกอด Dagla
“ ฉันหวังว่านายจะชอบมันนะ ลิชน้อย “
“ ขอบคุณ ขอบคุณมาก Dagla “
“ ฮาฮา ! ไม่ต้องคิดมากหรอก “ – Dagla พูดขึ้นแล้วตบไหล่ เดฟ – “ อาจารย์ฉันได้เอามันให้ฉันก่อนที่เขาจะหายตัวไปและตอนนี้ฉันคิดว่านายสามารถใช้มันเพื่ออันเดตได้ “
“ ไม่ต้องกังวล Dagla ฉันจะใช้มันให้ดีเลย “
เดฟ สวมสร้อยคอนั้นเข้าไป แสงสีม่วงส่องประกายสักพักก่อนจะหม่นลง
“ พ่อ เราจะไปโจมตีพวกโบสถ์ตอนไหน ? “- Eleanor เดินเข้ามาในห้องบัลลังก์
เดฟ แปลกใจขึ้นมา เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นเธอที่นี่ เทพอันเดตคงต้องมาส่งเธอที่นี่แน่
“ ไม่ใช่ตอนนี้ เรายังมีอีกหลายเรื่องต้องจัดการแต่ไม่ต้องกังวลไป เราจะแก้แค้นกับการที่ลูกต้องเจ็บปวดด้วยมือของเราเอง “
Eleanor มองไปรอบๆและเห็น เดฟ
“ Kis’Shtiengbrah ยินดีที่ได้เห็นนายอีก “
“ ลูกรู้จักดาร์กนี่ด้วยเหรอ ? “
“ หือ ? พ่อ พ่อส่งเขาไปปกป้องฉันเอง เขาช่วยฉันไว้หลายครั้ง พ่อจำไม่ได้รึไง ? “
ราชาส่ายหน้า
“ ไม่เป็นไร Eleanor ฉันดีใจที่เธอไม่เป็นอะไร “ – เดฟ พูดขึ้น
“ ราชา ฉันเรียกตัวดาร์กนี้มาเพื่อจุดประสงค์อื่น “ – Dagla พูดขึ้น
“ ว่ามา “ – ราชาตอบกลับ
“ ดาร์กคนนี้ได้เอาข้อมูลเกี่ยวกับพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในสุสานฟาโรห์ มันคือการพิชิตโลกใต้ดิน เราต้องยึดพื้นที่นั้นมาเป็นของเรา “
“ เราเพิ่งจะยึดป้อมแดงได้จากปิศาจ เราไม่มีกำลังพอที่จะทำภารกิจอื่นได้ “
“ ราชา “ – Samael พูดขึ้น – “ เราไม่ต้องส่งคนไป ฉันรู้จักดาร์กคนนี้ เขาได้ยึดแนวหน้าอันเดตและช่วยยึดป้อมแดงให้กับเรา ฉันเชื่อว่าเขาจะจัดการกับสุสานฟาโรห์เพียงลำพังได้ “
เดฟ คิ้วขมวดขึ้นทันที ‘พวก เขตแรกฉันได้ Drahma ช่วยและเขตที่สองก็เป็นเพราะกองทัพของ Dagla ที่ยึดที่นั่นได้ นายคาดหวังจากฉันเกินไปแล้ว ! ’
“ ตกลงตามนี้ เพื่อให้ได้รับความเชื่อใจจากเรา ทำการยึดสุสานฟาโรห์ให้ได้ “ – ราชาพูดขึ้น
‘ เหี้ยแล้วไง เอาอีกแล้ว ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว บ้าเอ้ย ฉันหวังว่าพวกอันเดตฉันจะกลับมาแล้วนะ นี่มันต้องยากมากแน่ๆ ’
“ ราชา เรื่องสุดท้าย “ – Dagla พูดขึ้นแล้วผายมือมาที่ เดฟ
เดฟ เอียงหัว เขาไม่รู้ว่า Dagla ต้องการอะไรจากเขา
“ ส่งไข่มาให้ฉัน ฉันต้องการพลังมากกว่านี้เพื่อฟักมัน “
เดฟ ลังเลไปสักพักแต่เขาก็เชื่อในตัว Dagla และส่งไข่มังกรให้กับอีกฝ่าย
“ ถึงเราจะจำไม่ได้แต่เราก็เชื่อในตัวนาย สหาย ถ้าเรารับปากแล้ว เราจะทำตามที่รับปากให้ได้ “ – ราชาโบกมือและไข่ก็หายไปจากมือของ Dagla
“ ฉันจะเรียกนายตอนที่ไข่นี้ฟัก Kis’Shtiengbrah “ – Dagla พูดขึ้น
“ ขอบคุณ “
“ เอาล่ะ นายไปได้แล้ว ฉันต้องนำทัพตัวเองไปเอาป้อมแดงคืน นายต้องทำภารกิจของนายด้วย Kis’Shtiengbrah “ – Dagla พูดขึ้น
***
ระดับความยาก : A
เงื่อนไขกำหนดต่ำสุด : ระดับ Death Knight, เลเวล 350
เลเวลที่แนะนำ : 450
คุณได้รับหน้าที่ในการยึดเขตสามของโลกใต้ดิน Pharaoh’ Crypt
คุณมีเวลา 7 วันในเกมที่จะทำภารกิจนี้
***
เดฟ พยักหน้าให้กับทุกคนและคิดกับตัวเอง ‘บ้าเอ้ย ฉันต้องการอีก 4 เลเวลเพื่อให้เข้ากับเงื่อนไขต่ำสุดของเควส ได้เวลาไปเอาอันเดตฉันกลับมาแล้ว ฉันต้องไปหาเก็บเลเวลก่อน จากนั้นค่อยไปที่สุสานนั่น ’