ที่นี่ไม่มีดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ ไม่รู้วันเวลา

ลู่ฝานรู้สึกเหมือนตัวเองนอนอยู่นาน ในที่สุดก็มีแรงขึ้นมาเล็กน้อย

ลู่ฝานฝืนลุกขึ้นมานั่ง ลู่ฝานเก็บกระบี่หนักไร้คมลงไปในเข็มขัด

หลังจากที่เปิดเข็มขัดไม่ได้ ตอนทดสอบที่เกาะผนึกวิญญาณ ลู่ฝานเริ่มมีไหวพริบ เหลือปราณชี่ไว้ในเข็มขัดตลอดเวลา ใช้ค่ายกลเก็บรักษาเอาไว้

เรื่องพวกนี้สำเร็จเพราะได้ความช่วยเหลือจากไอ้เก้า ลู่ฝานเสียวัสดุไปไม่น้อยเลย

แต่ผลที่ได้ชัดเจนมาก ไม่มีเหตุการณ์ที่เปิดเข็มขัดไม่ได้ เพราะปราณชี่โดนผนึกอีกแล้ว

ลู่ฝานยื่นมือลงไปหยิบยาเม็ดออกมา เขาระมัดระวังมาก หยิบพลางมองรอบๆ อย่างหวาดระแวง

เมื่อเอาออกมาก็กรอกยาเม็ดใส่ปากทันที

“สบาย!”

ลู่ฝานพูดเบาๆ

ยาเม็ดลงไปในท้อง ฤทธิ์ยาร้อนแรงแผ่ซ่านในตัว

แม้ยังไม่สามารถกำจัดพลังสีฟ้าออกไปได้ แต่อย่าน้อยเส้นลมปราณและกระดูกของเขาเริ่มกลับมามีพลังแล้ว

“สิ่งบ้าบอนี่น่าหงุดหงิดจริงๆ มันเอาแต่ผนึกปราณชี่ของฉัน มันมีประโยชน์อะไร”

ลู่ฝานพูดพึมพำ

เขาสัมผัสได้ว่าพลังสีฟ้าพวกนี้ ไม่ได้มีการโจมตีรุนแรงเท่าไรนัก ไม่งั้นตอนนี้เขาคงไม่อยู่ในสภาพนี้หรอก ต้องบาดเจ็บสาหัส หรือไม่ก็อาจตายคาที่ไปแล้ว

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดในตัวลู่ฝาน “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ นี่คือการถ่ายทอดอย่างหนึ่งของผู้แข็งแกร่ง ถ้าเดาไม่ผิด ท่านเทพอักษรน่าจะทิ้งป้ายศิลานี้ไว้ เพื่อเลือกผู้สืบทอด ถ้าใครรู้เจตนาของเขา หรือไม่ก็ทำลายผนึกของเขาได้ เขาคงจะรู้สึกบ้าง”

ลู่ฝานพูดอย่างตกใจ “แกกำลังบอกว่าเทพอักษรยังมีชีวิตอยู่เหรอ”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “การมีอยู่แบบนี้ แน่นอนว่ายังมีชีวิตอยู่ ไม่เห็นมีอะไรแปลก พวกเขาถึงขั้นที่เป็นอมตะตั้งนานแล้ว บนโลกใบนี้จะมีใครฆ่าเขาได้ นอกจากคนที่ไร้เทียมทานเหมือนกันกับเขา”

ลู่ฝานเงียบไป จากนั้นยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นหมายความว่า ไม่แน่นี่อาจเป็นโอกาสอย่างหนึ่งใช่ไหม”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “ใช่ เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ นี่คือโอกาสสำหรับนาย”

ลู่ฝานหัวเราะเบาๆไม่กี่ครั้ง แล้วพูดว่า “แกมั่นใจในตัวฉันมากเลยนะ”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว นายเป็นคนเดียวในใต้หล้าที่มีมุกเทพ ฉันรับรองเลยว่าพวกที่ไร้เทียมทาน ก็ยังไม่มีมุกเทพ ไม่แน่ก้าวสุดท้ายที่สำคัญของพวกเขา อาจเป็นมุกเทพก็ได้ อีกทั้งอาจารย์ของเจ้านายยังเป็น……”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสียงของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรเบาลง

เห็นได้ชัดว่าการข่มขู่ของอาจารย์หวูเฉินมีผลกับมันมาก เมื่อพูดถึงอาจารย์ เสียงเจดีย์เสวียนเก้ามังกรสั่นขึ้นมาทันที

ลู่ฝานไม่ได้ถามอะไรมาก เขารู้ว่าตัวเองมีศักยภาพ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองถึงขั้นที่เป็นหนึ่งเดียวในใต้หล้า

ก่อนหน้านี้ลู่ฝานรู้ว่าเส้นทางการฝึกฝน โอกาสคือสิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือจิตใจที่ยืนหยัดและไม่ยอมแพ้ของตัวเอง

คิดดูว่าถ้าเขาละทิ้งการฝึกฝนไปตั้งแต่แรก เขาจะเจออาจารย์หวูเฉินไหม

คงโดนตระกูลโยนไปอยู่สถานที่ธรรมดาๆ เป็นผู้จัดการ ใช้ชีวิตแบบโง่เขลาไปทั้งชีวิต

ลู่ฝานไม่ได้ถามต่อ หลังจากรู้ว่าของสีฟ้าในตัวอาจเป็นของดี ลู่ฝานก็ไม่รีบกำจัดมันออกแล้ว