ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
**บทที่****237:**ต่อสู้กับปีศาจ
ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่าเลย แม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนสามัญธรรมดา ก็ไม่อาจระงับความโกรธนี้ไว้ได้ เช่นนี้เมื่อความโกรธถาโถมอย่างรุนแรง เขาเริ่มเปิดฉากการโจมตีทันที
ไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่าคำรามออกมาอย่างดุร้าย “ทำไมคนอย่างเจ้าถึงมีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันนี้กันนะ?”
ด้วยอิทธิพลแห่งเสียงสวรรค์ที่น่าสะพรึง คำพูดเหล่านั้นราวกับมีเวทย์มนต์อยู่ภายใน มันทำให้ทุกคนที่ได้ยินเสียงนั้นเกิดอารมณ์อยากฆ่าตัวตายทันที
แต่ซ่งจงนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดและสามารถต่อต้านมันได้ แต่กับผู้คนรอบข้างเขานั้นไม่อาจทำได้เช่นนั้น โดยเฉพาะมู่ซื่อหรงและแม่มดเปลือยกายที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาของปีศาจ เดิมทีพลังใจของพวกนางนั้นอ่อนแออยู่แล้ว เงาภายในใจของทั้งคู่ได้กลับมาเล่นงานทั้งสองคนอย่างทรมาน ทั้งคู่ไม่อาจทนได้ไหวพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดหูจนเองอย่างเจ็บปวดและคิดหาทางหลุดพ้นจากเสียงกังวาลเหล่านี้
เมื่อซ่งจงเห็นเช่นนั้น เขาสะดุ้งทันที! เขาคว้าตัวของทั้งสองไว้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะนั้นมีความผิดพลาดเกิดขึ้นกับซูหยู่และซูหยุน ใบหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปราวกับว่ากำลังจะเดินทางไปสวรรค์ จากนั้นทั้งสองเริ่มทุบตีตนเองอย่างรุนแรงทันที
ซ่งจงนั้นไร้มือที่จะรั้งทั้งสี่คนไว้ได้ เขาทำอะไรไม่ถูกนอกจากคำรามออกมาเสียงดังทำให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ซ่งจงหยิบระฆังทองแดงออกมาพร้อมกับยันต์เครื่องรางจากนั้นทำให้เกิดเสียงดังทันที ทุกคนที่เห็นภาพต่างตกใจในการกระทำของเขา
มันคือเสียงที่ทำให้ทุกคนตื่นตัวและตกใจ หลังจากนั้นทุกคนที่ได้ยินได้หลุดออกจากภวังค์ของเหลียวเซียวเย่าทันที เมื่อคิดว่ากำลังจะฆ่าตัวตายทุกคนไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากหลั่งเหงื่อออกมาท่วมร่างกาย ทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะเกรงกลัวต่อเหลียวเซียวเย่า ความแข็งแกร่งของเขาคือการควบคุมทุกอย่างได้ในประโยคเดียว!
เมื่อเห็นว่าคลี่คลายสถานการณ์ได้แล้ว ซ่งจงถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับความโกรธที่เพิ่มขึ้นภายในใจทันที ไม่ว่าจะเป็นซูหยู่ ซูหยุนหรือมู่ซื่อหรง ทั้งสามล้วนแต่เป็นสตรีของเขา! ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าแตะต้องพวกนางต่อหน้าเขา แน่นอนว่าเขาจะไม่มีวันยกโทษให้อย่างแน่นอน!
ในความโกรธนี้ ซ่งจงเลิกสนใจสิ่งอื่น เขายกมือขึ้นเผยให้เห็นสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทันที ในขณะที่เขาเปิดการใช้งานของมัน เขาเผยยิ้มที่อันตรายออกมาพร้อมกล่าวว่า “เจ้าปีศาจจงรับระเบิดจากข้า!”
ในตอนแรกเหลียวเซียวเย่าไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับซ่งจงมากนัก และในตอนนี้เขาก็ยังหัวเราะอยู่ “อย่างเจ้าน่ะหรือ?”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นว่าซ่งจงนั้นรวมสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบเข้าด้วยกันและกลายเป็นลูกบอลสายฟ้าสีสดใส เขาตกใจทันที “อะไรกัน? สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หยินหยางแห่งธาตุทั้งห้า? บัดซบ เจ้ารู้วิธีที่จะใช้มันได้จริงๆงั้นหรือ?”
ที่จริงแล้วเรื่องที่ซ่งจงสามารถใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หยินหยางแห่งธาตุทั้งห้าทั้งแพร่กระจายไปในทะเลตะวันออกนานมากแล้ว การปรับแต่งมันนั้นเป็นศาสตร์ขั้นสูงและผู้ที่จะทำได้จะต้องอยู่ในระดับจินตันขั้นกลางเท่านั้น การเรียนรู้มันจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบทศวรรษ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิจะสามารถทำเช่นนี้ได้
แน่นอนว่าเมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ผู้คนในทะเลตะวันออกจำนวนมากไม่เชื่อข่าวนี้ พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงของเลียนแบบเท่านั้น และเหลียวเซียวเย่าคิดเช่นนั้นเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เห็นว่าซ่งจงสามารถใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หยินหยางแห่งธาตุทั้งห้า เขารู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เขาได้ทำผิดพลาดอย่างหนัก มันคือสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจริงและนั่นทำให้เหลียวเซียวเย่าตกใจอย่างมาก
ในตอนนี้เหลียวเซียวเย่าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับซ่งจงอีกต่อไป แต่เขากังวลเกี่ยวกับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในมือของซ่งจงมากกว่า
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ เหลียวเซียวเย่านั้นไม่กล้าที่จะประมาทเช่นกัน เขาหยิบสมบัติวิเศษออกมา มันคือผ้าคลุมสีแดง แสงของมันครอบคลุมพื้นที่กว่าพันฟุตเพื่อป้องกันการปะทะของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์
สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของซ่งจงนั้นถูกสร้างขึ้นมาเป็นลูกบอลลูกใหญ่ หลังจากการปะทะกันเกิดการระเบิดจนแผ่นดินสนั่นหวั่นไหว ผ้าคลุมสีแดงของเหลียวเซียวเย่านั้นสั่นสะเทือนอย่างหนักแต่ทว่ามันไม่ได้แตกสลาย เห็นได้ชัดว่าเหล่าปีศาจพวกนี้นั้นครอบครองสมบัติล้ำค่ามากมาย
เมื่อเห็นว่าสามารถป้องกันการโจมตีได้ เหลียวเซียวเย่าได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอออกมาพร้อมกับเยาะเย้ยซ่งจงทันที “ฮ่าฮ่า นี่น่ะหรือชื่อเสียงของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หยินหยางแห่งธาตุทั้งห้า? เหตุใดมันจึงอ่อนแอนักเมื่ออยู่ในมือของเจ้า?”
เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธจัดจนแทบอยากตายทันที แท้จริงแล้วสายฟ้าที่เขาใช้ในตอนนี้นั้นถูกสร้างขึ้นในตอนที่เขายังเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิขั้นกลาง ถ้าหากเทียบกับพลังของผู้ฝึกตนนั้นสามารถเทียบได้กับพลังของผู้ฝึกตนระดับจินตันขั้นต้นเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถทำอะไรเหลียวเซียวเย่าที่อยู่ในระดับจินตันขั้นสมบูรณ์ได้เลย
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ซ่งจงได้อยู่ในระดับปฐมภูมิขั้นสมบูรณ์แล้ว แน่นอนว่าเครื่องสร้างสายฟ้าของเขาจะสร้างสายฟ้าที่แข็งแกร่งตามระดับพลังของเขาออกมา
เหตุผลมีอยู่ว่าซ่งจงนั้นเพิ่งเข้าสู่ระดับปฐมภูมิขั้นสมบูรณ์ได้เพียงไม่กี่วันและเขาไม่มีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์มากพอ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะใช้มันอย่างสิ้นเปลืองจึงใช้เพียงของเก่าที่เหลือเท่านั้น
แต่ในตอนนี้เขาถูกเหลียวเซียวเย่าสบประมาท ซ่งจงนั้นไม่อาจรับได้ ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกตนประเภทสายฟ้าแต่กลับถูกล้อเลียนเรื่องนี้ เขารู้สึกว่าเสียหน้าอย่างมาก! นี่คือความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ที่เขาเคยพบเจอมา!
ดังนั้น เขาไม่สามารถรอช้าได้อีกต่อไป ซ่งจงหยิบเอาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ออกมาอีกครั้งเพื่อสร้างสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หยินหยางแห่งธาตุทั้งห้า ในเวลานั้นเขาหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “ถ้าหากเจ้ายังมีไข่ทั้งสองใบ ก็จงรับระเบิดจากข้าอีกครั้งแล้วกัน!”
เมื่อเขากล่าวจบ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้าชนกับผ้าคลุมสีแดงอีกครั้งทันที
อย่างไรก็ตาม เหลียวเซียวเย่าไม่ได้ใส่ใจกับอะไรตรงหน้าอีกต่อไป เขาคิดว่าสายฟ้าที่พุ่งเข้ามาอีกครั้งคงจะไม่แตกต่างอะไรจากครั้งแรก เพราะมันปรับแต่งมาจากคนๆเดียว ดังนั้นเขาจึงเย้ยหยันออกมา “ต่อให้เจ้าพยายามเป็นร้อยครั้ง ก็คงเหนื่อยเปล่า เพราะผลลัพธ์มันก็คงเป็นแบบเดิม!”
อย่างไรก็ตามเมื่อเหลียวเซียวเย่ากล่าวจบ การปะทะได้เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน แสงสีแดงนั้นสั่นสะเทือนอยู่ชั่วขณะ หลังจากนั้นคลื่นไฟที่สวยงามได้แผ่กระจายไปทั่ว
ไม่เพียงแค่เหลียวเซียวเย่าที่ตกใจ แต่ปีศาจทั้งสองนั้นใบหน้าซีดขาวไปอย่างสมบูรณ์แล้ว รัศมีการระเบิดของลูกบอลสายฟ้านี้รุนแรงเกินไปจนทั้งสองได้รับผลกระทบ
แน่นอนว่าเหล่าปีศาจแห่งทะเลตะวันออกย่อมไม่เกรงกลัวต่ออะไรเช่นนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกน้องของพวกเขาจะต้านทานได้ เมื่อต้องปกป้องทีมของตนเอง เหล่าปีศาจทั้งสามกรีดร้องออกมาพร้อมกันพร้อมกับหยิบสมบัติวิเศษออกมาทันทีและสามารถป้องกันทุกอย่างไว้ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ระเบิด เมฆดำทั้งหลายได้หายไปทันที เปิดเผยให้เห็นท้องฟ้าสีครามที่สวยงาม ทุกคนที่อยู่รอบข้างซ่งจงร่าเริงอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นซ่งจงจึงกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะ “เจ้าปีศาจขยะ ตอนนี้รู้ถึงพลังของข้าบ้างหรือยัง?”
ในช่วงเวลาแห่งความประมาทนั้น เหลียวเซียวเย่าได้สูญเสียสมบัติวิเศษไปหนึ่งชิ้นอีกทั้งใบหน้าของเขายังแตกหักอย่างไม่มีชิ้นดี กล่าวได้ว่าตอนนี้ความโกรธของเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสุดแล้ว
แม้ว่าซ่งจงจะใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่ง สำหรับเหลียวเซียวเย่าที่อยู่ในทะเลตะวันออกมานานหลายปี เขาก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย หลังจากที่พ่ายแพ้เขาคำรามออกมาพร้อมกับทิ้งลูกทีมของตนเองไว้ด้านหลัง พุ่งเข้าหาซ่งจงอย่างรวดเร็วราวกับแสง เขาคำรามออกมา “เจ้าบัดซบ เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าเกรงกลัวเจ้า?”
“เหอะ!” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาปล่อยลมหายใจออกมาเล็กน้อยพร้อมกับปรายตามองเหลียวเซียวเย่าอย่างเย็นชา “ข้าจะทุบตีเจ้า จนกว่าเจ้าจะร้องขอชีวิต!”
เมื่อเหลียวเซียวเย่าได้ยินเช่นนั้น นัยน์ตาของเขาหรี่ลงพร้อมตะโกนออกมาว่า “ไอ้สารเลว เจ้ามันรนหาที่ตาย!” เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เหลียวเซียวเย่าโบกมือพร้อมปรากฏเส้นสีดำขึ้นในอากาศพร้อมที่จะฟาดลงมาที่ซ่งจง
ซ่งจงไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด เขารับรู้ได้เพียงว่ามันน่าขยะแขยงอย่างมาก และต้องไม่ปล่อยให้มันเข้าใกล้ร่างกายของเขา ดังนั้นเขาจึงยกมือขึ้นมาพร้อมปรากฏดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งธาตุทั้งห้าทันทีพร้อมกับปลดปล่อยปราณดาบออกมาอย่างรุนแรง
แม้ว่าปราณดาบจะคมอย่างมาก แต่ไม่อาจตัดผ่านแส้สีดำนี้ได้เลย มันวิ่งตัดผ่านไปราวกับอากาศไม่สามารถทำอะไรได้ และแส้สีดำเริ่มเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที บังคับให้ซ่งจงปล่อยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีออกไปเพื่อถ่วงเวลาไว้
อย่างไรก็ตามสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีไม่สามารถทำอะไรสิ่งนั้นได้ ทำให้ซ่งจงตกใจทันที เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ต้องทำอย่างไร
เมื่อเหลียวเซียวเย่าเห็นเช่นนั้น เขาหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าขยะ นี่คือแส้แห่งจิตวิญญาณหมื่นดวงเป็นสมบัติวิเศษขั้นเก้าที่ผู้ฝึกตนโบราณได้ปรับแต่งไว้ อีกร้อยปีข้างหน้ามันจะกลายเป็นสมบัติวิญญาณ ถ้าหากเจ้าสามารถป้องกันมันได้ แน่นอนว่าข้าจะยกมันให้เจ้า!”
เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาในตอนแรกบิดเบี้ยวอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเขาจะกำลังวุ่นวายอย่างมาก เขาก็ไม่ลืมที่จะตะโกนกลับไป “สวรรค์และโลก ได้โปรดจงรับฟัง! ถึงแม้ว่าข้าจะต้องตาย! ข้าก็จะไม่มีวันกลายเป็นปีศาจเช่นเจ้า!”