ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
**บทที่****236:**ยั่วยุ
“แค่กๆ” หลังจากฮัวเฉียนหวู่ได้ยินเช่นนั้นเขาไอออกมาสองครั้งก่อนที่จะอธิบายอย่างรวดเร็ว “มันเป็นเพราะนางยังเด็กไม่ใช่หรือนางจึงเป็นเช่นนี้? ในตอนนี้ทางตระกูลได้ตำหนินางแล้วและนางเปลี่ยนไปแล้ว!”
เมื่อกล่าวเช่นนั้น ฮัวเฉียนหวู่ส่งสัญญาณให้กับมู่ซื่อหรงที่อยู่ด้านข้าง มู่ซื่อหรงไม่รอช้านางเดินเข้าไปข้างๆซ่งจงพร้อมกับอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร “สามี ข้ารู้ความผิดของตนเองแล้วจริงๆ!”
ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตาทั้งสองราวกับว่านางได้สำนึกผิดแล้วจริงๆ ถ้าหากซ่งจงไม่รู้จักมู่ซื่อหรงมากพอ เขาคงจะเชื่อนางแล้ว แต่ในตอนนี้เขารู้ว่านางฝึกฝนวิชาเบญจสตรีศักดิ์สิทธิ์สังหาร อีกทั้งนางยังไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้ แน่นอนว่ามันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรในอนาคตได้อีกแล้ว
ดังนั้นซ่งจงไม่ได้เชื่อนางทันทีว่านางสำนึก เขาขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องมองนางด้วยสายตาที่เย็นชา
เมื่อฮัวเฉียนหวู่เห็นเช่นนั้น เขารู้ทันทีว่าซ่งจงจะไม่ยอมยกโทษให้โดยง่าย ดังนั้นเขาจึงกล่าวขอโทษพร้อมกับหัวเราะ “ฮ่าฮ่า ข้าลืมไปเสียสนิทว่ามีจดหมายถึงเจ้าด้วย จากจ้าวสำนักเสวียนเทียน เจ้าคงจะเข้าใจเรื่องราวหลังจากอ่านมัน!”
หลังจากเขากล่าวเช่นนั้นเสร็จสิ้น เขายื่นจดหมายให้กับซ่งจง
ซ่งจงรับจดหมายมาและรู้ได้ว่ามันเป็นลายมือของนักบวชฮัวอวิ๋น เขาขอโทษซ่งจงเกี่ยวกับเรื่องราวที่ทำให้มู่ซื่อหรงเป็นเช่นนี้ ซึ่งต่อจากนี้เขามั่นใจว่ามู่ซื่อหรงจะไม่ทำเช่นนั้นอีก ถ้าหากนางทำอีกครั้ง ตระกูลฮัวจะไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้นแม้ว่าซ่งจงจะต้องการสังหารนางทิ้งก็ตาม และจดหมายนี้จะเป็นหลักฐาน!
หลังจากที่ซ่งจงอ่านจดหมายเสร็จแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่านักบวชฮัวอวิ๋นยังคงเป็นสุนัขจิ้งจอกอยู่ดี ถึงแม้ว่าในตอนแรกซ่งจงจะละเลยมู่ซื่อหรงและปฏิบัติกับนางราวกับของเล่น แต่เขาต้องพิจารณาอีกครั้งเมื่อได้อ่านจดหมายจากนักบวชฮัวอวิ๋น ในตอนนี้ฮัวอวิ๋นได้ถอยให้เขาหนึ่งก้าว ถ้าหากเขาจะยืดเยื้อเรื่องราวเหล่านี้ต่อไป มันจะดูเหมือนเขาเป็นบุรุษที่คิดเล็กคิดน้อยจนเกินไป
จากนั้นซ่งจงจึงยิ้มออกมาพร้อมกล่าวว่า “ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ข้าจะลองเชื่อเข้าอีกสักครั้ง ต่อจากนี้ที่นี่คือบ้านของเจ้า!”
“ขอบคุณ!” มู่ซื่อหรงพุ่งเข้าไปในอกของซ่งจงราวกับนางประทับใจการตัดสินใจของเขาอย่างมาก
ฮัวเฉียนหวู่ที่อยู่ด้านข้างหัวเราะออกมา “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ ข้าชอบเหลือเกินบรรยากาศของหนุ่มสาว!”
มู่ซื่อหรงและซ่งจงรู้สึกเขินอายทันที พวกเขาทั้งสองผละออกจากกัน ซ่งจงตอบกลับด้วยรอยยิ้มเขินอาย “อาวุโสช่างอารมณ์ขันยิ่งนัก!”
“ฮ่าฮ่า ข้าไม่ได้ล้อเล่น!” ฮัวเฉียนหวู่ลุกขึ้นพร้อมกล่าวต่อ “เอาล่ะ เรื่องราวก็ได้จบลงแล้ว ภารกิจข้าถือว่าเสร็จสิ้น ข้าขอตัวก่อนไว้พบกันในอนาคต ลาก่อน!” เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เขาบินออกไปด้วยดาบบินอย่างรวดเร็ว
เมื่อซ่งจงเห็นเช่นนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะติดกับตนเอง ‘บุคคลนี้คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป เขาช่างไม่มีความกังวลใดๆเลย ยอดเยี่ยมจริงๆ!’
เมื่อเห็นว่าฮัวเฉียนหวู่จากไปแล้ว มู่ซื่อหรงจึงไม่ต้องเขินอายอีกต่อไป จากนั้นนางเอนร่างกายเข้าหาซ่งจงพร้อมกล่าวอย่างยั่วยวน “สามี ทาสผู้นี้รับรู้ความผิดในอดีตแล้ว ข้าไม่กล้าที่จะทำมันอีกแน่นอน ข้าแค่หวังว่าท่านจะไม่ใช้แม่มดเทวะควบคุมร่างกายข้าอีก ได้หรือไม่?”
เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาตอบกลับพร้อมกับหัวเราะอย่างปีศาจ “ข้าไม่สามารถไม่ควบคุมเจ้าได้ เพราะว่าสิ่งที่เจ้าทำในอดีตมันเลวร้ายอย่างมาก ถ้าหากว่าข้าไม่สั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้า เช่นนี้เจ้าจะเรียนรู้ได้อย่างไรกัน?”
“ถ้าเช่นนั้น ท่านจงลงโทษข้าด้วยทุกสิ่งที่ท่านมี!” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายพร้อมพูดต่อ “ข้าต้องการให้ท่านใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีเพื่อลงโทษข้า!”
ในวันถัดมา ซ่งจงลุกออกจากเตียงด้วยพลังงานที่เต็มเปี่ยม เขาหันไปข้างๆพร้อมกับเห็นว่ามู่ซื่อหรงหมดซึ่งเรี่ยวแรงกำลังนอนหลับอย่างสนิท จากนั้นเขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ต่อมาเขาอาบน้ำและออกค้นหาซูหยู่และซูหยุนเพื่ออธิบายเรื่องเมื่อวาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อซ่งจงก้าวออกมาเพียงก้าวเดียว เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ โดยรอบเต็มไปด้วยบรรยากาศของปีศาจ ซึ่งบรรยากาศเช่นนี้ต้องอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นจึงจะรู้สึกถึงมันได้ ผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไปจะไม่มีทางรู้ได้เลย
ซ่งจงจำได้ว่าวันนี้คือวันที่สามของเหล่าปีศาจทะเลตะวันออกจะมาเยี่ยมเยือนเขา ดูเหมือนว่าบรรยากาศเหล่านี้จะเป็นเพราะพวกเขาเหล่านั้น
ทันใดนั้นปรากฏเมฆสีดำขึ้นสามดวงในพื้นที่ห่างไกล บินมาจากสามทิศทางที่ต่างกัน ทั้งหมดมุ่งหน้ามาหาซ่งจงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเกิดความปั่นป่วนขนาดใหญ่เช่นนี้ ทุกคนสังเกตได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ทีมของซ่งจงนั้นมาถึงอย่างรวดเร็ว แม่มดเปลือยกาย ซูหยู่ ซูหยุน หินและตาเฒ่าพิษ แม้แต่มู่ซื่อหรงยังนำร่างกายที่ไร้กำลังของนางออกมายืนเคียงข้างซ่งจง
เมฆดำเปิดออกทันที มันจางหายไปในอากาศพร้อมปรากฏกลุ่มคนจำนวนนับสิบออกมา
ทางด้านทิศตะวันออก มันเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนที่มีความงดงามอย่างยิ่งและอยู่ในขั้นปฐมภูมิ ทั้งหมดล้อมรอบเก้าอี้ขนาดใหญ่เอาไว้ซึ่งดูอายุของทั้งหมดแล้วราวๆไม่เกินสามสิบปี
ใบหน้าของบุคคลผู้นั้นดูคล้ายกับบุรุษแต่ว่าเขากลับแต่งหน้า ดวงตาของเขาโค้งเว้าอย่างยั่วยวน ทำให้ไม่สามารถกล่าวได้เต็มปากว่าเขาคือชายหรือหญิง ซ่งจงคิดทันทีว่าเขาคือไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่า ว่ากันว่าเขามีสองเพศในร่างเดียวกัน และความชั่วร้ายของเขาน่าเกรงกลัวอย่างมาก เขารักได้ทั้งหญิงสาวที่สวยงามและบุรุษผู้หล่อเหล่า
สำหรับกลุ่มทางด้านซ้าย พวกเขาเต็มไปด้วยบุรุษร่างเล็กและผิวซีด มีผู้ฝึกตนที่เป็นหญิงสาวอยู่เพียงไม่กี่คนในกลุ่ม ทั้งหมดล้อมรอบบุรุษที่มีใบหน้าแปลกประหลาดอายุราวๆสี่สิบปี
เมื่อซ่งจงเห็นเคราและเสื้อคลุมสีแดงของเขา รวดเร็วดั่งความคิดเขารู้ได้ทันทีว่าผู้นี้คือไม่หญิงไม่ชาย ฉิงชิงเหยา
ซ่งจงอดไม่ได้ที่จะคิดกับตนเอง ‘ทำไมเขาจึงกล้าที่จะเรียกตนเองว่าฉิงชิงเหยา? ชื่อนี้ทำให้ข้าอยากจะอ้วกออกมาจริงๆ!’
สำหรับกลุ่มสุดท้าย พวกเขาดูธรรมดามากที่สุดไร้สิ่งใดที่ดูแปลกตา ในกลุ่มนี้เต็มไปด้วยความหลากหลาย บุรุษ สตรี เด็ก และคนแก่ เหล่าผู้ชอบธรรมและปีศาจ ผู้นำของทั้งหมดคืออาวุโสที่สวมเสื้อคลุมสีเหลือง หนวดเคราของเขาหยาวเหยียดและมีผิวสีเข้ม มองผ่านๆเขาก็คล้ายกับเกษตรจากชนบท อย่างไม่ต้องสงสัยเขาคือไม่ดีไม่ร้าย ฉงลั่วเหยาแน่นอน
เมื่อคนเหล่านี้มารวมกันพร้อมกับแสดงพลังของพวกเขาทันทีที่มาถึง พวกเขาใหญ่เมฆาดำเพื่อปกปิดแสงของดวงอาทิตย์ จากนั้นจึงเปิดตัวผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมินับร้อยพร้อมด้วยผู้ฝึกตนระดับจินตัน พวกเขาใหญ่เหตุการณ์เหล่านี้แสดงความยิ่งใหญ่ของตนเอง ทีมของเจ้าอ้วนมองเหตุกาณ์เช่นนี้ทำให้ทั้งหมดหน้าซีดและเริ่มตัวสั่น
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เหล่าสามปีศาจแห่งทะเลตะวันออกได้แต่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ
อย่างไรก็ตาม เจ้าอ้วนไม่ได้เกรงกลัวสิ่งใด เขาคือบุคคลที่สามารถหลบหนีจากลูกน้องของราชาฉลามดำนับหมื่นตัวได้ แล้วเขาจะมาเกรงกลัวกลุ่มคนเล็กๆเช่นนี้ได้อย่างไร? ดังนั้นเขาจึงพ่นคำสบประมาทออกมาอย่างเย็นชา “เอาล่ะเจ้าตัวบัดซบทั้งหลาย มาถึงดินแดนของข้าจนได้อีกทั้งยังกล้าเอาสุนัขพวกนี้มาเหยียบหน้าบ้านของข้าอีก พวกเจ้านั้นรนหาที่ตายจริงๆ!”
เมื่อซ่งจงกล่าวออกไปเช่นนั้น ทุกคนตกตะลึงในทันที ในขณะที่สามปีศาจแห่งทะเลตะวันออกนั้นเดินใกล้เข้ามาที่หน้าประตูของซ่งจง ตราบใดที่ไขมันก้อนนี้ยังมีสมอง เขาควรจะคุกเข่าพร้อมกับอ้อนวอนให้ปีศาจทั้งสามเมตตา แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อซ่งจงไม่ได้ทำสิ่งที่ทุกคนคาดหวังแต่กลับสบประมาทเหล่าปีศาจทั้งสามอีกด้วย!
ทั้งสามคนนี้เคยชินกับการอยู่เหนือผู้อื่นมาโดยตลอด เมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกเขาตกใจไปชั่วขณะ หลังจากที่สติฟื้นคืนกลับมาทั้งหมดเริ่มโต้ตอบทันที
“ไขมันน้อย เจ้าพูดว่าอะไรนะ? เหนื่อยแล้วงั้นหรือกับชีวิตในตอนนี้?”
“นายท่านอยู่ตรงหน้าเจ้าในวันนี้แต่เจ้ากลับกล้าพ่นวาจาไร้สาระงั้นหรือ? เจ้านี่มันโง่จริงๆใช่หรือไม่?”
“ไอ้บัดซบ วันนี้เป็นวันตายของเจ้าอย่างแน่นอน!”
แน่นอนว่าซ่งจงเพียงคนเดียวไม่สามารถเอาชนะการโต้เถียงกับบุคคลนับร้อยได้ เมื่อมองเห็นว่าเขาเสียเปรียบ ดวงตาของเขาแคบลงและต้องการจะสั่งสอนบทเรียนให้กับบุคคลเหล่านี้
ในเวลานั้นจู่ๆไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่าก็ไอออกมาอย่างไร้สาเหตุ
เสียงไอของเขานั้นอ่อนหวานราวกับสตรีที่งดงาม ทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ยิน หลังจากนั้นทั้งหมดหยุดก่นด่าซ่งจงและเริ่มเงียบเพื่อฟังเขาพูด
เห็นได้ชัดว่าทักษะล่อลวงนี้ช่างทรงพลังอย่างยิ่ง ระฆังทองแดงนั้นมีความสามารถที่จะใช้พลังคลื่นเสียงและเขาสามารถเข้าใจมันได้โดยธรรมชาติ ในตอนนี้ซ่งจงระงับทุกอย่างไว้พร้อมกับตั้งใจฟังเขาอย่างเต็มที่ เขารวบรวมสติอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งในใจ ‘บัดซบ ไม่ต้องกล่าวอะไรยืนยันแต่พวกมันคือปีศาจที่แท้จริง พวกมันเพิ่งจะเปิดการโจมตีเมื่อครู่ ถ้าไม่ใช่สภาพจิตใจที่เข้มแข็งของข้า แน่นอนว่าข้าคงต้องตายในวันนี้!’
เมื่อคิดว่าเขาถูกล่อล่วงโดยไม่หยินไม่หยางเหลียวเซียวเย่า ซ่งจงได้แต่เดือดดาลอยู่ภายในใจ ‘มันไม่สำคัญว่าวันนี้จะได้ต่อสู้กันหรือไม่ แต่ถ้าหากข้าจะต้องต่อสู้ แน่นอนว่าข้าจะจัดการกับไอ้บัดซบนี้ก่อน!’
ในขณะที่ซ่งจงหงุดหงิด เขาไม่ได้คาดคิดว่าเหล่าปีศาจทั้งสามนั้นก็ตกใจในตัวเขาเช่นกัน ไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่า นั้นใช้ทักษะพิเศษที่ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศผ่านน้ำเสียง เขาสามารถใช้น้ำเสียงที่เย้ายวนเพื่อกล่อมให้ศัตรูทำตามในสิ่งที่เขาต้องการได้ และทักษะนี้เมื่อใช้งานมันจะไม่มีผู้ใดรู้เห็นได้อย่างแน่นอน จึงยากมากที่จะป้องกัน ดังนั้นถ้าหากถูกโจมตีด้วยทักษะนี้แล้วแม้แต่ผู้ฝึกตนระดับจินตันยังต้องถูกควบคุมโดยไร้ข้อกังขา
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าซ่งจงที่อยู่ในระดับปฐมภูมิจะสามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้ เขาไม่ถูกล่อลวงแม้แต่วินาทีเดียว ทั้งสามได้แต่คิดกับตนเองอยู่ภายในใจ ‘ซ่งจงนั้นมีชื่อเสียงเพราะเขามีความสามารถที่แท้จริงและทักษะของเขาลึกลับอย่างมาก!’
ไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่าเห็นว่าการโจมตีของตนเองนั้นไร้ประโยชน์ เขาถอนตัวจากการโจมตีพร้อมกล่าวว่า “ฮ่าฮ่า ศิษย์น้องซ่งช่างแข็งแกร่งจริงๆ! เจ้าไม่ได้รับผลจากเสียงแห่งสวรรค์ของข้าเลย!”
เมื่อได้ยินเสียงของเขาซึ่งไม่รู้ว่าเป็นบุรุษหรือสตรี ซ่งจงนั้นจุกอกอย่างบอกไม่ถูก เขารู้สึกขยะแขยงอย่างมากพร้อมกับคำรามออกมาอย่างเยือกเย็น “ถ้าหากเสียงของท่านไม่น่าขยะแขยงจนเกินไป แน่นอนว่าข้าคงจะตกหลุมพรางนั้นแล้ว!”
ไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่าไม่เคยคิดว่าซ่งจงจะกล่าววาจาไม่ไว้หน้าเขาเช่นนี้ เขาโดนดูถูกต่อหน้าผู้คนนับร้อย นับว่านี่เป็นการตบหน้าอย่างสมบูรณ์
เมื่อไม่ดีไม่ร้าย ฉงลั่วเหยาและไม่หญิงไม่ชาย ฉิงชิงเหยาได้ยินเช่นนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา สำหรับไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่าเขาโกรธพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้าก้อนไขมัน เจ้ากล้าที่จะฉีกหน้าข้างั้นหรือ?”
“ข้าทำอะไร?” ซ่งจงขมวดคิ้วพร้อมกับตอบกลับ “ข้าคิดว่าข้าเพียงพูดความจริงเท่านั้น อย่าบอกนะว่าท่านไม่ใช่ไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่า?”
“ข้าคือไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่า!” ไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่าตอบกลับอย่างเยือกเย็น
“ฮ่า! งั้นถูกต้องแล้ว ไม่ใช่หญิง ไม่ใช่ชาย ถ้าหากท่านไม่ใช่ปีศาจ แล้วท่านจะเป็นอะไรล่ะ?” ซ่งจงเย้ยหยัน
“สารเลว!” ไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่าได้ครอบครองทะเลตะวันออกแห่งนี้มานานนับร้อยปี เมื่อไหร่กันที่เขาได้โกรธจัดเช่นนี้? แน่นอนว่าเขาดูแลคนที่ทำให้เขาไม่พอใจอย่างดีเสมอมา! ชื่อเสียงของเขานั้นโหดร้ายเกินกว่าจะมีใครกล้าหยาบคายกับเขาเช่นนี้ บวกกับต่อหน้าฝูงชนนับร้อยอีกด้วย!