แดนนิรมิตเทพ บทที่ 994
“อืม ฉันจะจำไว้ ไม่รู้ฉันหรือนายที่เป็นอาจารย์กันแน่ ฉันรู้สึกว่านายเป็นอาจารย์ฉันได้เลยนะ!” เจียงอี่ว์เวยทอดถอนใจเล็กน้อย

“คุณเป็นอาจารย์ผมอยู่แล้ว” เฉินโม่พูดด้วยรอยยิ้ม

ไม่นานก็มาถึงมหาวิทยาลัยหัวหนาน

เฉินโม่ไปส่งเจียงอี่ว์เวยที่หอพัก หลังจากออกมา สีหน้าเขาเคร่งขรึมทันที ความอาฆาตฉายออกมาจากแววตา

“ตระกูลไช่ที่ก่างวาน!”

บ่ายวันเดียวกัน เฉินโม่ออกจากมหาวิทยาลัยหัวหนาน เดินทางไปก่างวานคนเดียว

ตระกูลไช่ปักหลักที่ก่างวานเกือบร้อยปี อำนาจในก่างวานแข็งแกร่งมั่นคง แทบจะไม่สามารถสั่นคลอนได้

ในระยะนี้ก่างวานวุ่นวายค่อนข้างรุนแรง ซึ่งตัวการก็คือตระกูลไช่

แต่ก่างวานเป็นเขตบริหารพิเศษ ทางการหัวเซี่ยไม่กล้าแตะต้องตระกูลไช่ง่ายๆ ขืนไม่ระวังขึ้นมาจะทำให้เกิดความวุ่นวาย

การมาถึงของเฉินโม่ โดนตระกูลไช่สังเกตอยู่นานแล้ว แน่นอนว่าเฉินโม่ก็ไม่คิดปิดบัง ไม่งั้นถึงตระกูลไช่มีวิธีมากมายแค่ไหน ก็ไม่มีทางหาเฉินโม่เจอ

ในห้องประชุมลับของตระกูลไช่

ไช่อิ้งเวิน ผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลไช่ นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ลำดับแรกด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ด้านล่างเป็นคนระดับสูงของตระกูลไช่

ไช่อิงฉินก็โดนเรียกตัวกลับด่วน นั่งอยู่ในนี้เช่นกัน

“เหวินหย่า เธอเล่าเหตุการณ์ให้ทุกคนฟังสิ!” ไช่อิ้งเวินพูดหน้านิ่ง

“ค่ะ!” ไช่เหวินหย่าลุกขึ้นยืน ค่อยๆ เล่าเรื่องตั้งแต่เจอเฉินโม่จนถึงตอนบาดหมางกัน แต่ส่วนที่น่าอับอาย เธอก็ไม่พูดออกมา ความหมายโดยรวมคือเฉินโม่มักมาก บังคับซื้อขาย ทำการรีดไถเธอ

ทุกคนเพิ่งเข้าใจว่าไช่เหวินหย่าบาดหมางกับเฉินไต้ซือได้ยังไง

ไช่อิงฉินนั่งบนเก้าอี้ ในใจยังกลัวไม่หาย ที่แท้เฉินโม่เก่งกาจถึงขนาดนี้ แม้แต่เจี่ยงจี้เหอ เจี่ยงไต้ซือแห่งก่างวานยังโดนเขาฆ่า

ต้องรู้บารมีของเจี่ยงไต้ซือในก่างวาน ไม่ต่างจากบารมีของเทพสงครามหยางติ่งเทียนแห่งยานจิง ในบรรดานักบู๊ของหัวเซี่ยหรอก

คิดไม่ถึงเลยว่าเฉินโม่จะฆ่าเขา แล้วพละกำลังของเฉินโม่น่ากลัวขนาดไหนกัน

ถ้าไช่อิงฉินให้คนขวางเฉินโม่ ไม่ให้พาเจียงอี่ว์เวยออกไปต่อไปอีก เฉินโม่คงเข่นฆ่าขึ้นมาในงานทันที

“ทุกคนคงเข้าใจเรื่องที่ผ่านมาแล้ว แม้เหวินหย่ารับปากเงื่อนไขของเขาจริง แต่ตอนนั้นโดนบังคับจนหมดหนทางจริงๆ เพื่อรักษาอาการป่วยของนายท่าน เหวินหย่าต้องทำแบบนี้ ถึงบรรลุข้อตกลงกับเฉินไต้ซือผู้มักมากคนนั้น” ไช่อิ้งเวินพูดออกมา

“ดังนั้นฉันคิดว่าข้อตกลงนี้ไม่เป็นผล ถ้าเขามาเราก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ถือว่าไล่เขากลับไป” ไช่อิ้งเวินพูด

“ผู้นำพูดมีเหตุผล คนกระจอกมักมากแบบนี้ พวกเราไม่จำเป็นต้องสนใจ” มีคนพูดเสนอขึ้นมา

“ใช่ กล้ามาทวงหนี้ตระกูลไช่ที่ก่างวาน ไอ้หมอนี่กล้ามากจริงๆ!”

ขณะนั้น มีผู้อาวุโสท่าทางเงอะงะปรากฏตัวที่หน้าประตู ดูน่าจะอายุ 80 กว่าปีแล้ว

แต่เขาดูมีชีวิตชีวามาก ดูร่างกายแข็งแรงมาก

เมื่อเห็นผู้อาวุโส ทุกคนในตระกูลไช่ลุกขึ้นทันที จากนั้นโค้งคำนับทำความเคารพอย่างนอบน้อม “นายท่าน!”

“ปู่! ทำไมคุณถึงมาด้วยล่ะ” ไช่เหวินหย่าตะโกนอย่างมีความสุข

“อืม” ผู้อาวุโสยิ้มตอบอย่างมีเมตตา “ทุกคนนั่งลงเถอะ!”

ผู้อาวุโสโบกมือไปมาให้ทุกคน บอกให้ทุกคนนั่งลง

ทุกคนนั่งลงอีกครั้ง มองผู้อาวุโส มีความเคารพฉายออกมาทางแววตา ขนาดไช่อิ้งเวินก็ไม่ต่างกัน

“พ่อ เรากำลังปรึกษากันเรื่องจะรับมือเฉินไต้ซือยังไง คุณมีอะไรจะกำชับหรือเปล่า” ไช่อิ้งเวินถามอย่างนอบน้อม

ผู้อาวุโสพยักหน้าแล้วพูดว่า “ขอยามาเพื่อฉัน ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ฉันต้องรู้ว่าจะจัดการยังไง”

“พ่อ อันที่จริงเรื่องเล็กแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องรบกวนคุณ! เราจัดการกันเองได้” ไช่อิ้งเวินพูดด้วยรอยยิ้ม

“นายบอกฉันมาสิว่าจะจัดการยังไง” ผู้อาวุโสมองไช่อิ้งเวิน แล้วถามเสียงขรึม