TB:บทที่ 204 คาสิโน (2)

 

“ก็ไม่รู้สินะ รอดูเอาก็แล้วกัน” ช่ายร่างสูงผอม ฮ่าวซือ รู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย

ในบรรดาคนทั้งสาม คนที่มองสถานการณ์ได้แม่นยำมากที่สุดก็คือผานจื่อ ทุกครั้งที่เขาตั้งเป้า การตัดสินใจของผานจื่อถือเป็นคำตัดสินสุดท้าย และไม่เคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้นมาก่อน แต่ตอนนี้ชายอ้วนกลับลังเล ดังนั้นฮ่าวซือเองก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าเขาควรจะทำอย่างไร

“ไปอะไรไป? อย่าบอกนะว่า คุณลืมจุดประสงค์ของการมาที่นี่ของพวกเราไปแล้วหรือ? พวกเรามาที่นี่เพื่อหาเงิน และตอนนี้ก็มีวิธีรวยอยู่ตรงหน้าพวกเราแล้ว แต่คุณกลับไม่กล้าขึ้นมาเนี่ยนะ?” หยานจิงหนานโยวกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเบาๆ เนื่องจากว่าที่เป็นคือคาสิโน ถ้ามีใครจับได้ว่าพวกเขาทั้งสามคนกำลังร่วมมือกันอยู่ ชะตากรรมของพวกเขาทั้งสามคนจะต้องไม่เป็นไปในทางที่ดีแน่นอน

 

ผานจื่อที่ยังคงจับตาดูเฉินหลงอยู่ขมวดคิ้วแล้วตอบว่า “แต่ฉันคิดว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา นายห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด”

ในความคิดของเขาตอนนี้กำลังตีกันให้วุ่น ฝ่ายหนึ่งคือเงินล้าน อีกฝ่ายหนึ่งคือความปลอดภัยของพวกเขาทั้งสามคน เขาจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

“เฮ้อ ฉันล่ะยอมนายจริงๆ ถ้าพวกเราอยากชนะนิดหน่อยอยู่แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่พวกเราจะได้เงินล้านล่ะ? นอกจากนี้ บางทีเราอาจหาเงินค่าตั๋วไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” เมื่อได้ยินว่าชายอ้วนยังทำการตัดสินใจไม่ได้ หยานจิงหนานโยวจึงแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมาให้เห็น

พวกเขาทั้งสามคนอยู่ในธุรกิจนี้แล้ว ถ้าหากว่าพวกเขาหาเงินมาจ่ายค่าตั๋วยังไม่ได้ มีหวังพวกเขาไม่ใช่แค่เสียเงิน แต่ยังเสียหน้าด้วย

 

“หยานจิงหนานโยว ไม่ต้องห่วง ฉันพูดแบบนั้นก็จริงแต่ฉันไม่ได้หมายความว่าจะไม่ลงมือทำอะไรสักหน่อย ฉันแค่อยากดูสถานการณ์ให้แน่ใจอีกรอบ พวกเราจะลงมือหลังจากที่ฉันยืนยันว่ามันปลอดภัยแล้วต่างหาก” ผานจื่ออธิบายให้หยานจิงหนานโยวได้เข้าใจถึงจุดประสงค์ของเขา

ในทำนองเดียวกัน ฮ่าวซือก็ได้ให้คำแนะนำกับหยานจิงหนานโยวเช่นกัน “หยานจิงหนานโยว อันดับแรกพวกเราทุกคนต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผา*เลย”

“ถ้างั้นก็ตามใจ เอาเป็นว่าฉันจะจับตาดูเขาไม่ให้คาดสายตาก็แล้วกัน” หยานจิงหนานโยวสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามปรับอารมณ์ให้สงบลง

กล่าวจบ หยานจิงหนานโยวก็เดินตามเฉินหลงไปโดยไม่ให้เขาจับได้

ผานจื่อและฮ่าวซือหันมามองหน้ากัน จากนั้นก็เดินตามเขาไป เนื่องจากว่าตอนนี้จิตใจของหยานจิงหนานโยวไม่สงบ พวกเขากลัวว่าอีกฝ่ายจะทำเสียเรื่อง

 

ใช้เวลาไม่นาน เฉินหลงก็ได้พบกับหญิงสาวทั้งสองคนที่เขากับลังตามหา ในตอนนี้ทั้งอันหยาและเจิ้งหยู่กำลังกดปุ่มเครื่องสล็อตที่ตั้งอยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นเหรียญที่ตั้งอยู่ข้างๆแล้ว แสดงว่าพวกเธอเองก็เล่นชนะและได้รับรางวัลมาจำนวนหนึ่ง รางวัลพวกนี้ทำให้พวกเธอรู้สึกตื่นเต้นและสนุกมาก

“เป็นไงบ้าง? พวกเธอชนะบ้างรึป่าว?” เฉินหลงเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหลังของหญิงสาวทั้งสองและกล่าวทักทาย

“เฉินหลง! นายมาได้จังหวะพอดีเลย นี่ๆ พวกฉันชนะรางวัลตั้ง 500 เหรียญแน่ะ ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะสนุกขนาดนี้” เจิ้งหยู่หันกลับไปพูดกับเฉินหลง นอกจากเธอจะทำสีหน้าตื่นเต้นแล้ว เธอยังตอบเขาด้วยท่าทางน่ารักอีกด้วย

“พนันเล็กๆน้อยๆจะทำให้เธอมีความสุข แต่การพนันจำนวนมากๆจะทำเธอเจ็บใจได้นะ พวกเธออย่าติดกับมันล่ะ” เฉินหลงกล่าว

 

สล็อตแมชชีนเป็นเหมือนสิ่งเสพติด หนึ่งในเพื่อนร่วมงานของเฉินหลงเคยชอบเล่นสล็อตแมชชีนมากๆ เขาใช้เงินเดือนและทรัพย์สินสิ่งอื่นๆของตัวเองไปกับมัน ทำให้เขาต้องเสียเงินอย่างน้อยสองหมื่นหรือสามหมื่นต่อปีเลยทีเดียว

สุดท้าย เขาจำเป็นต้องเลิกเล่นมันไปเพราะการปราบปรามสื่อลามก การพนันและยาเสพติด ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเสพติดมันจนเลิกเล่นไม่ได้แน่

ด้วยเหตุนี้ เฉินหลงเกรงว่าหญิงสาวทั้งสองคนจะติดกับมันเข้า

“ไม่ต้องห่วง เราไม่หลงกลมันหรอก ว่าแน่ นายล่ะเป็นไงบ้าง? อย่าบอกนะว่านายเสียเงินหมื่นนึงไปหมดแล้ว?” อันหยาเอ่ยถาม โดยไม่หันหน้ามามองเขาเลยสักนิด

ในตอนที่เธอต้องการมาที่นี่ เฉินหลงยังเล่นไม่แพ้ ส่วนเธอก็ยังเล่นไม่ชนะ เธอได้เห็นการพนัน 21 แต้ม บาคาร่า ซูโอฮาและอื่นๆ โดยที่การเดิมพันแต่ละครั้งชนะได้ไม่ง่ายเลย

 

“คนอย่างฉันเนี่ยนะจะแพ้? เหอะ เสียใจด้วยนะ ฉันชนะจนได้เงินล้านมาเลยล่ะ” เฉินหลงตอบเสียงเบา

เมื่อได้ยินคำตอบของเฉินหลงแล้ว ทันใดนั้นทั้งอันหยาและเจิ้งหยู่ได้หยุดทุกการกระทำและหันไปมองเฉินหลงเป็นตาเดียว สีหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความตกใจและน่าเหลือเชื่อ แต่ในตอนที่พวกเธอเห็นชิปที่เขาครอบครองแล้ว พวกเธอจึงทำได้แค่เชื่อเขาเท่านั้น

“นายชนะขนาดนั้นได้ยังไงเนี่ย” อันหยาเอ่ยถามด้วยความสงสัย

ส่วนเจิ้งหยู่มองเฉินหลงด้วยแววตาสงสัย เธอเองก็อยากรู้คำตอบเช่นกัน

เฉินหลงตอบเสียงเรียบ “ตอนแรก ฉันไม่ได้อยากชนะเลยนะ ฉันไปวางเดิมพันก้อนโตทั้งบนโต๊ะใหญ่โต๊ะเล็ก ใครมันจะไปรู้ว่า…”

จากนั้น เฉินหลงก็เล่าให้หญิงสาวทั้งสองคนฟังว่าเขาชนะจนได้เงินล้านมาได้ยังไง

 

“ฮึ่ย ไม่จริงน่า มันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?” อันหยาถามเขาอีกครั้งด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

ถ้าการชนะแล้วได้เงินมันง่ายขนาดนั้น แล้วคนอื่นๆจะสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปได้ยังไงเล่า

เฉินหลงไหวไหล่ “ก็สำหรับฉันมันง่ายไง ให้ฉันเสียเงินยังยากกว่าอีก”

กล่าวจบ เฉินหลงก็ได้เผชิญหน้ากับท่าทางฮึกเหิมของทั้งคู่

เมื่อได้ยินคำตอบแล้ว หญิงสาวทั้งสองถึงกับอยากชกใบหน้าหล่อๆของเฉินหลงสักหมัด แต่เพราะเธอรู้ถึงความสามารถในการต่อสู้ของเฉินหลงเป็นอย่างดี พวกเธอจึงทำตัวอวดเก่งกับเขาไม่ได้

“นี่ นายไม่ได้มาที่นี่เพราะอยากจะโชว์ออฟใช่ป่ะ?” อันหยาหันไปมองเฉินหลงด้วยสายตาอาฆาต

“ก็ต้องไม่ใช่อยู่แล้วน่ะสิ พวกเธอรู้อะไรไหม ใจจริงฉันยังอยากให้พวกเธอเสียเงินให้ฉันด้วยเนี่ย ถ้าเสียมันทั้งหมดเลยก็ยิ่งดี!” เฉินหลงตอบ

 

ก็เขาอยากแพ้ แต่เขาก็ไม่แพ้สักที ถ้าวันนี้เฉินหลงไม่เสียเงิน กลับไปคืนนี้เขาต้องนอนไม่หลับแน่

“ว่ายังไงนะ นายอยากเสียเงินเนี่ยนะ?!” เจิ้งหยู่หันไปมองเฉินหลงด้วยความไม่เข้าใจ หรือว่าหมอนี่เสียสติไปแล้ว มาคาสิโนทั้งทีแต่อยากเสียเงินเนี่ยนะ? มีอย่างที่ไหนกัน ฉันไม่เคยเห็น ได้มาคาสิโนทั้งที ใครๆก็ต้องอยากชนะแล้วก็ได้เงินกันทั้งนั้น รวยทางลัดน่ะ นายไม่อยากรวยหรอไง ฉันล่ะไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ

นอกจากผู้ชายคนนี้ ที่มาที่คาสิโนโดยมีจุดประสงค์คือการเสียเงินให้คนอื่นและต้องทำมันให้สำเร็จ ก็ไม่มีใครมาที่คาสิโนเพื่อเสียเงินอีกแล้ว!

“ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ ถ้าฉันไม่ทำ คืนนี้ฉันจะนอนไม่หลับ จริงๆวันนี้ฉันแค่อยากจะเสียเงินหนึ่งหมื่นเองนะ แต่ตอนนี้ฉันทำไม่ได้แล้ว เธอก็เห็นแล้วนี่” เฉินหลงทำอะไรไม่ถูก

 

“คุณแค่อยากเสียเงินจริงๆเหรอครับ?” ในเวลาเดียวกัน หยานจิงหนานโยวที่เดินตามเฉินหลงมาติดๆ จู่ๆก็พูดขึ้นมาโดยที่สายตาของเขากำลังจับจ้องอยู่ที่เฉินหลง

เขายืนอยู่ข้างๆเฉินหลงมาสักพักแล้ว ในตอนที่เขาได้ยินว่าเฉินหลงแค่อยากเสียเงิน หยานจิงหนานโยวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“โอ๊ะ ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังพวกคุณคุยกัน” หยานจิงหนานโยวพูดขึ้นอีกครั้ง

ประโยคแรกของเขาถามจริงๆ ส่วนประโยคถัดไปเขาโกหก สำหรับเฉินหลง การแยกแยะว่าประโยคไหนพูดจริงประโยคไหนโกหกนั้นง่ายมาก ถึงเขาจะไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของหยานจิงหนานโยว แต่เขากำลังพูดโกหกอยู่ แสดงว่าต้องมีสิ่งล่อลวงให้เขาพูดโกหก และสิ่งที่ล่อลวงเขาให้มามติดกับก็คือชิปหนึ่งล้านชิปของเขานั่นเอง

 

“ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?” เฉินหลงเอ่ยถาม

“ถ้าคุณแค่อยากเสียเงินจริงๆ คุณมาพนันกับพวกผมก็ได้นะครับ ยังไงคุณก็แค่อยากเสียเงินนี่ครับ แต่การที่คุณเสียเงินให้พวกผม มันจะไม่เหมือนกับการเสียเงินให้กับคาสิโนครับ เพราะพวกผมสามารถนำเงินพวกนั้นไปต่อยอดได้ยังไงล่ะครับ” หยานจิงหนานโยวพูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมา

เนื่องจากว่าผานจื่อได้บอกเอาไว้ว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาจึงล้มเลิกแผนการต่างๆและเข้าไปคุยกับอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมาแทน ถ้าเขาเห็นด้วย พวกเขาทั้งสามคนก็จะได้เงินของเขา แต่ถ้าเขาไม่เห็นด้วย พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเดาว่าจะหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น

 

“เอ.. แต่จะว่าไป คุณไม่กลัวว่าผมจะได้เงินของพวกคุณแทนที่จะเสียเงินเหรอครับ?” หลังจากที่ได้ฟังคำตอบของ หยานจิงหนานโยวแล้ว จู่ๆเฉินหลงก็อยากทำความรู้จักกับหยานจิงหนานโยวขึ้นมาในทันที เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นการเปิดใจคุยกัน

หยานจิงหนานโยวคลี่ยิ้มออกมา พร้อมกับตอบด้วยความมั่นใจว่า “ในเมื่อคุณมั่นใจว่าตัวจะชนะและทำให้พวกเราแพ้ได้ เราลองมาพิสูจน์กันดูไหมครับ”

ถึงพวกเขาจะรู้ว่าเฉินหลงชนะการพนันเพราะโชคดี แต่เขากลับไม่คิดว่าเฉินหลงจะสามารถเอาชนะพวกเขาทั้งสามคนได้อยู่ดี

“ได้ ตกลงครับ!” เฉินหลงตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม

*สำนวน留 得青山在,不怕没柴烧 [liúdéqīngshānzài,búpàméicháishāo] / ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผา ประมาณว่า ตราบใดมีชีวิต ย่อมต้องมีความหวัง