TB:บทที่ 205 คาสิโน (3)
“เฉินหลง นี่นายสมองกระทบกระเทือนเหรอ หรือว่าเมื่อกี้นายไปกินอะไรผิดสำแดงมา นายถึงได้อยากใช้จ่ายเงินตั้งหนึ่งล้านแบบนี้เนี่ย หืม?” เมื่อได้ยินเฉินหลงตอบตกลง เจิ้งหยู่จึงหันไปกระซิบกับเฉินหลงที่ตอนนี้กำลังทำสีหน้าเรียบนิ่ง
ถึงหนึ่งล้านชิปนั้นเป็นของเฉินหลงทั้งหมด แต่ถ้าเขาใช้มันจนหมดในคราเดียวแบบนี้ เจิ้งหยู่จะต้องรู้สึกหัวใจสลายแน่ อีตาบ้า หนึ่งล้านนะยะไม่ใช่หนึ่งร้อย นายคิดมาดีแล้วใช่ไหม คิดมาดีจริงๆแล้วใช่ไหม!?
เฉินหลงส่งยิ้ม ให้ไปกระซิบเบาๆข้างหูเจิ้งหยู่ “นี่ ใครบอกเธอว่าฉันจะแพ้ล่ะ ไม่แน่ฉันอาจจะชนะก็ได้น้า”
เจิ้งหยู่ถึงกับหันไปมองเฉินหลงที่แสดงให้เห็นว่าเขานั้นเป็นคนไร้ความเมตตาปรานีขนาดไหน
ในเวลาเดียวกันหยานจิงหนานโยวรีบเดินกลับไปบอกข่าวดีต่อผานจื่อและฮ่าวซือว่าเขาทำสำเร็จ
เมื่อได้ยินว่าหยานจิงหนานโยวทำสำเร็จ ผานจื่อและฮ่าวซือได้หันไปมองหยานจิงหนานโยวเป็นตาเดียว พวกเขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าอีกฝ่ายจะทำสำเร็จ นายทำให้ฉันอึ้งจริงๆนะ
“อย่ามองฉันด้วยสายตาชื่นชมอย่างนั้นสิ ฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ” หยานจิงหนานโยวหันไปมองทางผานจื่อที่กำลังมองเขาด้วยสายตาภาคถูมิใจ
ในตอนที่กำลังจ้องมองอยู่ผานจื่อไม่รู้ว่าอีกฝ่ายสมองหยุดทำงานหรือว่าพิการไปแล้ว เพราะเขาได้ทำลายตัวเลือกไปเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้ถึงเขาจะไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ แต่ยังไงเขาก็ต้องสู้ดูสักตั้ง
หลังจากนั้น ชายอ้วนก็เดินตามหยานจิงหนานโยวไปพบกับเฉินหลง
“คุณครับ สองคนนี้เป็นเพื่อนของผมเอง ในเมื่คุณต้องการที่จะเสียเงินขนาดนั้น พวกผมก็ยินดีจัดให้ตามคำขอ” ในตอนนี้หยานจิงหนานโยวมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เขามั่นใจว่าเงินของเฉินหลงจะต้องตกเป็นของเขาแน่นอน
ผานจื่อตั้งใจมอบรอยยิ้มที่แสนจะธรรมดาให้กับเฉินหลง ฮ่าวซือเป็นคนที่จองหองมาก ส่วนผานจื่อไม่เหมือนกับหยานจิงหนานโยว เขารู้ผลของการแสร้งเป็นหมูหลอกกินเสือ*เป็นอย่างดี
“ครับ คุณเลือกสถานที่ได้เลยครับ” เฉินหลงยกมือขึ้นมาสัมผัสคางของตัวเองด้วยท่าแมนๆเหมือนในหนังที่พระเอกหน้าหล่อชอบทำกัน โดยไม่สนไรหนวดที่เพิ่งจะงอกขึ้นมาหมาดๆเลยสักนิด
หยานจิงหนานโยวไม่รอช้า เขาเปิดห้องวีไอพีของคาสิโนในทันที
“แล้ว พวกเราจะเล่นพนันอะไรกันดีละครับ?” ในตอนที่เข้าในห้อง จู่ๆเฉินหลงก็ถามขึ้น
ในตอนที่ได้ยินคำถามของเฉินหลง เจิ้งหยู่ถึงกับกลอกตาหนึ่งรอบ เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องเล่นพนันอะไรกับอีกฝ่าย เขาต้องการแค่ชัยชนะเท่านั้น ช่างเพ้อฝันเสียจริง!
ในตอนที่หยานจิงหนานโยวกำลังตอบ เขาก็ถูกผานจื่อชิงพูดตัดหน้าไปว่า “แล้วคุณอยากเล่นอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?”
“ผมเล่นอะไรก็ได้ พวกคุณเลือกเลยครับ” เฉินหลงตอบส่งๆ
“ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาเล่นเกมไพ่นกกระจอกแบบดั้งเดิมกันไหมครับ? พวกเรามีกันสี่คน ครบพอดีเลย” หยานจิงหนานโยวจึงรีบเสนอเกมให้เขาในทันที
พวกเขาทั้งสามคนเป็นคนที่เล่นไพ่นกกระจอกเก่งมาก คนส่วนใหญ่ไม่สามารถหาทางวางมือหรือเท้าได้เลย นอกจากนี้การเล่นไพ่กับอีกฝ่ายเป็นอะไรที่เข้าใจง่ายมาก เล่นไปสักพัก เดี๋ยวเฉินหลงก็แพ้แล้ว
“โอเคครับ พวกเรามาเล่นไพ่นกกระจอกกันเถอะ” เฉินหลงพยักหน้าตอบ
ถึงเฉินหลงจะไม่ชำนาญการเล่นพนันสักเท่าไหร่ แต่สำหรับไพ่นกกระจอก เขายังพอรู้กฎอยู่บ้าง
หลังจากนั้น ทั้งสี่คนก็ได้เตรียมการเล่นไพ่นกกระจอกเป็นอย่างดี และพวกเขาได้ตั้งกฎการเล่นไพ่นกกระจอกแบบสากล โดยแต่ครั้งละครั้งใช้เงิน 1,000 หยวน
เฉินหลงไม่รู้ว่ากฎการเล่นไพ่นกกระจอกแบบสากลมีอะไรบ้าง แต่ไม่นาน ระบบอัจฉริยะก็ได้รวบรวมกฎของไพ่นกกระจอกแบบสากลมาให้เฉินหลง
“ผมไม่มีปัญหาเรื่องกฎ แต่ผมมีเงื่อนไขหนึ่งข้อคือ ถ้าคุณอยากเอาชนะผม คุณสามารถทำได้ครับ แต่คุณจะต้องเอาชนะผมด้วยความสามารถของคุณเอง ถ้าผมรู้ว่าพวกคุณใช้วิธีสกปก เสียใจด้วยนะครับ แต่ผมคงปล่อยให้พวกคุณทำแบบนั้นไม่ได้” ในตอนที่หยานจิงหนานโยวกำลังกำลูกเต๋าอยู่ในมือเตรียมพร้อมที่จะโยน จู่ๆเฉินหลงก็ได้เอ่ยปากพูด
เฉินหลงไม่สนว่าพวกเขาจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหรืออะไรก็ตามแต่ แต่ถ้าพวกเขาอยากชนะแล้วได้เงินของเขาไป พวกเขาจะต้องทำมันด้วยความสามารถของตัวเอง ถ้าพวกเขาเล่นสกปกขึ้นมา เฉินหลงก็มีวิธีรับมือกับพวกเขาเช่นกัน
“ครับ พวกเราไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ” หยานจิงหนานโยวรีบตอบเขาด้วยรอยยิ้ม
แต่ในสมองของเขากลับมีความคิดที่ว่า ถึงเขาจะใช้วิธีสกปกยังไง เฉินหลงก็ไม่มีทางจับได้ เขาจึงแกล้งพูดหลอกอีกฝ่ายไป
ถึงหยานจิงจะคิดแบบนั้น แต่สำหรับผานจื่อ เขาไม่ได้คิดเหมือนกันกับอีกฝ่ายเลย เขารู้ดีว่าเฉินหลงไม่ได้พูดโกหก เขาพูดจริงทำจริง
เมื่อเห็นว่าเฉินหลงไม่ได้พูดโกหก ผานจื่อจึงหันไปขยิบตาเป็นการส่งสัญญาณให้กับหยานจิงหนานโยว แต่อีกฝ่ายกลับไม่หันมามองทางเขาเลยแม้แต่น้อย
ในตอนที่หยานจิงหนานโยวโยนลูกเต๋าออกไป เกมก็ได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้!
ในตาแรก หยานจิงหนานโยวไม่ได้ใช้อุบายอะไร ผานจื่อก็ไม่กล้าใช้ตัวช่วย และฮ่าวซือเองก็ไม่ใช้เช่นกัน
ในเกมแรก เฉินหลงชนะเกมแรกโดยไม่มีอุบายใดๆเกิดขึ้น เขาวางไพ่สามสี สามสีและเลขแปดพร้อมกัน และชนะ 48,000 ในครั้งเดียว
“ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่าวันนี้ผมจะโชคดีสุดๆไปเลย ขนาดว่าผมแพ้ ผมยังแพ้ไม่ได้เลย คุณต้องเติมน้ำมันสักหน่อยนะครับ เพราะถ้าผมไม่ได้เป็นฝ่ายเสีย ระวังผมจะเป็นฝ่ายทำพวกคุณหมดตัวนะครับ” เฉินหลงหันไปมองหยานจิงหนานโยวด้วยความภาคภูมิใจ
หยานจิงหนานโยวไปส่งสายตาให้กับผานจื่อและฮ่าวซือให้พวกเขาเริ่มใช้แผนการจัดการเฉินหลง
แต่ผานจื่อกลับส่ายศีรษะเล็กน้อยกลับมาทางหยานจิงหนานโยว เพื่อแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าพวกเขาไม่ควรใช้วิธีนี้
ในตอนที่ฮ่าวซือรู้ว่าหยานจิงหนานโยวกับผานจื่อมีความคิดเห็นที่ต่างกัน เขาเองก็ติดสินใจไม่ถูกว่าตัวเองควรทำเช่นไร
ในเมื่อผานจื่อไม่เห็นด้วย หยานจิงหนานโยวก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผานจื่ออีกต่อไป เห็นที คราวนี้เขาคงต้องจัดการมันด้วยตัวเองเสียแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ในตอนที่สับไพ่ หยานจิงหนานโยวได้ใช้เทคนิคลับ โดยแอบกำไพ่สองสามใบเอาไว้ในมือ วิธีของหยานจิงหนานโยวสุดยอดมาก ถึงขนาดที่ว่าคนธรรมดาอย่างอันหยากับเจิ้งหยู่ยังมองไม่เห็นมันเลย
แต่ในสายตาของเฉินหลง วิธีที่หยานจิงหนานโยวใช้เปรียบเสมือนกับภาพสโลโมชั่น เพราะเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
“คุณบอกว่าคุณจะไม่โกง แล้วก็จะเล่นด้วยความสามารถของตัวเอง แล้วไหงคุณกลับมาใช้วิธิสกปกได้ล่ะครับ? ผมขอแสดงเสียใจด้วยนะครับ ผมจะไม่ออมมือให้คุณอีกแล้ว” ในตอนที่พบว่าหยานจิงหนานโยวใช้วิธีสกปก เฉินหลงจึงพูดในสิ่งที่เขาคิด
ในตอนที่นึกขึ้นมาได้ เฉินหลงจึงปล่อยยุงติดตามสามตัวไปหาหยานจิงหนานโยวแบบไม่ให้ซุ่มใด้เสียง หลังจากนี้ไม่ว่าหยานจิงหนานโยวจะมีไพ่อะไรอยู่ในมือ เฉินหลงก็สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน ขืนเฉินหลงยังแพ้เขา
อีก เขาจะไปกระโดดลงจากเรือสำราญให้ดูเลย
หลังจาก่านไปสองสามตา หน้าผากของหยานจิงหนานโยวก็เริ่มหลั่งเหงื่อออกมาจนเขาสังเกตุได้
‘เห้ย! เป็นไปได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เหมือนกับว่าเขาเห็นไพ่ที่ฉันมีเลย ไพ่เกือบทุกใบที่ฉันต้องการอยู่ในมือของเขาทั้งหมด หรือว่าเขาจะเป็นปรมจารย์? ถามจริง?’
หลังจากนั้น หยานจิงหนานโยวหยิบไพ่ขึ้นมา เขากอบกุมมันเอาไว้ในมือ จากนั้นก็วางมันลงโดยที่ไม่ได้มองดูว่าไพ่ที่หยิบมาคืออะไร
แต่ทั้งหมดที่เขาทำกลับเปล่าประโยชน์ เพราะเขามองไม่เห็นเครื่องติดตามของเฉินหลงได้ด้วยตาเปล่า และยุงติดตามนั้นยังสามารถมองเห็นไพ่ทั้งหมดได้แม้จะอยู่ในพื้นที่เล็กๆก็ตาม ด้วยเหตุนี้หยานจิงหนานโยวจึงเป็นฝ่ายแพ้อีกครั้ง
ในไม่ช้า หยานจิงหนานโยวก็ได้เสียเงินไปมากกว่าครึ่ง จากตอนแรกที่เขามีเงินหนึ่งล้าน ตอนนี้เขาเหลือเงินอยู่แค่ห้าแสนเท่านั้น
“ขอโทษที่ขัดจังหวะ แต่ผมขอไปห้องน้ำสักประเดี๋ยวจะได้ไหมครับ?” ในตอนนี้ชายอ้วนไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป
พวกเขาทั้งสามคนมีเงินคนละหนึ่งล้านเหรียญ และเงินส่วนมากพวกเขาไปยืมมาจากเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าปกติ ในตอนนี้เขาไม่เพียงสูญเสียเงินทุนของตัวเอง แต่ยังรวมไปถึงส่วนของเจ้าหนี้อีกด้วย เรื่องนี้ทำให้ผานจื่อเริ่มรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา
“ตามสบายเลยครับ ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” เฉินหลงตอบแล้วส่งยิ้มให้เขา เรื่องแค่นี้เขาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
ผานจื่อลุกขึ้นยืนแล้วหันไปขยิบตาให้หยานจิงหนานโยว
“ผมเองก็จะไปด้วยเหมือนกันครับ”
“ผมไปด้วย
ทันใดนั้น หยานจิงหนานโยวกับฮ่าวซือเองก็ได้ลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาออกไปจากห้องพร้อมกัน
“เฉินหลง นายเล่นเก่งขนาดนี่เลยเหรอ?” ในตอนที่วางเดิมพัน เฉินหลงเป็นฝ่ายชนะและได้เงินมามากกว่าหนึ่งล้านหยวน เฉินหลงได้พิสูจน์ให้เจิ้งหยู่เห็นเต็มสองตา
เฉินหลงไม่ตอบ เขาทำเพียงแค่ส่งยิ้มอีกฝ่ายเท่านั้น
เมื่อเห็นท่าทางสบายๆของเฉินหลงแล้ว เจิ้งหยู่จึงถามเขาอีกประโยคว่า “ว่าแต่ นายไม่กลัวพวกเขาชิ่งเหรอ?”
*แสร้งเป็นหมูหลอกกินเสือ = คนที่แท้จริงมีอำนาจ/มีความสามารถ แต่แสร้งเซ่อซ่าให้คนอื่นหลงกล เพราะหวังผลประโยชน์