มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 886
ชายหนุ่มถอดหมวกทรงหม้อตาลของเขาออกก่อนจะวางมันไว้ข้าง ๆ หลังจากนั้น เขาก็สะบัดก้นบุหรี่ออกจากร้านอาหาร
ทันทีที่เขาถอดหมวกของเขาออก ทุกคนภายในร้านอาหารก็เห็นได้อย่างชัดเจน แม้ว่ารูปร่างของเขาจะผอมบาง แต่เขาก็ให้ออร่าที่น่าเกรงขามแก่ผู้คน อีกทั้งใบหน้าที่หล่อเหลานั้นประณีตเพียงใด
เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินแบบนี้ เธอก็เริ่มทำตัวกระวนกระวายใจมากขึ้น
“นายต้องตาบอดแน่! นี่เป็นสินค้าของแท้! ไม่มีทางหรอกที่คนอย่างนายจะสามารถแยกแยะระหว่างของจริงกับของปลอมได้น่ะ! ทำไมนายไม่ยอมรับว่าพวกนายจะไม่ชดเชยให้ฉันกันล่ะ! ดูเหมือนว่าฉันต้องสั่งสอนบทเรียนให้นายวันนี้ซะแล้ว เพื่อไม่ให้นายลืมว่าฉันมีอำนาจแค่ไหน!”
ผู้หญิงคนนั้นเหลือบมองแบร์ธโฮลด์ ขณะที่เธอทำท่าทางให้เขาลงมือได้
แบร์ธโฮลด์และคนของเขาจึงเริ่มมุ่งหน้าไปหาชายหนุ่มคนนั้น
“เอาล่ะ พอกันที ผมรู้ว่าพวกคุณทุกคนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมกัน แต่อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นของปลอมจริง ๆ! ทำไมผมถึงจะต้องโกหกคุณด้วยล่ะ?”
ขณะที่เขาพูด ชายหนุ่มคนนั้นก็คว้าชุดเดรสของผู้หญิงคนนั้นไว้และฉีกมันออก
“อ๋าา!”
ผู้หญิงคนนั้นเริ่มกรีดร้องออกมาเสียงดังอีกครั้ง
“ดูว่าคุณเชื่อผมหรือไม่ สินค้าแอร์เมสของแท้ทำมาจากวัสดุดิบที่ได้รับการดูแลอย่างเป็นพิเศษ แต่ดูชุดเดรสของคุณสิ เห็นได้ชัดว่ามันทำมาจากผ้าฝ้ายอุตสาหกรรม คุณต้องซื้อสินค้าปลอมมาจากไหนสักที่ ใช่ไหม? อย่างมากที่สุดมันก็มีราคาสามร้อยสิบดอลลาร์!”
ชายหนุ่มคนนั้นกล่าว
ผู้หญิงคนนั้นอยากจะกรี๊ดใส่หูของเขา
แต่อย่างไรก็ดี เธอก็ตกตะลึงไปเมื่อเธอได้ยินแบบนี้
แบร์ธโฮลด์ที่กำลังจะโจมตีเขา ก็ตกตะลึงเช่นกัน
พวกเขาทั้งคู่แลกเปลี่ยนสายตากันและกัน
นี่เป็นเพราะทุกอย่างที่ชายหนุ่มคนนี้พูดมานั้นถูกต้อง นี่เป็นสินค้าของปลอมจริงที่พวกเขาซื้อมาในราคาสามร้อยแปดดอลลาร์ในราคาลด
“เช่นนั้น พวกเราจะเพียงชดเชยให้คุณสามร้อยสิบดอลลาร์อย่างมากที่สุดเท่านั้น!”
ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
“ป้ามาเรีย นำสามร้อยสิบดอลลาร์มานี่สิครับ!”
“ได้!”
มาเรียพยักหน้า
ชายหนุ่มยืนเงินให้แบร์ธโฮลด์
แบร์ธโฮลด์รู้สึกอับอายกับการถูกชายหนุ่มคนนี้ทำให้ขายหน้าในที่สาธารณะต่อหน้าสายตามากมายขนาดนี้ สิ่งที่ทำให้เขาโกรธก็คือ ความจริงที่ว่าเขายังใช้โอกาสในการฉีกชุดเดรสของผู้หญิงของเขาอีกด้วย
เขากล้าดียังไงมาบอกว่าผู้หญิงของเขาใส่ชุดเดรสปลอมราคาถูก!
ถ้าเขาจะจากไปโดยไม่ได้ทำอะไรล่ะก็ งั้นเขา แบร์ธโฮลด์ยอมตายเสียดีกว่า!
“โอเค ไอ้หนุ่ม นายมีสายตาที่ดี ฉันต้องยอมนายเรื่องนั้น แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันเป็นของปลอมลดราคาจริง ๆ ทำไมนายต้องฉีกชุดเดรสของผู้หญิงของฉันด้วยล่ะ? ฉันจะทำให้นายกลายเป็นคนพิการซะที่มาทำแบบนี้!”
แบร์ธโฮลด์โกรธจนควันออกหู
โดยไม่มีการเตือน เขาสวนหมัดของเขาตรงไปยังใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้น
บูม!
มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
ชายหนุ่มคนนั้นคว้าหมัดของแบร์ธโฮลด์ไว้ทันที
และจากนั้น เขาก็กำหมัดของเขาแน่นขึ้น
“โอ๊ย! นั่นเจ็บ! ปล่อยหมัดฉันนะ แม่งเอ้ย!”
แบร์ธโฮลด์ตะโกนพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด
เขารู้สึกช็อก
เขาสามารถยกผู้ชายคนนี้จากพื้นได้อย่างง่ายดาย แต่เขาออกแรงมากมายขนาดนี้โดยใช้นิ้วของเขาอย่างเดียวได้ยังไงกัน?
“นายอยากจะต่อสู้ใช่ไหม? งั้นนายก็น่าจะพูดมันออกมาสิ!”
ชายหนุ่มตอบกลับด้วยรอยยิ้มเข้าใจยาก
หลังจากส่ายข้อมือของเขาเล็กน้อย แขนของแบร์ธโฮลด์ก็เริ่มเกิดเสียงดังกริ๊กและงอขึ้นข้างบนในมุมที่แปลกประหลาด
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็มอบลูกเตะเล็กน้อยให้แบร์ธโฮลด์ และเขาก็พลิกหลังของเขาได้อย่างง่ายดาย
“โอ๊ย! แขนฉัน!”
แบร์ธโฮลด์ร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด
ลูกน้องของเขาทั้งหมดต่างก็ตะลึงงันไปตาม ๆ กัน
เมื่อได้ยินเสียงแครกที่น่าเจ็บปวดทั้งหมดตอนที่ชายหนุ่มคว้าหมัดของแบร์ธโฮลด์ไว้ จึงทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าผู้ชายที่ดูเหมือนไม่มีมีพิษมีภัยคนนี้มีสมรรถภาพสูงแค่ไหน
เมื่อเห็นว่าร่างกายของแบร์ธโฮลด์ขยับอย่างไร พวกเขาจึงรู้ได้ในทันทีว่าแขนของเขาเคลื่อนไปแล้ว
ไม่มีพวกเขาคนไหนกล้าที่จะขยับกล้ามเนื้อกันเลย
“ไม่เป็นไร มันจะไม่เจ็บอีกต่อไปหลังนี้สักพัก!”
ชายหนุ่มกล่าว ขณะที่เขานั่งยอง ๆ ข้างชายร่างใหญ่คนนั้น
แบร์ธโฮลด์ที่กำลังตะโกนไม่หยุดหย่อน มองดูแขนที่ผิดรูปร่างอย่างน่าสยองของเขา ก่อนจะตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บใด ๆ อีกต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ดี ตำแหน่งแขนเก้งก้างของเขานี้ก็คดงอจนดูน่าตกใจกลัวจริง ๆ
ในเวลาเดียวกันนี้ เขาเห็นชายหนุ่มกำลังยิ้มให้เขาอย่าเฉยเมย เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาด้วยความกลัวอย่างยิ่ง เมื่อเขาเริ่มตระหนักได้ว่ารอยยิ้มของผู้ชายคนนี้ดูน่าขนลุกอย่างไร
เขาเริ่มเหงื่อแตกออกมามากมายขณะที่เขาพูดขึ้นมา “นาย…นายจะทำอะไรกับฉัน?”
ชายหนุ่มยิ้มขณะที่เขาตบไหล่ของแบร์ธโฮลด์เบา ๆ “แบร์ธโฮลด์ ตอนนี้มีลูกค้ามากมายอยู่ใกล้ ๆ นี้ ไม่มีอะไรที่ฉันสามารถทำกับนายได้หรอก นายกำลังขอค่าชดเชยไม่ใช่หรือไง? มาสิ! ทำไมพวกเราไปออกไปข้างนอกและคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันล่ะ?”