หลิน ชูจิ่ว ไม่ได้ซ่อนความตั้งใจของเธอที่จะหลับมาตลอดทางจนถึงตำหนักเสี่ยวหวางฟู่ และเมื่อพวกเขามาถึงเธอก็ “ตื่นขึ้น” แต่เธอไม่ได้มีอาการใด ๆ ที่บอกว่าเธอนอนหลับไปแม้แต่น้อย

       เสี่ยวเทียนเหยา มองไปที่นางและแดกดันขึ้น “เจ้านอนหลับดีหรือไม่ชายาข้า”

       หลิน ชูจิ่ว เป็นคนที่มีผิวหน้าที่หนา เธอจึงแค่พยักหน้าเธอราวกับว่าเธอไม่ได้เข้าใจความหมายของเสี่ยวเทียเหยา “ดี แต่แขนของข้าเจ็บเล็กน้อย ”

“เจ้าต้องการให้ข้านวดให้หรือไม่?”

       หลิน ชูจิ่วไม่ได้วางแผนจะตายในเร็วๆ นี้ ดังนั้นเธอจึงส่ายหัวอย่างแน่วแน่ก่อนจะพูดขึ้น “ข้าจะไปที่ห้องของข้าและนวดมันเอง ข้าคงจะไม่รบกวนหวางเย่ “

       เสี่ยวเทียนเหยา มีรอยยิ้มหวานบนใบหน้าของเขา แต่ดวงตาของเขาไม่มีร่องรอยของรอยยิ้มเลยแม้แต่น้อย หลิน ชูจิ่ว รู้ว่าเสี่ยวเทียนเหยา ไม่มีความสุขเพราะเธอ “หลับ” ตลอดทาง แต่ … …

       เธอไม่รู้จริงๆว่าจะทำอะไรกับเขาเมื่อต้องอยู่ด้วยกันตามลำพัง

       ดังนั้นในท้ายที่สุดเธอเลือกที่จะพักผ่อน แต่เขากลับโกรธหรือ?

       เมื่อสิ่งนี้สิ้นสุดลง เธอจะเกลียดตัวเองเพราะไม่เข้าใจมันจริงๆ

       ดังนั้นตอนนี้เธอควรจะทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น?

       ลืมมันไปซะ เสี่ยวเทียนเหยา เองก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ต่อไป

“คราวนี้เปิ่นหวางจะไม่เถียงกับเจ้า” เสี่ยวเทียนเหยา มองไปที่หลิน ชูจิ่วอย่างเยือกเย็น และพูดอย่างเย็นชาขึ้น “แต่จะไม่มีครั้งต่อไป” ครั้งต่อไปที่หลิน ชูจิ่วแกล้งทำเป็นหลับ เขาจะทำให้นางหลับไปจริงๆ

“เจ้าค่ะ ” หลิน ชูจิ่ว จึงตั้งใจที่จะดำเนินการ “พฤติกรรมที่ประพฤติดี” ของเธอต่อไป

       อย่างไรก็ตาม ในครั้งต่อไปที่เธอจะนั่งอยู่ในรถม้ากับเสี่ยวเทียนเหยา อาจเป็นปีหน้าหรือมากกว่านั้น

“หวางเย่ หวางเฟย ถึงแล้วขอรับ” ทหารไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน ดังนั้นเมื่อเขาเสร็จสิ้นการจัดการกับสิ่งต่างๆ เขาก็พูดขึ้นด้วยความเคารพ

“อืมม” เสี่ยวเทียนเหยา ตอบด้วยเสียงดัง ดังนั้นทหารจึงเปิดประตูม้าและนำรถเข็นของเขามาระมัดระวัง จากนั้นเขาก็ทำให้มั่นใจว่ามีมั่นคงและปลอดภัย

       หลังจากที่เสี่ยวเทียนเหยา ออกมาจากรถม้าแล้ว ซุยฉีและฉิวฉี ก็มาข้างหน้า พวกนางช่วยหลิน ชูจิ่ว ลงจากรถม้า สาวใช้ทั้งสองรู้ว่าเสี่ยวเทียนเหยา เกลียดที่จะให้ผู้หญิงเข้าใกล้เขา ดังนั้นหลังจากที่ช่วยหลิน ชูจิ่วแล้ว พวกนางก็เดินออกไปทันที

       รอบๆ ตัวเสี่ยวเทียนเหยา จะสามารถมีผู้หญิงได้เพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือหลิน ชูจิ่ว  

       เมื่อพ่อบ้านเฮ้าเห็นฝูงชนที่หน้าประตูตำหนักเสี่ยวหวางฟู่  ใบหน้าของเขาก็บานขึ้นด้วยความสุขทันที”บ่าวชราผู้นี้ทำความเคารพหวางเย่และหวางเฟย บ่าวชราผู้นี้รู้ว่าหวางเย่และหวางเฟยคงจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ดังนั้นบ่าวจึงได้ทำความสะอาดเรือนและเตรียมน้ำร้อนเอาไว้แล้ว หวางเย่และหวางเฟยต้องการที่จะรับอาหารก่อนหรืออาบน้ำก่อนขอรับ? ”

“พักผ่อน” เสี่ยวเทียนเหยาพูดขึ้นและทันทีรถเข็นของเขาก้าวไปข้างหน้า คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็ตามไปด้วย หลิน ชูจิ่วก็ก้าวไปข้างหน้าด้วย แต่เมื่อเธอเห็นคนรับใช้ที่อยู่ข้างหลังนำหีบใส่ของของเธอลงมาจากรถม้า เธอก็ช่วยไม่ได้ที่จะถามขึ้น “เจ้าแบกอะไรมา?” ทำไมหีบเหล่านั้นดูคล้ายกับหีบที่อยู่ในห้องของเธอ? แต่เธอไม่ได้นำอะไรที่อยู่ในจวนจื่อมาด้วยเสียหน่อย

       อย่างไรก็ตามคนที่ให้คำตอบกลับเป็นเสี่ยวเทียนเหยา “สิ่งของของเจ้า”

       “ของข้า? เห็นได้ชัดว่าข้าไม่ได้นำอะไรมา “หลิน ชูจิ่ว ตอบ แต่ … …

       เสี่ยวเทียนเหยาได้ไปแล้วและไม่ได้ให้ความสนใจของเธออีก

       หลิน ชูจิ่วรู้สึกรำคาญมาก จากนั้นเธอก็เรียกสาวใช้ทั้งสองซึ่งพยายามหลบหนีไปกลับมา “ซุยฉี ฉิวฉี เกิดอะไรขึ้น?”

       สาวใช้ทั้งสองทำอะไรไม่ได้นอกจากจะพูดขึ้น “หวางเฟย เมื่อท่านเข้าไปในรถม้า หวางเย่ก็สั่งให้เก็บของของท่านโดยไม่ให้เหลืออะไรเอาไว้ “มันไม่ใช่ความผิดของเรา เราอยากจะบอกท่าน แต่ … … ท่านก็กำลังหลับอยู่!

“หวางเย่สั่ง? ข้าเข้าใจแล้ว “หลิน ชูจิ่วไม่ต้องการที่จะอยู่ด้วยความโกรธ เธอเป็นผู้ใหญ่ที่โตแล้ว เธอไม่ควรโกรธเสี่ยวเทียนเหยา ด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เธออาจดูเหมือนจะมีอีคิวที่ต่ำ แต่ … …

       เสี่ยวเทียนเหยาจะไม่ไร้เดียงสาไปหน่อยหรือ เขาคิดว่าเพียงเพราะเขานำสิ่งของต่างๆของเธอกลับมาแล้วเธอจะไม่สามารถกลับไปที่จวนจื่อ ได้อีกหรือ?

       ขาของเธอยังติดอยู่กับเธอ เธอสามารถไปได้ทุกที่ที่เธอต้องการ!