“ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างอยู่ในความควบคุม” เฉินเกอลุกขึ้นยืดข้อต่อต่าง ๆ เทียบกับสภาพของผู้โดยสารคนอื่นแล้ว ใคร ๆ ก็เห็นได้ว่าเฉินเกอนั้นฝึกฝนร่างกายมาดีเพียงใด

“โรงแรมนี้อยู่ภายใต้อาณาเขตของวิญญาณตนอื่น ดังนั้นผู้หญิงไร้หัวคนนั้นจะไม่กล้าบุกเข้ามาชั่วคราว” เฉินเกอตบ ๆ ท้องเจ้าแมวขาว มันกำลังกลัวมากจนไม่ผลักมือเฉินเกอกลับตามปกติ

“เดี๋ยวนะ! คุณเพิ่งพูดอะไรนะ? คุณหมายความถึงอะไรที่บอกว่าที่นี่อยู่ภายใต้อาณาเขตของวิญญาณตนอื่น? อย่าบอกผมนะว่า… มีสิ่งอื่นที่คล้ายสัตว์ประหลาดนั่นอยู่ที่นี่!” ชายขี้เมานั้นได้รับการฝึกฝนมากเกินไปแล้วคืนนี้ สมองของเขาจึงเปลี่ยนเป็นว่องไวขึ้น

“ผมเดาว่าคุณก็คงเห็นเป็นอย่างนั้นแหละ แต่ไม่ต้องห่วง ผีผู้หญิงนั่นยังหลับอยู่ สำหรับตอนนี้ เธอจะยังไม่ตื่น” เฉินเกอเดินเข้าไปในร้านอาหาร ทิ้งผู้โดยสารที่ยังอึ้งอยู่เอาไว้

“เขายอมรับง่ายขนาดนี้เลยเรอะ? มีผีผู้หญิงอีกตนอยู่ที่นี่จริง ๆ เหรอ? มันอะไรกันเนี่ย?” ชายขี้เมาหันกลับไปมองมือกรรไกรและหมอ “เฮ้ ทำไมคุณสองคนไม่พูดอะไรเลย? มีผีผู้หญิงอยู่ที่ข้างนอกนั่นนะ ผีร้ายนะ!”

“เงียบหน่อยน่า มีผีแล้วยังไงอ่ะ?” มือกรรไกรตีมือชายขี้เมากลับและแค่นเสียงเย็น “ถ้ามันกล้ามาหาฉัน ก็คอยดูฉันจัดการกับมันแล้วกัน”

ในพวกเขาไม่กี่คนนี้ หมอนั้นคุมสติได้ดีที่สุด “พวกคุณสังเกตไหมว่าคำที่เขาใช้ล้วนหมายถึงชั่วคราวน่ะ? นี่หมายความว่าผีที่ด้านนอกอาจจะเข้ามาได้ และผีที่ด้านในก็อาจจะตื่นขึ้นเร็ว ๆ นี้ก็ได้ และถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเราก็ต้องรับมือกับผีสองตนในเวลาเดียวกัน”

“คุณหมายความว่ายังไง?” ชายขี้เมาเชื่อว่าหมอเป็นคนที่เชื่อถือได้ที่สุดในกลุ่ม และเขาก็พยายามจับความหมายแฝงในถ้อยคำของเขา

“ผมหมายถึง คุณควรจะพยายามเก็บแรงเอาไว้ สถานการณ์ของพวกเราอาจจะเลวร้ายกว่านี้ได้” หมอเองก็หอบอย่างหนักเช่นกัน ในผู้โดยสารทั้งสามคน มือกรรไกรนั้นมีร่างกายที่แข็งแรงที่สุด อย่างไรเสีย เขาก็เตรียมการมานานวัน และนั่นก็รวมถึงการฝึกฝนร่างกายอย่างหนักด้วย

“คุณพูดเล่นแล้ว… นี่ฉันเดินเข้ามาในฝันร้ายประเภทไหนกันเนี่ย ฉันแค่ออกมาดื่มนิดหน่อยแค่นั้นเองนะ…” ชายขี้เมาตะกายลุกขึ้นจากพื้น ฟังเสียงเคาะที่ก้องจากประตูแล้ว เหงื่อเย็น ๆ ก็ไหลลงมาตามใบหน้าของเขา

“มีคนอยู่ไหม?” เฉินเกอเดินไปที่เคาน์เตอร์ โรงแรมนั้นตกแต่งในรูปแบบยุคเก้าสิบ– มันดูคล้ายกับที่ในเกมของเสี่ยวปู้ หลังจะรออยู่สิบวินาที ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากในห้องลึกเข้าไปในทางเดิน “รอสักครู่ครับ! ผมจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”

หนึ่งนาทีให้หลัง ผู้โดยสารทั้งหลายก็เห็นชายร่างอ้วนคนหนึ่งเดินเป๋ไปมาตามทางเดิน มือของเขานั้นกำลังผูกผ้ากันเปื้อน และผ้ากันเปื้อนก็ดูใหม่เพราะว่าไม่มีรอยเปื้อนอะไรเลย

“ทำไมคุณถึงช้านัก? แสดงให้เห็นถึงความขาดประสิทธิภาพ ในฐานะของธุรกิจให้บริการชนิดหนึ่ง คุณต้องจำเอาไว้ว่าลูกค้าต้องมาก่อนเสมอ” เฉินเกอกวาดตามองชายคนนั้นอย่างหมดความอดทน

“ขอโทษเป็นอย่างยิ่งครับ ผมกำลังช่วยในครัวอยู่” ชายวัยกลางคนไม่โกรธ อันที่จริง เขามีรอยยิ้มบนใบหน้าด้วยซ้ำ รวมกับท่าทีทั้งหมดของเขาแล้ว มันก็ทำให้เขาดูเป็นมิตรและยินดีต้อนรับ

“ช่วยในครัว?” เฉินเกอสังเกตเห็นว่ามือของชายคนนี้ยังเปียก– เพิ่งล้างมือมา แต่ว่า เขารีบร้อนเกินไป ดังนั้นจึงมีรอยเปื้อนสีแดงเข้มเหลืออยู่ใต้เล็บ

“ใช่ พวกเรามีพ่อครัวแค่คนเดียวที่นี่ ดังนั้นบางครั้ง ผมก็ต้องเข้าไปที่ข้างหลังเพื่อช่วยเขา” ชายร่างอ้วนหัวเราะ ดวงตาเหลือเล็กเท่าลูกปัดจากไขมันที่พอกหนา หากเขาไม่หันหน้ามา ก็ยากที่จะบอกว่าเขากำลังมองใครอยู่

“คุณเป็นเจ้าของที่นี่เหรอ?” นี่เป็นครั้งแรกที่ชายขี้เมาเจอกับคนที่เขาสามารถพูดคุยได้ด้วยอย่างปกติ และหัวใจของเขาก็ยิ่งกว่าแค่ตื่นเต้นเล็กน้อยเสียอีก

“ผมต้องช่วยงานในครัว ทำหน้าที่พนักงานเสิร์ฟ และยังต้องดูแลการจองห้องพัก ถึงจริง ๆ แล้วผมจะเป็นเจ้าของที่นี่ ผมก็ดูเหมือนจะแย่ยิ่งกว่าคนที่ถูกจ้างมาช่วยที่นี่เสียอีก” ผู้ชายคนนั้นเบียดตัวเข้าไปด้านหลังเคาน์เตอร์ “พวกคุณจะพักที่นี่หรือว่าแค่มาทานอาหาร?”

“ค่าใช้จ่ายคิดยังไง?” หมอขมวดคิ้ว เขารู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง สามารถให้บริการอยู่ในเมืองเล็ก ๆ เช่นนี้ได้ ต้องมีบางอย่างไม่ปกติที่นี่

“คุณพักฟรีได้ในคืนแรก แต่ถ้าคุณต้องการพักต่อคืนที่สอง พวกเราจะเลือกขอสิ่งหนึ่งของคุณเป็นค่าห้อง” เหมือนกลัวว่าจะเกิดความเข้าใจผิด เจ้าของร่างอ้วนก็เสริม “เงินไม่ได้สำคัญกับพวกเราที่นี่นัก พวกเราอยากได้ช่วงเวลาอันโดดเด่นไม่เหมือนใคร”

“แล้วถ้าพวกเราอยากจะอยู่ต่อเป็นคืนที่สามล่ะ?” เฉินเกอถามขัด

“พวกเราก็จะขออีกสิ่งหนึ่งจากคุณ พวกเราจะไล่คุณออกไปก็เมื่อคุณไม่สามารถจัดหาสิ่งที่เราต้องการได้แล้ว” เจ้าของดูมีเหตุผล “ผมสามารถรับรองได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในเมืองเล็ก ๆ นี่”

“ผมว่าผมเข้าใจนะ” ชายขี้เมาพยักหน้า “ที่นี่ก็เหมือนเซฟโซนในเกม พวกเราสี่คนพักที่นี่คืนนี้เป็นยังไง?”

“นี่เป็นกุญแจห้องของพวกคุณ” เหมือนกลัวว่าชายขี้เมาจะกลับคำ เจ้าของร่างอ้วนรีบดึงกุญแจสี่ดอกออกมาจากใต้เคาน์เตอร์ แต่ละดอกนั้นติดหมายเลขเอาไว้

“พวกเราไม่ต้องการสี่ห้องหรอก พวกเราอยู่ห้องละสองคนก็ได้” หมอก็ยังคงระแวดระวังมากกว่า

“ได้แน่นอน พวกคุณคุยกับเองเลยว่าจะจัดการแบ่งกันนอนอย่างไร ผมจะกลับไปที่ครัวช่วยพ่อครัวเตรียมอาหารเย็นให้พวกคุณ” คุณเจ้าของเดินโซเซกลับไปยังห้องครัว แต่น่าแปลก ทางที่เขาเดินไปนั้นเป็นคนละทางกับที่เขาใช้ตอนเดินออกมาจาก ‘ห้องครัว’

หลังจากเจ้าของไปแล้ว หมอก็เลือกสองห้องที่อยู่ติดกัน “พวกเราเลือกสองห้องนี้ แต่ว่าพวกเราทั้งสี่คนจะอยู่ในห้องเดียวกันทิ้งให้อีกห้องเป็นห้องเปล่า พวกเราจะผลักกันเฝ้ายามตลอดทั้งคืน จับตามองอีกสองห้องนี่เอาไว้ ถ้าเกิดอะไรขึ้น คนที่อยู่ยามต้องปลุกทุกคนขึ้นมา”

“นั่นเป็นความคิดที่ฉลาดมาก!” ความหวังผุดขึ้นในดวงตาของชายขี้เมา “ตราบใดที่พวกเรารอดไปถึงตอนเช้าหรือจนหมอกสลายไป พวเราก็จะสามารถหนีออกจากเมืองเล็ก ๆ นี่ได้!”

มือกรรไกรเห็นด้วยกับหมอ ในกลุ่ม มีแค่เฉินเกอที่มีสีหน้าประหลาด

“นี่น่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว” หมอหันไปหาเฉินเกอ อย่างไรเสีย ฝ่ายหลังนั้นก็เหมือนศูนย์รวมจิตวิญญาณของพวกเขา

“ถ้าพวกเราซ่อนอยู่ในห้องนี้นั่นก็หมายความว่าพวกเรายอมแพ้ที่จะเป็นฝ่ายบุก ทำให้พวกเขามีเวลามากพอที่จะติดตั้งกับดักต่าง ๆ และพวกเราก็จะทำได้แค่รออยู่ในห้องเท่านั้น” เฉินเกอไม่แม้แต่จะเหลือบมองลูกกุญแจที่บนเคาน์เตอร์

“อย่างนั้นคุณคิดว่าพวกเราควรจะทำอย่างไร?” คนอื่น ๆ นั้นสงสัยในความคิดของเฉินเกอ

“ง่ายมาก เจ้าของคนนั้นบอกก่อนหน้านี้ว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่นอกจากเขาและพ่อครัว” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเฉินเกอขณะที่เขาเอื้อมมือออกไป “มีพวกเขาสองคนแต่พวกเรามีกันสี่คน เทียบกับการผ่านคืนนี้ไปอย่างกระวนกระวาย ผมอยากจะเป็นฝ่ายลงมือและทำตัวเป็นเจ้าของที่นี่สักคืนหนึ่ง”

“คุณต้องการยึดที่นี่?” ชายขี้เมารู้สึกว่าโลกของเขากำลังจะระเบิดออก “พี่ชาย ผู้ชายคนนั้นทั้งใจดีและสุภาพตอนที่พูดคุยกับเราก่อนหน้านี้ แล้วคุณยังวางแผนจะขโมยที่นี่จากเขา? นั่นจะไม่เหมาะสมไปหน่อยหรือเปล่า?”

“สถานที่ที่กระทั่งวิญญาณสีเลือดไม่กล้าเข้ามาอย่างง่าย ๆ คุณคิดจริง ๆ หรือว่าเจ้าของคนนั้นนั่นใจดีกับพวกเรา?” เฉินเกอเล่นเกมของเสี่ยวปู้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงเข้าใจจุดประสงค์ของ ‘โรงแรม’ นี่ ลูกค้าล้วนเป็นอาหาร รอคอยให้ถูกส่งเข้าไปในท้องของวิญญาณสีเลือดที่ถูกขังเอาไว้ในตู้เย็น “ระหว่างมื้อเย็นพวกคุณจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงทำอย่างนี้”

เฉินเกอวางเจ้าแมวขาวกลับไปที่บนไหล่ของเขาและเก็บกุญแจทั้งสี่ดอก “อย่าได้เปิดโปงแผนการไป ผมหวังว่าพวกคุณจะเชื่อผม ผมรับรองกับพวกคุณได้ว่าผมเป็นคนดี แต่ว่าความใจดีของผมก็มีขอบเขต”