บทที่ 995

บทที่ 997

ไช่เหวินหย่าสีหน้าไม่สู้ดี เดิมทีจะตำหนิเฉินโม่ แต่ผู้อาวุโสจำนวนมากอยู่ที่นี่ เธอไม่กล้าเหิมเกริม ทำได้เพียงส่งเสียงหึอย่างเย็นชา แล้วหันหน้าหนีเฉินโม่

ไช่อิ้งเวินพูดเสียงขรึมว่า “หาที่นั่งให้เฉินไต้ซือ!”

มีคนเลื่อนเก้าอี้มาให้เฉินโม่อย่างรวดเร็ว เฉินโม่นั่งลงบนเก้าอี้อย่างไม่เกรงใจ มองไช่อิ้งเวินอย่างเฉยเมย

ไช่อิ้งเวินพูดว่า “เฉินไต้ซือ ผมรู้เรื่องคุณกับเหวินหย่าแล้ว ตระกูลไช่ของผมขอบคุณคุณที่ช่วยคุณท่านของตระกูลผม ยาของคุณราคาเท่าไร คุณว่าราคามาได้เลย ตระกูลไช่ยินดีซื้อด้วยราคาสองเท่า”

“ว่าราคาเหรอ” เฉินโม่ยกยิ้มมุมปาก “พวกคุณรู้ราคาแล้วไม่ใช่เหรอ ต้องพูดอีกรอบเหรอ”

สีหน้าคนตระกูลไช่เย็นชาลงอีก ดูเหมือนเฉินโม่เจตนาไม่ดีแล้ว!

ไช่อิ้งเวินก็มีสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เฉินไต้ซือ ตอนนั้นเหวินหย่าทำทุกอย่างเพื่อช่วยคน จึงจำใจต้องรับปากเงื่อนไขของคุณ ไม่ถือว่าจริงจัง แม้คุณช่วยคุณท่านตระกูลผม แต่ถ้าคุณจะใช้สิ่งนี้บีบบังคับตระกูลไช่ งั้นสิ่งที่คุณคิดไว้คงผิดพลาดแล้วล่ะครับ”

ไช่อิ้งเวินนั่งตัวตรง พลานุภาพของผู้สูงส่งระเบิดออกมา น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “แม้ตระกูลไช่ของผมต้องตอบแทนพระคุณ แต่ไม่มีทางยอมให้คนอื่นมาบีบบังคับ!”

ได้ยินคำพูดแข็งกร้าวของผู้นำตระกูล คนตระกูลไช่ก็ได้ใจขึ้นมาด้วย สายตาที่มองเฉินโม่เต็มไปด้วยความได้ใจ

ยิ้มเย็นชาผุดขึ้นบนใบหน้าเฉินโม่ “จำใจต้องรับปากงั้นเหรอ ไม่ถือว่าจริงจังงั้นเหรอ”

“นี่หมายความว่า ตระกูลไช่ของพวกคุณรับปากเงื่อนไขของคนอื่น แล้วสามารถกลับคำได้ทุกเมื่องั้นเหรอ”

ไช่อิ้งเวินพูดว่า “คุณอย่าใส่ร้ายความน่าเชื่อถือของตระกูลไช่ ผมบอกว่าคนตระกูลไช่จำใจต้องรับปากเงื่อนไขของคนอื่น”

เฉินโม่ยิ้มเยาะ “จำใจงั้นเหรอ งั้นก็ดี ในเมื่อตระกูลไช่ของพวกคุณจำใจต้องทำ งั้นผมก็ไม่บังคับพวกคุณ ผมไม่ต้องการเงินจากพวกคุณสักแดงเดียว”

หืม?

คนตระกูลไช่มองเฉินโม่อย่างสงสัย อย่าบอกนะว่าเขาเข้าใจแล้ว หรือว่าเขากลัวตระกูลไช่

เสียงของเฉินโม่ดังขึ้นอีก “เงินเป็นของตระกูลไช่ ยาเป็นของผม ผมไม่ต้องการเงินจากตระกูลไช่สักแดงเดียว แต่ผมจะเอายาของผมคืน”

ไช่อิ้งเวินหรี่ตาลงเบาๆ มองเฉินโม่แล้วถามว่า “คุณท่านใช้ยาไปแล้ว คุณจะเอาคืนยังไง”

“ก็เอาชีวิตเขาไง สำหรับชีวิตสองสามเดือนนี้ ถือว่าผมให้เขาฟรีๆ แล้วกัน” เฉินโม่พูดอย่างเฉยเมย ไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย

“เหิมเกริม!” คนระดับสูงตระกูลไช่คนหนึ่งทนไม่ไหวแล้ว เขาตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน มองเฉินโม่อย่างโมโหแล้วแผดเสียงพูดว่า “คุณท่านฐานะสูงส่งระดับไหน นายกล้าไม่เคารพคุณท่านรนหาที่ตายชัดๆ!”

เฉินโม่หัวเราะเย็นชา “สูงส่งเหรอ อย่าบอกนะว่าเขามีชีวิตมากกว่าคนอื่น งั้นก็ดีผมจะได้เอามาหนึ่งชีวิตอย่างไม่ต้องกังวล!”

“นาย……” คนระดับสูงตระกูลไช่คนนั้นถึงกับพูดไม่ออก

ไช่อิ้งเวินน้ำเสียงโมโหเล็กน้อย “พอแล้ว!”

“เฉินไต้ซือ คุณอย่าใช้อารมณ์ คุณท่านใช้ยาไปแล้ว คุณคงเอากลับไปไม่ได้แล้ว คุณว่าราคามาเถอะ ขอแค่ราคาไม่เกินไป ตระกูลไช่ไม่เอาเปรียบคุณแน่นอน!” น้ำเสียงของไช่อิ้งเวินทุ้มต่ำเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ากำลังสะกดกลั้นความโมโหอย่างสุดความสามารถ

เฉินโม่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมไม่ได้ใช้อารมณ์ ผมแค่เอาของที่เป็นของผมคืน ถ้าตระกูลไช่ไม่สามารถทำตามสัญญาได้ งั้นผมจะเอายาของผมคืน”

“นายรนหาที่ตาย!” คนระดับสูงของตระกูลไช่สามคนลุกขึ้นทันที มองเฉินโม่ด้วยสายตาโมโห
คนอายุน้อยของตระกูลไช่ที่ยืนหลังพวกเขา ทำท่าลูบไม้ลูบมือ ถ้าไม่มีผู้อาวุโสอยู่เยอะแบบนี้ พวกเขาคงเข้าไปซัดเฉินโม่จนเกือบตายแล้ว

ไช่อิ้งเวินยื่นมือออกมากดลงกลางอากาศ บอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

มองเฉินโม่ แล้วพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “เฉินไต้ซือ เรื่องนี้คงไม่สามารถเจรจากันได้แล้วใช่ไหม”

“ใช่” เฉินโม่ตอบอย่างเด็ดขาด “ผมแค่มาเอาของผมคืน ทำไมต้องเจรจากับพวกคุณด้วย”

“อวดดี! ผู้นำตระกูล ปฏิบัติกับคนอวดดีแบบนี้ คุณจะพูดไร้สาระกับเขาไปทำไม ไล่ออกไปก็จบแล้ว!” คนระดับสูงคนหนึ่งแผดเสียงด้วยความโมโห