TQF:บทที่ 703 การพบกันของอาจารย์และศิษย์
“ตู้มม….”
ภายในปราสาท พลังเซียนอันน่าสะพรึงของคน 2 คนทะยานสู่ฟ้า ก่อนจะมี 2 ร่างประทับลงมา
“ซุน ซุนเอ๋อ…” หรงจิ้งซือรีบพุ่งออกมากอดลูกศิษย์ไว้แน่น น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา “ซุนเอ๋อ ซุนเอ๋อของข้า ใช่เจ้าใช่มั้ย ใช่เจ้ารึเปล่า…”
“อาจารย์หญิง ศิษย์เอง ข้าเอง”โม่ซวนซุนรู้สึกอยากจะร้องไห้ สัมผัสได้ถึงความรักอันมากมายแล้วความปิติอย่างไม่อยากจะเชื่อของอาจารย์หญิง
โม่อู๋เซอมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกเหมือนฝันไป อดถามขึ้นเสียงหลงไม่ได้ “ซุนเอ๋อ นั่นเจ้าจริงเหรอ”
“อาจารย์ อาจารย์หญิง ข้าเอง ข้าเอง….”โม่ซวนซุนน้ำเสียงแหบพร่า มีน้ำรื้นขึ้นมาในตา มองไปที่อาจารย์และอาจารย์หญิงที่แก่ขึ้นราวสิบปีแล้วรู้สึกโศกเศร้า
เพราะการหายตัวไปครั้งนี้เท่ากับเป็นการจากลาครั้งนึงก็ว่าได้
“ไอเด็กบ้า ยังไม่รีบลุกขึ้นมาอีก” โม่อู๋เซอปาดน้ำตาและบอกกับคนที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น
หรงจิ้งซือยกใบหน้าของศิษย์รักขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียด เป็นเลือกเนื้อเชื่อไขของตัวเองจริงๆ ตาของนางยังคลอไปด้วยน้ำตา “ซุนเอ๋อ เจ้าไปไหนมา พวกเราตามหาเจ้ากันลำบากมากเลย”
“อาจารย์หญิง ศิษย์อยู่ที่โถงวิหารสวรรค์นี่แหละ”โม่ซวนซุนข่มน้ำตากลับไปและตอบเสียงเบา
“หมายความว่ายังไง”
โม่อู๋เซอชะงักนิดหน่อย ก่อนจะคุยกับลูกเมียด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว “เข้าไปเร็ว ดูสารรูปพวกเจ้าสิ”
“ซุนเอ๋อ เร็ว ลุกขึ้นเร็ว”
หรงจิ้งซือพยุงคนที่คุกเข่าให้ลุกขึ้น 2 แม่ลูกเดินตามเข้าไปในปราสาท
ปราสาทหลังนี้แยกไว้ให้เป็นที่อยู่ของ 2 สามีภรรยาโม่อู๋เซอ นอกจากพวกเขาแล้วก็ไม่มีคนอื่น
ปราสาททั้งหลังนอกจากพวกเขาอาจารย์ศิษย์ 3 คนแล้วก็ไม่มีคนนอกอีก แต่โม่ซวนซุนไม่ต้องการให้คนอื่นได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน จึงสร้างเกราะป้องกันขึ้น
ช่วงเวลาที่แยกจากกันเกือบ 3 ปี ครอบครัวเพิ่งจะได้มาอยู่พร้อมหน้ากัน อารมณ์จึงหวั่นไหวเป็นอย่างมาก โดยะเฉพาะหรงจิ้งซือที่น้ำตาไหลเป็นทาง จับมือลูกศิษย์ไว้แน่นกลัวว่าตัวเองจะแค่ฝันไป และก็กลัวว่าวินาทีต่อมาคนตรงหน้าจะหายไป
หลังจากที่นั่งเงียบๆสักพักโม่อู๋เซอถึงสงบจิตสงบใจลงได้ และเอ่ยเสียงเข้ม “ซุนเอ๋อ เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่”
ในตอนนี้เขาสับสนไปหมดแล้วจริงๆ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“นั่นสิซุนเอ๋อ ตอนที่พวกเรามาถึงโถงวิหารสวรรค์ก็ขอให้อาจารย์ช่วยตามหาเจ้า หรือว่าอาจารย์เป็นคนหาเจ้าเจอ” แม้หรงจิ้งซือจะยังอ่อนไหวอยู่บ้าง แต่ก็ฝืนให้ตัวเองใจเย็นลงและสอบถามลูกศิษย์
วิทยายุทธของโม่ซวนซุนสูงกว่าพวกเขา จึงใจเย็นลงได้ก่อน เมื่อได้ยินคำถามของอาจารย์และอาจารย์หญิง ใบหน้าหล่อเหลาก็เย็นชาลง “หาข้าเจออะไรกันล่ะ ข้าน่ะอยู่ที่โถงวิหารสวรรค์ตั้งแต่แรกแล้ว”
“อะไรนะ”
2 สามีภรรยาโม่อู๋เซอตกใจนิดหน่อย หันมามองหน้ากัน
โม่ซวนซุนไม่รอให้พวกเขาถาม ก็เริ่มเล่าว่าตัวเองมาถึงที่นี่ได้อย่างไร และถูกตาแก่ซอมซ่อของที่นี่รับเป็นศิษย์ได้อย่างไร ก่อนจะเล่าต่อว่าผ่านช่วงเวลา 3 ปีมานี้ได้อย่างไร รวมถึงเรื่องที่เพิ่งออกจากการเก็บตัววันนี้ด้วย
ขณะเดียวกันพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนแรกที่ขอให้เจ้าโถงช่วย สีหน้าของเขาถึงแปลกๆไป
ที่แท้เขารู้อยู่แล้วว่าลูกศิษย์ตัวเองอยู่ที่ไหน เพียงแต่ไม่ได้บอกความจริงกับตัวเอง
“อาจารย์ อาจารย์หญิง พวกท่านมาถึงที่นี่ได้ยังไง เสี่ยวเสี่ยวล่ะ”โม่ซวนซุนร้อนรนนิดหน่อยจึงขัดทั้ง 2 คนขึ้น นอกจากอาจารย์และอาจารย์หญิงตรงหน้าแล้ว อีกคนที่เป็นห่วงที่สุดก็คือนางที่อยู่ในใจ
เมื่อได้ฟังคนทั้งคู่ก็ได้สติกลับมา โม่อู๋เซอมองลูกศิษย์ตรงหน้าและพูดขึ้น “เสี่ยวเสี่ยวก็มาเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวเสี่ยวพวกเราทุกคนก็คงไม่ได้มาที่นี่”
“หยูเฮงน้อยสามารถฉีกมิติออกและพาพวกท่านทะลุมาที่นี่ใช่มั้ย”
โม่ซวนซุนพยักหนา พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“ใช่แล้ว มิติเลื่อนขั้น หยูเฮงน้อยจึงมีพลังมากพอ” หรงจิ้งซือพยักหน้า “พวกเรามาที่นี่ได้ 2 ปีแล้ว หาเจ้าอยู่ตลอด ไม่คิดว่าเจ้าจะอยู่ที่โถงวิหารสวรรค์จริงๆ เสี่ยวเสี่ยวเดาไม่ผิดจริงๆ”
“อาจารย์หญิง เสี่ยวเสี่ยวล่ะ เสี่ยวเสี่ยวอยู่ไหน”โม่ซวนซุนยังคงอยากรู้ว่าคนรักตัวเองอยู่ที่ไหน
“เจ้าวางใจเถอะ เสี่ยวเสี่ยวไม่เป็นไรหรอก”
หรงจิ้งซือยิ้มเบาๆ “เจ้าอย่าลืมสิว่าท่านย่าของเสี่ยวเสี่ยวเป็นคนของผืนดินฉางไห่ พวกนางน่าจะกลับตระกูลฟางไปแล้ว”
“ตระกูลฟาง? อ๋อ อาจารย์หญิงรู้มั้ยว่าบ้านท่านย่าอยู่ที่ไหน”
“ได้ข่าวว่าอยู่ชิงยาง ตอนนี้พวกนางก็น่าจะอยู่ที่ชิงยาง ยังรอเจ้าอยู่แน่ๆ”
“อาจารย์ อาจารย์หญิง พวกเราไปหาเสี่ยวเสี่ยวกันเถอะ”โม่ซวนซุนไม่ได้รู้สึกชอบใจที่นี่สักเท่าไหร่ ตอนนี้หาอาจารย์และอาจารย์หญิงเจอแล้วเขาอยากจะไปจากที่นี่เสีย
“ตอนนี้เหรอ”
โม่อู๋เซอมองหน้าลูกศิษย์และขมวดคิ้ว “พวกเราไปตอนนี้เลยแล้วอาจารย์เจ้าจะยอมเหรอ”
“ไม่ต้องสนพวกเขา พวกเราจะไปแล้วพวกเขาจะขวางเราได้รึไง” พอพูดถึงคนที่นี่โม่ซวนซุนก็รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา
“ซุนเอ๋อ เจ้า…”
หรงจิ้งซือไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงหันไปมองสามีตัวเองและรู้สึกประหลาดใจ
โม่อู๋เซอนิ่งคิดไปสักพัก ก่อนจะพูดเสียงเข้ม “ซุนเอ๋อ ไม่ว่ายังไงพวกเราก็เป็นคนของโถงวิหารสวรรค์จะไปโดยไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้ไม่ได้ ต้องจัดการยังไงก็ต้องทำไปตามนั้น อีกอย่างเจ้าได้รับสืบสานจากท่านอาจารย์รุ่นแรก แล้วจะทิ้งโถงวิหารสวรรค์ไปโดยไม่สนอะไรแบบนี้ไม่ได้”
“อาจารย์ พวกเขาไปหาคนอื่นแทนก็ได้ อีกอย่างข้าไม่ชอบวิธีการของพวกเขาจริงๆ ไม่ว่าจะใครข้าก็ไม่ชอบ” โม่ซวนซุนเผยด้านที่ตัวเองทำตัวเหมือนเด็กต่อหน้าอาจารย์และอาจารย์หญิง
“ปัญหานี้มันไม่ได้อยู่ที่เจ้าชอบรึเปล่า”
หรงจิ้งซือมองลูกชายที่อุตส่าห์ตามหาจนเจอตรงหน้าด้วยความรักใคร่ ยิ้มด้วยความรักเต็มหัวใจ “การสืบสานไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วๆไปจะได้รับ ในเมื่อพวกเขาถึงขั้นยอมทะลุมิติมาตามหาเจ้าถึงแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนเพื่อรับการสืบสาน ก็คงมีแต่เจ้าแน่ๆที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะทำให้มันยุ่งยากและฝืนขนาดนี้ไปเพื่ออะไรกัน”
“ถูกต้องแล้วซุนเอ๋อ จะเอาแต่ใจไม่ได้ แม้ว่าเรื่องนี้พวกเขาจะบังคับเจ้า แต่หลักๆแล้วก็เพื่อตัวเจ้า ถ้าทิ้งพวกเขาไปจะกลายเป็นที่ตลกของคนอื่น จะทำตัวแบบนี้ไม่ได้” หรงจิ้งซืออดเกลี้ยกล่อมไม่ได้
คำพูดของอาจารย์และอาจารย์หญิงทำให้โม่ซวนซุนเงียบไป แต่ตอนนี้ก็ยังไม่อยากสนใจคนพวกนี้อยู่ดี “ข้าจะไปหาเสี่ยวเสี่ยว”
“ไม่ต้องรีบถึงขนาดนี้เดี๋ยวนี้เดี๋ยวนั้นหรอก เจ้ายังไม่รู้ ตอนนี้เสี่ยวเสี่ยวนาง….”
โม่อู๋เซอเล่าเรื่องที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างเพื่อตามหาเขาให้ฟัง ตอนนี้ผ่านไป 2 ปีแล้ว กลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนแทบจะมีสาขาอยู่ทั่วทั้งผืนดินฉางไห่
หลังจากนั้นอาจารย์ศิษย์ทั้ง 3 ก็พูดคุยกัน แน่นอนว่าคนที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดก็คือเฉิงเสี่ยวเสี่ยวโม่ซวนซุนอยากจะรีบไปหาซะเดี๋ยวนี้
แต่ภายใต้การมาด้วยของโม่อู๋เซอและหรงจิ้งซือ พวกเขาจึงเดินไปยังโถงหลัก
ไม่ว่าจะจัดการยังไงก็ต้องบอกคนของโถงวิหารสวรรค์หน่อย
ในโถงวิหารสวรรค์ฐานะของโม่ซวนซุนสูงส่งจนน่าตกใจ แต่ตอนนี้เขาเหมือนเด็กที่เดินตามอาจารย์และอาจารย์หญิงของตัวเองเงียบๆ
เหล่าลูกศิษย์และผู้อาวุโสของโถงวิหารสวรรค์ต่างอึ้งกับภาพตรงหน้า ดูเหมือนจะเห็นความผิดปกติกันทั้งหมด
เมื่อผู้คนในโถงหลักรู้สึกตัวต่างสูญเสียความสุขุมไป รวมถึงตาแก่ซอมซ่อด้วย ล้วนพากันวิ่งออกมา
รอจนพวกเขาทั้ง 3 ทาอยู่หน้าโถงแล้ว ไม่ทันที่เด็กจะเข้าไปบอกประตูโถงก็ได้เปิดออก คนจำนวนมากกรูกันออกมา
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของเหล่าผู้อาวุโส โม่อู๋เซอชะงักนิดหน่อย เห็นแต่ละคนตื้นตันและตื่นเต้นกันมากก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
โม่อู๋เซอเบือนสายตาไปและประสานมือขึ้น “ศิษย์โม่อู๋เซอคารวะท่านอาจารย์ อาจารย์ปู่ และผู้อาวุโสทั้งหลาย”
“อย่าๆ พอแล้ว ไม่ต้องเกรงใจไป” ตาแก่ซอมซ่อมองลูกศิษย์ที่มีสีหน้าไร้ความรู้สึกก่อนจะโบกไม้โบกมือให้โม่อู๋เซอ
เจ้าโถงก็ข่มความตื่นเต้นไว้เช่นกันและเอ่ยเสียงขรึม “พวกเจ้ามาแล้วเหรอ เข้ามาสิ”
ไม่คิดเลยว่าคนที่คิดไว้ว่าจะไปโดยไม่ลากลับมาถึงที่นี่ จะไม่ให้พวกตาแก่ตื่นเต้นดีใจได้ยังไง
แม้ว่าพวกตาแก่จะไม่ได้ทักทายโม่ซวนซุน แต่สายตาของพวกเขาก็อดทอดไปที่เขาไม่ได้ บนใบหน้าของแต่ละคนมีความปลื้มปิติที่ยากจะปิดบัง
โม่ซวนซุนยังคงไม่สนใจพวกเขา เข้าไปตามอาจารย์และอาจารย์หญิง แม้แต่ตาแก่ซอมซ่อเขาก็ไม่มอง
“อาจารย์อาเล็ก ท่านนั่งกับอาจารย์ปู่ที่นี่เถอะ” เจ้าโถงบอกกับโม่ซวนซุน
เขาเตรียมจะสละตำแหน่งเจ้าโถง ว่าด้วยพลังและการสืบสานแล้วโม่ซวนซุนควรจะได้เป็นเจ้าโถงแห่งโถงวิหารสวรรค์ทุกคนในโถงวิหารสวรรค์ล้วนตระหนักถึงเรื่องนี้
โม่ซวนซุนยกเปลือกตาขึ้นอย่างเย็นชาและมองไปที่พวกเขา “ไม่ต้อง ข้านั่งตรงนี้แหละ” พูดจบเขาก็นั่งลงตรงที่ท้ายสุด ไม่สนใจฐานะตัวเองในที่แห่งนี้เลย
ตาแก่ซอมซ่อแอบถอนหายใจ เขาเองก็รู้ว่าถึงแม้โม่ซวนซุนจะเป็นศิษย์ของสามีภรรยาโม่อู๋เซอ แต่แท้จริงแล้วเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพวกเขา ความสัมพันธ์ของครอบครัวย่อมดีกว่าความสัมพันธ์ที่ฝืนมาได้อย่างเขา
เหล่าผู้อาวุโสมองหน้ากันด้วยสีหน้าทำอะไรไม่ได้ ทุกคนพากันนั่งลงโดยไม่มีใครเริ่มพูดอะไร แต่ละสายตาล้วนมองไปที่ตาแก่ซอมซ่อและเจ้าโถง รอให้พวกเขากล่าวขึ้นก่อน
เจ้าโถงมองคนข้างๆก่อนจะเหลือบมองอาจารย์อาเล็กที่นั่งไม่พูดไม่จาอยู่ด้านหลัง ท้ายที่สุดก็เบือนสายตากลับไปที่ลูกศิษย์ตัวเอง
“อู๋เซอ เจ้าคงรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกอาจารย์ไม่ได้บอกความจริงกับเจ้า ช่าง…”
“อาจารย์ ศิษย์เข้าใจ”
ไม่ทันที่เจ้าโถงจะพูดจบโม่อู๋เซอก็ดักคำพูดเขาไว้ ถึงยังไงเขาก็ไม่สามารถปล่อยให้อาจารย์เป็นฝ่ายขอโทษเขาได้ สำหรับพวกเขาแล้วลูกศิษย์ปลอดภัยก็ดีแล้ว เรื่องอื่นๆไม่อยากจะต่อความยาวอีก “อาจารย์ เรื่องมันผ่านมาแล้วไม่ต้องคิดมาก ตอนนี้พวกเรามีความสุขมาก แค่นั้นก็พอแล้ว อาจารย์ไม่ต้องโทษตัวเอง”
“ไม่ว่ายังไงอาจารย์ก็ปิดบังพวกเจ้าและทำให้พวกเจ้าเป็นห่วง ควรจะขอโทษพวกเจ้า” พูดจบเจ้าโถงก็ตั้งใจเหลือบมอบคนด้านหลัง ก็ได้เห็นใบหน้าบึ้งตึงของเขาอ่อนโยนลง
“อาจารย์ ศิษย์และภรรยามิกล้า”
2 สามีภรรยาลุกขึ้นประสานมือกับเจ้าโถง ถึงอย่างไรคนตรงหน้าก็เป็นคนที่อาวุโสกว่าพวกเขา ต่อให้จะเอ่ยคำขอโทษก็ใช่ว่าพวกเขาจะนั่งเฉยๆและรับไว้ได้
เมื่อเห็นท่าทางของพวกเขาสามีภรรยา ทุกคนปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก
——————————