มันไม่ใช่เรื่องยากที่เสี่ยวเทียนเหยาจะกดดันหมอหลวงฉิน เพื่อทำให้เขาทำการเคลื่อนไหว เพื่อที่จะยืมมือขององค์หญิงฟูอาน หมอหลวงฉิน ต้องดำเนินการก่อนที่นางจะออกจากวัง
ซูฉา ภายใต้ชื่อของเสี่ยวเทียนเหยา เขาไปที่จวนตระกูลชุย เพื่อพูดถึงความตั้งใจของเขา บุตรชายคนที่สามและองค์หญิงฟูอาน จะไปที่ตำหนักเสี่ยวหวางฟู่ เพื่อขอโทษกับเสี่ยวหวางเฟย
ในประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าตระกูลชุย ต้องไปรับองค์หญิงฟูอาน โดยตรงและพานางมา เมื่อองค์หญิงฟูอานออกมา นางจะไม่กลับไปที่พระราชวังอีก ด้วยเหตุนี้หากหมอหลวงฉิน ต้องการใช้นางจริงๆ เขาต้องลงมือก่อนที่องค์หญิงฟูอาน จะออกจากวัง
ตระกูลชุย ยินดีที่จะให้ไว้หน้าเสี่ยวเทียนเหยา ก่อนหน้านี้พวกเขาเสนอว่าองค์หญิงฟูอาน ควรจะรับผิดชอบต่อการกระทำผิดของนาง การกระทำแบบง่ายๆที่เรียกว่าการขอโทษนี้เป็นสัญญาณของการไว้หน้าองค์หญิงฟูอานมากแล้ว และนี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะทำเช่นนั้น
เมื่อบุตรชายคนที่สามของตระกูลชุย พูดคำเหล่านี้ออกมา ใบหน้าขององค์หญิงฟูอานก็ยังคงดูดีอยู่ แม้ว่าฮ่องเต้จะโกรธนาง แต่นางก็ไม่อยากให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก
นางเป็นน้องสาวคนโปรดของฮ่องเต้ ตราบเท่าที่เรื่องนี้สิ้นสุดลง นางก็จะยังคงเป็นน้องสาวที่รักที่สุดของฮ่องเต้อยู่ดี
“อาจารย์ สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปแล้ว องค์หญิงฟูอาน ต้องการออกจากพระราชวังก่อนเวลาที่กำหนด” เมื่อหมอหลวงฉิน ได้รับข่าวเขาก็ได้รายงานไปยังชายชราคนหนึ่งที่มีผมสีเงินทันที
“เช่นนั้น ก็เริ่มแผนก่อนเวลา” ชายชราที่มีผมสีเงินแสดงสีหน้าที่รอบคอบออกมา แต่เมื่อเขาเห็นว่าหมอหลวงฉิน ดูไม่สบายใจ ดังนั้นเขาจึงปลอบโยนเขาด้วยประโยคหนึ่งขึ้น “มั่นใจได้ ใครบางคนช่วยเราอยู่ สิ่งต่างๆจะราบรื่นขึ้น”
หมอหลวงฉินเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ เขาไม่ได้เป็นคนโง่ ดังนั้นเขาจึงช่วยไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น “เสี่ยวหวางเย่ค้นพบเราแล้ว” สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน ซึ่งทำให้พวกเขาต้องเคลื่อนไหวก่อนเวลา นอกเหนือไปจากเสี่ยวเทียนเหยาแล้ว หมอหลวงฉิน ก็ยังไม่สามารถนึกถึงคนที่สามารถจัดการกับสิ่งต่างๆได้
“บางที แต่ใครจะรู้” ชายชราที่มีผมสีเงินไม่สนใจว่าใครช่วยพวกเขา เขามุ่งเน้นไปที่การแก้แค้นของเขาเท่านั้น แต่หมอหลวงฉิน ต่างกัน เขาเป็นคนของฮ่องเต้ เขาจะร่วมมือกับแผนการของเสี่ยวเทียนเหยา ได้อย่างไร?
หมอหลวงฉิน ถามอย่างรอบคอบขึ้นทันที “อาจารย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ … เราจำเป็นต้องร่วมมือกันเป็นเวลานานหรือไม่”
“มันไม่จำเป็น ในโลกนี้ไม่มีศัตรูนิรันดร์ ไม่มีเพื่อนนิรันดร์ มีเพียงความสนใจที่เป็นนิรันดร์เท่านั้นที่มีอยู่ ความร่วมมือนี้จะไม่ทำให้เจ้าเป็นคนของเสี่ยวหวางเย่ เจ้าได้เห็นแล้วว่าฮ่องเต้และเสี่ยวหวางเย่ได้ต่อสู้กันมาตลอด ถึงแม้แคว้นทางภาคเหนือจะประกาศสงคราม แต่พวกเขาก็จะยังไม่หยุดยั้งหรือแม้แต่จะจับมือกัน “ชายชราที่มีผมสีเงินกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในอารมณ์ที่ดี
หมอหลวงฉิน ถอนหายใจและพูดขึ้น “อาจารย์ข้าเข้าใจแล้ว” เขาเข้าใจว่าเสี่ยวเทียนเหยา จะไม่คุกคามเขาด้วยปัญหานี้
“เจ้าสามารถมั่นใจได้ แม้ว่าเสี่ยวหวางเย่จะไม่ใช่สุภาพบุรุษ แต่เขาก็สามารถไว้ใจได้ ถ้าเราไว้หน้าของเขา เขาจะจำเจ้าได้ “สำหรับชายชราที่มีผมสีเงิน ตราบเท่าที่เขาสามารถแก้แค้นได้ ไม่ว่าใครที่หมอหลวงฉินจะต้องร่วมมืดด้วยมันไม่ใช่เรื่องสำคัญ
หมอหลวงฉินพยักหน้า “สองวันต่อจากนี้ องค์หญิงฟูอานจะไปที่ตำหนักเสี่ยวหวางฟู่เพื่อขอโทษเสี่ยวหวางเฟย ข้าจะเริ่มต้นในวันนั้น” เขาสันนิษฐานว่าฮ่องเต้จะไม่คาดหวังว่าองค์หญิงฟูอานจะสร้างเรื่องต่อต้านเขา ก่อนที่นางจะจากไป
“ดีมาก” ชายชราที่มีผมสีเงิน กำกำปั้นของเขาขึ้นด้วยความตื่นเต้น …
แม้ว่าหลิน ชูจิ่ว จะไม่ได้นอนบนรถม้า เธอก็ได้พักมาตลอดทาง หลังจากที่เธออาบน้ำ เธอจึงไปเยี่ยมเจินจู และคนอื่น ๆ
การบาดเจ็บของหญิงสาวทั้งสี่เทียบได้ว่าน้อยมากในบรรดาคนอื่น ๆ ดังนั้นพวกนางจึงสามารถลุกขึ้นได้ เมื่อพวกนางได้เห็นหลิน ชูจิ่ว พวกนางก็รู้สึกตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจินจู นางไม่สามารถสงบตัวเองลงได้เลย
“หวางเฟย ในที่สุดท่านก็กลับมา!”
“หวางเฟย ท่านคงไม่รู้ เมื่อท่านจากไปพวกเราน่าสังเวชมากแค่ไหน”
“ตอนนี้ พ่อบ้านเฮ้า มีความสุขมาก เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าทุกคนจะตายจากความเยือกเย็นอีกแล้ว ”
“… …”