บัญชามังกรเดือด บทที่ 915 มีคุณสมบัติไหม
“พี่เฝิง หัวหน้ารองหนิว พวกคุณมาได้อย่างไร?”
“พ่อของฉันให้พวกคุณมาเหรอ?”
เมื่อเห็นชายวัยกลางคนที่ปิดตาข้างหนึ่ง เกาชาวรีบพุ่งเข้าไปอย่างตื่นเต้น
เฝิงเปียว หนึ่งในห้าปรมาจารย์ยอดฝีมือแห่งตระกูลเกา
เกาเหมิ่ง พ่อของเกาชาว หนึ่งในสามนายพลแห่งเกาะตงไห่ มีนามว่านายพลเกา
ห้ายอดฝีมือที่อยู่ข้างกายเขา ถูกขนานนามว่าห้ารากษส และนั่นคือผู้ช่วยของเกาเหมิ่ง
สถานะของเขานั้นสูงกว่าเจ้าปลาหมึกยักษ์
อีกคนหนึ่ง หัวหน้ารองหนิว หนิวธง เป็นรองหัวหน้าของกองกำลังแห่งตระกูลเกา เขาเป็นคนสำคัญเช่นกัน
คาดไม่ถึงเลย พวกเขาจะร่วมมือกันแล้ว ก่อนหน้านี้หลายครั้งถูกฉินเทียนติเตียนและกดขี่ เกาชาวรู้สึกว่าตนเองนั้นไร้ซึ่งสถานะการมีอยู่
ตอนนี้เขานั้นกลับมาเก่งกาจและมีอำนาจเหนือใครอีกครั้ง
มีเฝิงเปียวและหนิวธง รวมถึงกองกำลังส่วนตัวของนายพล เขาเกาชาว ยังคงเป็นเจ้าที่ไม่มีผู้ใดกล้ายั่วยุ!
“คุณชาย คุณกระทำเรื่องเหล่านี้ลับหลังนายท่าน ลอบพากำลังคนมาบุกค้นและขโมยของในสุสานฝังศพ กระทำการเช่นนี้อันตรายเป็นอย่างมาก”
“โชคดีที่นายท่านรู้ข่าวได้ทันเวลาและส่งพวกเรามาคอยสนับสนุนในทันที ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาคงไม่น่าจิตนาการนัก”
เฝิงเปียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หนิวธงหัวเราะชอบใจและเอ่ย “แต่ทว่าตอนนี้พวกเรามาแล้ว ก้อนเมฆจะสลายหายไปเพียงพริบตา”
“คุณชายไม่ต้องเป็นกังวลแล้ว”
เกาชาวครุ่นคิดบางอย่างได้ เขาไม่ได้สนใจสิ่งอื่น เอ่ยอย่างตื่นเต้น “เร็วเข้า!”
“พี่เฝิง หัวหน้ารองหนิว พวกคุณร่วมมือกันและสังหารงูใหญ่ตัวนั้นเสีย!”
“ภายในโลงศพจะต้องมีของล้ำค่าอย่างแน่นอน!”
เฝิงเปียวและหนิวธง รวมถึงลูกน้องใต้บัญชาการของพวกเขาต่างจ้องมองไปตามสายตาของเกาชาว พวกเขาเห็นราชางูกำลังโอบรัดโลงศพ
ขณะเดียวกันการแสดงออกของทั้งสองคนเปลี่ยนไป เป็นเพราะงูขนาดใหญ่เช่นนี้ ยากนักที่จะได้พบเห็น
“ปกป้องคุณชาย!”
ด้วยการโบกมือของหนิวธง ขณะนั้นสมาชิกทีมหลายคนต่างก็พุ่งไปยังด้านหน้า ยืนเรียงเป็นรูปใบพัด เล็งเป้ามหายไปยังงูขนาดยักษ์
“ช้าก่อน”
เฝิงเปียวเอ่ยตะโกน เขายิ้มพลางกล่าว “สิ่งของหายากเช่นนี้ ฉันจัดการเอง”
“จับกลับไปหมักเหล้า จะต้องเป็นยาชูกำลังที่ยอดเยี่ยม!”
เจ้าปลาหมึกยักษ์ที่อยู่ด้านข้างรีบเอ่ย “คุณเฝิงระวังด้วย สัตว์ไร้ขนนี้ดุร้ายเป็นอย่างมาก”
นัยน์ตาของเฝิงเปียวปรากฏความเยือกเย็นและเอ่ย “งั้นหรือ? งั้นก็ให้มันได้เห็นเสียหน่อย เป็นมันที่ร้ายกาจ หรือฉันที่ร้ายกาจ”
เมื่อสิ้นคำพูด เสียงดาบออกมาจากคมฝักพลันดังขึ้น
ท่าทางการจับดาบของเขานั้นค่อนข้างมีเอกลักษณ์ คล้ายกับวิธีการของญี่ปุ่น รูปทรงแคบและยาว ราวกับดาบซามูไร
มือทั้งสองข้างจับดาบ เฝิงเปียวปรับลมหายใจ ก้าวเท้าเดินไปยังโลงศพทีละก้าว
ทุกคนก้าวเท้าถอยหลังอย่างไม่อาจควบคุมได้ ขณะนี้ พวกเขาต่างก็รู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย
ความรู้สึกกดดันนี้ไม่ได้มาจากงูตัวใหญ่ที่กำลังโอบรัดรอบโลงศพ แต่ทว่ามาจากเฝิงเปียว
สมแล้วที่เป็นหนึ่งในห้าแห่งห้ารากษสที่เคียงข้างกายนายพลเกา ขณะนี้เฝิงเปียวทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงเพชฌฆาตที่ปรากฏตัวออกมาจากนรกอเวจี
ขณะที่เข้าใกล้มากยิ่งขึ้น มีดภายในมือของเขาก็พลันเปลี่ยนไป เมื่อมองดูแล้วเหมือนไม่มีหลักเกณฑ์ใด แต่ทว่าเมื่อก้าวเท้าไปทีละก้าว เป็นการโจมตีและปิดกั้นเส้นทางล่าถอยของงูใหญ่
งูใหญ่ที่กำลังโอบรัดโลงศพ เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันกำลังรู้สึกได้ถึงการกดขี่และเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย มันแลบลิ้นออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน ร่างกายสั่นสะท้านราวกับว่าต้องการหลบหนี
แต่ทว่าสุดท้ายก็ยังคงเลือกที่จะตายเพื่อการปกป้อง มันชูคอขึ้น แสดงท่าทางเตรียมพร้อมต่อการสู้รบ
บางทีอาจจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายภายในชีวิตของมัน
วินาทีสำคัญ คนที่อยู่ด้านข้างก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ป้องกันการโจมตีของเฝิงเปียว พลังอำนาจที่เขารวบรวมในแต่ละย่างก้าวนั้นสลายหายไปในพริบตา
ฟังดูเหลือเชื่อมาก ราวกับเป็นการเดินหมากรุกอย่างไรอย่างนั้น เฝิงเปียวดูเหมือนจะสงบและเยือกเย็น อันที่จริงแล้วกำลังวางตาข่ายสังหารงูใหญ่อยู่
และคนข้างกายก้าวไปข้างหน้า บังเอิญไปเหยียบประตูตาข่ายชีวิต
ใบหน้าของเฝิงเปียวเปลี่ยนไปทันใด จ้องมองคนผู้นั้นทันที เอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบ “นายเป็นใคร?”
“จะทำอะไร?”
เจ้าปลาหมึกยักษ์ที่อยู่ด้านข้างกัดฟันแน่นพลางเอ่ย “คุณเฝิงระวัง คนผู้นี้ชื่อฉินเทียน ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกับพวกเรา”
“เขาไม่เพียงแต่จะตบคุณชายเท่านั้น แต่ยังพยายามจัดการการค้นหาและล่าของล้ำค่าของพวกเราอีกด้วย เห็นได้ชัดเจนว่าต้องการครอบครองเพียงคนเดียว”
อะไรนะ?
ดวงตาของเฝิงเปียวปรากฏเจตนาแห่งการสังหาร
เกาชาวกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ใช่!”
“คนผู้นี้ต้องการทำลายแผนการของฉัน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า คนสกุลฉิน ตอนนี้นายยังกล้ากำเริบเสิบสานอีกงั้นหรือ? จะบอกนายให้ คุกเข่าขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!”
“ไม่อย่างนั้น จะส่งนายกับไอ้งูยักษ์มาเป็นผีเฝ้าดาบของพี่เฝิง!”
“พี่เฝิงนั้นเป็นถึงระดับปรมาจารย์แล้ว นายรู้หรือไม่ว่าเป็นแนวคิดอย่างไร?”
หนิวธงที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเย้ยหยันและเอ่ย “เป็นสุนัขอะไรถึงได้กล้ารุกรานคุณชายของพวกเรา!”
“คุณเฝิง คุณจัดการกับงูยักษ์ เปิดโลงศพค้นสมบัติ ไอ้ขยะนี้ฉันจัดการเอง!”
เขานำทีมลูกน้องใต้บัญชาการหลายคนห้อมล้อมฉินเทียน ท่าทางเย่อหยิ่งจองหองเป็นอย่างมาก
ฉินเทียนไม่ได้ให้ความสนใจแก่หนิวธง เพราะว่าหนิวธงนั้นอยู่ระดับเดียวกับเจ้าปลาหมึกยักษ์ ไม่คุ้มค่าที่เขาจะให้ความสนใจ
เขาจ้องมองเฝิงเปียว สายตาหยามเหยียดปรากฏในดวงตาของเขาพลางเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ปรมาจารย์นั้นยอดเยี่ยมมากงั้นหรือ?”
“ต่อให้คุณเป็นปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูง วันนี้หากไม่ได้รับคำอนุญาตจากฉัน อย่างไรก็ไม่สามารถแตะต้องงูยักษ์ตัวนี้ได้”
“นายว่าไงนะ?” เฝิงเปียวชะงักไปชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่ากำลังตกตะลึง
อย่างไรเขานั้นก็คาดไม่ถึงเลย ชายหนุ่มหล่อเหลาและไร้น้ำยาคนหนึ่งกลับกล้าแสดงความบ้าบิ่นต่อหน้าเขา
เมื่อตระหนัก เขาหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ
“ดีมาก!”
“ไอ้หนู นายรู้หรือไม่ การคุยโว้โอ้อวดนั้นมีราคาที่ต้องจ่าย?”
“ฉันอยากรู้ นายจะขัดขวางอย่างไร?”
“หนิวธง จัดการเสีย!”
เฝิงเปียวตะโกนเสียงดังและออกคำสั่ง สถานะของเขานั้นไม่ได้การจู่โจมฉินเทียน เขารู้สึกว่าฉินเทียนนั้นไม่คู่ควร
ถ้าหากลงมืออย่างผลีผลาม อาจทำให้สถานะของเขาลดต่ำลง
มีคำกล่าวว่าหากมีเรื่องเกิดขึ้นให้ศิษย์เชื่อฟังคำของผู้อาวุโส แม้ว่าเมื่อมองดูแล้วหนิวธงนั้นจะอายุมากกว่าเฝิงเปียว แต่การที่เขาสามารถรับหน้าที่รองหัวหน้าได้นั้นเป็นเพราะการช่วยเหลือของเฝิงเปียว
“ไอ้สารเลว รนหาที่ตาย!”
หนิวธงนั้นแสดงท่าทางร้อนรน แผดเสียงคำราม ยกกำปั้นหวังจะต่อยฉินเทียน
เหนือหมัดของเขา ไม่รู้ว่าเมื่อใด เขาได้สวมสนับมือเหล็กเเหลมแล้ว
คนผู้นี้ ปล่อยหมัดใส่ก้อนหิน ก้อนหินกลายเป็นเศษหินและปลิวว่อนไปทั่ว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงคน
กำปั้นนั้นคล้ายกับกระสุนปืนใหญ่อย่างไรอย่างนั้น เพียงเสี้ยววินาทีพุ่งไปยังใบหูของฉินเทียน แรงลมจากกำปั้นพัดเส้นผมบริเวณขมับของเขา
สีหน้าของฉินเทียนยังคงเหมือนเดิม เมื่อมองดูแล้วเขาเอียงศีรษะด้วยท่าทางสบายๆ หลบเลี่ยงกำปั้นอันดุเดือดนี้
จากนั้นกำปั้นของเขาพลันยกขึ้น ปะทะเข้ากับกำปั้นของหนิวธงได้อย่างตามต้องการ
อะไรกัน?
เฝิงเปียวชะงักไปชั่วขณะ ฉับพลันเขาอยากหัวเราะ วินาทีถัดมา เขายังแอบชื่นชมที่ฉินเทียนสามารถหลบกำปั้นได้อย่างสงบนิ่ง
ตอนนี้คิดว่าเขานั้นคงไม่ใช่คนโง่ใช่หรือไม่?
ใช้เพียงกำปั้นเปล่าปะทะเข้ากับกำปั้นเหล็กของหนิวธง?
กำปั้นเหล็กของหนิวธงนั้นทรงอานุภาพเป็นอย่างมาก เขาเองก็รู้ดี แม้จะเป็นเขาก็ยังไม่กล้าปะทะอย่างง่ายดายเช่นนี้
ผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขา—-
เฝิงเปียวไม่ได้ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกและเขาก็ไม่ได้หัวเราะออกมา เมื่อกำปั้นเปล่าของฉินเทียนปะทะเข้ากับกำปั้นเหล็กของหนิวธง ภาพเหตุการณ์ประหลาดก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา
เป็นเพราะระยะห่างเพียงเอื้อม ทำให้เขาเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจน!
เมื่อหมัดทั้งสองปะทะกัน เหล็กแหลมของกำปั้นหนิวธงนั้นอ่อนยวบราวกับเต้าหู้
จากนั้นถุงมือพลันเปลี่ยนรูปทรงไปตามรอยกระแทก
“อ๊าก!”
หนิวธงร้องโอดครวญ ร่างกายของเขากระเด็นออกไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉินเทียนไม่ได้ขยับเท้าของเขาเลยแม้แต่น้อย เขาจ้องมองเฝิงเปียว เอ่ยอย่างเยือกเย็น “ตอนนี้ฉันมีคุณสมบัติพอที่จะขัดขวางคุณได้หรือยัง?”