บทที่ 6 บทที่ 40 พันล้านสุสานในภูเขาเผิงไหล

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

เหตุการณ์เล็กน้อยในช่วงหนึ่งไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของสมาคมและลูกค้าของเขาใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น กลับกันมันยิ่งทำให้ซูจื่อจวินหวาดกลัวเจ้าของสมาคมผู้นี้มากยิ่งขึ้น

 

ก่อนถึงจุดมุ่งหมายซูจื่อจวินไม่ได้หยุดและพูดคุยอะไรกับเจ้าของสมาคมลั่วเลย

 

ส่วนปัจจุบันเจ้าของสมาคมลั่วที่มีภูมิคุ้มกันต่อความกระดากใจแข็งแกร่งมากมองไปรอบๆ และรู้สึกดีไปตลอดทาง อาจจะเป็นเพราะเขาเคยชินกับการค้นหาความความสุขด้วยตัวเอง

 

“ถึงแล้ว ที่นี่แหละ” ทันใดนั้นซูจื่อจวินก็หยุดลง

 

บริเวณด้านหน้าที่เธอเหยียบลง เป็นสถานที่ซึ่งมีกระดูกปีศาจทะเลที่ตายไปเมื่อเจ็ดร้อยปีก่อนค่อนข้างน้อย ดูเหมือนซูจื่อจวินจะไม่มีเจตนาจะพูดอะไรอื่น เพียงแต่หลับตาและกางมือออก

 

เธอไม่พูดจาไร้สาระแต่เปิดสุสานทันที

 

ลั่วชิวมองรอบจุดที่เขาและซูจื่อจวินยืนอยู่ และเห็นเสาสีดำขนาดใหญ่ทั้งหมดสิบสองเสาโผล่ออกมาจากพื้นโคลน ส่วนยอดของเสานั้นเป็นรูปทรงกรวย

 

ในตอนที่เสาเหล่านี้ยืดถึงจุดสูงสุดก็เอนตัวไปยังจุดศูนย์กลาง

 

ในที่สุดเสาที่มีกรวยอยู่ด้านบนเหล่านี้ก็ไปรวมตัวอยู่ที่เดียวกัน

 

ส่วนในตอนนี้ ตำแหน่งใจกลางที่พวกมันรวมตัวกันก็ยิงเส้นแสงหลากสีลงมายังโคลนใต้เท้าของลั่วชิวและซูจื่อจวิน

 

ดูเหมือนโคลนจะเปลี่ยนเป็นสสารอื่น พวกมันเริ่มหมุนจนกลายเป็นพายุหมุน

 

“เข้าไปเถอะ” ซูจื่อจวินพูดพลางขยับเท้าเข้าไปในพายุหมุนและร่างกายก็จมลงไป

 

จากนั้นก็ตามด้วยลั่วชิว

 

 

ที่นี่เป็นพื้นที่สีแดงเข้มที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด เพราะที่นี่ไม่ใช่พื้นที่ที่มีอยู่ในตำนาน

 

เป็นพื้นที่ที่มีรูปร่างคล้ายโลก…ใหญ่ ใหญ่โตมาก

 

ลั่วชิวและซูจื่อจวินอยู่บนตำแหน่งใจกลางของพื้นที่ทรงกลมและรอบกายของทั้งสองนั้นเต็มไปด้วยลูกบอลแสงซึ่งก็คือวิญญาณชั่วร้ายของปีศาจทะเล

 

ที่นี่คือสนามรบของปีศาจทะเลเมื่อเจ็ดร้อยปีก่อน ปีศาจทะเลจำนวนมากตายในสนามรบที่นี่ หลังจากพวกมันตาย วิญญาณของพวกมันก็ไม่ได้จากไปไหน แต่กลายเป็นวิญญาณชั่วร้ายจากความแค้นอันหนักอึ้ง

 

สิ่งนี้น่าจะเป็นปัญหาตึงมือและเร่งด่วนมากหลังจบศึกครั้งใหญ่

 

เพราะเหตุนี้ถึงได้มีสุสานซึ่งใช้ฝังวิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้…ที่น่าสนใจก็คือทันทีที่ซูจื่อจวินเปิดสุสานนั้น เจ้าของสมาคมรั่วก็พบร่องรอยคล้ายกับ ‘ประตูมิติ’ ของสมาคม

 

ไม่ได้บอกว่าที่นี่กับประตูมิตินั้นมีรูปแบบเดียวกัน แต่บอกว่าเสาสิบสองต้นนี้กับสุสานนี้เหมือนจะใช้เทคนิคของประตูมิติอยู่บางส่วน

 

“คุณหนูจื่อจวิน สุสานแห่งนี้คุณสร้างขึ้นมาเองงั้นหรือครับ?” ลั่วชิวพูดขึ้นขณะกำลังพิจารณาวิญญาณชั่วร้ายที่กำลังล่องลอย

 

พวกมันผ่านเวลามาเจ็ดร้อยปี อยู่ที่นี่นั้นแยกการติดต่อกับโลกภายนอก แต่ก็เหมือนจะอยู่ในระนาบเดียวกัน

 

ไม่มีพลังอันแข็งแกร่งและก็ไม่ได้ดูโดดเด่น เพียงแค่มีจำนวนมากเท่านั้น…สามหมื่น ใครว่าไม่เยอะล่ะ?

 

“ข้าใช้เทคนิคโบราณแล้วให้คนมาซ่อมแซมแก้ไข มีเพียงแค่ข้าเท่านั้นถึงจะสามารถเปิดได้” ซูจื่อจวินมองลั่วชิวแวบหนึ่ง “มีปัญหาไหม?”

 

“เป็นเทคนิคของราชวงศ์เซวียนหยวนงั้นหรือครับ?” ลั่วชิวเอ่ยถามอีกประโยคหนึ่ง

 

ซูจื่อจวินชะงัก ขมวดคิ้วและพูดในทันทีว่า “อย่างไร? เทคนิคแบบนี้ก็สามารถใช้เป็นของแลกเปลี่ยนได้งั้นหรือ?”

 

ครั้งนี้เป็นคราวเจ้าของสมาคมลั่วที่ชะงัก…น้อยมาที่ลั่วชิวจะมีอาการใจลอย แต่สุดท้ายก็ถูกซูจื่อจวินรบกวนความคิด

 

คำตอบที่ต้องการไม่ใช่อันนี้…

 

ในที่สุดลั่วชิวก็ส่ายหน้า “เกรงว่าจะไม่ได้ แน่นอนไม่ได้หมายความว่าเทคนิคแบบนี้ใช้เป็นของแลกเปลี่ยนไม่ได้ แต่เทคนิคจะต้องสร้างขึ้นโดยลูกค้าเท่านั้น แต่เทคนิคที่ใช้สร้างสุสานแห่งนี้นั้นถ่ายทอดออกมาจากพวกเรา”

 

ทันใดนั้นซูจื่อจวินก็โมโหขึ้นมา “บังอาจ! ราชวงศ์เซวียนหยวนจะทำการแลกเปลี่ยนกับ…พวกเจ้าได้อย่างไร?”

 

“คุณหนูจื่อจวิน?”

 

ลั่วชิวไม่พูดอะไร เพียงแค่เรียกชื่อเบาๆ

 

เมื่อซูจื่อจวินพบว่าเธอมาที่นี่ก็เพื่อจ่ายค่าแลกเปลี่ยนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก ดังนั้นเธอจึงนิ่งเงียบลง…สบถออกมาว่า “ข้าไม่เหมือนกัน!”

 

ลั่วชิวหัวเราะเอ่ยว่า “แน่นอนว่าถึงเทคนิคจะถ่ายทอดออกไปจากสมาคมของพวกเรา แต่ก็ดูออกว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมาก…ถือว่าตั้งใจมากครับ”

 

“เจ้าจะเอาของหรือไม่?”

 

ลั่วชิวหันกายแล้วสะบัดมือ เพียงพริบตาเดียววิญญาณชั่วสองหมื่นสองพันดวงไม่ขาดไม่เกินก็ลอยเข้ามากลางฝ่ามือของเขาเหมือนหิ่งห้อยบินเข้ากองไฟ

 

ฝ่ามือของเจ้าของสมาคมลั่วเหมือนเป็นถ้ำลึกที่มองไม่เห็นก้น ไม่ว่าจะกลืนวิญญาณเท่าไรก็ไม่มีวันเต็ม

 

ลั่วชิวประกบมือและพูดว่า “คุณหนูจื่อจวิน ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน ผมเก็บวิญญาณชั่วร้ายทั้งสองหมื่นสองพันเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”

 

เวลานี้สีหน้าของซูจื่อจวินดูเคร่งขรึมขึ้น มองไปยังลั่วชิวด้วยสีหน้าซับซ้อน

 

ส่วนในตอนนี้บรรดาวิญญาณชั่วร้ายที่หลงเหลืออยู่ภายในพื้นที่สีแดงเข้ม ก็หมุนวนเข้ามาพัวพันรอบลั่วชิวและซูจื่อจวิน หมุนวนอย่างบ้าคลั่งเหมือนพายุทอร์นาโด!

 

บนพื้นผิวของพายุทอร์นาโดปรากฏภาพใบหน้าอสูรอันน่ากลัวกำลังคำราม!

 

ลั่วชิวผู้อยู่ด้านในพายุทอร์นาโดมองดูอย่างสนใจ ส่วนซูจื่อจวินนั้นเพียงสบถคำหนึ่ง

 

ซูจื่อจวินสบถเอ่ยว่า “เจ็ดร้อยปีมาแล้ว ยังหัวดื้ออยู่อีกหรือ? เช่นนั้นก็อยู่ในคุกไปอีกเจ็ดร้อยปีเถอะ!”

 

พูดแล้วนัยน์ตาของซูจื่อจวินก็มีแสงสีแดงวาบผ่าน ชั่วขณะนั้นพื้นที่สีแดงเข้มก็เต็มไปด้วยเสียงคำรามดังก้อง…เป็นเสียงคำรามด้วยความคับแค้นใจ!

 

ส่วนพายุทอร์นาโดกลับค่อยๆ กระจายหายไป วิญญาณชั่วร้ายทยอยหลุดออกจากพายุทอร์นาโดกลับคืนสู่สภาพล่องลอยอย่างเดิม

 

ภายในสุสานนั้นวิญญาณชั่วร้ายทุกดวงมีตราประทับ ซึ่งมีเพียงซูจื่อจวินเท่านั้นที่ขับเคลื่อนได้…อยู่ที่นี่เธอเปรียบเสมือนเทพเจ้า มีอำนาจจัดการกับวิญญาณชั่วร้ายทุกดวงได้

 

ดังนั้นไม่ว่าวิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้จะต่อต้านอย่างไร ซูจื่อจวินก็ไม่กลัว

 

ดังนั้น…ในตอนที่เธอมองเห็นลั่วชิวเก็บวิญญาณทั้งสองหมื่นสองพันนั้นถึงได้มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น เพราะในชั่วพริบตาที่วิญญาณชั่วร้ายถูกเก็บไปนั้น ตราประทับนี้ก็ถูกลบหายไปเลย!

 

การสร้างสุสานในครั้งนั้นเป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ใช้แรงงานและทรัพยากรจำนวนมาก หากไม่ใช่ราชวงศ์เซวียนหยวนแล้วก็ไม่รู้จะยังมีใครสามารถทำได้ละเอียดเช่นนี้อีก

 

แต่วิญญาณชั่วร้ายทั้งสองหมื่นสองพันดวง…สองหมื่นสองพันตราประทับ…

 

ฝีมือเช่นนี้ใกล้เคียงกับปาฏิหาริย์!

 

“ที่นี่ยังมีวิญญาณชั่วร้ายเหลืออยู่แปดพันดวง” เวลานี้ลั่วชิวหัวเราะขึ้นมาและพูดว่า “หากคุณหนูจื่อจวินต้องการ ประตูของสมาคมพร้อมเปิดต้อนรับคุณเสมอ”

 

ตอนนี้ซูจื่อจวินกลับพิจารณาดูลั่วชิว หลังจากผ่านไปสักพักถึงเอ่ยว่า “ข้าขอถามเจ้าหน่อยว่าเจ้ารู้จัก…เผิงไหลหรือไม่?”

 

ลั่วชิวชะงักคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เผิงไหลที่คุณหนูจื่อจวินพูดถึงใช่เมืองเผิงไหลในซานตงหรือเปล่าครับ?”

 

“ถ้าหากเป็นสถานที่แห่งนั้น แล้วข้าจะถามเจ้าอีกทำไม?” ซูจื่อจวินอดโมโหไม่ได้…ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเธอถึงรู้สึกโมโหได้ทุกครั้งเมื่อมองเห็นเขา

 

น่าโมโหจริงๆ!

 

เวลามองเห็นเขาหยุดถ่ายรูปแล้วก็โมโห!

 

ตอนเขาพูดถึงความเป็นตายร่วมกันเธอก็โมโห!

 

โมโหมาก!!

 

แต่เธอพยายามข่มความโมโห สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “เผิงไหลที่ข้าพูดถึงคือหนึ่งในตำนานโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในเก้าแผ่นดิน**! พูดกันว่าภายในเผิงไหลนั้นมีเซียน เพียงแต่สามารถหาเผิงไหลพบ ไม่ว่าเป็นใครก็จะสมปรารถนา! ข้าอยากถามเจ้าว่า พวกเจ้าสามารถเปิดมันได้ไหม!”

 

ไม่ว่าเป็นใครก็จะสมปรารถนา!

 

ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถซื้อของที่ต้องการได้

 

ดูคล้ายกันใช่หรือไม่?

 

 

ซูจื่อจวินมองลั่วชิวอย่างเป็นกังวล เห็นเพียงตอนนี้เจ้าของสมาคมนิ่งเงียบไม่พูดจา ทั้งสองคนจ้องมองกันไปอย่างยาวนาน

 

ลั่วชิวกลับส่ายหน้า “คุณหนูจื่อจวิน ผมไม่รู้จักเผิงไหลที่คุณพูดถึง”

 

“แต่หากคุณต้องการทราบก็สามารถซื้อข้อมูลเกี่ยวกับมันได้…สำหรับเรื่องการเปิดก็ไม่มีปัญหาอะไร”

 

“ในเมื่อเปิดได้…” นัยน์ตาของซูจื่อจวินฉายแวววาบแล้วเอ่ยถามว่า “เท่าไร!”

 

ลั่วชิวมองรอบๆ สุสานแล้วพูดขึ้นว่า “หากอ้างอิงตามวิญญาณชั่วร้ายสามหมื่นดวงในสุสานแห่งนี้ เพิ่มอีกร้อยล้านก็น่าจะพอ”

 

“ร้อยล้าน…”

 

ซูจื่อจวินเงยหน้าขึ้นมาในทันใดและพูดขึ้นว่า “นั่นก็คือ…”

 

“ร้อยล้าน…พันล้าน…ดวง หมื่น แสน…”

 

ซูจื่อจวินนับนิ้วอย่างฉับพลันจากนั้นก็พูดด้วยความโมโหว่า “วิญญาณชั่วร้ายสามแสนล้านดวง? ล้อเล่นอะไรกัน! แม้แต่ช่วงเวลาโบราณที่เผ่าปีศาจเจริญรุ่งเรืองที่สุด รวมทั้งบนดินและใต้ทะเลแล้วก็ยังไม่มีมากถึงขนาดนั้น!! ไม่มีทางเยอะขนาดนั้นได้!!”

 

“คุณหนูจื่อจวิน ควรจะเป็นสามล้านล้านดวงถึงจะถูก”

 

ซูจื่อจวิน…ซูจื่อจวินเหมือนจะคำราม พูดอย่างดุร้ายว่า “ข้าไม่เก่งคำนวณ ขอโทษที!!!!”

 

ช่างเถอะ!

 

น่าโมโหจริงๆ!!

 

 

*ภูเขาเผิงไหล ภูเขาที่พักของเทพในทะเลปั๋วไห่

 

**เก้าแผ่นดิน เป็นชื่อเรียกประเทศจีนโบราณ