เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว รัดเกล้าเลือกที่จะตอบแบบเป็นผลประโยชน์แก่ตัวเองมากที่สุด กล่าวว่า “คืนนั้นเธอยั่วผมก่อน”
เรนนี่เหยียดยิ้มเย้ยหยัน
ตอนนี้เธอรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าแว้งกัดแล้ว หมากัดหมาก็มีแต่ขนเต็มปากหน่ะสิ
“แต่ผมสาบานได้ว่า หลังจากคืนนั้นผมก็ไม่แตะต้องตัวเธออีกเลย ผมเคยสาบานต่อหน้าคุณแล้ว ผมได้ตัดความสัมพันธ์กับผู้หญิงทุกคนแล้ว ผมพูดความจริงนะ ไม่ได้โกหก คืนนั้นผมก็เมา จึงถูกเธอยั่วยวนสำเร็จ คุณต้องเชื่อใจผมนะ ซาฮาร่า”
รัดเกล้ารีบพูดดีใส่ตัวยกใหญ่ น้ำเสียงจริงใจ สีหน้าสำนึกผิดอย่างมหันต์
ซาฮาร่าละสายตาไปยังเรนนี่
เรนนี่มองรัดเกล้าผู้เหลวแหลกอย่างดูถูก พลางส่งเสียงสบถเย็นเยียบออกมา “ไม่ดูสารรูปตัวเองเลยว่าคู่ควรให้ฉันยั่วหรือเปล่า คุณอย่าลืมสิว่าใครที่จงใจลูบขาฉัน คุณไม่รู้สึกสะอิดสะเอียน แต่ฉันพูดออกมาแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนมาก ดูเหมือนคุณจะปั้นน้ำเป็นตัวเก่งมากเลยนะ”
“แก” รัดเกล้าถลึงตาใส่เธอ
“ทำไมมองฉันแบบนี้ล่ะ? พูดแทงใจดำแล้วรู้สึกไม่ดีใช่ไหมล่ะ?” เรนนี่หัวเราะอย่างไม่บันยะบันยัง
ตอนนี้ซาฮาร่าตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ฟังคำพูดของใครทั้งนั้น เธอต้องการความจริง เธอไม่เชื่อถ้อยคำของเรนนี่ ยิ่งไม่มีทางเชื่อคำพูดของรัดเกล้าเด็ดขาด
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ภูษาธรก็ไม่มีหัสดินและชฎารัตน์ ซาฮาร่าทิ้งก้นลงบนโซฟาอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่คิดจะกลับไป
รัดเกล้าอนาทรร้อนใจ รีบพูดจาเกลี้ยกล่อม ประจบประแจงเพื่อจะพาเธอกลับไป ทว่าซาฮาร่าไม่สนใจเขา
รัดเกล้าจนหนทาง จึงได้แต่นั่งรอบนโซฟาตรงข้าม
หัสดินกับชฎารัตน์กลับมา ในมือยังถือเอกสารไว้ด้วย
ช่วงนี้หัสดินอยู่แต่คอนโด ไม่ออกไปไหน เพียงเวลาไม่กี่วัน เขาดูโทรมมาก ทั้งยังเริ่มมีหนวดรุงรังอีกด้วย
เพราะชฎารัตน์ไม่วางใจ จึงไปหาลูกชายของตนที่คอนโด และเมื่อเห็นสภาพเช่นนี้ เธอก็รู้สึกปวดใจ รีบพากลับมา
“เด็กในท้องเรนนี่เป็นของเขาใช่ไหม?” ซาฮาร่าจ้องหัสดินกับชฎารัตน์พร้อมกับชี้ไปยังรัดเกล้า
ชฎารัตน์ชะงักงัน มองใบหน้าซีดขาวไร้เส้นเลือดของลูกสาวก็พูดไม่ออก
ทว่าหัสดินกลับเอ่ยปากพูดว่า“ของเขาเองแหละ”
ชฎารัตน์รีบดึงแขนเขา ทว่าถ้อยคำที่เปล่งออกจากปากก็เหมือนกับน้ำที่สาดออกไปแล้ว มันไม่มีทางเก็บกลับมาได้เลย
รัดเกล้าอึ้ง นึกไม่ถึงว่าหัสดินจะพูดความจริงตรง ๆ แบบนี้
ซาฮาร่ามีปฏิกิริยาทันที หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ยกมือคว้าที่เขี่ยบุหรี่แล้วปาใส่รัดเกล้า
รัดเกล้ามีไหวพริบเร็ว รีบหลบทันที โชคดีที่เร็วกว่าเล็กน้อย มิฉะนั้นต้องเห็นเลือดสดแน่
“ที่ปิดบังพี่ตอนแรกเพราะร่างกายยังฟื้นฟูไม่เต็มที่ แต่ตอนนี้หายดีแล้ว งั้นพี่ก็มีสิทธิ์รู้ความจริงสักที และอีกอย่างพี่เตรียมตัวหย่ากับเขาได้เลย” หัสดินพูดอย่างกับเป็นเรื่องเล็กน้อยทั่วไป
ซาฮาร่ายังไม่ทันเอ่ยปากพูด ทว่ารัดเกล้าก็รีบคัดค้านอย่างแรงกล้า“ผมไม่ยอม ผมไม่มีทางตอบตกลงเด็ดขาด”
หัสดินหัวเราะเสียงเย็น พลางจ้องเขาด้วยใบหน้ามืดครึ้ม
“คุณคิดว่าคุณมีสิทธิ์พูดจาแถวนี้เหรอ? คนในครอบครัวตระกูลภูษาธรหารือกัน คนนอกอย่างคุณไม่มีสิทธิ์มาแทรก ขอแค่เป็นผู้หญิง เขาก็เอาได้หมด ผู้ชายแบบนี้พี่คิดว่าควรจะฝากฝังบั้นปลายชีวิตไว้ไหม?”
ชฎารัตน์ก็พูดออกมาอย่างหาได้ยาก“ใช่แล้วลูก ลูกลองคิดดูนะ ถ้าไปกันไม่ได้ก็หย่ากันเถอะ”
ซาฮาร่าไม่ได้พูด มือขวาถือแก้วน้ำชาแล้วอยู่นิ่ง ๆ คล้ายจะบีบแก้วให้แตกระแหงก็ไม่ปาน และไม่แน่ว่าจะเขวี้ยงใส่ตัวรัดเกล้าเมื่อไหร่
“สิ่งที่พูดก็พูดหมดแล้ว อยากจะใช้ชีวิตแบบไหน พี่เลือกเอาเองเถอะ”
พอตกเย็น ซาฮาร่าก็กลับไป แล้วบอกว่าจะหย่า เธอคิดว่าน้องชายตัวเองพูดถูก แม้แต่ผู้หญิงอย่างเรนนี่ยังเอาเลย แล้วยังมีอะไรที่เขาไม่คิดจะจับมาขึ้นเตียงอีก?
รัดเกล้าไม่ยอม รีบกล่าวคำขอโทษและโน้มน้าวจิตใจทันที รีบยอมรับความผิดโดยไร้ข้อโต้แย้ง
ซาฮาร่าไม่ใจอ่อน โทรหาคุณท่านวสิน เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ หวังว่าจะดำเนินเรื่องให้เร็วที่สุด
ได้ยินดังนั้น คุณท่านวสินก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คืนนั้นเฆี่ยนตีรัดเกล้าจนเป็นแผลไปหมด
รัดเกล้าดูหน้าน่าสงสารจากอาการบาดเจ็บ เพื่อให้ซาฮาร่ายกโทษให้ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่แยแสเขา เธอไม่ยอมฟังแม้กระทั่งคำพูดของคุณท่านวสิน ยังคงยืนหยัดในความคิดของตัวเอง
คุณปู่ที่รู้สึกโมโหรีบสั่งระงับบัตรธนาคารที่รัดเกล้าใช้ทันที ไม่ให้เขามีเงินใช้แม้แต่แดงเดียว
ชีวิตของรัดเกล้าดิ่งลงสู่เหวทันที เขาถูกไล่ตะเพิดออกจากคฤหาสน์ตระกูลกนกเตรัตน์ และไม่มีเงินเข้าพักโรงแรม เพราะไม่มีเงินติดตัวเลย กระทั่งรถก็ยังโดนยึดอีก จึงได้แต่เดินเร่ร่อนอยู่กลางถนน
เขาไม่เต็มใจที่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้ เขารู้สึกเคียดแค้นและชิงชังต่อเรนนี่มาก
ถ้าไม่ใช่เธอ เขาจะตกอับถึงขั้นนี้ไหม? เมื่อคนโกรธแค้นในใจร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาสาบานว่าจะไม่ยอมให้เรนนี่มีความสุขแน่
ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีเงิน แต่ยังคงมีอำนาจอยู่ รัดเกล้ารีบโทรศัพท์ออกไป
เนเน่กับเรนนี่กลับมายังที่พักก็ดื่มน้ำ แล้วนั่งพักผ่อนชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นเจ้าของคอนโดก็มาแจ้งไม่ให้พวกเธอเช่าต่อ
ดึกขนาดนี้แล้ว ถึงจะให้ย้ายออก แต่ก็ต้องรอพรุ่งนี้หรือเปล่า
แต่เจ้าของตึกไม่ยอม สั่งให้พวกเธอออกไปให้เร็วที่สุด พรุ่งนี้ค่อยมาเอาของ กล่าวคือคืนนี้พักที่นี่ไม่ได้
เมื่อถกเถียงกันจนจะลงไม้ลงมือกัน เจ้าของตึกก็รีบเรียกรปภ.มา เนเน่จึงรีบลากตัวเรนนี่จากไป
อย่างไรเสียมันก็เกิดขึ้นแล้ว ถึงจะอาละวาดก็ไร้ประโยชน์ ไม่สู้รีบออกไป จากนั้นก็หาโรงแรมพัก แต่ล้วนไม่ยอมให้พวกเธอใช้บริการ
จากนั้นก็ไปยังรีสอร์ทที่ปกติเรนนี่จะรังเกียจสถานที่แบบนี้มาก ซึ่งก็ถูกไล่ออกมา กระทั่งร้านเหล้าก็ยังไม่ให้อยู่เลย สุดท้ายพวกเธอก็ไร้ที่ซุกหัวนอนกลางดึก
ทั้งสองเดินอยู่กลางถนน เพราะใส่เสื้อตัวบาง เมื่อลมพัดมาจึงรู้สึกหนาวจนตัวขด
“มันเกิดอะไรขึ้น? มีเงินแต่เข้าพักโรงแรมไม่ได้ น่าแปลกมากเลย” เนเน่ไม่เข้าใจ จากนั้นก็ครุ่นคิดดูแล้วจึงถามขึ้นมาว่า “เธอไปบาดหมางกับใครมาอีก?”
เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ เรนนี่ก็เข้าใจทันควัน เธอนึกถึงคำพูดของซาฮาร่าตอนออกจากศาล
ดังนั้นคือ? ตอนนี้เริ่มลงมือเธอแล้วหรือ?
เธอขบฟัน ความแค้นวนเวียนอยู่ในหัวใจ สักวันหนึ่ง เธอจะทำให้อีกฝ่ายโดนดูถูกเหยียดหยามแบบนี้ให้ได้เหมือนกัน
เมื่อไร้ที่ไป พวกเขาสองคนจึงตกลงที่จะไปที่ผับ
ทันทีที่เดินเข้าผับก็เห็นเพื่อนในอดีตจำนวนหลายคน ซึ่งล้วนกำลังดื่มเหล้ากันอยู่ เมื่อเห็นพวกเธอสองคนก็รีบโบกมือเรียก
เรนนี่กับเนเน่เดินเข้าไปนั่งลง ด้านหน้ามีเหล้าเต็มแก้ว เรนนี่รีบยกขึ้นมาดื่มเพื่อแก้ทุกข์ทันที
ครั้งนี้ไม่ค่อยมีเสียงประจบประแจงมากนัก ทุกคนต่างรุมถามเรนนี่เรื่องหย่ากันยกใหญ่
“ได้สมบัติอะไรจากการหย่ากับประธานหัสดินบ้าง? คงไม่น้อยเลยสิท่า”
“ตระกูลภูษาธรเป็นตระกูลไฮโซ คงแบ่งได้ไม่น้อยเลยใช่ไหม”
“……”
เรนนี่บอกว่าไม่ได้เอา ไม่เอาแม้แต่บาทเดียว
“รีบปฏิเสธเร็วขนาดนี้ทำไม? เงินอยู่ในกระเป๋าเธอ พวกเราแย่งมาไม่ได้หรอก ไม่ต้องกลัวขนาดนี้ก็ได้?”
“ใช่”
“……”
เรนนี่ฟังแล้วอารมณ์เสีย อยากปัดเหล้าบนโต๊ะทิ้งมาก ทว่าก็ไม่ได้ทำอะไร แค่นั่งอยู่เฉย ๆ เท่านั้น
“คนเราได้บินขึ้นไปบนที่สุดแล้วกลายเป็นหงส์ แต่ก็ไม่ควรโอ้อวด เพราะพึ่งบินไปถึงก็ต้องร่วงตกลงมาซะแล้ว”
“เห็นแต่งกันไม่นานเลยนะ แค่ไม่กี่เดือนเอง”
“เวลาสั้นมาก อันที่จริงเมื่อปีนป่ายขึ้นไปเป็นหงส์แล้ว หากตกลงมาจะสกปรกและดำยิ่งกว่าอีกาอีก ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่า
เรนนี่ใกล้จะระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้ว ความรู้สึกแบบนี้เหมือนย้อนกลับไปเหมือนเจ็ดปีก่อน ซึ่งถูกคนอื่นหัวเราะเยาะและพูดจาถากถาง ความเจ็บปวดปานถูกทิ่มแทงถาโถมเข้าใส่ตัวเธอ
ถ้อยคำที่พูดไม่ไว้หน้า เสียดสี ด่าทอ และประชดประชัน ดูถูก ทุกอย่างหลอมรวมกันเป็นเข็มพิษ จากนั้นก็แทงเข้าก้นบึ้งของหัวใจเธอ
เธอทนต่อไปไม่ไหว รีบกรีดร้องเสียงแหลม เธอเอามือจับโต๊ะ จากนั้นก็รวบรวมกำลังพลิกโต๊ะคว่ำ ซึ่งบนโต๊ะมีเหล้าเยอะมาก ขวดหล่นใส่พื้นเต็มไปหมด บ้างก็แตกละเอียด บ้างก็เป็นขวดที่ยังไม่เปิด จึงมีของเหลวไหลออกมา ส่งผลทำให้กางเกงทุกคนเปียกไปหมด
“เธอบ้าไปแล้วหรือไง”
“อยู่ ๆ กลายเป็นบ้าอะไร หรือรับคำพูดกระทบกระเทือนจิตใจไม่ไหว”
“เธอมีเงิน พวกเราไม่มีเงิน เหล้าที่ทำหกและค่าโต๊ะพวกนี้ เธอเป็นคนจ่ายแล้วกัน” พูดประโยคเช่นนี้กับเรนนี่
คนส่วนใหญ่พากันกรีดร้อง ด่าทอเรนนี่ด้วยหน้าบึ้งตึง แต่ยังมีผู้หญิงสองคนที่ไม่สนใจเรื่องนี้ ยังคงนั่งเล่นมือถืออยู่ จากนั้นก็เบิกตากว้าง ก่อนจะพูดโพล่งเสียงดัง “อะไรนะ ยู่ยี่จะแต่งงานอีกแล้วเหรอ”
พวกที่กำลังด่าเรนนี่อยู่รีบเปลี่ยนมาสนใจเรื่องนี้ทันที“มันจะแต่งกันใคร?มันเป็นแม่หม้ายและเป็นเด็กเสี่ยมาก่อน ใครเอามันว่ะ?”
เหล่าเพื่อนสมัยเรียนล้วนคิดว่ายู่ยี่เป็นเด็กเสี่ย ซึ่งข่าวนี้แพร่กระจายไปไกลมาก
“ได้แต่งกับใคร? คิกคิก คนที่มันแต่งด้วย ผู้ชายที่ฉันปรารถนาอยากแต่งงานด้วยเลยนะ รูปก็หล่อ บ้านก็รวย และสง่างามมากด้วย แค่มองก็รู้สึกลุ่มหลงแล้ว” หญิงคนหนึ่งทอดถอนใจ พลางกล่าวอย่างหดหู่ใจ
เมื่อได้ยินแบบนี้ ทุกคนก็ยิ่งรู้สึกสงสัย อยากรู้ว่ายู่ยี่แต่งกับใคร ถึงกับทำให้เพื่อนคนนี้เศร้าถึงเพียงนี้?
แต่ด้วยสถานะของยู่ยี่ ถึงจะได้แต่งกับคนดี ๆ แต่ก็สู้หัสดินไม่ได้หรอกมั้ง
เพราะตระกูลภูษาธรมีตระกูลสูงศักดิ์ในเมือง S มีไม่กี่ตระกูลที่เทียบชั้นกับตระกูลนี้ได้
ทุกคนต่างคิดเป็นเสียงเดียวกัน ผู้หญิงคนที่เล่ายื่นมือถือให้ แต่ทุกคนก็ผลักกันดู
ไม่ชมไม่ได้แล้ว ผู้ชายคนนี้รูปหล่อมาจริง ๆ บนโลกนี้มีหลายอย่างที่เงินซื้อไม่ได้ อย่างเช่นออร่าสูงส่งที่เปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอก
ความสง่างามทว่าเย็นชา แม้มองผ่านหน้าจอมือถือ ทว่าก็ชวนให้รู้สึกห่างเหินและกดดันยิ่ง
“มีอะไรน่าแปลกใจกัน เธออย่าลืมสิ ตอนยู่ยี่หย่าได้กลายเป็นเศรษฐีนีไปแล้ว เพราะแบ่งสมบัติเป็นหุ้นส่วนร้อยละสามของบริษัทภูษาธรกรุ้ป ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขน้อย ๆ เลย ตอนนี้ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้ามีเงินก็ง่ายทุกอย่าง เอาเงินเลี้ยงผู้ชายจึงเป็นเรื่องง่ายมาก” มีผู้ชายคนหนึ่งกล่าว
“ใช่ หย่าแล้วจะทำไม มีเงินซะอย่าง”
“แต่จะว่าไปท้องยู่ยี่ก็ป่องแล้วนะ น่าจะห้าเดือนแล้ว”
“ฉันดูไม่ผิดแน่”