มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 595
“หลัวซิวผู้นี้ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก ผลการฝึกตนในระดับจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเจ็ด ร่างเนื้อกลับบรรลุสูงถึงระดับร่างยุทธ์แดนมกุฎขั้นกลาง!” กลุ่มผู้คนที่อยู่โดยรอบ ต่างมีสีหน้าตกตะลึง

“หึ ต่อให้ร่างเนื้อของเขาสามารถต่อกรกับหลี่จ้านได้ แต่หลี่จ้านเป็นถึงลูกศิษย์ที่เจ้ายุทธจักรพลานุภาพฝึกสอนมาเองกับมือ พลังการต่อสู้ของร่างเนื้อนั้นไร้เทียมทาน”

ตูม! ตูม! ตูม! ……

เพียงชั่วพริบตา ทั้งสองคนก็ได้สู้กันกลับไปกลับมาอย่างดุเดือดอยู่บนเวทีประลองยุทธ์หลายสิบรอบแล้ว

หลัวซิวที่กำลังต่อสู้อยู่อย่างดุเดือดนั้นพบว่า ร่างเนื้อของหลี่จ้านอยู่ในระดับร่างยุทธ์แดนมกุฎขั้นกลางเหมือนกันกับตน แต่วรยุทธ์ที่เขาฝึกนั้นอยู่ในระดับที่สูงมาก พลังการต่อสู้ไม่ได้ด้อยไปกว่าตนเลยสักนิด

“ดูเหมือนว่าวิชาที่หลี่จ้านฝึกนั้นคงจะเป็นพลังเก้าภพแน่แล้ว” เมื่อนึกเชื่อมไปถึงว่าหลี่จ้านเป็นศิษย์ของเจ้ายุทธจักรพลานุภาพต้วนฉือเทียน หลัวซิวก็วางใจลง

ผลการฝึกตนในระดับเดียวกัน แน่นอนว่าวรยุทธ์ที่ฝึกฝนนั้นระดับยิ่งสูง พลังการต่อสู้ก็จะยิ่งสูงด้วย ในโลกปัจจุบัน พูดถึงวิชากลั่นร่าง พลังเก้าภพเป็นหนึ่งในวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของวิชากลั่นร่างอย่างแน่นอน

“สยบ!”

หลัวซิวแสดงวิชาล่องหนไท่เสวียนออกมา จู่ ๆ ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของหลี่จ้าน ภูเขาสีดำได้ก่อตัวขึ้นที่ระหว่างฝ่ามือของเขา และซัดออกไปทันที

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างของหลี่จ้านถูกภูเขาสีดำทับลงไปในทันที

“นั่นต้องเป็นทักษะยุทธ์ระดับยิ่งเลิศอย่างแน่นอน!” ในกลุ่มผู้คนที่อยู่โดยรอบ มีจำนวนไม่น้อยที่สีหน้าเปลี่ยนไป

อัจฉริยะรุ่นใหม่ที่อยู่บนแท่นบัวเพลิงอัคคีเหล่านั้นเองก็ได้มองมาเช่นเดียวกัน มีผู้ที่รู้จักประวัติของหลัวซิวได้กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น: “คนผู้นี้มีนามว่าหลัวซิว ว่ากันว่าได้รับการสืบทอดวิชายิ่งเลิศจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนโบราณ ที่เขาได้แสดงออกมานั้นน่าจะเป็นวิชาล่องหนไท่เสวียนและวิชาสังหารไท่เสวียน”

“ตะครุบฉีกฟ้า!”

หลี่จ้านโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เงยหน้าตะโกน งอนิ้วทั้งห้า กลายเป็นกรงเล็บสีทอง ตะครุบภูเขาสีดำนั้นด้วยมือเปล่าจนล่มสลายไป

ร่ำเรียนวิชาจากเจ้ายุทธจักรพลานุภาพต้วนฉือเทียน สิ่งที่หลี่จ้านผู้นี้ได้ฝึกฝนนั้น ก็มีเพียงแค่ทักษะยุทธ์วิชายิ่งเลิศเพียงเท่านั้น พลังการต่อสู้เหนือกว่าผู้คนโดยทั่วไปมากนัก

ท่าทีของหลัวซิวยังคงสงบนิ่งดั่งเดิม ภายใต้การเฝ้ามองจากผู้แข็งแกร่งมากมาย เขาไม่คิดจะใช้สองระดับความเป็นตาย เพียงแค่ใช้พลังของเพลิงมรณะ และแสดงวิชาสังหารไท่เสวียนออกมาอีกครั้ง

มีลูกแก้วเสวียนดำเป็นแหล่งให้พลังงาน เขาไม่ต้องกังวลว่าพลังจิตแท้ของตนจะถูกใช้จนหมด

ครืน!

ภูเขาสีดำก่อตัวขึ้นมาลูกแล้วลูกเล่า ถูกหลีจ้านใช้ทักษะยุทธ์ตะครุบฉีกฟ้า ทำลายไปครั้งแล้วครั้งเล่า

ทว่าได้ต่อสู้มาเป็นเวลานาน พลังจิตแท้ของหลัวซิวไม่มีท่าทีว่าจะหมดไปเลยสักนิด เขาสร้างตราประทับขึ้นมาที่ฝ่ามืออย่างรวดเร็ว มีภูเขาสีดำก่อตัวขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย ถูกโยนเข้าใส่หลี่จ้าน

เผชิญหน้ากับการโจมตีที่ไม่หยุดหย่อน แต่ให้เป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างหลี่จ้านก็ฝืนทนไม่ไหว สีหน้าท่าทางเคร่งเครียดขึ้นมาเรื่อย ๆ

พลั๊ก!

ใช้วิชาล่องหนไท่เสวียนออกมา หลัวซิวได้หายตัวไปจากตรงนั้น เพียงชั่วพริบตาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของหลี่จ้าน และแสดงวิชาสังหารไท่เสวียนออกมา ซัดเข้าใส่ด้านหลังของหลี่จ้าน

เสียงดังสะนั่น หลี่จ้านถูกกระแทกจนลอยออกไป แต่ในวินาทีที่ร่วงลงพื้นนั่นเอง จู่ ๆ ก็ได้เพิ่มความเร็วขึ้น และพุ่งเข้าหาหลัวซิว วิชาตะครุบฉีกฟ้าครอบงำเข้าหัวหลัวซิว

ชั่ววินาที ร่างของทั้งสองขยับเข้าใกล้ หมัดเท้าบวกเข้าหากัน ความเร็วในการลงมือนั้นเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ

“ร่างทองไร้เทียมทาน!”

หลี่จ้านตวาดเสียงดัง แสดงวิชายิ่งเลิศอีกอย่างหนึ่งออกมา ร่างกายเปล่งแสงสีทอง กลายเป็นปราณกระบี่ขึ้นมาหลายเล่ม ทั้งหมดฟันเข้าใส่หลัวซิวที่อยู่ตรงกลาง

หลัวซิวไม่ขยับเขยื้อน มือก็สร้างพลังตราประทับขึ้นมา ม่านแสงลอยขึ้น ปกป้องร่างกายเอาไว้

จากนั้นไม่นาน ฝุ่นละอองปลิวว่อน เสียงอันเย็นชาของหลัวซิวก็ได้ดังขึ้นมาอย่างช้า ๆ “ถึงเวลาที่ข้าจะตอบโต้กลับแล้วสินะ?”

“สวรรค์ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลย?”

“ที่เขาแสดงออกมาเมื่อสักครู่นั้นเหมือนว่าจะเป็นวิชายิ่งเลิศอย่างหนึ่งของสำนักไท่เสวียนโบราณ มีชื่อว่าวิชาฝึกจิตไท่เสวียน สามารถดูดกลืนการโจมตีส่วนมากได้ พลังการปกป้องแข็งแกร่งเป็นที่สุด”

“คนผู้หนึ่งฝึกวิชายิ่งเลิศสามแขนง?”

ร่างของหลัวซิวถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีดำ กระแสพลังที่รอบกายเพิ่มขึ้นอย่างไม่ขาดสาย

อาศัยวิชาล่องหนไท่เสวียนสามารถเดินทางผ่านปริภูมิได้ ร่างของเขาผลุบ ๆ โผล่ ๆ เสียงพลั๊กดังขึ้น หลี่จ้านไม่ทันระวัง จึงได้ถูกซัดจนลอยออกไป

คราวนี้หลัวซิวไม่ได้ยั้งมือ อาศัยร่างยุทธ์ร่างเนื้อที่แข็งแกร่งและสามวิชายิ่งเลิศ กดขี่หลี่จ้านได้โดยปริยาย

ตึง!

เสียงอู้อี้ดังขึ้น หมัดของหลัวซิวต่อยเข้าไปบนใบหน้าของหลี่จ้าน เลือดสด ๆ ได้พุ่งออกมาจากปากของมัน หลี่จ้านในตอนนี้นั้น ได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัว สีหน้าซีดเซียว

“ข้าแพ้แล้ว…..”

หลี่จ้านคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น ใบหน้าซีดขาวจนน่ากลัว พลังจิตแท้ของเขาถูกใช้ไปจนแทบหมดสิ้น แต่หลัวซิวกลับยังมีชีวิตชีวาอยู่เหมือนเดิม เหมือนกับว่าไม่ได้สูญเสียพลังไปเลยสักนิด