ตั้งแต่เกิดเรื่องความสัมพันธ์ของหลินหว่านกับเซียวจิ่งสือ หลินหว่านก็รู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาไม่เหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนดูเหมือนระหว่างพวกเขาจะมีอุปสรรคหัวใจคอยกั้นไว้ แต่ตอนนี้ ม่านอุปสรรคที่ว่านี้ไม่มีอีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของเซียวจิ่งสือที่มีต่อเธอ เปลี่ยนเป็นยิ่ง…เหลาะแหละ
อย่างเช่น ตอนหลินหว่านกับเซียวจิ่งสืออยู่ด้วยกันที่บริษัท เซียวจิ่งสือมักจะเรียกเธออย่างสนิทสนมว่า “หว่านหว่าน” หรือ “ที่รัก” ต่อหน้าทุกคนในบริษัท ทำให้หลินหว่านต้องเจอกับสายตาอิจฉาริษยาและโกรธแค้นจากผู้คนมากมาย
หรืออย่างเช่น ตอนเที่ยงวันนี้เธอกับเซียวจิ่งสือกำลังทานข้าวด้วยกันที่ข้างนอก เซียวจิ่งสือบ่นว่ากับข้าวของร้านอาหารสู้ฝีมือหลินหว่านทำไม่ได้ หลินหว่านฟังแล้วก็เผลอพูดว่า “งั้นเย็นนี้กลับบ้าน ฉันจะทำให้คุณทานก็แล้วกัน”
เซียวจิ่งสือฟังแล้วกลับยิ้มเจ้าเล่ห์ พูดว่า “ดีเลย แล้วหลังอาหาร เราสองคนยังทำเรื่องที่สนุกยิ่งกว่านี้ด้วยกันได้ด้วย”
หลินหว่านหน้าแดงก่ำ ด่าเซียวจิ่งสือไปว่า “เซียวจิ่งสือ คุณมันลามก!”
เซียวจิ่งสือรีบเปลี่ยนท่าทีเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ พูดเหมือนไร้เดียงสาว่า “หว่านหว่าน คุณคิดอะไรอยู่น่ะ ผมบอกว่า เย็นนี้พวกเราทานข้าวแล้ว จะได้ดูหนังด้วยกันที่บ้านไง”
ทำเอาหลินหว่านพูดไม่ออก ได้แต่ค้อนเซียวจิ่งสือ เป็นเพราะเขาตั้งใจพูดให้เธอเข้าใจผิด ทำให้เธอคิดไปในทางนั้น เหมือนกับเธอคิดเรื่องนั้นอยู่ตลอดเวลาอย่างงั้นแหล่ะ
เซียวจิ่งสือเห็นว่าแก้มหลินหว่านกลายเป็นสีชมพูเรื่อขึ้นมาเพราะความอาย เขาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์กับเธอแล้วพูดว่า “แน่นอนอยู่แล้วหว่านหว่าน ถ้าคุณอยากจะทำอะไรสนุกๆ ยิ่งกว่านี้กัน ผมก็ต้องยอมคุณอยู่แล้ว”
หลินหว่านโมโหเสียไม่มีชิ้นดี หลังอาหาร เธอจึงทิ้งเขาไว้ ตัวเองหนีกลับไปคนเดียว
“อ้าว หว่านหว่าน…” เซียวจิ่งสือคิดจะรั้งตัวหลินหว่านไว้ แต่ตอนนั้นเอง มือถือของเขามีข้อความเข้ามา เซียวจิ่งสืออ่านข้อความแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไป เลิกไล่ตามหลินหว่าน
ในข้อความมีภาพถ่ายอยู่หลายใบ ภาพถ่ายใบแรกมีสองคน คนหนึ่งเป็นหลินหว่าน อีกคนเขาสืบได้ว่าเป็นท่านประธานที่คิดมิดีมิร้ายต่อหลินหว่านคราวก่อน ในรูปถ่ายนั้น หลินหว่านถูกวางยาจึงมีสีหน้ามึนงงอย่างไร้สติ ส่วนท่านประธานนั่นกลับมองหลินหว่านด้วยสีหน้าหื่นกระหาย เหมือนอยากจะทำมิดีมิร้ายกับหลินหว่าน
ยังมีรูปถ่ายอีกหลายใบล้วนเป็นภาพที่หลินหว่านเข้าห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ภาพหลายใบนี้ต้องบอกว่าช่างภาพอยู่ในมุมกล้องที่ดีมาก ภาพใบหน้าของหลินหว่านเห็นได้อย่างชัดเจน ขอเพียงเป็นคนที่รู้จักหลินหว่านต้องรู้ว่าเป็นเธอ
ยังมีข้อความที่มากับภาพถ่ายด้วย “เซียวจิ่งสือ ฉันคืออันซิง เห็นรูปถ่ายพวกนี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้าไม่อยากให้ฉันส่งรูปพวกนี้อัพโหลดขึ้นอินเทอร์เน็ตเพื่อทำลายหลินหว่านล่ะก็ มาคุยกับฉันหน่อย ฉันจะรอที่บริษัทคุณนะ”
ที่แท้เป็นฝีมืออันซิง! เซียวจิ่งสืออ่านข้อความแล้ว รู้สึกโมโหจนทำอะไรไม่ถูก หล่อนยังกล้าใช้รูปพวกนี้มาเจรจาเงื่อนไขกับเขา อันซิงคงรู้สึกว่าเขายังลงมือกับบ้านตระกูลอันได้ไม่โหดพอสินะ
แต่เพื่อหลินหว่าน เซียวจิ่งสือรู้สึกว่าเขามีความจำเป็นต้องคุยกับอันซิงสักตั้ง ไม่อย่างนั้น อันซิงนังผู้หญิงบ้านั่นเกิดเอารูปพวกนั้นอัพโหลดขึ้นอินเทอร์เน็ตไปจริงๆ จะส่งผลร้ายต่อหลินหว่านอย่างมหาศาล
เซียวจิ่งสือกลับถึงบริษัทแล้ว ผู้ช่วยบอกกับเขาว่า อันซิงรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขกของบริษัท เซียวจิ่งสือให้ผู้ช่วยไปเชิญอันซิงมาที่ห้องทำงานของเขา แล้วสั่งผู้ช่วยว่า ตอนที่เขากับอันซิงคุยกันห้ามไม่ให้ใครเข้ามา จากนั้นเขาก็กลับห้องทำงานไปก่อน
ผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูห้องทำงานถูกผลักเปิดออก เซียวจิ่งสือเงยหน้าขึ้น อันซิงปรากฏตัวที่หน้าห้องทำงาน หลังจากเธอปิดประตูห้องทำงานแล้ว ก็เดินมาตรงหน้าเซียวจิ่งสือ
อันซิงแต่งหน้ามาอย่างเนี้ยบ สวมชุดกระโปรงที่เธอเลือกมาอย่างดี เธอเชื่อว่าพอเซียวจิ่งสือเห็นข้อความของเธอแล้ว ต้องรับปาก ยอมเจรจากับเธอแน่
เนื่องจากเซียวจิ่งสือไม่มีทางว่าจะไม่แคร์หลินหว่าน แต่พอคิดถึงตรงนี้ อันซิงก็ริษยาจนแทบจะเป็นบ้า นังหลินหว่าน นั่นใช้เสน่ห์อะไรถึงมัดใจเซียวจิ่งสือได้อยู่หมัดนะ? ทำไมคืนนั้นแผนของเธอจึงล้มเหลว ทำอะไรหลินหว่านไม่ได้
“คุณหนูอัน คุณมานี่ต้องการจะคุยอะไรกับผม?”
อันซิงกำลังคิดเพลิน จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำของเซียวจิ่งสือก็ดังขึ้น เธอตวัดสายตาขึ้นมอง เซียวจิ่งสือสวมชุดสูทสีดำ ดูเคร่งขรึมจริงจังแฝงเสน่ห์เย้ายวนชวนโหยหายิ่งกว่าเดิม แต่สายตาเย็นชาแฝงด้วยความโกรธส่วนหนึ่งที่มองดูเธออยู่นี่สิ
อันซิงยกมุมปากขึ้น ถามเซียวจิ่งสือว่า “จิ่งสือ คุณทานมื้อเที่ยงหรือยังคะ หรือว่าเราจะออกไปข้างนอกทานไปคุยไป?”
“ไม่ต้องหรอก คุณหนูอันมีอะไรก็พูดออกมาเร็วๆ เถอะ อีกเดี๋ยวบริษัทยังมีงานต้องทำอีก ผมไม่ได้มีเวลามาเป็นเพื่อนทานข้าวของคุณหนูอันหรอกนะครับ” เซียวจิ่งสือพูดบทเสียงเย็น
อันซิงเห็นท่าทีดูแคลนของเซียวจิ่งสือแล้ว สีหน้าปั้นยากอยู่บ้าง แต่ไม่เป็นไร หลินหว่านเป็นจุดอ่อนของเขา ในมือของเธอมีจุดอ่อนของเขา เธอไม่เชื่อหรอกว่าเอาเซียวจิ่งสือไม่อยู่หมัด!
อันซิงนั่งลงตรงหน้าเซียวจิ่งสือ มองดูเซียวจิ่งสือแล้วพูดตรงๆ ว่า “เอาล่ะค่ะ เซียวจิ่งสือ ฉันขอพูดตรงๆ นะ รูปถ่ายที่ฉันเพิ่งส่งให้ คุณน่าจะได้เห็นแล้ว คุณน่าจะรู้ว่าถ้าหากพวกมันปรากฏขึ้นบนอินเทอร์เน็ตล่ะก็ จะส่งผลอย่างไรกับหลินหว่านใช่ไหมคะ”
เซียวจิ่งสือฟังคำพูดของอันซิงแล้ว คิ้วขมวดฉับเข้าหากันอย่างลืมตัว แน่นอนเขารู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร นักแสดงหญิงคนหนึ่งกลางค่ำกลางคืนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเดินเข้าห้องพักในโรงแรม อยู่กับผู้ชายขี้หื่นคนหนึ่ง ถึงตอนนั้นพวกชาวเน็ตที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็จะรุมทึ้งหลินหว่านจนเป็นสภาพไหนกัน!
“เซียวจิ่งสือ ถ้าคุณยังไม่อยากให้ภาพถ่ายพวกนี้ไปปรากฏบนอินเทอร์เน็ตล่ะก็ ขอให้คุณปล่อยมือจากบ้านตระกูลอันซะ!” อันซิงข่มขู่อย่างไม่กลัวเกรงอะไรอีก
แต่เซียวจิ่งสือได้ยินแล้ว ความโกรธในแววตายิ่งลุกโชนขึ้นกว่าเดิม แต่เขาเหมือนจะไม่หวั่นไหวกับเรื่องนี้เลย เซียวจิ่งสือมองอันซิงด้วยสายตาเย็นชา พูดเย้ยหยันขึ้นว่า “คุณหนูอัน คุณเข้าใจว่าโอกาสดีที่จะล้มบ้านตระกูลอันซึ่งได้มาไม่ง่ายนี่ ผมจะยอมทิ้งมันไปเพราะเพื่อหลินหว่านงั้นสิ?”
อันซิงเห็นแล้วรู้สึกตื่นตกใจขึ้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจ ทำไมกัน ทำไมปฏิกิริยาของเซียวจิ่งสือไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เขาน่าจะยอมรับปากเธออย่างไม่เต็มใจเพื่อหลินหว่านสิ? ทำไมตอนนี้เซียวจิ่งสือพูดอย่างไม่แคร์หลินหว่านเลยสักนิด
อันซิงกำหมัดอย่างไม่ยอมแพ้ พูดขึ้นอีกว่า “เซียวจิ่งสือ คุณไม่แคร์หลินหว่านแล้วหรือคะ? ในมือฉันยังมีรูปถ่ายคืนนั้นอีกเยอะเลย ขอเพียงคุณรับปากว่าจะยอมปล่อยบ้านตระกูลอันไป ฉันรับรองว่าจะไม่เอามันขึ้นอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่า…ถ้าคุณไม่รับปาก อย่างมากบ้านตระกูลอันกับหลินหว่านก็พังไปด้วยกัน ไม่มีใครได้เป็นสุข!”
อันซิงหมดทางแล้วจริงๆ ตั้งแต่คืนวันที่แผนเธอล้มเหลวไม่เป็นท่า เซียวจิ่งสือสืบพบว่าเป็นฝีมือของเธอแล้ว บ้านตระกูลอันก็ถูกเขาตัดทางรอดทุกทางไป