กูดาลแทบระงับโทสะไว้ไม่อยู่ มันต้องการจัดการคาเอลให้ได้โดยเร็ว ดังนั้นมันจึงโจมตีไม่หยุดยั้ง กลุ่มหมอกดำทะมึนล่องลอยออกมาจากกะโหลกของกูดาล
“ไม่ดีแน่ คาเอลระวังด้วย” เห็นกูดาลลงมือ เขาก็เอ่ยปากกระตุ้นเตือนคาเอล คาเอลย่อมทราบว่าเมฆดำกลุ่มนี้จัดการไม่ง่าย แม้เขาจะมีกลุ่มบอลพลังคอยสนับสนุนอยู่ก็ตาม “นิโคลัส รีบบรรจุกระสุนปืนใหญ่เร็ว ข้าอยากจะรู้นักว่าหลังกินกระสุนปืนใหญ่ไปแล้ว มันยังจะควบคุมหมอกบ้านั่นได้อีกหรือไม่” เซียวอวี๋เร่งเร้า เดิมนิโคลัสคิดจะถ่วงเวลาให้คาเอลได้รับบาดเจ็บก่อน แต่เมื่อเซียวอวี๋กล่าวย้ำเขาหลายเที่ยว เขาก็จำต้องทำตาม เขาสั่งให้ลูกน้องบรรจุกระสุนและปรับองศาการยิงของปืนปืนใหญ่ ลึกๆในใจของเขาเองก็อยากจะทราบว่าปืนใหญ่เวทกระบอกนี้จะสร้างความเสียหายให้กูดาลได้เพียงใด ตู้ม! ปืนใหญ่เวทยิงกระสุนออกไปอย่างรุนแรง เส้นแสงสายหนึ่งพุ่งเข้าหากูดาลอย่างรวดเร็ว กูดาลที่ได้รับผลจากบอลพลังของคาเอลก็ยากจะขยับหลบหลีก แต่จู่ๆมันก็ระเบิดพลังสูงสุดเพื่อสลัดหลุดจากสภาพตอนนี้ หลังหลุดออกจากมิติลี้ลับได้แล้ว กูดาลก็พุ่งหลบออกจากวิถียิงของปืนใหญ่เวทไปได้ นับว่ากูดาลยังมีโชคไม่เลว “เพ้ย เจ้าทำอะไรของเจ้า?” เซียวอวี๋โวยวาย “ยังโทษข้าได้หรือ? วิถีที่ยิงมันถูกต้องแล้ว มันไม่ใช่ความผิดข้า” นิโคลัสตอบเสียงเรียบก่อนจะแบมือขอน้ำยาฟื้นฟูมานาจากเซียวอวี่ เซียวอวี๋เมินนิโคลัสและหันไปมองดูกลุ่มหมอกดำที่ใกล้จะไปถึงตัวของคาเอลแล้ว จากนั้นเขาพลันหันไปตะโกนสั่งการต่อพวกดรูอิด “เป่าไอ้หมอกบ้านั่นด้วยพายุหมุน!” พวกดรูอิดไม่รอช้า เริ่มร่ายเวทยิงเข้าใส่กลุ่มเมฆจนมันลอยถอยออกไป เมื่อพายุหมุนลูกแรกปะทะกับหมอกดำ หมอกดำก็หยุดชะงักเล็กน้อย และเมื่อชนปะทะกับพายุลูกต่อๆมา ในที่มันก็หยุดนิ่ง หลังจากถูกพายุนับสิบลูกกระหน่ำชน สุดท้ายมันก็ถูกผลักกลับไปในทิศทางที่จากมา กูดาลหลุดออกจากกลุ่มบอลพลังไปแล้ว คาเอลจึงไม่จำเป็นต้องควบคุมกลุ่มบอลพลังต่อ เขาพลันสลายพลังไป ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของพวกดรูอิด หมอกดำก็ถูกผลักไปปกคลุมเหนือกองทัพพวกออร์คปีศาจ และเมื่อมันสัมผัสถูกน้ำ มันก็เริ่มควบแน่นก่อนจะตกลงมาเป็นฝนในที่สุด ร่างของพวกออร์คปีศาจที่ถูกฝนห่านี้ตกใส่พลันมีควันลอยพร้อมเสียงซี่ซี่ราวกับถูกน้ำกรดรด เกิดเสียงเสียงโหยหวนดังขึ้นระงม ผู้ที่กระทบถูกฝนหยาดนี้ล้วนถูกเปลี่ยนเป็นเถ้ากระดูกในเวลาไม่นาน การต่อสู้ทางด้านอิลิดันและฮอรัสยิ่งมายิ่งดุเดือด ดาบคู่จันทร์เสี้ยวของอิลิดันปะทะเข้ากับหอกของฮอรัสหลายครั้งครา ทุกครั้งที่ปะทะก็จะเกิดคลื่นกระแทกสาดกระจายใส่ผู้ที่อยู่โดยรอบ “จงตายเสียให้หมด เป็นกระดูกผุเฝ้าที่นี่ไปซะ” ขณะที่ทั้งหมดต่างก็รบติดพันกันอยู่นั้นเอง ออกุสตุสก็พึมพำออกมาด้วยแววตาเย็นเยียบ ไม่มีผู้ใดทันสังเกตว่าออกุสตุสถอยไปยังพื้นที่ถูกปูเป็นตารางตั้งแต่เมื่อใด ออกุสวางมือลงไปยังตำแหน่งหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าพื้นเหล่านี้กลไกบางอย่าง เมื่อใช้น้ำหนักกดทับลงไปก็จะเป็นการเริ่มกลไก เมื่อออกุสตุสกดลงไปแล้ว บริเวรแถบนั้นก็สั่นสะเทือนเบาๆ แต่เป็นเพราะทุกคนต่างจดจ่อกับการต่อสู้ของตน ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดทันสังเกตพบการสั่นสะเทือนเล็กน้อยนี้ ครืน… ไม่นานพื้นดินก็สั่นสะเทือนแรงขึ้นเรื่อยๆจนทุกคนรู้สึกได้ กระนั้นกลับสายไปเสียแล้ว ที่บนฟ้าปรากฏม่านแสงขนาดใหญ่คลอบคุลมลงมา “นั่น…นั่นมันอะไร?” ฝ่ายมนุษย์เริ่มหวาดวิตก พวกเขามาอยู่ต่างถิ่นต่างแดน หากประมาทเลินเล่อก็อาจต้องทิ้งสังขารไว้ที่นี่ เห็นม่านแสงปรากฏขึ้น กะโหลกกูดาลก็พุ่งขึ้นฟ้าก่อนจะตะคอกใส่ออกุสตุส “นั่นเจ้ากำลังทำอะไร?” ได้ยินเสียงตะโกนของกูดาล ทั้งหมดก็พลันจับจ้องไปยังออกุสตุส ดูเหมือนสองออร์คนี่จะทะเลาะกันเองเสียแล้ว ออกุสตุสพลันโค้งตัวก่อนจะกล่าวอย่างนอบน้อม “ข้าเพียงใช้กลไกเวทเพื่อกักขังมนุษย์โสโครกพวกนี้ขอรับ” กูดาลแค่นเสียงเย็น “อย่างนั้นหรือ? แต่ใยข้าจึงรู้สึกว่าวงเวทพวกนั้นคล้ายมีเป้าหมายอยู่ที่ข้าด้วย?” แม้ออกุสตุสจะตกใจ หากแต่ยังคงรักษาสีหน้าไว้ได้ “นายท่านผู้สูงส่ง ข้าภักดีต่อท่านสุดหัวใจ ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?” “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้อุบายชั้นต่ำนั่น เจ้าคงวางแผนคิดควบคุมข้าไว้นานแล้ว หากควบคุมข้าได้ พวกออร์คปีศาจก็จะเชื่อฟังเจ้า จากนั้นเจ้าคงคิดครองทวีปเสียเอง” “นายท่าน ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าจะคิดคดทรยศต่อท่านได้อย่างไร? ข้าภักดีต่อท่านเสมอ!” ออกุสตุสกล่าวตอบอย่างระมัดระวัง หากแต่ร่างกายกลับค่อยๆถอยร่นไปยังมุมหนึ่ง กูดาลไม่ตอบคำ มันพลันร่ายเวทเพื่อสะกดออกุสตุสเอาไว้ “เอ๊ะ…..” เมื่อเห็นออกุสตุสสลัดหลุดจากเวทของตนได้ กูดาลก็พลันพุ่งกะโหลกของมันไปกระแทกออกุสตุส เปรี้ยง!…. ในแววตาของออกุสตุสฉายแววหวาดหวั่น ทว่าพริบตาถัดมาแววตาของมันก็เปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง นิ่งจนน่ากลัว… “ได้ร่างแล้ว!” รอยยิ้มลี้ลับปรากฏขึ้นบนใบหน้าของออกุสตุส