ชายชุดดำลงมือปล่อยฝ่ามือใส่หลิงฮัน
หลิงฮันไม่หลบไม่แม้น้อยและยอมให้อีกฝ่ายโจมตีพร้อมกับกล่าวอย่างสงบนิ่ง “เจ้าอยู่ในการควบคุมของข้า ถ้าข้าต้องการให้เจ้ารอดเจ้าก็จะรอด ถ้าข้าต้องการให้เจ้าตายเจ้าก็มีชะตากรรมเดียวคือความตาย”
‘ปัง’ ฝ่ามือที่ทรงพลังกระแทกเข้าใส่ แต่หลิงฮันกลับไม่ขยับถอยหลังแม้แต่ครึ่งก้าว
“เป็นไปได้อย่างไร!” ชายชุดดำตกตะลึงจนขนหัวลุก สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันเกินจินตนาการของเขาเกินไป
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ยินดีต้อนรับสู้โลกของข้า”
“ภาพลวงตา นี่ต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ!” ชายชุดดำขยับถอยหลัง เมื่อครู่นี้เขาหมดสติไปชั่วขณะ ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากว่าเขาอาจจะทำให้ถูกตกอยู่ในกลลวงของภาพลวงตา
หลิงฮันก้าวเดินไปข้างหน้าและกล่าว “แปลกจริงๆ ข้าว่าข้าก็ไม่ค่อยไปหาเรื่องอะไรกับคนอื่น แต่ทำไมคนอื่นถึงชอบบังคับให้ข้าใช้ความรุนแรงกัน?”
‘ครืนนน’ ภูเขาขนาดมหึมาปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและพุ่งเข้าใส่ชายชุดดำ
ชายชุดดำถูกภูเขาทับโดยไม่สามารถขยับตัวได้และนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น
“อ้ากกก” ชายชุดดำกรีดร้องพร้อมกับกระดูกที่แตกหัก หลิงฮันขยับมือยกภูเขาขึ้นมาเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตกตาย
หลิงฮันขยับมืออีกครั้ง ทันใดนั้นผ้าปิดหน้าสีดำของชายชุดดำก็หายไปแสดงให้เห็นใบหน้าที่ไม่ต่างอะไรจากคนปกติทั่วไป
หลิงฮันนั่งลงที่พื้นและกล่าว “เจ้าเป็นนักฆ่า?”
ชายชุดดำส่งเสียงโอดโอย ด้วยการที่เป็นนักฆ่าเขาย่อมได้รับการฝึกฝนเพื่อทนต่อการทรมานมาหลายรูปแบบ ดังนั้นถึงแม้จะเจ็บปวดเขาก็ไม่ร้องขอความเมตตาแม้แต่น้อย
หลิงฮันยิ้ม “ที่นี่ข้าคือพระเจ้าที่แท้จริง หากข้าคิดจะทำอะไรก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ข้าจะแสดงวิธีทรมานที่เจ้าคิดไม่ถึงให้เห็นเอง”
เขาลงมือทรมานชายชุดดำทันที เขาต้องรีบบ่มเพาะพลังเพราะงั้นเลยไม่อาจเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์
ชายชุดทำทนต่อการทรมานได้ครึ่งวันก็ต้องยอมแพ้
ในหอคอยทมิฬความเจ็บด้วยที่ได้รับนั้นมากกว่าที่เขาเคยฝึกหลายร้อยเท่า
“ชื่อของข้าคือเหมิงอี่ ข้าเป็นนักฆ่าจากสมาคมราตรีนิรันดร์…” เขากล่าวในขณะที่แววตาเลือนลอยราวกับคนบ้า
หลิงฮันฟังข้อมูลจากอีกฝ่ายและได้รู้ว่ามีคนเสนอผนึกก่อเกิดหนึ่งหมื่นก้อนต่อสมาคมราตรีนิรันดร์เพื่อแลกกับชีวิตของเขา
เงินค่าหัวจำนวนเท่านี้เป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากสำหรับการเอาชีวิตของจอมยุทธระดับทลายมิติ หลิงฮันเชื่อว่าต้องมีนักฆ่าระดับภูผาวารีขั้นต้นหรือแม้แต่ขั้นกลางมากมายที่ต้องการชีวิตของเขาเพื่อแลกกับเงินก้อนโต
เหมิงอี่เป็นเพียงนักฆ่าระดับล่างสุด แน่นอนว่าเขาย่อมไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง
“บางทีอาจจะเป็นตระกูลหัว จ้าวหลุน ตระกูลสุ่ย หรือไม่ก็ใครที่อิจฉาข้า” หลิงฮันจับคางครุ่นคิดก่อนที่จะหัวเราะออกมา เขาเพิ่งจะขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่นานแต่กลับมีคนจ้างนักฆ่ามาไล่สังหารเขาเสียแล้ว
หลิงฮันออกจากหอคอยทมิฬโดยทิ้งนักฆ่าไว้ข้างใน แน่นอนว่าอีกฝ่ายโดนเขาปล้นทรัพย์เรียบร้อยแล้ว ทรัพยากรที่ยึดมาได้คือผลึกก่อเกิดหกสิบสี่ก้อน ลูกศรสิบเจ็ดดอกและขวดเม็ดยาหลายอย่างเจ็ดขวด
“เป็นถึงระดับภูผาวารี นี่เขาจะไม่จนไปหน่อยรึไง?” หลิงฮันส่ายหัว
แต่ที่เขาไม่รู้เลยคือเมิงอี่ได้ใช้ทรัพสินย์มากมายไปกับการหลอมลูกศรและซื้อขวดเม็ดยาเหล่านี้
หากเขานำพวกมันไปขายเขาจะได้ผลึกก่อเกิดมาหลายร้อยก้อนเลยทีเดียว
ต้องรู้ก่อนว่าสำนักนภาสีชาดนั้นมอบผลึกก่อเกิดให้ต้นอ่อนอัจฉริยะอย่างหลิงฮันเพียงแค่สองก้อนต่อเดือนเท่านั้น
ครั้งนี้สมาคมราตรีนิรันดร์ทำภารกิจล้มเหลว แต่พวกเขาจะต้องไม่ยอมแพ้แค่นี้แน่นอน ครั้งหน้าพวกเขาจะต้องส่งนักฆ่าที่แข็งแกร่งกว่านี้มาแน่นอน
เขารู้จากเหมิงอี่ว่าสมาคมราตรีนิรันดร์นั้นเป็นสมาคมที่แข็งแกร่งมาก พวกเขามีสาขาย่อยมากมายในแต่ละจักรวรรดิและเมือง
สมาคมราตรีนิรันดร์นั้นแบ่งระดับนักฆ่าเป็นหกระดับคือ ต่ำ กลาง สูง ทองแดง เงิน ทอง ระดับของนักฆ่านั้นไม่ได้แบ่งโดยระดับพลังแต่เป็นจำนวนของเป้าหมายที่พวกเขาสังหารมา
ยิ่งนักฆ่าคนใดสังหารเป้าหมายมาเยอะ ระดับของพวกเขาก็จะยิ่งสูง
ดังนั้นก็อาจจะมีกรณีที่นักฆ่าระดับกลางแข็งแกร่งกว่านักฆ่าระดับทองแดง
“แม้จะรู้สึกไม่ดีที่ถูกคนไล่ล่า แต่ข้าจะทำอะไรได้?” หลิงฮันกำหมัดแน่น เขารู้จะแก้ปัญหานี้ยังไงและทำได้เพียงระวังตัวให้มากที่สุด
เมื่อกลับมาถึงสำนัก หลิงฮันก็ปัดความกังวลทิ้งและใช้สมาธิไปกับการบ่มเพาะพลัง เขาเชื่อว่าสมาคมราตรีนิรันดร์จะไม่สามารถลงมือในสำนักได้แน่นอน ยิ่งกว่านั้นเขาก็ยังมีหอคอยทมิฬที่จะช่วยชีวิตเขาในยามคับขัน
วันเวลาผ่านไปสามวันหลิงฮันก็ถูกผ้าอาวุโสฝ่ายซ้ายเรียกตัว การประลองระดับสามจักรวรรดิราชวงศ์กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ดังนั้นจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะจึงต้องจัดหาผู้เข้าร่วม
การประลองนี้เป็นการประลองที่ยิ่งใหญ่มากต่อจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ หากอัจฉริยะที่ส่งไปประลองทำตัวเสียหน้า ราชวงศ์ดวงดาราหายนะก็จะเสียหน้าไปด้วย
หลิงฮันมุ่งหน้าไปยังที่พักของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายก่อนและอีกฝ่ายถึงจะพาเขาไปยังที่พักของราชินีที่เก้า
ราชินีที่เก้ามีชื่อว่าหูเฟยหยินสิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือราชินีคนนี้มีพลังบ่มเพาะเพียงระดับภูผาวารีขั้นกลางเท่านั้น
ราชินีทั้งเก้าคือคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าสองผู้อาวุโสและเจ็ดนายพล แต่หูเฟยหยินคนนี้กลับมีพลังแค่ระดับภูผาวารีขั้นกลาง เช่นนี้แล้วทำไมพวกเขายังต้องเชื่อฟังนาง?
นั่นเพราะมีจักรพรรดินีดวงดาราอยู่
เมื่อประมาณเจ็ดแสนปีก่อนจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะเคยมีแม่ทัพอยู่แปดคน ในตอนนั้นราชินีที่เจ็ดยังมีพลังบ่มเพาะเพียงระดับภูผาวารีจึงถูกแม่ทัพผู้หนึ่งกลั่นแกล้ง
ผลลัพธ์ก็คือจักรพรรดินีดวงดาราเกรี้ยวกราดและสังหารแม่ทัพทิ้งด้วยมือตนเอง ตระกูลของแม่ทัพผู้คนก็ถูกกวาดล้างไปด้วย!
ตั้งแต่นั้นมาทุกคนจึงให้ความเคารพต่อเก้าราชินีอย่างมาก เพราะว่าจักรพรรดินีได้กล่าวเอาไว้ว่าให้มองพวกนางทั้งเก้าเหมือนกับที่มองพระองค์!