ตอนที่ 932

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ที่พักของราชินีที่เก้าคึกคักอย่างมาก ทุกคนมารวมตัวกันที่สวนของที่พัก เก้าอี้มากมายถูกนำมาตั้งไว้ชั่วคราว นอกจากตัวตนระดับสูงแล้ว จอมยุทธระดับทลายมิติอย่างหลิงฮันล้วนแต่ต้องยืน

จอมยุทธระดับทลายมิติที่มารวมตัวกันมีมากกว่าร้อยคน แต่คนที่จะได้เป็นตัวแทนมีเพียงสิบคนเท่านั้น การแข็งขันแย่งตำแหน่งนั้นดุเดือดมาก

หลี่เหว่ยเหว่ยเองก็มา เนื่องจากสถานะของนางนั้นสูงส่งนางจึงก็กลายเป็นจุดสนใจเช่นกัน ชายใดที่สามารถกลายเป็นลูกเขยของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายได้ย่อมมีอนาคตที่สดใส

หลิงฮันนั่งลงตรงมุมหนึ่งของสวนที่มีหินตั้งอยู่และปิดตาลง เขาดูดซับพลังวิญญาณเพื่อบ่มเพาะพลังโดยทักษะหกธาตุผสานเป็นหนึ่ง

ถึงแม้ทักษะนี้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เวลาเสียไปเปล่าๆ

“ฮ่าๆๆ หากมีข้า หยางซื่อผู้นี้ จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะของเราจะต้องได้อันดับหนึ่งเป็นแน่!” รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งกล่าวลั่นด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

“เขาเป็นใครกัน?” ใครบางคนเอ่ยถาม

“โอ้ เขาคือหยางซื่อ จอมยุทธระดับทลายมิติที่ขัดเกลาพลังต่อสู้บรรลุขีดจำกัดยี่สิบดาว”

“โอ้!”

แม้หลัวป้าที่มีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวจะถูกหลิงฮันสังหารได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะหรืออาจจะทั่วทั้งดาวดวงนี้ จอมยุทธระดับทลายมิติยี่สิบดาวก็ยังถือว่าแข็งแกร่งมากอยู่ดี มีอัจฉริยะไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถบรรลุได้

ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าหยางซื่อมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาว ทุกคนถึงสูดหายใจลึกและรู้สึกสนใจ

หม่าชิงมาที่นี่เช่นกัน เขาถูกเลือกให้มาที่นี่โดยผู้อาวุโส เพราะอย่างไรออร่าราชาของเขาก็เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง เขาเดินไปหาหลิงฮันและกล่าว “พวกเขาสามารถนั่งและกินดื่มได้ ส่วนพวกเราทำได้เพียงยืนดู ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก”

หม่าชิงหมายถึงผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและตัวตนระดับสูงคนอื่นๆ

หลิงฮันยิ้ม แม้จะมีคนที่ตะกละอยู่ในโลกนี้มากมาย แต่หม่าชิงผู้นี้แม้จะในสถานะเช่นนี้เขาก็ยังพูดถึงเรื่องกินออกมาได้ คนแบบนี้หาได้ไม่มากนัก

“ราชินีที่เก้ามาแล้ว!” ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงของคนรับใช้สาวตะโกน น้ำเสียงของนางก้องกังวานและทรงพลังเพราะคนรับใช้นางนี้เป็นถึงจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา

ทุกคนรีบยืนตรง แม้แต่ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาก็ไม่มีข้อยกเว้น เจ็ดแม่ทัพเองก็เช่นกัน

องค์จักรพรรดินีเคยกล่าวไว้ว่าให้มองเก้าราชินีให้เหมือนกับที่มองนาง เพราะงั้นใครกันจะกล้านั่งเฉย?

ภายใต้สายตาของทุกคน สตรีชุดม่วงก็เดินเข้ามาผ่านประตูทางเข้าสวน

นางดูไม่ต่างอะไรกับสตรีที่มีอายุสิบแปดสิบเก้าปี นางสวมกระโปรงยาวและมีรูปร่างที่เย้ายวน ความโค้งเว้าของร่างกายนางทำให้นางดูน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก

สตรีผู้นี้งดงามไม่ด้อยไม่กว่าสุ่ยเยี่ยนยวี่เลย แต่ดูเหมือนนางจะมีนิสัยที่ประหม่า เมื่อถูกผู้คนมากมายจ้องมอง ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและทำท่าทีเขินอาย

นางเคอะเขินเล็กน้อยก่อนที่จะเดินมาถึงตำแหน่งที่นั่งของนาง นางโบกมือให้ทุกคนและกล่าว “ทุกคน ไม่ต้องมากพิธี”

หลิงฮันอดหัวเราะในใจไม่ได้ เก้าราชินีคือตำแหน่งที่อยู่บนจุดสงสุดที่แม้แต่ผู้อาวุโสซ้ายขวายังต้องแหงนมอง แต่อีกฝ่ายกลับเป็นเด็กสาวที่หน้าบางเช่นนี้

ทุกคนไม่กล้าหยาบคาย พวกเขาทำความเคารพอีกครั้งก่อนจะนั่งลงด้วยความเลื่อมใส

“ยังเหลือเวลาอีกครึ่งเดือนก่อนที่การประลองระหว่างสามจักรวรรดิราชวงศ์จะเริ่ม วันนี้พวกเราต้องเลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อเข้าร่วมการประลอง” ราชินีที่เก้ากล่าว ถึงแม้ใบหน้าของจะยังเป็นสีแดงแต่นางก็ไม่หยุดพูด

“พี่สาวข้า… ไม่สิ องค์จักรพรรดินีมีคำสั่งให้เลือกจอมยุทธสิบคนเพื่อเป็นหน้าเป็นตาของจักรวรรดิ”

ผู้อาวุโสซ้ายไม่ประหลาดใจที่ราชินีที่เก้าจะเรียกจักรพรรดินีว่าพี่สาว

“งั้นก็เริ่มกันเลย” ราชินีที่เก้ากล่าว

นางเตรียมที่นั่งสิบที่เอาไว้ เวลาจำกัดในการเลือกผู้เข้าร่วมคือหนึ่งชั่วโมง เมื่อหมดเวลาสิบคนที่นั่งอยู่จะถือว่าเป็นตัวแทนของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ

กฎนั้นง่ายมาก แค่ยึดครองที่นั่งไว้ให้ได้ก็พอ

แต่เมื่อการคัดเลือกเริ่มต้นกลับไม่มีใครเลยที่เดินไปนั่งเก้าอี้

ถ้าเวลาที่จำกัดคือหนึ่งชั่วโมง งั้นหากนั่งคนแรกก็ต้องประลองเยอะกว่าน่ะสิ? เช่นนั้นแล้วทำไมไม่รอให้เวลาใกล้หมดค่อยลงมือล่ะ?

“พวกขี้ขลาด!” หยางซื่อเดินเข้าไปยังที่นั่งแรก

“ช้าก่อน!” หม่าชิงตะโกน “ข้าชอบที่นั่งนั้นมาก เจ้าเปลี่ยนไปที่นั่งอื่นซะ!”

“เหอะ ทำไมเจ้าไม่เลือกที่อื่นเองล่ะ?” หยางซื่อลงมือโจมตีใส่หม่าชิง

ดวงตาหม่าชิงหรี่ลง ออร่าราชาของเขาถูกปลดปล่อยออกมาและปล่อยหมัดออกไป

‘ตูม’ หมัดของทั้งสองคนเข้าปะทะกันทันที

พลังต่อสู้ของหม่าชิงคือสิบเก้าดาว หากรวมเข้ากับออร่าราชาของเขา พลังของเขาจึงไม่ด้อยไปกว่าพลังต่อสู้ยี่สิบดาวของหยางซื่อ

คนอื่นที่เห็นเช่นนั้นก็เริ่มลงมือแย่งที่นั่งหลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่

หลิงฮันไม่เคลื่อนไหวใดๆ จอมยุทธระดับทลายมิตินั้นไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำให้เขาลงมือ เขาคร้านที่จะไปแย่งชิงกับคนอื่นและปิดตายืนอยู่นิ่งๆ เขาตั้งใจรอให้เวลาใกล้หมดก่อนถึงจะลงมือ

“หลิงฮัน เจ้าไม่ลงมืองั้นรึ?” เสียงเบาๆเสียงหนึ่งดังขึ้นในหูของเขา ถึงแม้เสียงนั่นจะเบาแต่มันก็ดังก้องไปถึงสติของเขาราวกับฟ้าผ่า

นี่คือเสียงของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย

เมื่อหลิงฮันหันมองเขากลับพบว่าผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายไม่ได้มองมาที่เขาแม้แต่น้อย

ดูเหมือนการที่เขานิ่งเฉยจะทำให้ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายไม่พอใจและส่งสัมผัสสวรรค์มาเตือนเขา

เห้อ ข้าคงต้องลงมือแล้ว

หลิงฮันก้าวเดินไปด้านหน้าและบิดไหล่ราวกับกำลังเป็นสัญญาณว่าเขาจะลงมือแล้ว

ปากของหลิงฮันโค้งเป็นรอยยิ้มก่อนที่มือของเขาจะอ้าออกและควบแน่นพลังอันไร้ที่สิ้นสุด

ทันใดนั้นเอง สายตาของตัวตนระดับสูงทุกคนก็จ้องมาที่เขา