บทที่ 1605 กักขังเชลย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1605 กักขังเชลย

 

เค้าโครงคร่าวๆของความจริงปรากฏขึ้นในใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้

 

“ ท่ามกลางอสูรเหล่านี้ เป็นไปได้ที่จะมีอสูรปีแรกกําเนิดและไม่ใช่จํานวนน้อยๆ ฟางหยวนสามารถใช้ประโยชน์จากพวกมัน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีมรดกที่แท้จริงของนิกายเงา ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ดักจับสมาชิกตระกูลของพวกเราเป็นหนึ่งในความสามารถของเขา”

 

จื่อชิวหยูหยุดก่อนกล่าวต่อด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น “ข้าเพียงไม่เข้าใจบางสิ่ง หากมิติช่องว่างถูกวางลง เป็นธรรมดาที่คนนอกจะไม่สามารถตรวจสอบ แต่ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ซ่อนอยู่ เซี่ยชาและลั่วเว่ยหยินจะไม่ตระหนักถึงมันได้อย่างไร?”

 

ความสามารถในการปกปิดของค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาด้อยกว่าเส้นทางแห่งภูตผี เส้นทางแห่งห้วงมิติ หรือเส้นทางแห่งการโจรกรรม

 

เซี่ยชาตกลงสู่กับดักและต้องต่อสู้กับฝูงอสูรปีก่อนจะถูกจับเป็นเชลยเพราะอาณาจักรแห่งความฝัน สิ่งนี้สามารถเข้าใจได้

 

อย่างไรก็ตาม..

 

สิ่งที่ผิดปกติที่สุดคือเหตุใดพวกเขาถึงไม่พบสิ่งใดและตกลงสู่กับดักของฟางหยวนตั้งแต่แรก

 

กระทั่งจื่อชิวหยูปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลยังรู้สึกสับสน

 

ไม่ใช่ว่าไม่มีวิธีปกปิดค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่มันเป็นเรื่องยาก

 

จื่อชิวหยูไม่เคยได้ยินว่ามีค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่สามารถซ่อนตัวจากผู้อมตะระดับแปดถึงสองคน

 

“อาณาจักรแห่งความฝันกําลังสลายไป มีบางคนอยู่ข้างใน!” บางคนอุทาน

 

การเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรแห่งความฝันดึงดูดความสนใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ทันที 

 

ในไม่ช้าร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เขาก็คือลั่วเว่ยหยิน!

 

เขาวางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าอก ดวงตาปิดสนิทและไม่เคลื่อนไหว

 

แต่หลังจากอาณาจักรแห่งความฝันสลายไปจนหมด เขาก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

 

“พวกเจ้า” การแสดงออกของลั่วเว่ยหยินเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นวูหยงและคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็กวาดตามองไปรอบๆและอุทาน “โอ้ ไม่!”

 

“ท่านลั่วเว่ยหยิน โปรดอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย!”

 

“ถูกต้อง ผู้อมตะของตระกูลข้าตกอยู่ในมือของฟางหยวนจริงๆงั้นหรือ?”

 

“เดี๋ยว! เรายังไม่สามารถยืนยันตัวตนของเขา!”

 

“เรามาพิสูจน์ตัวตนของเขากันก่อน ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและวิธีหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน” วูหยงกล่าวขณะที่จื่อชิวหยูเงียบ

 

จากนั้นวูหยงกับจื่อชิวหยูก็ปิดล้อมลั่วเว่ยหยินเอาไว้

 

ลั่วเว่ยหยินตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า “เชิญ”

 

ผู้อมตะภาคใต้มีวิธีการตรวจสอบเฉพาะตัว นอกจากนั้นพวกเขายังไม่ได้ใช้เพียงวิธีเดียว

 

หลังจากไม่นานการแสดงออกของวูหยงและคนอื่นๆก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย พวกเขาสามารถยืนยันว่าลัวเว่ยหยินผู้นี้ไม่ใช่ฟางหยวนที่ปลอมตัวมา

 

หลังจากนั้นยั่วเว่ยหยินก็เล่าสิ่งที่เขารู้ให้ทุกคนทราบ

 

เมื่อเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้กลายเป็นซีดเผือด พวกเขาตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

 

ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจ “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ข้าไม่มีท่าไม้ตายสายโจมตีและทําได้เพียงเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น หากข้าไม่มีวิธีปกป้องตนเองจากอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าอาจตกอยู่ในมือของฟางหยวนเช่นกัน”

 

“ลืมมันไปเถอะ เราจะกลับกันก่อน” จูหยงชําเลืองตามองลั่วเว่ยหยินอย่างลึกซึ้งก่อนที่เขาจะสะบัดแขนเสื้อและเข้าไปในบ้านไม้ไผ่สายลม

 

ไม่นานหลังจากกลุ่มผู้อมตะภาคใต้จากไป แสงลึกลับก็พุ่งเข้ามาและกลายเป็นจวินเฉินกวงแห่งวังสวรรค์

 

จวินเฉินกวงตรวจสอบร่องรอยในสนามรบและขมวดคิ้วพึมพํา “ค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ลึกลับมาก มันไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งภูตผี เส้นทางแห่งห้วงมิติ หรือ เส้นทางแห่งการโจรกรรม มันไม่ใช่ค่ายกลวิญญาณอมตะที่หลอมรวมหลายเส้นทางแต่เป็นเส้นทางแห่งกาลเวลาเท่านั้น อย่างไรก็ตามมันกลับสามารถปกปิดตัวเองจนถึงระดับที่เซี่ยชาและลั่วเว่ยหยินไม่สามารถสัมผัสได้”

 

ผู้อมตะระดับแปดล้วนมีรากฐานที่ลึกล้ำ

 

ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ย เซี่ยชาย่อมมีวิธีการมากมาย ขณะที่ลั่วเว่ยหยินเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ แต่ทั้งคู่กลับไม่ตระหนักถึงการคงอยู่ของค่ายกลวิญญาณอมตะและทําให้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกลงสู่กับดัก

 

จวินเฉินกวงตรวจสอบหลายครั้งและยืนยันว่าไม่มีเบาะแสอื่นก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะในรูปลักษณ์ของปราสาทขนาดใหญ่ที่เรืองแสงสีเงินลอยอยู่ในสวรรค์เขียวน้อย

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนและสมาชิกนิกายเงาลอยอยู่รอบๆค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ พวกเขากําลังเฝ้ามองเชลยที่อยู่ภายในอย่างใกล้ชิด

 

เชลยเหล่านี้คือกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ที่ถูกฟางหยวนซุ่มโจมตีและจับกุม ไม่ว่าจะเป็นเฉิงหูจาง ไท่ชิวจง หยางกู่ และผู้อมตะระดับเจ็ดคนอื่นๆ พวกเขาถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนา ดวงตาของพวกเขาปิดขณะที่พวกเขาติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

เชลยที่แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อมตะระดับแปดเซี่ยชา

 

กายาแห่งความฝันจะถูกกัดกร่อนเมื่อพวกมันอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน แต่เมื่อพวกมันออกมา พวกมันสามารถฟื้นตัวทันที แต่ร่างกายของผู้อมตะแตกต่างออกไป แม้ร่างกายของพวกเขาจะออกมาจากอาณาจักรแห่งความฝันเรียบร้อยแล้วแต่ดวงวิญญาณของพวกเขาอาจยังไม่สามารถออกมา

 

นี่เป็นเหตุผลที่ฟางหยวนสามารถจับเชลยเหล่านี้และนําพวกเขาเข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ในยุคปัจจุบันท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางสายเก่าไม่ส่งผลกระทบต่ออาณาจักรแห่งความฝัน กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะหอคอยดวงตาสวรรค์ยังสลายตัวเมื่อมันติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ผู้อมตะจะพบกับความยากลําบากหากต้องเผชิญหน้ากับอาณาจักรแห่งความฝัน

 

แต่ฟางหยวนมีวิธีพิเศษ นั่นคือกายาแห่งความฝัน

 

เขาใช้กายาแห่งความฝันเพื่อเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันและนําร่างของผู้อมตะภาคใต้ออกมาก่อนจะเก็บไว้ในมิติช่องว่างของเขา

 

จากนั้นอาณาจักรแห่งความฝันในสนามรบก็ถูกเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝันอีกครั้งและถูกนํากลับมา

 

นี่ทําให้เขาสามารถเก็บกวาดสนามรบได้อย่างรวดเร็วก่อนจะจากมา

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาขมวดคิ้วเล็กน้อย “แม้เราจะใช้อาณาจักรแห่งความฝันกักขังผู้อมตะเหล่านี้ มันก็ยังมีความเสี่ยงสูง หากบางคนตื่นขึ้นและสร้างความเสียหายให้กับมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันจะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่

 

สําหรับผู้อมตะ มิติช่องว่างของพวกเขาเป็นรากฐานที่สําคัญ การนําผู้อมตะเหล่านี้เข้ามามีความเสี่ยงสูงมาก

 

“ทักษะหนึ่งปกครองโลก ในปัจจุบันผู้อมตะส่วนใหญ่ไม่สามารถต่อต้านอาณาจักรแห่งความฝัน กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ยังพบกับหายนะหากเผชิญหน้ากับอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าต้องฉวยโอกาสนี้ขโมยวิญญาณอมตะและทรัพยากรของพวกเขา จากนั้นข้าจะใช้วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณแยกดวงวิญญาณของพวกเขาออกจากร่าง มีเพียงวิธีนี้ข้าถึงจะปลอดภัย”

 

ฟางหยวนคิดต่อไปถึงลั่วเว่ยหยิน

 

คนผู้นี้ติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันแต่กายาแห่งความฝันกลับไม่สามารถเข้าใกล้เขาและนําร่างของเขาออกมา

 

ชัดเจนว่าเขามีทักษะบางอย่างบนเส้นทางแห่งความฝัน!

 

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ฟางหยวนถูกลั่วเว่ยหยินซุ่มโจมตีและตกลงสู่กับดักสามชาติภพ นั่นเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งความฝันเช่นกัน

 

ลั่วเว่ยหยินไม่ได้เป็นเพียงผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพแต่เขายังมีความสามารถล้ำยุคและมีวิธีบนเส้นทางแห่งความฝันอย่างน้อยสองวิธี นี่เกือบเท่ากับฟางหยวน

 

วิธีบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวนมีเพียงท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝัน และท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนวิญญาณในความฝัน

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงต้องยอมแพ้ในการจับกุมลั่วเว่ยหยิน แม้เขาจะสามารถนําร่างของลั่วเว่ยหยินออกมา แต่เขาก็ไม่กล้าเสี่ยง ผู้ใดจะรู้ว่าคนผู้นี้ยังมีวิธีการบนเส้นทางแห่งความฝันใดอยู่อีก ในกรณีที่เขาตื่นขึ้นในมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันจะกลายเป็นการนําหมาป่าเข้าบ้านและไม่สามารถขับไล่ออกไป

 

“เห้อ…ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าวันหนึ่งผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังเหล่านี้จะกลายเป็นเชลยของเรา” เทพธิดาเมี่ยวหยินถอนหายใจ

 

แม้นางจะเป็นหนึ่งในเทพธิดาที่งดงามที่สุดของภาคใต้แต่นางก็เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษและถูกคุกคามโดยฝ่ายธรรมะมาตลอด นางมีความเกลียดชังอย่างลึกซึ้งต่อผู้คนเหล่านี้

 

“น่าเสียดายที่น้องสาวกระต่ายขาวเสียชีวิต เห้อ…” เทพธิดาเมี่ยวหยินกล่าวด้วยความโศกเศร้า

 

หลังจากเข้าร่วมกับนิกายเงา นางสนิทกับเทพธิดากระต่ายขาวมากเพราะนางชอบความตรงไปตรงมาของฝ่ายหลัง

 

เทพธิดากระต่ายขาวได้รับมรดกเสือดําและจะกลายเป็นนางเสือดําที่มีการบ่มเพาะระดับเจ็ดในสถานการณ์คับขัน น่าเสียดายที่นางเผชิญหน้ากับท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อนของเซี่ยชา นางไม่มีเวลาตอบสนองและเสียชีวิตทันที

 

ฟางหยวนไม่สามารถช่วยนาง หลังจากทั้งหมดวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้าก็เป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหกและไม่สามารถกู้คืนชีวิต

 

กระทั่งร่างหลักของฟางหยวนก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในขณะนี้

 

มีเพียงไป่หนิงปิงที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

ในช่วงเวลาสําคัญนางกลายร่างเป็นไปเซียง แม้ร่างกายของนางจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่ร่างไปเซียงสามารถฟื้นฟูตัวเองจากเศษชิ้นส่วนที่เหลืออยู่

 

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่เคยสั่นคลอนภาคใต้มาแล้ว

 

อย่างไรก็ตามการแสดงออกในปัจจุบันของไป่หนิงปิงก็ไม่น่าดูนัก

 

นางมองเชลยและคิดกับตนเอง กระทั่งข้าจะใช้ร่างไปเซียง ข้าก็ยังไม่สามารถหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน แปลก เหตุใดฟางหยวนไม่ใช้วิธีนี้จัดการข้า เขามีวิธีจัดการข้อตกลงพันธมิตรแล้วงั้นหรือ? หากข้าเป็นเขา…”

 

ไป่หนิงปิงรู้สึกถึงแรงกดดัน

 

ท้ายที่สุดนางก็ไม่ใช่สมาชิกนิกายเงา นอกจากนั้นตอนนี้นางยังอยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน นี่เหมือนกับอยู่ในฐานทัพใหญ่ของผู้อื่น

 

โดยเฉพาะพลังการต่อสู้และวิธีการต่างๆที่ทรงพลังของฟางหยวน มันยิ่งกดดันไป่หนิงปิงมากขึ้นไปอีก

 

“เอาล่ะ อิงอู๋เซี่ย เจ้าจะอยู่ที่นี่ ข้าจะให้เจ้ายืมวิญญาณ ช่วงนี้เจ้าจะเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นรีบใช้กายาแห่งความฝันและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝันเพื่อทําให้คนเหล่านี้นอนหลับต่อไป”

 

“จิตวิญญาณค่ายกลปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้ดี หากเกิดเหตุร้ายขึ้นกับค่ายกลวิญญาณอมตะ แจ้งข้าทันที”

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนออกคําสั่ง

 

“รับทราบ ท่านผู้นํา”

 

“เข้าใจแล้ว นายท่าน”

 

ด้วยการดูแลของอิงอู๋เซี่ยและจิตวิญญาณค่ายกล มันเพียงพอแล้วที่จะทําให้ฟางหยวนรู้สึกผ่อนคลายลง