คำพูดของโยวเอ๋อร์ ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าหนานกงจื่อหลิงไม่ได้โหก
ทว่าหนานกงอ๋าวก็ยังคงรู้สึกไม่ชอบมาพากล เพียงแต่ว่าบอกไม่ถูกว่าไม่ชอบมาพากลตรงไหนเท่านั้นเอง
“เจ้ากลับออกไปเถอะ!”
หนานกงอ๋าวพินิจพิจารณารูปภาพของคนทั้งสี่อยู่เป็นครึ่งค่อนวัน คนเหล่านี้หน้าตาไม่เหมือนกับเจ้าปีศาจน้อยสักนิด ‘หรือว่าเจ้าปีศาจน้อยปลอมตัว?’
แต่ไม่ว่าหนานกงอ๋าวจะคิดจนหัวแทบแตกอย่างไรก็คาดเดาไม่ออกว่า ซย่าโหวฉิงเทียนนั่นเองก็คือเจ้าปีศาจน้อยที่เขาเฝ้าตามหาด้วยความยากลำบาก
ส่วนซย่าจื่ออวี้เมื่อกลับออกไปจากห้องหนังสือของหนานกงอ๋าว ก็ตรงเข้าไปหาหนานกงจื่อหลิงที่ห้อง
เพียงแค่ย่างก้าวเข้าประตูก็ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของหนานกงจื่อหลิงแว่วดังมา
เมื่อก้าวเข้าไปเห็นหนานกงจื่อหลิงกำลังนอนร้องไห้ ทำให้ซย่าจื่ออวี้ก็รู้สึกผิดไม่น้อย
นางเห็นลูกชายสำคัญกว่าลูกสาวจริงๆ เพราะไม่ว่าอย่างไรหนานกงจื่อหลิงก็ต้องแต่งงานออกไป เป็นลูกสะใภ้ของคนอื่น คนที่จะสืบทอดตระกูลหนานกงต่อไปก็คือหนานกงเช่อ แล้วคนที่จะเลี้ยงดูนางยามแก่เฒ่าไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตก็คือลูกชาย แน่นอนว่านางย่อมต้องเอนเอียงรักลูกชายมากกว่ามากหน่อย
ทุกบ้านก็เป็นเช่นนี้นี่นา!
‘มีลูกชายเอาไว้เลี้ยงดูยามแก่เฒ่า ลูกสาวคือน้ำที่ถูกสาดออกไปอยู่วันยังค่ำ’
แล้วหนานกงจื่อหลิงจะต้องเสียใจถึงเพียงนี้ไปทำไมกัน?
“หลิงเอ๋อร์——”
ซย่าจื่ออวี้พยายามข่มอารมณ์นั่งลงที่ข้างเตียง แล้วเอื้อมมือเข้าไปลูบศีรษะของหนานกงจื่อหลิง เอ่ยว่า
“ครั้งนี้เจ้าไม่พบเจ้าปีศาจน้อยจริงหรือ?”
ซย่าจื่ออวี้มาในครั้งนี้ ยังคงซักไซ้ถึงที่อยู่ของพี่ใหญ่ไม่เลิก ทำให้หนานกงจื่อหลิงเสียใจอย่างที่สุด
‘ลูกสาวคนนี้เป็นที่เท่าไหร่กันในใจของท่านแม่?’
ด้อยค่าราวกับขนนกใช่หรือไม่!
“ลูกตามหาพี่ใหญ่ไม่พบ!” หนานกงจื่อหลิงกอดผ้าห่มเอาไว้แน่น แอบร้องไห้อย่างเงียบๆ
นางอยากอยู่กับพี่ใหญ่อาซ้อ และเพื่อนๆทุกคนมากกว่า!
“หลิงเอ๋อร์ เจ้าอย่าโกหกแม่นะ! เจ้าเป็นเด็กดี ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยโกหกแม่มาก่อน!” ซย่าจื่ออวี้ยังคงใช้น้ำเย็นเข้าลูบ
หนานกงจื่อหลิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ
“ในเมื่อท่านแม่รู้ว่าลูกไม่มีวันโกหกท่านแม่ แล้วเหตุใดยังสงสัยลูกอยู่อีก? ลูกบอกว่าหาไม่พบก็คือไม่พบ!”
กล่าวจบหนานกงจื่อหลิงก็ม้วนตัวเข้าไปในผ้าห่ม ไม่ยอมโผล่ออกมาอีกเลย
“ท่านแม่ไม่เชื่อก็ช่างเถอะเจ้าค่ะ!”
ได้ยินเสียงร้องไห้ของหนานกงจื่อหลิง มือที่กำลังยื่นออกมาของซย่าจื่ออวี้ก็ชะงักค้างกลางอากาศ แล้วชักกลับเข้าไปอีกครั้ง
อย่างไรเสียหนานกงจื่อหลิงก็เป็นลูกในไส้ของนาง เห็นลูกน้อยใจถึงเพียงนี้ ซย่าจื่ออวี้จึงไม่อยากที่จะเค้นถามอะไรอีกต่อไป
รอให้หนานกงจื่อหลิงอารมณ์ดีกว่านี้เสียหน่อย ค่อยมาพูดคุยกันอีกครั้ง
ซย่าจื่ออวี้ครุ่นคิดอยู่ในใจ
หนานกงจื่อหลิงร้องไห้อีกครู่ใหญ่จนหลับไป เมื่อนางตื่นขึ้นมานั้นก็พบว่าหนานกงเช่ออยู่ในห้องของนาง ทำเอาหนานกงจื่อหลิงตกอกตกใจไม่น้อย
“พี่รอง…”
“ประคบดวงสักหน่อยเถอะ! ดวงตาของเจ้าบวมจนจะเป็นเต่าอยู่แล้ว!”
หนานกงเช่อหยิบผ้าห่อน้ำแข็ง วางประคบที่ดวงตาของหนานกงจื่อหลิงทันทีโดยไม่รอให้นางได้หลีกหนี
น้องสาวกลับมาแล้ว ทำให้หนานกงเช่อดีใจเป็นอย่างมาก!
ถึงแม้ว่าจะอยู่เหนือจากที่เขาคาดการณ์เอาไว้ เพราะเจ้าปีศาจน้อยไม่ได้กลับมาด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไร หนานกงจื่อหลิงกลับมาก็ดีแล้ว!
ได้ยินว่าหนานกงจื่อหลิงไม่ได้พบกับเจ้าปีศาจน้อย นี่ทำให้หนานกงเช่อดีใจยิ่งนัก!
หากพวกเขาไม่ติดต่อกันตลอดไปจะดีที่สุด!
เช่นนี้แล้วเขาก็จะได้เป็นพี่ชายที่แสนดีเพียงคนเดียวของน้องสาว ทำให้เจ้าปีศาจน้อยให้หายไปจากใจของหนานกงจื่อหลิงเสียที!
“กลับมาแล้วก็พักผ่อนให้มาก! ไว้เจ้าหายเหนื่อยเมื่อไหร่ พี่ค่อยมาเยี่ยมเจ้านะ!”
กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าของหนานกงเช่อเดินออกไป หนานกงจื่อหลิงถึงได้หยิบเอาผ้าขนหนูออกจากดวงตา
นางไม่รู้จริงๆว่าจะทำตัวอย่างไรกับพี่รอง
พี่ใหญ่พี่รองล้วนแต่เป็นพี่ชายของนางทั้งนั้น ถึงแม้ก่อนที่จะออกจากบ้านไป หนานกงจื่อหลิงจะทะเลาะกับหนานกงเช่อ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หนานกงจื่อหลิงละทิ้งความผูกพันฉันท์พี่น้องของนางและพี่รองที่มีมาตั้งหลายปีลงไปด้วย
นางไม่อยากให้หนานกงเช่อต้องตาย แต่ก็ไม่ต้องการให้ซย่าโหวฉิงเทียนบาดเจ็บ
ทั้งสองคนล้วนแต่เป็นพี่ชายของนาง หนานกงจื่อหลิงไม่อยากให้ใครต้องเกิดเรื่องทั้งสิ้น
หากว่าพี่ใหญ่กับพี่รองอยู่กันอย่างสันติ มันจะดีสักเพียงไหนกันนะ!
หนานกงจื่อหลิงคิดไปคิดมาสุดท้ายก็หลับไป
หนานกงจื่อหลิงหลับสนิท แต่หนานกงอ๋าวทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ
แท้ที่จริงแล้ว คนที่อยากให้เจ้าปีศาจน้อยตายมากที่สุดก็คือเขาต่างหาก
เขาแทบอยากจะให้มันตายตอนนี้ เดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ!
หนานกงอ๋าวเหลือบมองที่ข้อมือซ้าย สีหน้าเข้มขึ้นทันที
แม้ว่าเลือดสาบานในตอนนั้นไม่ได้ระคายผิวของเขา ไม่เหลือแม้กระทั่งร่องรอยให้เห็น แต่เขาก็ยังจดจำได้ดีถึงภาพที่หญิงที่เขารักที่สุดบังคับเขาอย่างไรบ้างก่อนที่นางจะตาย
“ท่านพี่อ๋าว ท่านต้องรับปากข้า ไว้ชีวิตเขา! ท่านจะไม่ทำร้ายเขา!”
นางกระอักเลือดสดๆออกมา นางใช้มีดเล่มยาวจ่อที่คอของตัวเอง ภาพนั้น หนานกงอ๋าวจะไม่มีวันลืมเลือนได้ชั่วชีวิต
หากมิใช่เขาที่ใจอ่อนชั่วขณะ ให้คำสัตย์สาบานด้วยเลือดออกไป เขาก็คงจะสังหารเจ้าปีศาจน้อยนั่นไปตั้งนานแล้ว!
สุดท้าย ชีวิตแลกชีวิต
นางใช้ชีวิตของตนเอง แลกกับคำสัญญาของหนานกงอ๋าว
ร่างกายของหญิงอันเป็นที่เขารักในอ้อมอกของเขาค่อยๆเย็นลงไปทีละน้อย ความรู้สึกที่แสนสลดหดหู่นั้นฝังลึกลงไปในจิตวิญญาณของหนานกงอ๋าวทีเดียว
เป็นเพราะไอ้มารหัวขนนั่น!
ยังมีพ่อที่บัดซบของมันอีกคน!
หากไม่มีพวกมัน นางก็คงได้เป็นเจ้าสาวของเขา มีลูกสาวลูกชายให้กับเขา และก็คงไม่ต้องตาย!
นางกงอ๋าวรักนางมากเท่าไหร่ ก็แค้นเคืองเจ้าปีศาจน้อยมากเท่านั้น!
เดิมทีหนานกงอ๋าวคิดจะยืมมือซย่าจื่ออวี้สังหารเจ้าปีศาจน้อยเสีย แต่ซย่าจื่ออวี้โง่เขลาเกินไป!
หลายปีที่ผ่านมา เขารึสู้อุตส่าห์ค่อยแอบผลักดันอย่างลับๆ ทำกระทั่งถึงขนาดว่าแอบช่วยเหลือนางอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ซย่าจื่ออวี้ก็ทำพลาดปล่อยให้เจ้าปีศาจน้อยหลบหนีไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ซย่าจื่ออวี้โง่งมจนกู่ไม่กลับจริงๆ!
ทั้งๆที่พวกนางเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกันแท้ๆ นางทั้งงดงามและเฉลียวฉลาด แต่ซย่าจื่ออวี้กลับโง่เง่าราวกับควายก็ไม่ปาน
เขาชักจะสงสัยเสียแล้วว่า ซย่าจื่ออวี้เป็นลูกสาวตระกูลซย่าจริงหรือเปล่า!
ลูบไล้ที่ข้อมือของตน หนานกงอ๋าวก็ยิ่งรู้สึกถึงการตัดสินใจอันแน่วแน่ของนางก่อนตายได้อย่างชัดเจน
ซย่าชิงอวี้ เจ้าทรยศหักหลังความรักของข้า แล้วยังจะให้ข้าไว้ชีวิตเจ้าเด็กนั่นอีก?
เพื่อที่จะปกป้องชีวิตของมันแล้ว เจ้าถึงกับยินยอมใช้ชีวิตของเจ้าบีบบังคับให้ข้าต้องหลั่งเลือดสาบาน…
ซย่าชิงอวี้ เจ้าคิดว่าทำเช่นนี้ทุกอย่างก็จะจบสิ้นอย่างนั้นหรือ?
เจ้าติดค้างข้ามากเกินไป มากเกินไปจริงๆ!
ข้าไม่รับปาก!
ไอ้เด็กนั่นจะต้องตายสถานเดียว!