TB:บทที่ 219 ปีใหม่กำลังจะมาถึง

 

ผลที่ตามมาก็เหมือนอย่างก่อนหน้านี้ ดาบของเสิ่นเฟิงสั่นอีกรอบ แต่คราวนี้เฉินหลงเป็นฝ่ายตามเขาไปเหมือนร่างเงา และดาบแห่งนรกก็ได้ฟาดเขาไปที่เสิ่นเฟิง

เสิ่นเฟิงที่ไม่มีเวลาได้พักหายใจ ทำได้เพียงแค่ยกดาบขึ้นมากันอีกฝ่าย

สุดท้าย เฉินหลงก็ทำให้เสิ่นเฟิงอี้เต๋าตกใจอีกรอบ เพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

แต่เฉินหลงไม่มอบโอกาสให้เขาได้หายใจอีก

หลังจากฟาดดาบออกไปสิบรอบ ดาบในมือของเสิ่นเฟิงอี้เต๋าถูกเฉินหลงฟันจนหัก มิหนำซ้ำหัวของเขาก็ถูกเฉินหลงตัดขาดอีกด้วย!

ดวงตาของเสิ่นเฟิงเบิกกว้าง คิดไม่ถึงเลยว่าดาบของอีกฝ่ายจะส่งเขาไปพบเจอกับความตายเช่นนี้ โดยที่เขาไม่รู้เหตุผลที่เฉินหลงฆ่าเขาเลยด้วยซ้ำ นี่มัน อะไรกัน….

 

ในตอนที่เห็นดาบกับศีรษะของเสินเฟิงถูกตัด เฉินหลงถึงกับพูดไม่ออกสักคำ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายอยู่ในระดับพลังลมปราณแต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าดาบของเสิ่นเฟิงนั้นระดับต่ำกว่าเขา แถมยังไม่ได้เป็นคนแข็งแกร่งที่สุดด้วย

หลังจากนั้น พวกเขาได้เก็บกวาดสนามประลอง ส่วนลูกน้องชาวญี่ปุ่นที่เหลือ เขามอบหมายให้ดาบาร์เป็นคนจัดการเรื่องนี้ เพื่อสะสางเรื่องทั้งหมด โดยที่นินจาสาวสวยในชุดนินจาถูกทิ้งไว้ ในขณะเดียวกัน นินจาชายก็จะถูกส่งไปให้ดาบาร์จัดการ

หลังจากเก็บกวาดแล้ว เฉินหลงได้นินจาหญิงสองคนที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเขา และนินจาหญิงหกคนที่เป็นปรมาจารย์ระดับสูงสุด

 

นินจาหญิงสองคนเกิดที่ประเทศจีน พวกเธอทั้งสองเป็นฝาแฝดกัน พวกธอมีชื่อว่า เสี่ยวเย่ หลิงเซียง กับ เสี่ยวเย่ หลิงฮวา แน่นอนว่าเฉินหลงจะใช้ผลซื่อสัตย์กับพวกเธอ

ใจจริงเฉินหลงเองก็ไม่ได้อยากใช้ผลซื่อสัตย์กับพวกเธอเท่าไหร่นัก แต่พวกเธอทั้งหมดถูกขนานนามว่า โอโนะ

หลังจากอยู่ในสำนักงานใหญ่ของแก๊งซากุระหนึ่งวัน เมื่อพี่น้องโอโนะหายดีจากอาการบาดเจ็บ เฉินหลงก็ได้พาพวกเธอไปด้วย แน่นอนว่าโอโนะทั้งแปดแปดคนนี้ไม่ได้สวมชุดนินจา แต่เป็นชุดธรรมดา พวกเขาจะได้ไม่ดูสะดุดตามากเกินไป

สำหรับการตัดสินใจรับเฉพาะลูกน้องที่เป็นผู้หญิง เรียกได้ว่าเฉินหลงฉลาดคิดมาก

ในตอนแรก แก๊งของเฉินหลงเต็มไปด้วยหยาง*และมีหยิน*น้อยมาก แต่ตอนนี้หลังจากที่ได้พี่น้องโอโนะทั้งแปดคนเข้ามาร่วมด้วยแล้ว ก็เท่ากับว่าหยินมากขึ้นและหยางก็น้อยลง

 

หลังจากนั้น เฉินหลงและพรรคพวกก็เดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นกลับไปยังประเทศจีนโดยเรือยอทช์

ครั้งนี้ เฉินหลงไม่ได้นั่งเรือยอทช์ลำเดียวกับตอนที่มากับดาบาร์ แต่เป็นเรือยอทช์ที่สูง 60 เมตรของแก๊งซากุระ

แน่นอนว่าดาบาร์ได้นำเรือยอทช์ของพวกเขากลับไปด้วย เขาจะทิ้งมันไว้ที่นี่ไม่ได้

พี่น้องโอโนะทั้งสองเหมือนกันราวกับแกะสำหรับเฉินหลงก็เหมือนกับขนมหวานเฉินหลงเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เขาเห็นพวกเธอวนเวียนอยู่รอบตัวทุกวัน ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะอยากจะลิ้มลองพวกเธอ

ผู้หญิงญี่ปุ่นเหมาะกับการปรนนิบัติผู้ชายมากที่สุด ถึงจะเป็นครั้งแรกพวกเธอ แต่พวกเธอก็ยังรับใช้ได้อย่างดี

เมื่อเวลาอันแสนอ่อนหวานบนเรือยอทช์ไม่กี่วันได้ผ่านพ้นไป ในที่สุดเฉินหลงก็ได้กลับคืนสู่ประเทศจีน

 

หลังจากที่กลับจากธนาคาร เฉินหลงกับดาบาร์ก็ได้แยกทางกัน พวกเขาต้องหาทางไปเมืองหลวงด้วยตัวเอง ในขณะที่เฉินหลงกลับไปพร้อมกับรถส่วนตัวที่จอดอยู่ในลานจอดรถ

ก่อนออกเดินทาง เฉินหลงพบว่าแลนด์โรเวอร์ของลั่วฮุ่ยยังคงจอดอยู่ที่เดิม ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่กลับมาที่นี่

หลังจากกลับไปถึงเมืองหลวง เขาก็กลับไปที่วิลล่าของตัวเอง หลังจากซ่อมแซมอยู่หลายวัน สถานที่ที่ได้รับความเสียหายก็ได้รับการซ่อมแซมอีกครั้ง สภาพที่เห็นตรงหน้าใหม่มากราวกับว่ามันไม่เคยได้รับความเสียหายมาก่อน

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ดาบาร์และคนอื่นๆก็ได้เดินทางมาหาเขา

 

เฉินหลงให้พวกเขาได้พักผ่อนอยู่ที่วิลล่าหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้น เฉินหลงได้เดินทางไปหาเกาเฟิงเซียวเพียงลำพัง

การเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้ ทำให้เฉินหลงได้รับคนที่มีระดับกำเนิดมาอีกสองคน หลังจากลิ้มรสความหอมหวาน ราวกับว่าเฉินหลงเห็นเค้กก้อนโตและเขาเองก็อยากลองกัดมันดูสักคำ ด้วยเหตุนี้เกาเฟิงเซียวจึงบอกเขาว่าองค์กรอื่นๆอยู่ที่ไหน และในขณะเดียวกัน เขาได้ให้เทคโนโลยีบางอย่างที่เขาได้รับมาจากมัตสึชิตะกรุ๊ปแก่เกาเฟิงเซียว ถึงของพวกนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับเขา แต่สำหรับเกาเฟิงเซียวหรือคนทั่วไปในประเทศจีน มันมีประโยชน์มากทีเดียว

 

“น้องเฉิน นายรู้ไหมว่านายโชคดีแค่ไหนกัน? ในประเทศพวกนั้น แก๊งซากุระของญี่ปุ่นอ่อนแอที่สุด อย่าคิดถึงแก๊งที่เหลือเลย พวกเขาทั้งหมดเป็นถึงปรมาจารย์ขั้นหลอมรวมกับธรรมชาติ ครั้งนั้น ถึงนายจะไม่ได้เป็นฝ่ายที่ไปหาเรื่องพวกเขาก่อน แต่พวกเขาก็จะฆ่านายอยู่ดี” หลังจากที่ได้ฟังเรื่องที่เฉินหลงเล่ามาแล้ว เกาเฟิงเซียวคิดว่าเฉินหลงนั้นช่างโชคดีจริงๆ “ยังไงก็ช่างเถอะ ฉันจะส่งข้อมูลให้นายก็แล้วกัน เผื่อว่ามันจะมีประโยชน์กับนายบ้าง”

“ปล่อยให้พวกเขาสร้างปัญหาในประเทศจีน แล้วพวกเราสู้กลับไม่ได้เหรอครับ?” เฉินหลงหันไปถามเกาเฟิงเซียว

ได้ยินคำถามของเฉินหลง เกาเฟิงเซียวถึงกับปวดหัวตึบขึ้นมาทันที นี่ นายเป็นคนที่ชอบหาเรื่องคนอื่นใช่ไหม?

 

“พวกเราไม่ได้จับกุมแก๊งพวกเขา พวกเขาเองก็ไม่กลับมาที่นี่ พวกเราเป็นประเทศใหญ่ พวกเราต้องให้อภัยพวกเขาเหมือนกับคนอื่นสิ” เกาเฟิงเซียวตอบไม่ถูก “นอกจากนี้ โปรดักของบริษัทนายก็ขายดี เพราะฉะนั้น ช่างมันเถอะ นายลองคิดดูสิว่า มันสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในประเทศจีนมากขนาดไหน”

“ก็ได้ ผมเข้าใจแล้ว” เฉินหลงไม่อยากเถียงอีกฝ่าย ยังไง อีกฝ่ายก็มีทั้งปรมจารย์ขั้นหลอมรวมธรรมชาติ ถ้าเขาบุกไปที่นั่น ดูท่าแล้วเขาคงถามหาความตายอย่างที่อีกฝ่ายพูดจริงๆนั่นแหละ

เกาเฟิงเซียวรับยูเอสบีมาจากเฉินหลง เขาตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆแล้วพูดว่า “น้องเฉิน บริษัทเว่ยหลงเทคโนโลยีของนายต้องมีอนาคตที่สดใสและก้าวไกลแน่ เชื่อฉันสิ”

พูดจบ เกาเฟิงเซียวที่ได้รับยูเอสบีแล้วก็กลับไปในทันที

 

เห็นเกาเฟิงเซียวกลับไปแล้ว เฉินหลงอดส่ายหัวไม่ได้ เนื่องจากความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้นั้นแข็งแกร่งเกินไป ตอนนี้อย่าเพิ่งไปยุ่งกับพวกมันดีกว่า รอให้ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้นอีกนิด แล้วค่อยไปหาเรื่องก็แล้วกัน!

แต่ถึงอย่างนั้น เฉินหลงเข้าใจดีว่าในช่วงเวลาสั้นๆ เขาต้องการพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองให้ก้าวไปอีกระดับ แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้สินะ

หลังจากวันนั้น เฉินหลงได้ซื้อวิลล่าหลังใหญ่อีกหลังในเมืองหลวง ให้ดาบาร์และคนอื่นๆได้พักอาศัย แถมเขายังเอาเครื่องเล่นที่เอาไว้เล่นเกมให้พวกเขาได้พัฒนาความสามารถในเกมอีกด้วย แน่นอนว่าชายฉกรรจ์ทั้งเจ็ดคนรวมถึงดาบาร์ใช้แบบฟูลเวอร์ชัน ส่วนนินจาสาวทั้งหกคนใช้แบบเวอร์ชันที่เป็นตอนๆ

จากนั้น เฉินหลงก็รอให้จี้โม่ซีมาถึงเมืองหลวง ในตอนนี้เฉินหลงมีความสามารถในการปกป้องเธอจากภัยอันตรายได้

 

วันเวลาได้ผ่านไป อีกครึ่งเดือนก็จะถึงวันฉลองปีใหม่

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เว่ยหลงเทคโนโลยีได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สุดไฮเทคเช่น ‘ซุปเปอร์แบตเตอรี่’ ‘ซุปเปอร์ฮาร์ดดิสก์’ และผลิตภัณฑ์อื่นๆอย่างต่อเนื่อง

เฉินหยิงและครอบครัวของเธอได้ใช้ประโยชน์จากเหตุการณืนี้บวกกับเงินปันผลสิ้นปี ทุกคนได้เงินมากกว่าหนึ่งล้านหยวน และการเดินทางกลับก็เป็นกลุ่มเช่นกัน มีคนหนึ่งขับรถลินคอล์นเนวิเกเตอร์ของบริษัทกลับไป

 

ในทำนองเดียวกัน เฉินหลงและจี้โม่ซีก็กลับไปที่ซิงเฉิงด้วยกัน มีคนบอกเขาว่าเขาได้ครอบครองลูกสาวของพวกเขามาหลายเดือนแล้ว ตอนนี้ก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว เขาควรจะส่งตัวลูกสาวของพวกเขากลับไปได้แล้ว

เฉินหลงพักอยู่ที่ซิงเฉิงหนึ่งวันแล้วค่อยกลับ

ถึงเขากับจี้โม่ซียังไม่ได้หมั้นหมายกัน และการโกหกคนอื่นที่อยู่ที่นี่เป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก พวกเขาจะพูดถึงเรื่องนี้หลังจากที่ได้แต่งงานกัน ถึงในความคิดของเฉินหลง จี้โม่ซีจะเป็นภรรยาของเขาแล้ว และครอบครัวของจี้โม่ซีก็ยังเรียกเขาว่าลูกเขย แต่มันก็ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมจริงๆ

 

 

 

*พลังด้านหยินนั้น เปรียบเสมือนกับ เพศหญิง

 

*พลังด้านหยาง เปรียบเสมือนกับ เพศชาย