TB:บทที่ 220 อยากไปทะเลจังเลย!

 

ท้ายที่สุดหลังจากทั้งหมด ในตอนที่ญาติพี่น้องตระกูลเฉินขับรถกลับไปที่หมู่บ้านพร้อมกัน ทุกคนต่างทราบดีว่าตระกูลเฉินได้รับยกระดับฐานะแล้ว และเหตุผลที่ทำให้พวกเขายกระดับฐานะขึ้นมาได้ นั่นก็คือ เฉินหลง!

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่ามันจะเป็นวันที่ดีขนาดนี้ เนื่องจากเหล่าญาติๆของเฉินหลงสามารถหารายได้จากการพึ่งพาเฉินหลง พวกเขาจึงควรกินเนื้อแล้วดื่มน้ำแกงมากกว่าไปทำงานข้างนอกเป็นไหนๆ

ดังนั้น ตราบใดที่ตระกูลเฉินยังคงมีสัมพันธไมตรีต่อกัน พวกเขาทุกคนจะมายังบ้านของเฉินหลงทีละกลุ่ม แต่ในความเป็นจริงคือ พวกเขาอยากให้ลูกๆของตัวเองได้ดื่มน้ำแกงกับเฉินหลง

 

ในเมื่อพวกเขาขอมา เฉินหลงก็คงปฏิเสธไม่ลง

ถึงยังไง พวกเขาทุกคนต่างก็มาจากต้นตระกูลเดียวกัน พวกเขาใช้นามสกุลเฉินกันทุกคน ถ้ามีเรื่องอะไรที่เขาพอจะช่วยได้ เขาก็ยินดีช่วย

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขามีโรงงานแยกย่อยของบริษัทเว่ยหลงเทคโนโลยีแล้ว การที่เขาจะจัดส่งคนเข้าไปทำงานที่โรงงานนั้นไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ และเงินเดือนของพวกเขาก็อาจสูงขึ้นจากเดิมเล็กน้อย แต่ถ้าเขาคนนั้นเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ เขาจะเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้จัดการแทน

 

สำหรับพ่อของเฉินหยิง ฉินต้าฉาง หลังจากที่เขารู้ว่าเฉินหลงได้ทำตัวเป็นยักษ์ที่ไม่เห็นหัวเขาเลย ถึงแม้ว่าเขากำลังมองอีกฝ่ายอยู่ก็ตาม หลังจากที่เฉินหลงกลับมาแล้ว เขาก็ได้พาภรรยาไปขอโทษครอบครัวของเฉินหลงจากจริงใจ

เมื่อเห็นท่าทางที่เต็มใจและจริงใจของเฉินต้าฉาง แถมอีกฝ่ายยังเป็นสมาชิกในครอบครัวของเขาอีก เฉินหลงก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะยอมให้อภัยเขาแต่โดยดีเพราะเห็นแก่เฉินหยิง

อันที่จริง ด้วยสถานะอันสูงส่งของเฉินหลงในตอนนี้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะมอบความกล้าหาญให้กับเฉินต้าฉางเป็นพันครั้ง แต่เขาก็ไม่กล้าทำผิดต่อเฉินหลง ถึงแม้ว่าคนอื่นจะเข้ามาทำลายชีวิตของเฉินหลง เขาก็ขอเป็นคนแรกที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อเฉินหลง เพราะตอนนี้เฉินหลงได้กลายเป็นเสาหลักของตระกูลไปแล้ว ใครหน้าไหนที่กล้าเข้ามายุ่งก็กัดมันเลย นี่แหละ สิ่งที่มนุษย์พึงกระทำ!

 

“นี่! คุณพี่ชาย ทำไมพี่ไม่ขับรถลินคอล์นกลับมาอย่างพี่หยิงบ้างล่ะ? ตอนที่พวกเขากลับมา พวกเขาใช้รถแบบเดียวกับพี่หยิงเลย พี่รู้ไหมว่าคนในหมู่บ้านเห็นแล้ว อิจฉาตาร้อนกันขนาดไหน” ในตอนกลางคืน จู่ๆเฉินยี่ก็ได้เอ่ยถามเรื่องนี้กับเฉินหลง

“หึ พวกเขาก็แค่อยากอวดน่ะ ขนาดนี้แล้ว พี่ชายของเธอจำเป็นต้องอวดด้วยเหรอ?” เฉินหลงตอบพร้อมแสร้งทำเป็นว่าตัวกำลังถูกน้องสาวที่น่ารักกำลังใช้กำลังบังคับขู่เข็นอยู่

แต่จะว่าไป ที่เฉินหลงพูดมาก็ถูก คนอย่างเขาจำเป็นต้องอวดด้วยเหรอ? เหอะ คำตอบคือ ไม่จำเป็นเลยสักนิด! ถึงเขาจะขับจักรยานธรรมดาๆกลับบ้าน ชาวบ้านแถวนี้ก็ไม่กล้าดูถูกเฉินหลงหรอก!

 

“อี๋ พอ!” เฉินยี่ล่ะหมั่นไส้เฉินหลงจริงๆ แต่แล้วก็ถามต่อว่า “พี่ชาย พี่ทำให้พี่หยิงรวยขึ้นมาได้ยังไงอ่ะ? ฉันได้ยินมาว่าพี่ก่อตั้งบริษัทที่ปักกิ่งด้วย จริงเหรอ?”

น่าเสียดายที่ตอนนี้เฉินยี่กำลังศึกษาอยู่ ไม่อย่างนั้นเธอจะไปปักกิ่งกับพี่ชาย จะได้หาเงินได้เยอะๆเหมือนอย่างที่คนเขาทำได้บ้าง เฮ้อ… เสียดายจัง!

“นี่ไงล่ะ พี่ชายของเธอเปิดบริษัทอยู่ที่ปักกิ่ง เธอก็ตั้งใจเรียน หลังจากเรียนจบมหาลัยแล้ว เธอก็จะได้มาช่วยงานที่บริษัทของพี่ชายเธอยังไงล่ะ เรียนจบแล้วมีงานรองรับ เงินเดือนก็ดีด้วยน้า เป็นไง สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ” เฉินหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ทันทีที่ได้ยินว่าเฉินหลงเปิดบริษัทจริงๆ เฉินยี่จ้องหน้าเฉินหลงแล้วถามว่า “จริงเหรอ!? แต่กว่าฉันจะเรียนจบมหาลัย ก็ใช้เวลาตั้งหลายปี นี่! พี่ห้ามทำบริษัทเจ๊งเด็ดขาดเลยนะ แต่.. จะว่าไป บริษัทของพี่ชื่ออะไรนะ? เดี๋ยวหนูจะลองไปเสิร์จหาในอินเทอร์เน็ตดู”

ในตอนที่ได้ยินเฉินยี่พูดว่าบริษัทเจ๊ง เฉินหลงถึงกับกลอกตาไปมาแล้วตอบเธอว่า “ไม่ต้องห่วง บริษัทเว่ยหลงเทคโนโลยีของฉันไม่มีทางเจ๊งก่อนเธอเรียนจบมหาลัยแน่นอน แต่ถ้าเธอทำหน้าที่ของเธอไม่สำเร็จ ฉันก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว”

ทันทีที่เฉินหลงพูดจบ เขาเหลือบมองไปทางเฉินยี่และพบว่าเธออึ้งจนร่างกายแข็งเป็นหิน ราวกับว่าเธอเห็นเฉินหลงเหมือนเห็นผี

 

ผ่านไปซักพัก เธอได้พูดขึ้นมาว่า “เทค…เทคโนโลยี…เว่ยหลง? บริษัทเว่ยหลงเทคโนโลยีในปักกิ่งอ่ะนะ? เอ๊ะ ไม่สิ ก็ชื่อเหมือนกันนี่นา…?”

“ชื่อเหมือนกันอะไรล่ะ บริษัทของฉันชื่อว่าเว่ยหลงเทคโนโลยี เว่ยเฟิง เว่ยเว่ย เฟยหลง นิวเวิล์ด ก็คือตัวแทนของบริษัทฉันทั้งนั้น” เฉินหลงตอบพร้อมกับมองไปทางเฉินยี่

เฉินยี่จ้องหน้เฉินหลง เธอกุมมือเฉินหลงขึ้นมา จากนั้นก็อ้าปากแล้วใช้ฟันคมๆของตัวเองกัดไปที่มันแรงๆ

“อ๊ากกกก ~ ~ ~”

เฉินหลงร้องออกมาสุดเสียง

ถึงเฉินหลงจะใช้ระฆังทองสิบสองชั้น แต่ในตอนนี้เขาพยายามควบคุมมันสุดความสามารถเพื่อไม่ให้น้องสาวของตัวเองได้รับบาดเจ็บ

 

เมื่อได้ยินเสียงร้องของเฉินหลงแล้ว เฉินยี่ก็ยอมปล่อยมือของเฉินหลงให้เป็นอิสระ

“เฮ้! น้องสาว นี่เธอมากัดฉันทำไมเนี่ย?” เฉินหลงที่รู้สึกได้ทันทีว่าตัวเองกำลังถูกกัดจึงถามขึ้นด้วยความไม่เขาใจ

“ก็ไม่ทำไม ฉันแค่อยากพิสูจน์ว่าฉันกำลังฝันอยู่รึป่าว” เฉินยี่ตอบเสียงเรียบ

“เดี๋ยวเถอะ! ทำไมเธอไม่กัดตัวเองล่ะ มากัดพี่ทำไมเนี่ย!?” เฉินหลงถามด้วยสีหน้าขมขื่น

“เหอะ พี่คิดว่าฉันโง่นักเหรอ? ฉันจะกัดตัวเองให้เจ็บเล่นเท่าไมเล่า?” เฉินยี่เหลือบมองเฉินหลง จากนั้นก็ร้องอุทานด้วยความตื่นเต้น “เทคโนโลยีเว่ยหลง! เว่ยหลงเทคโนโลยี! นิวเวิล์ด! สุดยอด! สุดยอดไปเลยยย!!”

เห็นเฉินยี่ตะโกนออกมามอยางกับคนบ้า เฉินหลงหมดคำจะพูด น้องสาวของเขาก็อายุตั้ง 16 ปี แต่ทำไมถึงยังชอบทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตได้นะ เฮ้อออ

 

“ว้าววววว! พี่ชาย! พี่นี่สุดยอดสุดๆไปเลย พี่เป็นถึงผู้บุกเบิกเว่ยหลงเทคโนโลยี พี่คิดค้นนิวเวิล์ดขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย!?” หลังจากตื่นเต้นอยู่สักพัก เฉินยี่ก็เริ่มสงบลง

เฉินยี่มีความสุขมากเพราะเธอเคยได้ยินมาว่าเว่ยหลงเทคโนโลยีได้กลายเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุดในประเทศจีน และเงินจำนวนนั้นเรียกได้ว่าทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน แต่ถึงอย่างนั้นตัวตนของประธานตัวจริงของบริษัทเว่ยลงเทคโนโลยีนั้นเป็นความลับสุดยอดและไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน หลายคนเดาว่าเขาน่าจะเป็นคนในประเทศ แต่เธอก็คิดไม่ถึงเลยว่าบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนคือพี่ชายของเธอเอง! กล่าวคือ เธอคือน้องสาวของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน แล้วแบบนี้จะไม่ให้เฉินยี่ตื่นเต้นได้ยังไงเล่า!? กรี๊ดดดดด!!

 

“ชู่ว! เบาๆสิ มันคือความลับนะ” เฉินหลงหันไปมองรอบๆตัวแบบเงียบๆ

เฉินยี่พยักหน้าหลังจากที่เห็นอีกฝ่ายทำท่าแบบนั้น

“พี่ชาย! ฉันอยากได้เครื่องเล่นนิวเวิล์ดอ่ะ” เฉินยี่อ้อนกับเฉินหลง

เครื่องสวมศรีษะที่มีราคาแค่สองพันหยวนนั้นไม่แพงเลยสำหรับเฉินยี่ แต่เพราะว่ามันขายหมดเร็วมาก บวกกับพ่อกับแม่เองก็ไม่สนับสนุนให้เธอเล่นเกมด้วย เพราะแบบนี้เธอถึงไม่ได้เป็นเจ้าของเครืองเล่นนิวเวิล์ดสักทียังไงล่ะ!

“ได้อยู่แล้ว!” เฉินหลงตอบอีกฝ่ายทันที

ถึงเครื่องเล่นนิวเวิล์ดจะได้รับความนิยมจากทุกคนในโลกปัจจุบันเป็นอย่างมาก ถ้าเขาจะยกให้น้องสาวสักชิ้นก็คงไม่เสียหายอะไร

นอกจากนี้ โดยทั่วไปร่างกายของเด็กมัธยมปลายไม่ค่อยแข็งแรง ถ้าเธอได้ใช้นิวเวิล์ด เธอก็จะได้ออกกำลังกายบ้าง

 

“จริงเหรอ? พี่ชายใครเนี่ย ใจดีที่สุดเลย!” เฉินยี่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ว่าแต่ หลังปีใหม่ เธออยากไปเที่ยวที่ไหนรึป่าว?” เฉินหลงเอ่ยถาม

หลังปีใหม่ เขายังมีเวลาสำหรับวันหยุดพักผ่อนอยู่ เฉินหลงอยากพาครอบครัวไปเที่ยว พ่อกับแม่ของเขาต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงลูกชายและลูกสาวทั้งสองคนมาครึ่งค่อนชีวิตแล้ว ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้เพลิดเพลินกับความสนุกและมีความสุขในชีวิตเสียที

“พี่ชาย ฉันอยากเห็นทะเล พวกเราไปเที่ยวทะเลกันเถอะ! ฉันอยากไปหย่าเฉิง ที่นั่นเป็นหน้าร้อนพอดีเลย พวกเราจะได้หลบหนีจากฤดูหนาวด้วย ไปที่นั่นกันเถอะ พี่ชาย~” ได้ยินว่าไปเที่ยว ทันใดนั้นเฉินยี่ก็บอกสถานที่ที่เธออยากไปในทันที

ชูหนานเป็นเขตเมืองในประเทศ บางคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ไม่เคยเห็นทะเลมาก่อนในชีวิต ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือเฉินหลง ถ้าเขาไม่รวย ชีวิตนี้เขาก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นทะเลกับตา เพราะฉะนั้น เฉินยี่ก็เหมือนกับเขานั่นแหละ เธอไม่เคยเห็นทะเลมาก่อน เธอจึงอยากเห็นชายหาดและน้ำทะเลที่สวยงาม และได้เล่นน้ำในทะเลสักครั้งในชีวิต เขาเชื่อว่านี่คงเป็นความใฝ่ฝันของทุกๆคนที่ชีวิตนี้ไม่เคยได้เห็นทะเลมาก่อนเลย