คิดได้ดังนั้น หนานกงอ๋าวยิ่งต้องการจะตามหาเจ้าปีศาจน้อยให้พบ
เขาต้องการจะล้วงความลับของเจ้าปีศาจน้อยออกมา เขาทำมันได้อย่างไรกันนะ? ไร้ซึ่งอาจารย์ผู้เก่งกาจคอยชี้แนะ ไม่มีทั้งยาวิเศษที่ช่วยเพิ่มพูนพลัง แต่ก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ได้ เจ้าปีศาจน้อยซุกซ่อนความลับอะไรเอาไว้กันแน่นะ?
ยังมีเมียของเจ้าปีศาจน้อยคนนั้นอีก หนานกงอ๋าวรู้สึกสงสัยในตัวนางเป็นอย่างมาก
มิน่าเจ้าปีศาจน้อยถึงไม่กลับมา ที่แท้มันก็มีครอบครัวเป็นของตนเองนั่นเอง
ฟังจากน้ำเสียงของหนานกงจื่อหลิง ราวกับว่าเทิดทูนบูชาซ้อใหญ่ของนางยิ่งนัก
สามารถอยู่เคียงข้างเจ้าปีศาจน้อย ฆ่าเฉินเจินเฉินฉู่ได้ ผู้หญิงคนนี้คงจะต้องเก่งกาจไม่เบา
น่าเสียดายนัก ที่ตี้อู่หยวนถึงกับใช้ยาคายความจริง แต่ก็มิอาจทำให้หนานกงจื่อหลิงเอ่ยนามของเจ้าปีศาจน้อยและเมียของมันออกมาได้สำเร็จ
มิเช่นนั้นหนานกงอ๋าวคงจะได้ส่งคนไปตามหาพวกเขาที่หลัวอวี่…
ไม่สิ!
คิดถึงตรงนี้ หนานกงอ๋าวก็ส่ายหน้า เจ้าปีศาจน้อยใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินหลัวอวี่นั่นมาตั้งหลายปี ที่นั่นจึงถือเป็นถิ่นของมัน เพราะมันจะต้องคุ้นชินกับที่นั่นเป็นอย่างมากทีเดียว
หากว่าหนานกงอ๋าวยังคงกระทำการแบบเดิม บู่มบ่ามส่งคนไป ก็เท่ากับส่งพวกเขาไปตายเท่านั้น
รอให้พวกมันมาที่นี่จะดีที่สุด!
หนานกงอ๋าวหาได้สนใจซย่าจื่ออวี้ไม่ เขาเพียงแต่อุ้มหนานกงจื่อหลิงขึ้นมาวางลงบนเตียง แล้วเชิญตี้อู่หยวนไปหารือการใหญ่กันต่อที่ห้องหนังสือ
ทว่าเมื่อเดินออกมาก็เจอหนานกงเช่อที่หน้าประตู
“เช่อเอ๋อร์ เจ้ามาอยู่ทีนี่ได้อย่างไร?” หนานกงอ๋าวประหลาดใจไม่น้อย
“ข้ามาเยี่ยมน้องสาว!”
หนานกงเช่อโกหก ที่แท้แล้วเขามารออยู่ที่หน้าประตูนี้ตั้งแต่ที่ได้ยินว่าตี้อู่หยวนมาถึงแล้วต่างหาก และคำพูดเมื่อครู่ที่หนานกงจื่อหลิงเอ่ยออกมาเขาก็ได้ยินทุกอย่าง
ยาลูกกลอนของตันขวาทรงประสิทธิภาพเพียงใด ตี้อู่เฉินเคยอธิบายให้หนานกงเช่อได้ฟังไปแล้ว
ไม่ว่าใครหากกินยาคายความจริงเข้าไปละก็ ต่อให้เป็นนักรบผู้สำเร็จขั้นสูงส่งเพียงใด ก็สามารถง้างความจริงจากปากของเขาออกมาจนได้ ทว่ากลับต้องมาสะดุดลงที่หนานกงจื่อหลิง
นี่น้องสาวของเขาจะปกป้องเจ้าปีศาจน้อยไปถึงเมื่อไหร่กัน?
เกรงว่า ในหัวใจของหลิงเอ๋อร์แล้ว เจ้าปีศาจน้อยนั่นสำคัญเสียยิ่งกว่าเขาที่เป็นพี่ชายแท้ๆของนางเสียอีกสินะ!
“เข้าไปปลอบแม่ของเจ้าให้ดี!”
หนานกงอ๋าวไม่แน่ใจว่าลูกชายทันได้เห็นฉากที่เมื่อครู่ที่เขาตบตีซย่าจื่ออวี้หรือไม่
“เช่อเอ๋อร์เจ้าวางใจ พ่อจะต้องตามหาเจ้าปีศาจน้อยมารักษาเจ้าให้จงได้!”
รอจนกระทั่งหนานกงอ๋าวและตี้อู่หยวนเดินออกไปแล้ว หนานกงเช่อถึงได้ก้าวเข้าไปภายในห้อง
เมื่อเข้าไปภายในห้อง หนานกงเช่อหาได้สนใจซย่าจื่ออวี้ที่กำลังเหม่อลอยไม่ กลับเข้าไปยืนมองหนานกงจื่อหลิงที่กำลังนอนหมดสติโดยที่มุมปากของนางยังมีคราบเลือดติดอยู่ที่ข้างเตียง
ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว แต่น้องสาวของเขาก็ยังคงมัดผมหางม้า เป็นสาวน้อยที่คอยเดินตามหลังเรียกเขาว่าพี่ชายคนเดิม
มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจ้าปีศาจน้อยเข้ามาเป็นที่หนึ่งในหัวใจของน้องสาวของเขา มาแย่งที่ๆเป็นของเขาไปจนน้องสาวต้องละทิ้งพี่ชายเช่นเขาเอาไว้ด้านหลังได้?
“ท่านแม่ ข้าเจ็บหัวใจเหลือเกิน” หนานกงเช่อกุมที่หน้าอกของตนเองแน่น
ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร จะต้องล่อเจ้าปีศาจน้อยออกมาให้จงได้!
จะต้องฆ่าเจ้าปีศาจน้อยนั่นให้ได้!
“เช่อเอ๋อร์ เช่อเอ๋อร์…” ซย่าจื่ออวี้ที่กำลังเสียใจเหม่อลอย เมื่อเห็นหนานกงเช่อเจ็บปวดทรมาน นางจึงลุกขึ้นมาประคองเขาให้นั่งลงทันที
“ท่านแม่ เมื่อไหร่จะจับเจ้าปีศาจน้อยนั่นมาได้? ข้าจะตายก่อนใช่หรือไม่? ข้ายังไม่อยากตาย!”
ใบหน้าของหนานกงเช่อซีดขาว ยิ่งเขาเป็นเช่นนี้ ซย่าจื่ออวี้ก็ยิ่งแค้นเคืองหนานกงจื่อหลิง
เพื่อที่จะปกป้องไอ้เด็กนอกคอกนั่น หนานกงจื่อหลิงถึงกับมองข้ามพี่ชายแท้ๆของตนเองได้ ลูกสาวแบบนี้ไม่มีเสียดีกว่า! เมื่อคิดได้ดังนั้น ซย่าจื่ออวี้ก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้
“เช่อเอ๋อร์ เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของพ่อและแม่เอง เจ้าวางใจเถอะแม่จะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปแน่! แม่ประคองเจ้าไปพักผ่อนนะ!”
ระหว่างทางที่ประคองหนานกงเช่อกลับไปพักผ่อน จู่ๆเขาก็หมดสติไป ทำเอาซย่าจื่อออวี้ตกใจจนต้องเรียนเชิญตี้อู่หยวนเข้ามา
หลังจากที่ตี้อู๋หยวนตรวจอาการให้กับหนานกงเช่อแล้ว เขาก็ทอดถอนใจยาวออกมา
“จะต้องรีบหาหัวใจที่เหมาะสมมาเปลี่ยนให้กับหลานชายให้เร็วที่สุด!”
ตี้อู่หยวนแสร้งทำเป็นมองไม่ออกว่าหนานกงเช่อเสแสร้ง!
เรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมดของตระกูลหนานกง ตี้อู่หงเย่เคยเขียนจดหมายไปรายงานหัวหน้าเผ่าตันขวาหมดแล้ว
ก่อนตี้อู่หยวนเดินทางมาในครั้งนี้ หัวหน้าเผ่าถึงกับกำชับเรื่องราวที่เขาต้องรู้ให้เขาได้ฟังเป็นพิเศษ
เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในห้องหนังสือนั้น เขาและหนานกงอ๋าวตกลงผลประโยชน์ในเรื่องการจับตัวเจ้าปีศาจได้ลงตัว นั่นก็คือรอคอยให้เขามาติดกับ
ในเมื่อหนานกงจื่อหลิงก็ได้บอกแล้วว่าเจ้าปีศาจน้อยและเมียของเขาจะมาที่เมืองอู๋โยว และเจ้าปีศาจน้อยผูกพันกับหนานกงจื่อหลิงเพียงนี้ เขาจะต้องมาเยี่ยมหนานกงจื่อหลิงที่จวนสกุลหนานกงอย่างแน่นอน
นี่เป็นโอกาสดี!
หากว่าตันขวาร่วมมือกับสกุลหนานกง จะต้องจับตัวเจ้าปีศาจน้อยมาได้อย่างแน่นอน!
ดังนั้น ในตอนนี้ตี้อู่หยวนจึงเจตนาแจ้งอาการป่วยของหนานกงเช่อให้เกินความจริงไปมาก เพราะเขาต้องการใช้ความสัมพันธ์ของเจ้าปีศาจน้อยกับสกุลหนานกง ล่อเจ้าปีศาจน้อยออกมานั่นเอง!
สกุลหนานกงอาจสามารถรอคอยได้ แต่เขารอคอยไม่ได้!
เป็นแค่สวะที่เกิดจากพ่อที่อัปมงคล เกิดและเติบโตมาจากแผ่นดินหลัวอวี่เท่านั้น กล้ามาแตะต้องชาวเผ่าตัน เขาจึงจะตองสับมันเป็นหมื่นชิ้น!
“อะไรนะ?”
ได้ฟังในสิ่งที่ตี้อู่หยวนพูดมา ซย่าจื่ออวี้ก็ลนลานจนแทบลมจับ
ลูกชายที่นางรักสุดหัวใจกำลังจะตาย!
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!
“ฮูหยินจะต้องรีบตามหาเจ้าปีศาจน้อยมาให้เร็วที่สุด! มิเช่นนั้น——”ตี้อู่หยวนถอนใจยาว “หลานชายอาจจะอยู่ไม่ถึงฤดูใบไม้ผลินี้ก็เป็นได้!”
“จื่ออวี้เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะต้องช่วยชีวิตเช่อเอ๋อร์ให้จงได้!”
หนานกงอ๋าวประคองซย่าจื่ออวี้
แม้ว่าซย่าจื่ออวี้จะไม่ใช่ผู้หญิงที่เขารัก แต่หนานกงเช่อก็เป็นลูกชายแท้ๆของเขา เขาจะไม่ให้ยอมให้ลูกชายต้องตายอย่างแน่นอน!
ซย่าจื่ออวี้ต้องมาเห็นหนานกงเช่อเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกสงสารบุตรชายเป็นอย่างมาก และ ‘การทรยศ’ ของหนานกงจื่อหลิงก่อนหน้านี้ยิ่งทำให้ซย่าจื่ออวี้แค้นใจ
รอจนกระทั่งหนานกงอ๋าวและตี้อู่หยวนกลับออกไป ซย่าจื่ออวี้นั่งจับมือหนานกงเช่อร้องไห้ที่ข้างเตียงอยู่เป็นนาน
รอไม่ได้อีกแล้ว!
ซย่าจื่ออวี้ปาดน้ำตาบนใบหน้า
แม้ว่าหนานกงอ๋าวจะให้คำสัญญา แต่คำสัญญาจากชายที่ตบหน้านางโดยไม่เห็นถึงความเป็นสามีภรรยากันมาตั้งหลายเช่นเขา นางไม่เชื่อ!
ลูกชายคือเลือดในอกของนาง จะช่วยหนานกงเช่อได้ นางจึงจำเป็นต้องลงมือเองเสียแล้ว!
ว่าแล้วซย่าจื่ออวี้ก็ไปที่ห้องของหนานกงจื่อหลิง
หลังจากที่หนานกงจื่อหลิงกระอักเลือดจนหมดสติไปก็ไร้ซึ่งคนดูแลทั้งยังไม่ได้กินยา ดังนั้นร่างกายที่ทรุดโทรมทำให้ใบหน้าของนางซีดขาวลงไปมาก
ซย่าจื่ออวี้มองดูใบหน้าของบุตรสาว ภาพแห่งความทรงจำในอดีตมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัว
นับตั้งแต่ที่หนานกงเช่อลืมตาดูโลกร่างกายก็อ่อนแอ แต่ทว่าหลังจากที่บำรุงรักษาร่างกายอย่างดี อาการของเขาจึงดีขึ้นมาก ทว่าหลังจากที่นางตั้งครรภ์หนานกงจื่อหลิง สุขภาพของหนานกงเช่อก็เริ่มเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอีกครั้ง
ดังนั้น ซย่าจื่ออวี้จึงมอบหนานกงจื่อหลิงให้กับแม่นม แล้วทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับบุตรชายที่สุขภาพร่างกายอ่อนแอแทน
ทุกครั้งที่นางหาเวลามาดูแลบุตรสาว อาการของหนานกงเช่อก็จะกำเริบขึ้นทันที เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ซย่าจื่ออวี้คิดไปว่าอาจเป็นเพราะบุตรสาวดวงแข็งเกินไป ขัดกับดวงของพี่ชายดังนั้นจึงส่งผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายของลูกชาย
ยิ่งเพราะเหตุนี้ หนานกงเช่อจึงยิ่งให้ความสำคัญกับซย่าจื่ออวี้มากขึ้นไปอีก
ตรงกันข้าม หนานกงจื่อหลิงจึงถูกละเลย
ซย่าจื่ออวี้มองดูใบหน้าสวยหวานของหนานกงจื่อหลิง ซย่าจื่ออวี้จึงกัดฟันคว้าเอาหมอนที่อยู่ด้านข้างกดลงบนใบหน้าของบุตรสาว
“อื้อ——”
หนานกงจื่อหลิงที่หายใจไม่ออกเริ่มที่จะดิ้นรน ถีบขาไปมา
ยิ่งนางดิ้นมากเท่าไหร่ ซย่าจื่ออวี้ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดมากขึ้นเท่านั้น นางกดหมอนลงปิดจมูกของหนานกงจื่อหลิงเอาไว้สุดแรง
ซย่าจื่ออวี้คิดออกแล้ว ในตอนนั้นตี้อู่หงเย่เอ่ยเอาไว้อย่างชัดเจน คนที่จะให้หัวใจกับหนานกงเช่อได้มีเพียงสองคน คนหนึ่งคือเจ้าปีศาจน้อย อีกคนก็คือหนานกงจื่อหลิง
ตอนนี้เจ้าปีศาจน้อยอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย แต่ชีวิตของหนานกงเช่อกำลังแขวนอยาบนเส้นด้ายเข้าใกล้ความตายมากขึ้นไปทุกที วิธีเดียวที่ทำได้ในตอนนี้นั่นก็คือฆ่าหนานกงจื่อหลิงเสีย แล้วเอาหัวใจของนางมาช่วยชีวิตหนานกงเช่อ
แม้ว่าหนานกงจื่อหลิงจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่นางตั้งครรภ์มาสิบกว่าเดือน แต่เพื่อลูกชายแล้ว ซย่าจื่ออวี้มีแต่ทำเช่นนี้เท่านั้น!
“หลิงเอ๋อร์ เจ้าอย่าโทษแม่เลยนะ!”
ซย่าจื่ออวี้ปากก็พร่ำไป น้ำตาก็ไหลออกมาเป็นทาง
“เจ้ายกหัวใจให้กับพี่รอง ถือว่าเป็นการทำความดีครั้งใหญ่! เกิดชาติหน้าฉันท์ใดขอให้เจ้าไปเกิดในครอบครัวที่ดี ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตเถอะนะ!”
ซย่าจื่ออวี้ปากก็เอ่ยไปพลาง มือก็เพิ่มแรงกดลงไปไม่หยุด