ตอนที่ 124-5 การตายของหนานกงจื่อหลิง

จำนนรักชายาตัวร้าย

คิดได้ดังนั้น หนานกงอ๋าวยิ่งต้องการจะตามหาเจ้าปีศาจน้อยให้พบ

 

 

เขาต้องการจะล้วงความลับของเจ้าปีศาจน้อยออกมา เขาทำมันได้อย่างไรกันนะ? ไร้ซึ่งอาจารย์ผู้เก่งกาจคอยชี้แนะ ไม่มีทั้งยาวิเศษที่ช่วยเพิ่มพูนพลัง แต่ก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ได้ เจ้าปีศาจน้อยซุกซ่อนความลับอะไรเอาไว้กันแน่นะ?

 

 

ยังมีเมียของเจ้าปีศาจน้อยคนนั้นอีก หนานกงอ๋าวรู้สึกสงสัยในตัวนางเป็นอย่างมาก

 

 

มิน่าเจ้าปีศาจน้อยถึงไม่กลับมา ที่แท้มันก็มีครอบครัวเป็นของตนเองนั่นเอง

 

 

ฟังจากน้ำเสียงของหนานกงจื่อหลิง ราวกับว่าเทิดทูนบูชาซ้อใหญ่ของนางยิ่งนัก

 

 

สามารถอยู่เคียงข้างเจ้าปีศาจน้อย ฆ่าเฉินเจินเฉินฉู่ได้ ผู้หญิงคนนี้คงจะต้องเก่งกาจไม่เบา

 

 

น่าเสียดายนัก ที่ตี้อู่หยวนถึงกับใช้ยาคายความจริง แต่ก็มิอาจทำให้หนานกงจื่อหลิงเอ่ยนามของเจ้าปีศาจน้อยและเมียของมันออกมาได้สำเร็จ

 

 

มิเช่นนั้นหนานกงอ๋าวคงจะได้ส่งคนไปตามหาพวกเขาที่หลัวอวี่…

 

 

ไม่สิ!

 

 

คิดถึงตรงนี้ หนานกงอ๋าวก็ส่ายหน้า เจ้าปีศาจน้อยใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินหลัวอวี่นั่นมาตั้งหลายปี ที่นั่นจึงถือเป็นถิ่นของมัน เพราะมันจะต้องคุ้นชินกับที่นั่นเป็นอย่างมากทีเดียว

 

 

หากว่าหนานกงอ๋าวยังคงกระทำการแบบเดิม บู่มบ่ามส่งคนไป ก็เท่ากับส่งพวกเขาไปตายเท่านั้น

 

 

รอให้พวกมันมาที่นี่จะดีที่สุด!

 

 

หนานกงอ๋าวหาได้สนใจซย่าจื่ออวี้ไม่ เขาเพียงแต่อุ้มหนานกงจื่อหลิงขึ้นมาวางลงบนเตียง แล้วเชิญตี้อู่หยวนไปหารือการใหญ่กันต่อที่ห้องหนังสือ

 

 

ทว่าเมื่อเดินออกมาก็เจอหนานกงเช่อที่หน้าประตู

 

 

“เช่อเอ๋อร์ เจ้ามาอยู่ทีนี่ได้อย่างไร?” หนานกงอ๋าวประหลาดใจไม่น้อย

 

 

“ข้ามาเยี่ยมน้องสาว!”

 

 

หนานกงเช่อโกหก ที่แท้แล้วเขามารออยู่ที่หน้าประตูนี้ตั้งแต่ที่ได้ยินว่าตี้อู่หยวนมาถึงแล้วต่างหาก และคำพูดเมื่อครู่ที่หนานกงจื่อหลิงเอ่ยออกมาเขาก็ได้ยินทุกอย่าง

 

 

ยาลูกกลอนของตันขวาทรงประสิทธิภาพเพียงใด ตี้อู่เฉินเคยอธิบายให้หนานกงเช่อได้ฟังไปแล้ว

 

 

ไม่ว่าใครหากกินยาคายความจริงเข้าไปละก็ ต่อให้เป็นนักรบผู้สำเร็จขั้นสูงส่งเพียงใด ก็สามารถง้างความจริงจากปากของเขาออกมาจนได้ ทว่ากลับต้องมาสะดุดลงที่หนานกงจื่อหลิง

 

 

นี่น้องสาวของเขาจะปกป้องเจ้าปีศาจน้อยไปถึงเมื่อไหร่กัน?

 

 

เกรงว่า ในหัวใจของหลิงเอ๋อร์แล้ว เจ้าปีศาจน้อยนั่นสำคัญเสียยิ่งกว่าเขาที่เป็นพี่ชายแท้ๆของนางเสียอีกสินะ!

 

 

“เข้าไปปลอบแม่ของเจ้าให้ดี!”

 

 

หนานกงอ๋าวไม่แน่ใจว่าลูกชายทันได้เห็นฉากที่เมื่อครู่ที่เขาตบตีซย่าจื่ออวี้หรือไม่

 

 

“เช่อเอ๋อร์เจ้าวางใจ พ่อจะต้องตามหาเจ้าปีศาจน้อยมารักษาเจ้าให้จงได้!”

 

 

รอจนกระทั่งหนานกงอ๋าวและตี้อู่หยวนเดินออกไปแล้ว หนานกงเช่อถึงได้ก้าวเข้าไปภายในห้อง

 

 

เมื่อเข้าไปภายในห้อง หนานกงเช่อหาได้สนใจซย่าจื่ออวี้ที่กำลังเหม่อลอยไม่ กลับเข้าไปยืนมองหนานกงจื่อหลิงที่กำลังนอนหมดสติโดยที่มุมปากของนางยังมีคราบเลือดติดอยู่ที่ข้างเตียง

 

 

ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว แต่น้องสาวของเขาก็ยังคงมัดผมหางม้า เป็นสาวน้อยที่คอยเดินตามหลังเรียกเขาว่าพี่ชายคนเดิม

 

 

มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจ้าปีศาจน้อยเข้ามาเป็นที่หนึ่งในหัวใจของน้องสาวของเขา มาแย่งที่ๆเป็นของเขาไปจนน้องสาวต้องละทิ้งพี่ชายเช่นเขาเอาไว้ด้านหลังได้?

 

 

“ท่านแม่ ข้าเจ็บหัวใจเหลือเกิน” หนานกงเช่อกุมที่หน้าอกของตนเองแน่น

 

 

ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร จะต้องล่อเจ้าปีศาจน้อยออกมาให้จงได้!

 

 

จะต้องฆ่าเจ้าปีศาจน้อยนั่นให้ได้!

 

 

“เช่อเอ๋อร์ เช่อเอ๋อร์…” ซย่าจื่ออวี้ที่กำลังเสียใจเหม่อลอย เมื่อเห็นหนานกงเช่อเจ็บปวดทรมาน นางจึงลุกขึ้นมาประคองเขาให้นั่งลงทันที

 

 

“ท่านแม่ เมื่อไหร่จะจับเจ้าปีศาจน้อยนั่นมาได้? ข้าจะตายก่อนใช่หรือไม่? ข้ายังไม่อยากตาย!”

 

 

ใบหน้าของหนานกงเช่อซีดขาว ยิ่งเขาเป็นเช่นนี้ ซย่าจื่ออวี้ก็ยิ่งแค้นเคืองหนานกงจื่อหลิง

 

 

เพื่อที่จะปกป้องไอ้เด็กนอกคอกนั่น หนานกงจื่อหลิงถึงกับมองข้ามพี่ชายแท้ๆของตนเองได้ ลูกสาวแบบนี้ไม่มีเสียดีกว่า! เมื่อคิดได้ดังนั้น ซย่าจื่ออวี้ก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้

 

 

“เช่อเอ๋อร์ เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของพ่อและแม่เอง เจ้าวางใจเถอะแม่จะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปแน่! แม่ประคองเจ้าไปพักผ่อนนะ!”

 

 

ระหว่างทางที่ประคองหนานกงเช่อกลับไปพักผ่อน จู่ๆเขาก็หมดสติไป ทำเอาซย่าจื่อออวี้ตกใจจนต้องเรียนเชิญตี้อู่หยวนเข้ามา

 

 

หลังจากที่ตี้อู๋หยวนตรวจอาการให้กับหนานกงเช่อแล้ว เขาก็ทอดถอนใจยาวออกมา

 

 

“จะต้องรีบหาหัวใจที่เหมาะสมมาเปลี่ยนให้กับหลานชายให้เร็วที่สุด!”

 

 

ตี้อู่หยวนแสร้งทำเป็นมองไม่ออกว่าหนานกงเช่อเสแสร้ง!

 

 

เรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมดของตระกูลหนานกง ตี้อู่หงเย่เคยเขียนจดหมายไปรายงานหัวหน้าเผ่าตันขวาหมดแล้ว

 

 

ก่อนตี้อู่หยวนเดินทางมาในครั้งนี้ หัวหน้าเผ่าถึงกับกำชับเรื่องราวที่เขาต้องรู้ให้เขาได้ฟังเป็นพิเศษ

 

 

เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในห้องหนังสือนั้น เขาและหนานกงอ๋าวตกลงผลประโยชน์ในเรื่องการจับตัวเจ้าปีศาจได้ลงตัว นั่นก็คือรอคอยให้เขามาติดกับ

 

 

ในเมื่อหนานกงจื่อหลิงก็ได้บอกแล้วว่าเจ้าปีศาจน้อยและเมียของเขาจะมาที่เมืองอู๋โยว และเจ้าปีศาจน้อยผูกพันกับหนานกงจื่อหลิงเพียงนี้ เขาจะต้องมาเยี่ยมหนานกงจื่อหลิงที่จวนสกุลหนานกงอย่างแน่นอน

 

 

นี่เป็นโอกาสดี!

 

 

หากว่าตันขวาร่วมมือกับสกุลหนานกง จะต้องจับตัวเจ้าปีศาจน้อยมาได้อย่างแน่นอน!

 

 

ดังนั้น ในตอนนี้ตี้อู่หยวนจึงเจตนาแจ้งอาการป่วยของหนานกงเช่อให้เกินความจริงไปมาก เพราะเขาต้องการใช้ความสัมพันธ์ของเจ้าปีศาจน้อยกับสกุลหนานกง ล่อเจ้าปีศาจน้อยออกมานั่นเอง!

 

 

สกุลหนานกงอาจสามารถรอคอยได้ แต่เขารอคอยไม่ได้!

 

 

เป็นแค่สวะที่เกิดจากพ่อที่อัปมงคล เกิดและเติบโตมาจากแผ่นดินหลัวอวี่เท่านั้น กล้ามาแตะต้องชาวเผ่าตัน เขาจึงจะตองสับมันเป็นหมื่นชิ้น!

 

 

“อะไรนะ?”

 

 

ได้ฟังในสิ่งที่ตี้อู่หยวนพูดมา ซย่าจื่ออวี้ก็ลนลานจนแทบลมจับ

 

 

ลูกชายที่นางรักสุดหัวใจกำลังจะตาย!

 

 

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!

 

 

“ฮูหยินจะต้องรีบตามหาเจ้าปีศาจน้อยมาให้เร็วที่สุด! มิเช่นนั้น——”ตี้อู่หยวนถอนใจยาว “หลานชายอาจจะอยู่ไม่ถึงฤดูใบไม้ผลินี้ก็เป็นได้!”

 

 

“จื่ออวี้เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะต้องช่วยชีวิตเช่อเอ๋อร์ให้จงได้!”

 

 

หนานกงอ๋าวประคองซย่าจื่ออวี้

 

 

แม้ว่าซย่าจื่ออวี้จะไม่ใช่ผู้หญิงที่เขารัก แต่หนานกงเช่อก็เป็นลูกชายแท้ๆของเขา เขาจะไม่ให้ยอมให้ลูกชายต้องตายอย่างแน่นอน!

 

 

ซย่าจื่ออวี้ต้องมาเห็นหนานกงเช่อเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกสงสารบุตรชายเป็นอย่างมาก และ ‘การทรยศ’ ของหนานกงจื่อหลิงก่อนหน้านี้ยิ่งทำให้ซย่าจื่ออวี้แค้นใจ

 

 

รอจนกระทั่งหนานกงอ๋าวและตี้อู่หยวนกลับออกไป ซย่าจื่ออวี้นั่งจับมือหนานกงเช่อร้องไห้ที่ข้างเตียงอยู่เป็นนาน

 

 

รอไม่ได้อีกแล้ว!

 

 

ซย่าจื่ออวี้ปาดน้ำตาบนใบหน้า

 

 

แม้ว่าหนานกงอ๋าวจะให้คำสัญญา แต่คำสัญญาจากชายที่ตบหน้านางโดยไม่เห็นถึงความเป็นสามีภรรยากันมาตั้งหลายเช่นเขา นางไม่เชื่อ!

 

 

ลูกชายคือเลือดในอกของนาง จะช่วยหนานกงเช่อได้ นางจึงจำเป็นต้องลงมือเองเสียแล้ว!

 

 

ว่าแล้วซย่าจื่ออวี้ก็ไปที่ห้องของหนานกงจื่อหลิง

 

 

หลังจากที่หนานกงจื่อหลิงกระอักเลือดจนหมดสติไปก็ไร้ซึ่งคนดูแลทั้งยังไม่ได้กินยา ดังนั้นร่างกายที่ทรุดโทรมทำให้ใบหน้าของนางซีดขาวลงไปมาก

 

 

ซย่าจื่ออวี้มองดูใบหน้าของบุตรสาว ภาพแห่งความทรงจำในอดีตมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัว

 

 

นับตั้งแต่ที่หนานกงเช่อลืมตาดูโลกร่างกายก็อ่อนแอ แต่ทว่าหลังจากที่บำรุงรักษาร่างกายอย่างดี อาการของเขาจึงดีขึ้นมาก ทว่าหลังจากที่นางตั้งครรภ์หนานกงจื่อหลิง สุขภาพของหนานกงเช่อก็เริ่มเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอีกครั้ง

 

 

ดังนั้น ซย่าจื่ออวี้จึงมอบหนานกงจื่อหลิงให้กับแม่นม แล้วทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับบุตรชายที่สุขภาพร่างกายอ่อนแอแทน

 

 

ทุกครั้งที่นางหาเวลามาดูแลบุตรสาว อาการของหนานกงเช่อก็จะกำเริบขึ้นทันที เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ซย่าจื่ออวี้คิดไปว่าอาจเป็นเพราะบุตรสาวดวงแข็งเกินไป ขัดกับดวงของพี่ชายดังนั้นจึงส่งผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายของลูกชาย

 

 

ยิ่งเพราะเหตุนี้ หนานกงเช่อจึงยิ่งให้ความสำคัญกับซย่าจื่ออวี้มากขึ้นไปอีก

 

 

ตรงกันข้าม หนานกงจื่อหลิงจึงถูกละเลย

 

 

ซย่าจื่ออวี้มองดูใบหน้าสวยหวานของหนานกงจื่อหลิง ซย่าจื่ออวี้จึงกัดฟันคว้าเอาหมอนที่อยู่ด้านข้างกดลงบนใบหน้าของบุตรสาว

 

 

“อื้อ——”

 

 

หนานกงจื่อหลิงที่หายใจไม่ออกเริ่มที่จะดิ้นรน ถีบขาไปมา

 

 

ยิ่งนางดิ้นมากเท่าไหร่ ซย่าจื่ออวี้ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดมากขึ้นเท่านั้น นางกดหมอนลงปิดจมูกของหนานกงจื่อหลิงเอาไว้สุดแรง

 

 

ซย่าจื่ออวี้คิดออกแล้ว ในตอนนั้นตี้อู่หงเย่เอ่ยเอาไว้อย่างชัดเจน คนที่จะให้หัวใจกับหนานกงเช่อได้มีเพียงสองคน คนหนึ่งคือเจ้าปีศาจน้อย อีกคนก็คือหนานกงจื่อหลิง

 

 

ตอนนี้เจ้าปีศาจน้อยอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย แต่ชีวิตของหนานกงเช่อกำลังแขวนอยาบนเส้นด้ายเข้าใกล้ความตายมากขึ้นไปทุกที วิธีเดียวที่ทำได้ในตอนนี้นั่นก็คือฆ่าหนานกงจื่อหลิงเสีย แล้วเอาหัวใจของนางมาช่วยชีวิตหนานกงเช่อ

 

 

แม้ว่าหนานกงจื่อหลิงจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่นางตั้งครรภ์มาสิบกว่าเดือน แต่เพื่อลูกชายแล้ว ซย่าจื่ออวี้มีแต่ทำเช่นนี้เท่านั้น!

 

 

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าอย่าโทษแม่เลยนะ!”

 

 

ซย่าจื่ออวี้ปากก็พร่ำไป น้ำตาก็ไหลออกมาเป็นทาง

 

 

“เจ้ายกหัวใจให้กับพี่รอง ถือว่าเป็นการทำความดีครั้งใหญ่! เกิดชาติหน้าฉันท์ใดขอให้เจ้าไปเกิดในครอบครัวที่ดี ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตเถอะนะ!”

 

 

ซย่าจื่ออวี้ปากก็เอ่ยไปพลาง มือก็เพิ่มแรงกดลงไปไม่หยุด