หนานกงจื่อหลิงคงจะนึกไม่ถึงเป็นแน่ว่าซย่าจื่ออวี้จะทำร้ายนางได้ นางจึงดื่มน้ำแกงสองถ้วยเข้าไปจนหมดเกลี้ยง ปิดท้ายด้วยการเรอออกมาอีกสองสามครั้ง
“ข้าดื่มหมดแล้ว! ข้าเป็นเด็กดีใช่ไหม?’
หนานกงจื่อหลิงถือชามเปล่าเอาไว้ ยิ้มให้กับซย่าจื่ออวี้
“เด็กดี! ดีมาก!”
ซย่าจื่ออวี้เปลี่ยนสีหน้าจากใจดีมีเมตตาเมื่อครู่ กลายมาเป็นรอยยิ้มที่แฝงความนัยอย่างลึกล้ำ ทำให้หนานกงจื่อหลิงเริ่มเกิดความระแวดระวังขึ้นมาอีกครั้ง
“น้ำแกงนี่คงจะไม่มีปัญหาอะไรกระมัง…”
แต่ทว่า ไม่ทันที่หนานกงจื่อหลิงจะมีโอกาสได้คิด นางก็หมดสติไปเสียก่อน
“ท่านพี่ ผู้เฒ่าหยวน สำเร็จแล้ว!”
ซย่าจื่ออวี้ตื่นเต้นดีใจจนรีบลุกยืนขึ้น พุ่งตัวออกไปเรียกคนที่ด้านนอกทันที ไม่แม้แต่จะไปประคองหนานกงจื่อหลิงที่สลบอยู่ที่พื้นแม้สักนิด
รอจนกระทั่งหนานกงอ๋าวเดินเข้ามาในห้องแล้วอุ้มหนานกงจื่อหลิงขึ้นมานั่งบนเก้าอี้เสร็จเรียบร้อย เขาจึงหันมายิ้มให้กับซย่าจื่ออวี้
“จื่ออวี้ เจ้าทำได้ดีมาก!”
ตี้อู่หยวนเดินเข้ามาหาหนานกงจื่อหลิง แล้วหยิบเอาไม้สลักรูปปลาน้อยขึ้นมาเคาะเบาๆ เสียงนั้นเป็นจังหวะ ดังสลับเบาไปเรื่อยๆ
เมื่อตี้อู่หยวนหยุดเคาะ หนานกงจื่อหลิงก็ลืมตาตื่นขึ้น
“หนานกงจื่อหลิง ข้าขอถามเจ้า เจ้าไปหลัวอวี่คราวนี้ตามหาพี่ใหญ่เจอหรือไม่?”
ตี้อู่หยวนกล่าวถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“พี่ใหญ่…”
หนานกงจื่อหลิงมองไปเบื้องหน้าแววตาเลื่อนลอย น้ำเสียงแข็งกระด้าง
“ตามหาพี่ใหญ่เจอแล้ว’
ได้ยินดังนั้น หนานกงอ๋าวก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที ส่วนซย่าจื่ออวี้ก็บีบผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น
จริงอย่างที่คาดเอาไว้ หนานกงจื่อหลิงโกหก!
หากมิใช่ว่าตี้อู่หยวนมีคำถามต้องการจะถามต่อ ซย่าจื่ออวี้แทบจะถลาเข้าไปเรียกหนานกงจื่อหลิงให้ได้สติ แล้วถามสักคำว่าทำไมบุตรสาวถึงต้องโกหกนางด้วย!
“แล้วตอนนี้พี่ใหญ่ของเจ้าอยู่ที่ไหน?”
“พี่ใหญ่อยู่ที่ต้าโจว”
“พี่ใหญ่อยู่ที่ต้าโจวชื่อว่าอะไร มีฐานะอะไร?!”
“เขาชื่อ…”
จู่ๆหนานกงจื่อหลิงก็มีสีหน้าเจ็บปวด มีเหงื่อผุดออกมามากมาย ปากก็เอาแต่พร่ำเพ้อว่า พี่ใหญ่ พี่ใหญ่อยู่ตลอด
“เกิดอะไรขึ้น?”
เห็นดังนั้น ซย่าจื่ออวี้ก็รีบเอ่ยถามตี้อู่หยวนทันที
“ฮูหยินอย่าเพิ่งร้อนใจไป! คุณหนูใหญ่และพี่ใหญ่ของนางมีความผูกพันที่แน่นแฟ้น ดังนั้นคุณหนูจึงพยายามอดกลั้นปิดบังข้อมูลที่ไม่เป็นผลดีกับเขาเอาไว้ ข้าจะเปลี่ยนวิธีการถามดู”
กล่าวจบ ตี้อู่หยวนก็เปลี่ยนคำถาม
“อู่เม่ยและตี้อู่หงเย่ถูกใครฆ่าตาย เจ้ารู้ไหม?”
“ไม่รู้…”
“เฉินเจิน เฉินฉู่และตี้อู่เฉินถูกใครฆ่าตาย เจ้ารู้ไหม?”
“พี่ใหญ่…อาซ้อ…”
จู่ๆก็มี ‘อาซ้อ’ โผล่ขึ้นมา ทำให้ซย่าจื่ออวี้เกือบจะหลุดปาก
‘เจ้าปีศาจน้อยแต่งงานแล้ว?’
ใครกันนะช่างกล้าหาญชาญชัย แต่งงานกับเจ้าปีศาจน้อยได้?
แต่สิ่งที่ตี้อู่หยวนและหนานกงอ๋าวสนใจไม่เหมือนกันกับซย่าจื่ออวี้ เพียงแค่พวกเขาได้ยินว่าผู้ที่ฆ่าคนทั้งสามนั้นคือเจ้าปีศาจน้อยและภรรยาของเขา ทั้งสองคนก็สบสายตากัน
นี่ต่างหากจึงเป็นจุดที่สำคัญ!
เฉินเจินและเฉินฉู่อยู่บนแผ่นดินหลัวอย่างน้อยก็เป็นถึงปรมาจารย์ คนที่สามารฆ่าพวกเขาได้ อย่างน้อยที่สุดต้องสำเร็จถึงเหนือกว่าปรมาจารย์ขึ้นไป!
ยังมีตี้อู่เฉิน เขาเป็นถึงผู้เฒ่าแห่งตันขวา ไม่ว่าจะเป็นการใส่ยาหรือวางยาพิษ เขาล้วนแต่เชี่ยวชาญทั้งสิ้น
แล้วแผ่นดินหลัวอวี่มียอดคนเช่นนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“อาซ้อของเจ้าคือใคร?”
แววตาของตี้อู่หยวนฉายแววอาฆาต แม้ว่าเขากับตี้อู่เฉินจะไม่ถูกกัน แต่ตี้อู่เฉินก็เป็นชาวเผ่าตัน
ไม่ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร นั่นก็เป็นความขัดแย้งภายในชนเผ่า
ตอนนี้ตี้อู่เฉินต้องมาตายด้วยน้ำมือของคนนอกชนเผ่า เขาจึงต้องแก้แค้นให้กับตี้อู่เฉิน อีกอย่างคนสองคนนั้นสามารถสังหารตี้อู่เฉินจนตายได้ ไม่แน่ว่าคนที่ฆ่าตี้อู่หงเย่และอู่เม่ยอาจจะเป็นพวกเขาก็เป็นได้!
“อาซ้อ…อาซ้อ…”
หนานกงจื่อหลิงพึมพำ เหงื่อผุดขึ้นมาที่ไรผมมากยิ่งขึ้นทุกขณะ
“หักหลังซ้อใหญ่ไม่ได้ ไม่ได้…พวกเขากำลังเดินทางมาที่อู๋โยว…”
“พี่ใหญ่ของเจ้าคือใคร?”
“พี่ใหญ่…”
หนานกงจื่อหลิงส่ายหน้า เม้มปากแน่น ทำอย่างไรก็ไม่ยอมเอ่ยชื่อซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนออกมา
“รีบพูดมาสิ! เจ้าปีศาจน้อยคือใคร! เขาคือใคร!”
ซย่าจื่ออวี้ร้อนใจจนระงับไม่ไหวอีกต่อไป นางพุ่งเข้าไปจับไหล่ทั้งสองข้างของหนานกงจื่อหลิงเอาไว้แล้วเขย่าไปมาอย่างรุนแรง
“ไม่ได้ พูดไม่ได้ ไม่ได้…”
หนานกงจื่อหลิงส่ายหน้าอย่างรุนแรง สุดท้ายก็กระอักเลือดออกมา ดวงตาปิดสนิทลง ร่างอ่อนปวกเปียกสลบไสลลงบนพื้น
“ฮูหยินนี่ท่านทำอะไรนะ!”
ตี้อู่หยวนเห็นเช่นนั้นก็รีบก้าวเข้าไปแล้วยื่นมือไปอังที่ปลายจมูกของหนานกงจื่อหลิงเพื่อทดสอบว่านางยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ทันที
“เป็นอย่างไรบ้าง”
หนานกงอ๋าวตรงเข้าสอบถามด้วยความร้อนใจ
“คุณหนูและพี่ใหญ่ของนางผูกพันและสนิทสนมกันมาก ดังนั้นจิตใต้สำนึกของนางจึงบอกให้นางปกป้องคนสองคนนี้ เดิมทีข้ากำลังค่อยๆปลอบโยนเพื่อให้นางเปิดใจ เมื่อนางเปิดใจแล้วจึงค่อยซักถาม ใครจะคาดคิดว่าฮูหยิน…”
ไม่ว่าจะอย่างไรซย่าจื่ออวี้ก็เป็นภรรยาของหนานกงอ๋าว ตี้อู่หยวนจึงไม่กล้าพูดแรงเท่าไหร่นัก
ทว่าหนานกงอ๋าวไม่เหมือนกัน เขาตวัดฝ่ามือฟาดเข้าที่ใบหน้าของซย่าจื่ออวี้จนล้มคว่ำ
“มือไม่พายเอาเท้าราน้ำจริงๆ!”
นี่เป็นครั้งแรกที่หนานกงอ๋าวตบหน้านาง ทั้งยังต่อหน้าคนอื่นอีกด้วย
อีกทั้งน้ำเสียงของเขายังแข็งกร้าวดุดัน ด่าทอนางอย่างรุนแรง ทำเอาซย่าจื่ออวี้ถึงกลับเซถลาไปหลายก้าวแทบล้มทั้งยืนทีเดียว
“ท่านพี่ ท่านตบข้า?”
ซย่าจื่ออวี้ถึงกับน้ำตาไหล นางแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าของนางนี้คือสามีที่รักใคร่และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับนางมาตั้งหลายปีจริงๆ
“ผู้เฒ่าหยวน ยาคายความจริงสามารถใช้ในครั้งต่อไปได้อีกไหม?”
หนานกงอ๋าวไม่สนใจซย่าจื่ออวี้แม้แต่น้อย หญิงที่ทำให้เขาเสียการใหญ่ ไม่ฆ่านางเสียก็ถือว่าปราณีมากแล้ว
“ไม่ได้แล้ว มันใช้ได้เพียงครั้งเดียว!” ตี้อู่หยวนถอนใจยาว
“แต่ว่า คราวนี้เราก็ได้รู้อะไรมากขึ้นไม่น้อย ข้าสงสัยว่าคนที่ฆ่าตี้อู่หงเย่และอู่เม่ยก็คือเจ้าปีศาจน้อยที่พวกท่านกำลังตามหา”
“ประมุขหนานกง เจ้าปีศาจน้อยของท่าน เขาเติบโตมาบนแผ่นดินหลัวอวี่จริงหรือ?”
“แผ่นดินที่มีแต่พวกคนชั้นต่ำอาศัยอยู่ เขากลับสามารถสำเร็จถึงขั้นปรมาจารย์ได้ ความสามารถของคนผู้นี้จึงมิอาจมองข้ามได้ หากไม่รีบกำจัดถอนรากถอนโคนในขณะที่เขายังไม่แข็งแกร่งมากไปกว่านี้ละก็ เกรงว่าจะกลายเป็นหอกข้างแคร่ชิ้นใหญ่ทิ่มแทงใจในภายภาคหน้านะสิ!”
สิ่งที่ตี้อู่หยวนกล่าวมา เป็นสิ่งที่หนานกงอ๋าวกำลังกังวลใจเช่นกัน
ที่ผ่านมาเมื่อเจ้าปีศาจน้อยกลับมามักไม่มีใครล่วงรู้ ล่องหนไร้ร่องรอย เหินห่างกับทุกคนอี กทั้งในทุกครั้งเขามักจะมาพำนักที่บ้านเพียงไม่กี่วัน หนานกงอ๋าวจึงมิเคยสนใจที่จะไปทดสอบวรยุทธ์เขาเลย
นึกไม่ถึงว่า เจ้าปีศาจน้อยกลายเป็นจิ้งจอกไปได้!
แว้งกัดหนานกงอ๋าวจนได้!
เฉินเจินและเฉินอยู่อยู่บนแผ่นดินหลัวอวี่ก็ยังเป็นถึงปรมาจารย์ แต่เจ้าปีศาจน้อยยังสามารถฆ่าพวกเขาได้ นั่นก็ชัดเจนว่าอย่างน้อยเจ้าปีศาจน้อยจะต้องสำเร็จถึงปรมาจารย์
บนแผ่นดินที่ต่ำต้อยยากจนข้นแค้นเช่นนั้นเจ้าปีศาจน้อยสามารถสำเร็จถึงปรมาจารย์ได้อย่างไรกันนะ?
หรือว่า…เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับบิดาที่ไม่รู้ชื่อแซ่ของเขา?