ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
**บทที่****252:**นาวามังกรทองคำ
ชุดที่อยู่ในมือของเหลยซานเอ๋อนั้นสวยงามอย่างมาก โดยเฉพาะเหล่าสายฟ้าที่ระยิบระยับอยู่รอบ ๆ ทั้งหมดนี้เพิ่มความสวยงามให้กับชุดอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะว่าต้นไม้สายฟ้าร่ำไห้นั่นเป็นไม้ธาตุสายฟ้า เหล่าอินทรีย์สายฟ้าชอบมันมาก ซึ่งสายฟ้าเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุดสำหรับพวกมัน
อย่างไรก็ตาม ชุดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อมนุษย์ และซ่งจงนั้นไม่ใช่อินทรีย์สายฟ้า เขาจะสามารถอดทนต่อสายฟ้าเหล่านั้นได้อย่างไร? ดังนั้นหลังจากที่เขาเห็นชุดแล้ว เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หดหู่ “ซานเอ๋อ ข้าจะกลายเป็นเต่าย่างหรือไม่ถ้าหากสวมใส่มัน?”
เหลยซานเอ๋อตกใจทันทีพร้อมอุทานว่า “โอ ข้าลืมเสียสนิท เช่นนั้นเดี๋ยวข้าใช้ใบไม้ชนิดอื่น!”
ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางโยนชุดที่ทำจากใบไม้สายฟ้าทิ้งไปและออกไปเอาใบไม้มาอีกกองหนึ่ง พร้อมทั้งสร้างชุดสำหรับซ่งจงอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางนำเสนอมันด้วยความภูมิใจทันที
เมื่อเขาเห็นมัน เขารู้สึกว่าเห็นรูเล็ก ๆ ที่เสื้อผ้าซึ่งราวกับว่ามันเป็นเจตนาของเหลยซานเอ๋อ ดังนั้นเขาจึงถามออกไปว่า “ทำไมมันถึงมีรูเต็มไปหมด? เพื่ออะไรงั้นหรือ?”
“มันช่วยระบายความร้อน!” เหลยซานเอ๋อตอบพร้อมกับดวงตาสดใส “พี่ชายน้อย ท่านไม่ทราบหรือว่าทะเลตะวันออกนั้นร้อนมาก ถ้าหากไม่สร้างรูไว้ แน่นอนว่าท่านจะต้องเหงื่อออก!”
“เรื่องนั้น… มันก็ดีนะถ้าหากมีรูอยู่เพียงข้างบน ทำไมต้องมีรูในท่อนล่างด้วยล่ะ?” ซ่งจงถามด้วยความสับสนเล็ก ๆ
“ก้นของท่านใหญ่มาก แน่นอนว่ามันต้องการอากาศ!” เหลยซานเอ๋อตอบอย่างเฉียบขาด
“เรื่องนั้นข้าคิดว่ามันไม่จำเป็น!” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างทุกข์ใจ “อย่างไรก็ตาม เจ้าควรสร้างกางเกงที่ไม่มีรู!”
“ทำไม?” เหลยซานเอ๋อกล่าวอย่างงุนงง
“คือว่า…” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาไม่รู้จะตอบนางว่าอย่างไรดี
เหลยซานเอ๋อนั้นอยู่ในความคับข้องใจอย่างมาก “พี่ชายน้อย ท่านไม่ชอบชุดที่ข้าทำงั้นหรือ?”
“ย่อมไม่ ไม่ใช่เลย” ซ่งจงเห็นแล้วว่านางกำลังจะร้องไห้ เขารีบตะโกนออกไปทันที “ข้าชอบมัน แน่นอนข้าชอบมันมาก มากที่สุด ข้าจะใส่มันตอนนี้เลย!”
เมื่อเหลยซานเอ๋อได้ยินเช่นนั้น นางยิ้มกว้างพร้อมกับส่งชุดที่เต็มไปด้วยรูมากมายให้กับซ่งจง ซ่งจงรับมันมาอย่างขื่นขมพร้อมกับใส่มันและค่อยลุกจากเตียงช้า ๆ ในเวลาเดียวกันมีลมพัดผ่านมาทำให้เขารู้สึกเย็นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มันทำให้เขาคิดถึงคำพูดหนึ่งที่ว่า เพียงลมเบา ๆ ก็หนาวมากถ้าหากมันกระทบลูกไก่ของเจ้า!
ซ่งจงไม่สามารถอดทนกับสถานการณ์เช่นนี้ได้ เขารีบหยิบใบไม้ขึ้นมาเพื่อปกปิดเป้าของตนเองทันที เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเขาหันไปหาเหลยซานเอ๋อพร้อมกล่าวว่า “ซานเอ๋อ เจ้าช่วยพาข้าเดินดูรอบ ๆ ได้หรือไม่?”
ในขณะที่เหลยซานเอ๋อเห็นการกระทำที่แปลกประหลาดของซ่งจง นางขมวดคิ้วแต่ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม นางตอบกลับคำถามเขาของอย่างไม่ลังเล “แน่นอน ไปกันเลย ข้าจะพาท่านออกไปเอง ส่วนนี้เป็นห้องนอนของข้าซึ่งอยู่สูงสุดบนเกาะสายฟ้าร่ำไห้ เราไปดูด้านนอกกันเถิด!”
นางอธิบายพร้อมกับพาซ่งจงออกไปด้านนอก ซ่งจงรู้สึกประทับใจกับภาพด้านนอกที่เขาได้เห็นทันที
เกาะสายฟ้าร่ำไห้นั้นกว้างใหญ่มาก เพียงแค่ยอดเขาของมันก็สูงราวหนึ่งหมื่นฟุต แนวเขาเป็นสันแคบ ทั่วทั้งภูเขาเต็มไปด้วยต้นไม้สายฟ้าร่ำไห้และห้องนอนของเหลยซานเอ๋อนั้นอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา เมื่อซ่งจงมองลงมาจากราวบันได เขาเห็นได้ว่าเกาะนี้เต็มไปด้วยอินทรีย์สายฟ้า บางตัวนั้นมีขนาดใหญ่ บางตัวมีขนาดเล็กและจำนวนของพวกมันนั้นมากกว่าหนึ่งหมื่น พวกมันมีความสุขขณะอยู่บนเกาะ บางตัวนั้นบินโฉบออกไปในทะเลเพื่อจับปลาเป็นครั้งคราว บางตัวกำลังเลี้ยงลูกของพวกมันอยู่อย่างมีความสุข ทิวทัศน์ที่เขาได้มองในตอนนี้ราวกับว่าอยู่บนเกาะแห่งสวรรค์
ในขณะที่ซ่งจงกำลังมองอินทรีย์สายฟ้าทั้งหมื่นตัว มันไม่น่าเกรงขามเหมือนกับครั้งที่มันอยู่ตรงหน้าของเขาเมื่อครั้งก่อน ดูเหมือนว่าเหล่าอินทรีย์ที่ดุร้ายเหล่านี้ก็จะดูมีมุมที่อ่อนโยนเช่นกัน
เหลยซานเอ๋อเห็นซ่งจงมองทั่วเกาะอย่างพิจารณา นางอดไม่ได้ที่จะถามออกมา “พี่ชายน้อย เกาะอินทรีย์สายฟ้าของข้านี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ยอดเยี่ยม ข้าไม่เคยจินตนาการถึงภาพที่สวยงามเช่นนี้มาก่อน!” เจ้าอ้วนตอบกลับ
“ฮี่ฮี่!” เหลยซานเอ๋อที่ได้ยินเช่นนั้น นางตอบกลับอย่างร่าเริง “สถานที่แห่งนี้ถือว่าไม่ได้แย่เลย มันเต็มไปด้วยต้นไม้สายฟ้าร่ำไห้ ซึ่งเป็นต้นไม้จิตวิญญาณประเภทสายฟ้าที่ดีที่สุดในทะเลตะวันออก อีกทั้งยังมีต้นไม้อายุหลายพันปีอยู่ที่นี่ด้วย เมื่อได้รับการดูแลเช่นนี้ เกาะอินทรีย์สายฟ้าจึงถือว่าเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ที่สุดในทะเลตะวันออก!”
เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น คนจรจัดอย่างข้าสามารถมาพักที่นี่ได้หรือไม่?”
“โอ ข้าไม่กล้าที่จะให้ท่านอยู่ตรงนี้!” เหลยซานเอ๋อรีบโบกมืออย่างกังวล “ข้าได้รายงานเรื่องของท่านไปยังอาวุโสระดับสูงแล้ว พวกเขาจะส่งคนมาพาท่านออกไปอีกในไม่ช้า!”
“พาข้าไปไหน?” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าเขาเปลี่ยนทันที “ซานเอ๋อ เจ้าทำอะไรลงไป?”
“ไม่มีอะไรมาก พี่ชายน้อยนั้นอยู่ในระดับราชวงศ์ สถานะยิ่งใหญ่นัก ท่านจะต้องได้รับการดูแลจากจักรวรรดิทะเลตะวันออกอย่างแน่นอน อีกทั้งข้ายังไม่กล้าที่จะปกปิดเรื่องเช่นนี้ ดังนั้นข้าจึงรีบรายงานขึ้นไปอย่างรวดเร็ว!” เหลยซานเอ๋อตอบคำถามพร้อมถามกลับ “ข้าทำอะไรผิดงั้นหรือ?”
เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาคิดในใจอย่างทุกข์ตรม ‘ใช่ ผิดอย่างแน่นอน ข้าไม่มีสายเลือดราชวงศ์และเป็นเพียงผู้ฝึกตนมนุษย์ เจ้าอยู่ในขั้นห้าเท่านั้นจึงอาจจะไม่รู้ แต่ถ้าหากเจ้าส่งข้าเข้าไปในราชวงศ์และต้องพบกับอสูรกายขั้นหกหรือเจ็ด พวกมันเหล่านั้นอาจจะมองทะลุการปลอมตัวของข้าได้อย่างแน่นอน ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ข้าคงจะถูกฉีกออกเป็นชิ้น!’
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่งจงรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงตอบกลับไปอย่างร่าเริง “ฮ่าฮ่า เจ้าไม่ผิดหรอก มันเป็นเพียงข้าที่ไม่ชอบพบกับคนแปลกหน้า ดังนั้นข้าจะต้องขอตัวออกไปก่อน!” เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น ซ่งจงต้องการที่จะบินออกไปทันที
แต่เหลยซานเอ๋อที่ได้ยินเช่นนั้น นางกอดแขนเขาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมา “ข้าไม่ต้องการให้พี่ชายน้อยออกไป ข้าไม่ให้ท่านไป!”
เมื่อเห็นว่าเหลยซานเอ๋อร้องไห้ราวกับเด็ก ซ่งจงรู้สึกไม่ดีอย่างมากภายในหัวใจ อย่างไรก็ตามชีวิตของเขาอยู่ในอันตรายและไม่ใช่เวลาที่เขาจะใจอ่อนกับเรื่องนี้
ดังนั้นซ่งจงจึงข่มใจไว้พร้อมถามออกไป “ซานเอ๋อ เราจะไม่ถูกแยกจากกันงั้นหรือถ้าหากเจ้าส่งข้าไปที่จักรวรรดิทะเลตะวันออก?”
“ใช่ เราจะไม่! ข้าจะไปกับท่านอย่างแน่นอน!” ซานเอ๋อตอบกลับอย่างกังวล
เมื่อซ่งจงได้ยิน เขาแทบเป็นลมอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นว่าข้อแก้ตัวไม่มีประโยชน์ เขาจึงกล่าวออกไปอีกครั้ง “แล้วถ้าพวกเขากักขังข้าล่ะ?”
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ท่านมีสายเลือดแห่งจักรพรรดิอสูรกาย ใครจะกักขังท่าน?” เหลยซานเอ๋ออธิบาย “ในทะเลตะวันออกตอนนี้ ไม่มีอสูรกายตนไหนที่มีสายเลือดแห่งจักรพรรดิ แต่พี่ชายน้อยกลับมี น่าจะจบลงที่ท่านได้เป็นเจ้าชายผู้สืบทอดราชวงศ์ของจักรวรรดิทะเลตะวันออก ใครจะกล้ากักขังท่าน?”
เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาตกใจทันทีพร้อมกับถามด้วยความงุนงง “นี่มันเรื่องอะไรกัน? คนแปลกหน้าอย่างข้าจะเป็นเจ้าชายได้อย่างไร?”
“แน่นอน!” เหลยซานเอ๋อตอบกลับอย่างไม่ลังเล “ท่านมีสายเลือดแห่งจักรพรรดิอยู่ภายในร่างกาย ภายในทะเลตะวันออกมีเพียงจักรพรรดิคนปัจจุบันเท่านั้นที่มีสายเลือดของมังกรศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างกายของเขา นอกเหนือจากเขา มีเพียงท่านเท่านั้น และแน่นอนว่าท่านจะกลายเป็นผู้สืบทอด!”
“สวรรค์!” ซ่งจงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขื่นขม “พวกเขาเลือกผู้สืบทอดบัลลังก์ง่ายเช่นนี้เลยงั้นหรือ?”
“ฮ่าฮ่า แท้จริงไม่มีใครสนใจบัลลังก์แห่งจักรพรรดิ!” เหลยซานเอ๋อตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ว่าอะไร?” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาตกใจพร้อมกับถามออกไป “ไม่มีใครสนใจบัลลังก์จักรพรรดิงั้นหรือ?”
“แน่นอน พวกเราอสูรกายนั้นทำตามกฎแห่งสวรรค์และหวังว่าจะขึ้นไปบนนั้นให้เร็วที่สุด บัลลังก์นั้นเป็นเพียงวัตถุเท่านั้น ในฐานะที่มีเชื้อสายแห่งราชวงศ์มันจึงเป็นความรับผิดชอบของพวกท่านและพวกเรามีหน้าที่ทำตามคำสั่งเท่านั้น!” เหลยซานเอ๋อกล่าวเสริม “อย่างไรก็ตาม อสูรกายนั้นมีมากมายหลายเผ่าและทุกคนใส่ใจกับเผ่าพันธุ์ของตนเองอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจบัลลังก์และสนใจเพียงแต่เรื่องของตนเองเท่านั้น ถ้าหากมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอด ความเป็นและตายของอสูรกาย เมื่อถึงคราวนั้นบัลลังก์จะถูกใช้งานเพื่อเป็นศูนย์รวมความสามัคคีของเหล่าอสูรกาย”
“ข้าเข้าใจแล้ว!” ซ่งจงตอบกลับอย่างขื่นขม “ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าจักรพรรดิแห่งอสูรกายนั้นเป็นเพียงผู้ที่มีอำนาจแต่ไร้ความแข็งแกร่ง?”
“แน่นอนว่าไม่!” เหลยซานเอ๋อตอบทันที “จักรพรรดินั้นมีสายเลือดแห่งจักรพรรดิอสูรกาย พวกเขาแข็งแกร่งและมีพลังมากมาย อีกทั้งยังไม่สนใจอะไรเลย แต่ถ้าหากพบกับปัญหา พวกเขาสามารถเข้ามาแทรกแซงได้ ตัวอย่างเช่นถ้าหากมีอสูรกายสองเผ่ากำลังต่อสู้กัน จักรพรรดิสามารถเป็นตัวกลางและสามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด!”
“อืม!!!” ซ่งจงลูบคางพร้อมกับกล่าวว่า “ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่!”
“มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก หลังจากที่ท่านกลายเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ ท่านจะมีเกาะเป็นของตนเองและมีลูกน้องมากมาย ในขณะนั้นข้าก็จะสามารถไปเล่นกับท่านได้!”
“ไม่ ข้าไม่สนใจเรื่องนั้น!” ซ่งจงโบกมือพร้อมกล่าวต่อ “ข้าต้องไปแล้ว!” ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาต้องการที่จะละทิ้งเหลยซานเอ๋อทันที
เมื่อนางได้ยินเช่นนั้น นางกอดซ่งจงแน่นขึ้นและกล่าวอย่างอ้อนวอน “พี่ชายน้อยทำไมท่านต้องไปด้วย? ท่านสามารถรังแกซานเอ๋อผู้นี้ได้ลงคองั้นหรือ?”
ซ่งจงนั้นเศร้าใจอยู่เหมือนกัน! แต่เขาไม่สามารถบอกเหลยซานเอ๋อได้ว่านี่คือการปลอมตัว แต่ถ้าหากเขาไม่บอกความจริงออกไป เขาก็คงไม่มีข้อแก้ตัวอีกแล้ว ถ้าหากเป็นคนอื่น ก็คงจะถูกเตะออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับหนีไปอย่างไม่คิดห่วงใย แต่เสียงคร่ำครวญของนางบาดหัวใจเขายิ่งนัก อีกทั้งบวกกับความจริงที่นางช่วยชีวิตเขาไว้อย่างสุดกำลัง ซ่งจงไม่สามารถลงมือกับหญิงสาวที่น่ารักกับเขาได้
ในขณะที่ซ่งจงรู้สึกหดหู่ มีเหล่าเมฆสีสันสดใสกำลังพุ่งเข้ามา เมื่อเหลยซานเอ๋อเห็นนางตะโกนออกมาอย่างร่าเริง “อ่าฮ่า พี่ชายน้อย ท่านไม่สามารถออกไปได้อีกแล้ว อาวุโสส่งคนมารับท่านแล้ว!”
เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาคิดในใจอย่างหดหู่ ‘สวรรค์ ท้ายที่สุดข้าก็จะตายตกไปเพราะสตรีผู้นี้!’
เขารู้ว่าเขาไม่มีทางหนีอีกแล้ว ซึ่งเขาไม่เต็มใจที่จะไปกับราชวงศ์ ไม่ต้องกล่าวถึงความเร็วที่น่ากลัวของเหลยซานเอ๋อ เมฆเหล่านั้นกลับมีความเร็วที่น่ากลัวยิ่งกว่า พวกมันมาถึงร่างกายของซ่งจงภายในพริบตา!
ซ่งจงตกใจมากพร้อมกับตระหนักได้ว่าความเร็วของพวกเขาทั้งมากกว่าห้าพันหน่วยด้วยซ้ำ!
ในขณะที่ซ่งจงมองและสงสัยว่าพวกเมฆนั้นคือสิ่งใด พวกมันแยกออกจากกันขยายออกราวสามพันฟุต สูงกว่าร้อยฟุตกลายเป็นนาวามังกรศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าเกรงขาม ซึ่งแยกออกเป็นเรือสิบลำ!
เรือมังกรศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นไม้สีทองพร้อมด้วยหัวมังกรที่อยู่ด้านหน้าของเรือและหางเสือ หัวมังกรนั้นคล้ายกับว่ามันมีชีวิตจริง ๆ โดยเฉพาะดวงตาของมันราวกับว่ามีสายฟ้าโลดแล่นอยู่ภายในนั้น หางของมันนั้นยาวกว่าร้อยฟุตและดูสมจริงอย่างมาก ราวกับว่ามันกำลังเคลื่อนไหวอย่างอิสระ
ตรงกลางของเรือนั้นเป็นหอคอยที่หรูหรา มันมีหลายชั้น ในทุกชั้นออกแบบอย่างสวยงามและประณีตอย่างมาก เต็มไปด้วยโคมไฟและสีสันที่สวยงาม
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของซ่งจงคือยอดของหอคอย มันดูคล้ายอาคารทั่วไป แต่ทว่ามันคือหอคอยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถสร้างสายฟ้าที่ทรงพลัง แต่ซ่งจงนั้นไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้นัก เขารู้เพียงมันคือหอคอยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่รู้ว่ามันสามารถสร้างสายฟ้าได้ด้วย อย่างไรก็ตามด้วยความน่าเกรงขามของเรือมังกรศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงคิดว่าสายฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจะต้องมีพลังมหาศาลอย่างแน่นอน
สมบัติขนาดยักษ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่ซ่งจงไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แต่ในสำนักเสวียนเทียนเรือของพวกเขานั้นมีขนาดเพียงสองพันฟุต และหอคอยสายฟ้านั้นเป็นเพียงสายฟ้าระดับต่ำ ซึ่งไม่มีข้อไหนสามารถเปรียบเทียบกับเรือลำนี้ได้เลย
เมื่อเผชิญหน้ากับเรือมังกรศักดิ์สิทธิ์ ซ่งจงถูกครอบงำอย่างสมบูรณ์
เหลยซานเอ๋อที่อยู่ด้านข้างกล่าวออกมาอย่างอิจฉา “อา ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจักรพรรดิจะให้ความสำคัญกับท่านขนาดนี้ เขาส่งนาวามังกรทองซึ่งเป็นสมบัติขนาดยักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลตะวันออกมารับท่าน ความแข็งแกร่งของมันสามารถเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินจำนวนสิบคน!”
“เป็นไปได้งั้นหรือ? มันแข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?” ซ่งจงอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“แน่นอน เรือลำนี้ถูกทิ้งไว้โดยผู้ฝึกตนระดับเลี่ยนจือเมื่อหมื่นปีก่อน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันจึงกลายเป็นสมบัติของจักรวรรดิทะเลตะวันออก!” เหลยซานเอ๋ออธิบาย
“อืม ข้าเข้าใจแล้ว!” ซ่งจงตอบกลับ
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุย มีบุรุษร่างสูงและแข็งแกร่งลอยออกมาจากเรือมังกรทอง เขาเปลือยกายท่อนบนสวมใส่เพียงกางเกงเท่านั้น กล้ามเนื้อของเขาเป็นมัดสวยงามไม่ได้ด้อยไปกว่าซ่งจงเลย
เขาลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าซ่งจง สำหรับเหลยซานเอ๋อที่เห็นเช่นนั้น นางรีบทำความเคารพทันที “เคารพผู้อาวุโส!”
บุคคลนั้นยิ้มให้เหลยซานเอ๋อ “ซานเอ๋อไม่ต้องพิธีรีตองมากนัก ลุกขึ้นเถิด ข้าขอดูหน่อยว่าผู้นี้มีสายเลือดแห่งจักรพรรดิอสูรกายจริงหรือไม่!”
เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เขามองมาที่ซ่งจงทันที ในขณะนั้นเองซ่งจงรู้สึกได้ว่ามีคลื่นจิตวิญญาณที่ร้อนแรงกำลังตรวจสอบร่างกายเขาอยู่ มันแทรกซึมเข้ามาราวกับว่าต้องการรู้ความลับทั้งหมดที่เขามี ซ่งจงตระหนักได้ทันทีว่าในตอนนี้เขาต้องทำอะไรบางอย่าง!