ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

**บทที่****251:**สายเลือดจักรพรรดิ (2)

เมื่อเหลยซานเอ๋ออธิบายเช่นนั้น ซ่งจงตระหนักได้ทันทีและเข้าใจว่าปัญหาเหล่านี้เกิดจากเส้นสายธารโลหิต หลังจากที่เขาใช้มันร่วมกับไฟต้นกำเนิด มันหลอมรวมเข้ากับซ่งจงอย่างสมบูรณ์ ในเวลานี้ถือได้ว่าเขามีสายเลือดของเต่าดำอยู่ภายในร่างกาย ดังนั้นเขาจึงมีการเปลี่ยนแปลงที่พิเศษเมื่ออยู่ในน้ำและมีคลื่นพลังของอสูรกาย อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นลูกครึ่งอสูรกายก็ได้

ในขณะที่ซ่งจงกำลังฝันกลางวัน เหลยซานเอ๋อถามออกมาด้วยรอยยิ้ม “ฝ่าบาทน้อย ท่านอยู่ในขั้นสี่เท่านั้นและกำลังจะเลื่อนขั้นแล้ว ช่างโดดเด่นเหลือเกิน! แม้ว่าข้าจะมีโอกาสได้ฝึกฝนแต่ก็หยุดอยู่ที่ขั้นห้าเท่านั้น แต่กล่าวกันว่าสายเลือดอสูรกายจักรพรรดินั้นจะเปลี่ยนแปลงร่างกายตนเองเมื่อเข้าสู่ขั้นแปด เก้า หรือสิบไม่ใช่หรือ? ทำไมท่านจึงพัฒนารวดเร็วเช่นนี้?”

“เหอะ ๆ” ซ่งจงได้แต่ปล่อยเสียงหัวเราะโง่งมออกมา “ข้าไม่รู้ ข้าจำไม่ได้!”

ในตอนนี้ซ่งจงรู้สึกดีมากกับข้อแก้ตัวที่เขาจำอะไรไม่ได้เลย ตราบใดที่เขาพบเจอกับคำถามที่ไม่รู้จะตอบอย่างไร เขาจะใช้เหตุผลนี้เพื่อหลีกเลี่ยง อย่างน้อยที่สุดมันก็ไม่สร้างความสงสัยใด ๆ เพิ่มเติมให้กับเหลยซานเอ๋อ

เมื่อเหลยซานเอ๋อได้ยินเช่นนั้น นางขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้และไม่ได้ถามเขาต่อในเรื่องนั้น ใบหน้านางบิดเบี้ยวพร้อมกล่าวว่า “ฝ่าบาทน้อย มันไม่สำคัญว่าท่านจะพัฒนาได้รวดเร็วแค่ไหน แต่ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมท่านต้องเปลี่ยนแปลงมาในสภาพเช่นนี้?”

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขางุนงงทันทีพร้อมถามกลับด้วยความสับสน “ข้าผิดปกติงั้นหรือ?”

“ไม่ใช่ว่ามันผิด แต่ว่ามัน…” เหลยซานเอ๋อไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร

เมื่อซ่งจงเห็นเช่นนั้น เขาถามกลับพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “อะไรงั้นหรือ?”

“อา ประมานว่า…” เหลยซานเอ๋อตอบ “เดือนที่แล้วข้าได้พบกับผู้ฝึกตนคนหนึ่ง เขาเป็นก้อนไขมันเดินได้ เขาบังคับให้ข้าถอยกองทัพของตนเองและปล่อยเชลยกว่าสิบคน ซึ่งน่ารังเกียจอย่างถึงที่สุด!”

เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น นางกัดฟันราวกับต้องการจะแสดงว่ารังเกียจเขามากเพียงใด เมื่อซ่งจงเห็นว่านางเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ เขาอดไม่ได้ที่จะหดตัวเนื่องจากความเย็นเข้าสู่ไขสันหลังของตนเอง

เหลยซานเอ๋อกล่าวต่อ “ฝ่าบาทน้อย ท่านรู้ไหมว่าท่านเหมือนเขาอย่างมาก ครั้งแรกที่ข้าเห็นท่าน ข้าคิดว่าท่านเป็นเขา!”

“โอ!” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขารีบปฏิเสธทันที “แน่นอนว่าข้าไม่ใช่เขา!”

“ข้ารู้ ข้ารู้อยู่แล้ว!” เหลยซานเอ๋อเผยรอยยิ้มออกมา “ฝ่าบาทนั้นมีสายเลือดของเต่าดำ แต่ว่าไขมันบัดซบนั่นไม่มี นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของท่านไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเทียบได้ แม้ว่าท่านกับเขาจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ข้าสามารถทุบตีไขมันบัดซบให้ตายตกได้ด้วยฝ่ามือเดียว สำหรับท่านที่สามารถไล่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินกลับไปด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสได้! สวรรค์ ข้าชื่นชมท่านเหลือเกิน ช่างแข็งแกร่งมากกว่าผู้ใด!”

ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น ดวงตาของนางที่มองซ่งจงนั้นเต็มไปด้วยความนับถือ ไม่แปลกเลยที่นางจะคิดเช่นนั้น การต่อสู้ของซ่งจงนั้นอัศจรรย์เกินไป เขาไล่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินด้วยสถานะผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป แน่นอนว่ามันจะเป็นข่าวที่สั่นสะเทือนโลกแห่งผู้ฝึกตน

เหล่าอสูรกายนั้นนับถือผู้ที่แข็งแกร่งอย่างมาก ดังนั้นด้วยการต่อสู้ที่ดุเดือด ไม่แปลกใจที่เหลยซานเอ๋อจะชื่นชมเขาอย่างมาก

เมื่อซ่งจงเห็นดังนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปลื้มใจ แต่เขาเก็บอาการและกล่าวออกไปอย่างถ่อมตัว “ไม่ถึงขนาดนั้น เป็นเพียงข้าที่โชคดีเท่านั้น!”

“อา ฝ่าบาทน้อยช่างถ่อมตัว! โชคดีแบบไหนกันที่สามารถทำให้ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินหลบหนีได้?” เหลยซานเอ๋อกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

ซ่งจงนั้นรู้ตัวอยู่แล้ว แต่ความลับของเขาไม่สามารถบอกกล่าวกับเหลยซานเอ๋อได้ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “เอาล่ะ ซานเอ๋อ ตอนนี้ข้าอยู่ที่ใด?”

“รายงานฝ่าบาทน้อย ท่านอยู่ที่เกาะอินทรีย์สายฟ้า!” เหลยซานเอ๋อตอบกลับ

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขารู้ไม่จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “อา เจ้าไม่เรียกข้าว่าฝ่าบาทน้อยได้หรือไม่ ข้าไม่ชิน!”

“แล้วข้าควรเรียกท่านว่าอะไร?” เหลยซานเอ๋อตอบกลับอย่างงุนงง

“ถ้าหากเจ้าไม่ถือ เจ้าสามารถเรียกข้าว่าพี่ชายได้!” ซ่งจงตอบกลับ

ในความเป็นจริงแม้ว่าซ่งจงจะดูแก่กว่าแต่ทว่าความแตกต่างเรื่องอายุของทั้งสองนั้นห่างกันอย่างมาก เหลยซานเอ๋อนั้นฝึกฝนมานานกว่าเจ็ดถึงแปดร้อยปี ในขณะที่ซ่งจงอายุเพียงสามสิบเท่านั้น ด้วยช่องว่างระหว่างอายุมันมากพอที่จะเรียกเหลยซานเอ๋อว่าอาวุโสยาย ดังนั้นเขาจึงเพิกเฉยต่อมันและทำเหมือนนางเป็นน้องสาวเท่านั้น

แน่นอนว่าเหลยซานเอ๋อไม่รู้ถึงความตั้งใจของซ่งจง อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งเป็นเครื่องชี้วัดทุกสิ่งของเหล่าอสูรกาย ความแข็งแกร่งของเขาทำให้เหลยซานเอ๋อเชื่อสนิทใจ ดังนั้นนางจึงไม่ค่อยพอใจนักและตอบกลับอย่างร่าเริงว่า “เป็นเกียรติของข้าอย่างยิ่ง ข้าจะเรียกท่านว่าพี่ชายน้อย!”

“ทำไมต้องเป็นพี่ชายน้อย?” ซ่งจงตอบกลับอย่างงุนงง “ดูร่างกายของข้าสิ มันดูเล็กน้อยงั้นหรือ?” เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เขายกแขนทั้งสองข้างขึ้นมา

เหลยซานเอ๋อปิดปากพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าท่านยังเด็ก! อย่าบอกนะว่าข้าผิดที่จะเรียกท่านแบบนั้น?”

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น ซ่งจงรู้ได้ทันทีว่าเหลยซานเอ๋อนั้นไม่ได้โง่เขลาและรู้อายุของเขาแล้ว แต่เพราะความแข็งแกร่งและสถานะที่เขามีทำให้นางยอมเรียกเขาว่าพี่ชาย

หลังจากที่ซ่งจงเข้าใจ เขาเผยยิ้มและกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ย่อมได้!”

ในขณะกล่าวเช่นนั้น เขาเหยียดตัวบนเตียงพร้อมอุทานอย่างประหลาดใจ “หือ อาการบาดเจ็บของข้าหายไปแล้ว? เกิดอะไรขึ้น? ข้าจำได้ว่ากระดูกของข้าหักไปมากเมื่อต้องพบเจอกับฝ่ามือนั้น”

“ฮี่ฮี่ ข้ามียาลึกลับ ราชาฉลามดำเคยมอบมันให้กับข้า!” เมื่อเหลยซานเอ๋อกล่าวถึงราชาฉลามดำ นางมีท่าทีที่เปลี่ยนไปและไม่กล่าวสิ่งใดต่อ

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขารู้ว่าเหลยซานเอ๋อนั้นเป็นทุกข์ที่ราชาฉลามดำตายตกไป ท้ายที่สุดแล้วทั้งคู่ได้เป็นถึงทูตแห่งจักรวรรดิทะเลตะวันออก แต่กลับตายตกได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าในอดีตจะไม่ได้ใกล้ชิดกัน เหลยซานเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกไปเมื่อราชาฉลามดำได้จากไป

ในขณะที่ซ่งจงกำลังคาดเดา เขาได้แต่ทำเป็นสับสนเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ “ซานเอ๋อเจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?”

“ไม่เป็นอะไรมาก!” เหลยซานเอ๋อตอบกลับอย่างมีความสุข “เมื่อกล่าวถึงราชาฉลามดำ ข้ารู้สึกเศร้าเล็กน้อย ในอดีตข้านั้นขัดแย้งกับสหายผู้นี้เสมอและรังเกียจเขามาก แต่หลังจากที่เขาตายตกไปด้วยมือของไขมันบัดซบ ข้ากลับรู้สึกเศร้าเล็กน้อย!”

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะระแวง กลัวว่าเหลยซานเอ๋อจะจำตัวตนของเขาได้ เขาจึงรีบกล่าวออกไป “คนตายไม่สามารถกลับมามีชีวิตอีกได้ จงก้าวต่อไปเถิด!”

“เป็นเช่นนั้น!” เหลยซานเอ๋อพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “พี่ชายน้อยอย่ากังวล ข้าสบายดี หลายปีที่ผ่านมาเพื่อนของข้ามากมายต้องล้มหายตายจากจากไปหลายครั้งแล้ว ข้ารู้สึกคุ้นชินแล้ว!”

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาหัวเราะออกมาอย่างขื่นขม “เอาล่ะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก เจ้าช่วยหาเสื้อผ้าให้ข้าหน่อยได้ไหม ข้าต้องการออกไปข้างนอก!”

หลังจากที่ผ่านการต่อสู้ที่โหดร้าย ร่างกายของซ่งจงฟกช้ำไปทั้งตัวและเสื้อผ้าของเขาไม่อยู่ในสภาพเดิม แน่นอนตอนนี้เขาเปลือยกายมานานเกินไปแล้ว แม้แต่ในตอนนี้ที่เขานอนอยู่บนเตียงก็เช่นกัน

“ย่อมได้!” เหลยซานเอ๋อได้ยินเช่นนั้น นางเดินไปหยิบชุดคลุมสีชมพูออกมาด้วยรอยยิ้ม “พี่ชายน้อยนี่เป็นชุดโปรดของข้าเลย แล้วข้าจะให้ท่านใส่มันอย่างไร?”

เมื่อซ่งจงเห็นเช่นนั้น เขาโกรธจัดจนแทบตายตก! สิ่งที่นางหยิบออกมานั้นเป็นเสื้อผ้าสตรี เขาจะสวมใส่มันได้อย่างไร? แต่ถ้าหากเขาไม่สวมมัน แน่นอนว่ามันจะขัดแย้งกับการที่เขาความจำเสื่อม เพื่อที่จะให้การแสดงนี้สมบูรณ์แบบ เขาย่อมไม่รู้ความแตกต่างระหว่างหญิงกับชาย อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสวมชุดของสตรี

ขอบคุณสวรรค์ ซ่งจงตอบกลับด้วยไหวพริบ “ข้ารู้สึกว่ามันเล็กไป มันจะไม่ทำให้ข้าอึดอัดหรือ?”

“อา!” เหลยซานเอ๋อเข้าใจทันที “ข้าควรทำอย่างไรดี? ชุดของข้านั้นเล็กมาก ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะสวมมัน!”

“ถ้าเช่นนั้น ขอใบไม้สักใบให้ข้าปกปิดตนเองก็พอ!” ซ่งจงตอบกลับอย่างหดหู่ เขามีเสื้อคลุมของตนเองในแหวนมิติอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นชุดคลุมของมนุษย์ ถ้าหากเขาสวมใส่มันแน่นอนว่าเหลยซานเอ๋อจะต้องจดจำได้ว่าเขาคือไขมันบัดซบที่สังหารราชาฉลามดำ ดังนั้นเหตุผลนี้จึงทำให้เขาไม่กล้าที่จะสวมใส่ชุดของตนเอง

เมื่อเหลยซานเอ๋อได้ยินที่ซ่งจงกล่าว นางเผยยิ้มออกมา “ตามนั้น ข้าจะสร้างชุดใหม่ให้พี่ชายน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะตัดเย็บเสื้อผ้าเอง รอสักครู่เดี๋ยวข้ากลับมา!” เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น นางไม่รอให้ซ่งจงตอบกลับพร้อมกับหมุนตัวออกจากห้องไปทันที นางดูตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้ตัดเสื้อผ้าให้ซ่งจงใส่

เมื่อซ่งจงได้เห็นเช่นนั้น เขาจะกล่าวอะไรได้อีก? สุดท้ายเขาทำได้เพียงรอ โชคดีที่เหลยซานเอ๋อกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับกอดกองใบไม้ไว้ จากนั้นนางทิ้งใบไม้ทั้งหมดลงบนพื้นและเริ่มสร้างเสื้อผ้าให้ซ่งจง

เหลยซานเอ๋อนั้นรวดเร็วอย่างมาก ในเวลาเพียงสั้น ๆ นางยืนขึ้นพร้อมกับชุดใบไม้ที่ดูหรูหราพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่ชายน้อยออกมาดูมันสิ สิ่งนี้สร้างมาจากใบไม้ของต้นไม้สายฟ้าร่ำไห้ ดูสิมันมีสายฟ้าเป็นประกายอยู่รอบ ๆ ด้วย ท่านว่ามันสวยหรือไม่?”