หลังจากที่กินอาหารกันเสร็จแล้ว ฉันทัชต้องกลับบริษัท เขาพูดขอโทษว่า “เดิมทีอยากจะเป็นไกด์อีกสักครั้ง แต่พอดีที่บริษัทมีงาน เกรงว่าจะไปด้วยกันไม่ได้แล้ว หวังว่าการเที่ยวที่ฮ่องกงของพวกคุณจะได้รับความสุขกลับไปนะครับ ถ้าเกิดเรื่องอะไรโทรหาผมได้ตลอดเลยนะครับ”
“ขอบคุณมากครับคุณฉันทัช” ออกัสยิ้ม แล้วจับมืออย่างเป็นมิตรเพื่อบอกลา
ยู่ยี่ไม่ได้จะกลับด้วย เธอยังอยากที่จะอยู่ต่อ ฉันทัชก็ไม่ห้าม เขาทิ้งเสื้อคลุมบางๆของตัวเองไว้ให้เธอ “อยากจะกลับเมื่อไหร่โทรบอกผมนะ หรือว่าโทรหาบ้านตระกูลยศณะราคินก็ได้ อย่ากลับรถเมล์หรือนั่งรถไฟใต้ดินคนเดียว ผมไม่วางใจ ผมไม่อยู่ที่นี่ บรรยากาศของพวกเขาอาจจะดีขึ้น”
“ฉันรู้แล้วค่ะ ขับรถปลอดภัยนะคะ แล้วก็คืนนี้ฉันอยากกินกีวี่ ดีที่สุดก็คือเค้กกี่วี่นะ” เธอมีความรู้สึกอยากกิน
“ได้ เดี๋ยวผมซื้อให้….” ฉันทัชโค้งตัวลงมาจูบที่มุมปากของเธอ แล้วหันหลังเข้าไปในรถเบนลีย์คันสีดำ
เชอร์รีนกับนาโนกำลังรอยู่ยี่ คนทั้งสามจะกลับโรงแรม ออกัสกับดนัยจะไปหาหัสดิน มีความรู้สึกไม่วางใจ
ขณะที่รอให้คนทั้งสองมาหาเขาตามที่อยู่ ตัวเขาก็นั่งลงอยู่บนพื้นโรงแรม ควันบุหรี่พุ่งพวย ไม่พูดอะไร
เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นฉากฉากนั้นถูกจัดฉากมาแล้วอย่างดี เขาโง่เองที่หลงกลของเรนนี่!
ถ้าไม่มีความผิดพลาดที่เกิดหลังจากการดื่มเหล้าเมาครั้งนั้น เรื่องราวพวกนี้คงจะไม่เกิดขึ้น เขาคงไม่มาอยู่ถึงขั้นนี้
พูดถึงเรนนี่มือของเขาก็ให้รู้สึกคัน อยากที่จะตบตี หลังจากนี้ถ้าเจอเรนนี่อีก เจอหน้าครั้งไหนเขาจะตีมันครั้งนั้น!
ออกัสนั่งอยู่บนโซฟา สองขาไขว่กัน เขาเทน้ำดื่มแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ในจุดยืนสำหรับผู้ชาย ใช้สายตาผู้ชายมองผู้ชายด้วยกันเอง บอกตามตรงฉันรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่ใช้ได้คนนึง เขาปฏิบัติดีต่อยู่ยี่มากกว่าที่แกทำมาก ความเป็นผู้ใหญ่และบุคลิกท่าทางของเขาที่แกไม่มี”
“แม้จะรู้ว่าคำพูดนี้โหดเหี้ยม แต่ฉันก็ต้องพูดว่า เขาทำมันออกมาได้สมบูรณ์แบบมาก” ดนัยพูดว่าอีก แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับฉันทัช แต่เขามีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดอยู่ลึกๆ แล้วก็อีกอย่าง สายตาที่แกมองผู้หญิงนั้นต่ำมากนะ อย่างเช่นไปมองเรนนี่…”
ยู่ยี่อยู่เป็นเพื่อนพูดคุยกับคนทั้งสอง พูดถึงหัสดิน เชอร์รีนก็ลังเลอยู่ครู่นึงเลยเอาเรื่องที่เกิดขึ้นที่สนามบินนั้นพูดขึ้นมา
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องพวกนั้นแล้ว ยู่ยี่ก็ไม่ได้มีอารมณ์อะไรมาก เธอพูดว่า “เรนนี่ตั้งใจยั่วยวน เขาไม่พยายามที่จะหลบเอง ถึงอย่างไรก็เป็นหนุ่มสาว จริงๆแล้วความผิดทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่เรนนี่คนเดียว เพราะต่อให้ไม่มีเรนนี่ ในที่สุดพวกเราอาจจะเลิกกันเพราะเรื่องอื่น อย่างเช่นเขาเบื่อหน้าฉัน…..”
นาโนบอกว่าให้พอแล้ว อย่ามาพูดเรื่องที่ไม่มีความสุขในเวลานี้เลย ยากกว่าที่จะได้มาเจอกัน มาพูดเรื่องที่มีความสุขดีกว่า
“เรนนี่มีความอดทนมากนะ เพื่อหัสดินเลยวางแผนมาตั้งเจ็ดปี แล้วปิดบังธาตุแท้ของตัวเอง แต่ผลที่ออกมาไม่ดีเลย” เชอร์รีนพูด
“นี่พูดจริงๆเลยนะ เรียกมันว่าเรนนี่ดูจะเหยียดชื่อที่ไพเราะไปหน่อย เรียกว่านังเรนดูน่าฟังกว่า คำพูดเหล่านั้นเขาก็ว่าเอาไว้ไม่ใช่หรอว่าออกมาทำเรื่องแย่ๆไม่ช้าก็เร็วก็ต้องได้รับผลกรรมไป แต่ก่อนที่ใช้ชีวิตเชิ่ดๆและฟุ้งเฟ้อนั้นไม่ใช่เพราะดวงดีหรอก แต่เพราะยังไม่ถึงเวลา” นาโนกำลังกินช็อคโกแลต ช่วงนี้เธออินกับช็อคโกแลตมาก
ยู่ยี่เพียงแค่หัวเราะ ไม่ได้พูดว่าอะไร ชีวิตของเธอตอนนี้มีความสุขมาก เรื่องราวพวกนั้นในอดีตเธอลืมไปหมดแล้ว
ใบหน้าของเรนนี่ได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น สองวันนี้ไม่มีทางที่จะไปกับชายสูงวัยได้ พอกับที่ช่วงนี้เขาก็ยุ่งกับงานบริษัทเลยเจียดเวลามาไม่ได้ด้วย
มาอยู่ที่ฮ่องกงถึงเพิ่งตระหนักถึงความมีเสน่ห์ของฉันทัชว่ามีมากแค่ไหน นิตยสารฮ่องกงแล้วก็จอยักษ์ที่อยู่ด้านนอกต่างก็ปรากฏเป็นเขา
ถ้าจะพูดให้ตรงเธอมันตาบอดเสียจริงๆ ตอนนั้นทำไมถึงมองความร่ำรวยและความมีอิทธิพลของเขาไม่ออกล่ะ?
มาให้นึกเสียใจตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร เธอหาโรงแรมแล้วเข้าไปพัก
พอมาถึงที่ห้อง ช่วงท้องก็เกิดความไม่สบายขึ้นมาเป็นระยะๆ เรนนี่วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
ปัญหาท้องเสียทำไมยังไม่ดีขึ้น เธอคิดว่าสองวันมันคงจะดีขึ้น ตอนนี้สี่ห้าวันผ่านไปแล้ว อาการนี้มันเยอะไม่ดีขึ้นเลย
บางทีกำลังเดินอยู่บนถนนก็อยากที่จะเข้าห้องน้ำ แต่บางทีห้องน้ำมันก็ไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น เธอก็เลยกลายเป็นคนที่อยู่ไม่เป็นสุข
ยู่ยี่กับคนทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีความสุข นาโนพูดหยอกล้อเธออยู่ตลอดเวลา โดยใช้ฉันทัชมาเป็นหัวข้อสนทนา
เชอร์รีนไม่ได้เหมือนกับเธอที่หยอกล้อขนาดนั้น แต่ถามเรื่องของในงานแต่งว่าเตรียมเรียบร้อยแล้วหรือยัง? มีของอะไรขาดมั้ย?
เธอส่ายหน้า คนของตระกูลยศณะราคินเตรียมอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว เธอไม่ต้องกังวลใจใดๆ
“ตอนนี้ได้เห็นใบหน้าของเธอที่มีความสุขอย่างนี้อีกครั้ง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว” เชอร์รีนพูดอย่างโล่งอก
“แต่จะว่าไป เธอก็เป็นแม่สื่อของพวกเราสองคนนะ ถ้าไม่ใช่เธอ เชอร์รีนคงไม่ได้เจอกับออกัส และฉันคงไม่ได้เจอกับดนัย ถ้าเธอไม่สามารถมีความสุขได้ พวกเราสองคนคงกระวนกระวายใจเป็นแน่ ดีที่เธอได้พบเจอคนดีๆ” นาโนพูดอย่างขึงขังทั้งที่หาได้ยากที่เธอจะเป็นแบบนี้
ยู่ยี่หัวเราะเบาๆ คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเป็นแม่สื่อถึงสองครั้งอย่างไม่รู้ตัว และนั่นก็ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ได้มาจากข้อผิดพลาดเหล่านั้น
ระหว่างผู้หญิง โดยเฉพาะการคุยระหว่างเพื่อนสาวที่สนิทนั้นเป็นการคุยที่อบอุ่นที่สุดและสบายใจที่สุด
ก็เหมือนในเวลานี้ นาโนที่เป็นคนทะลึ่งทะเล้นกำลังถามยู่ยี่ถึงสมรรถภาพของผู้ชายของเธอว่าคืนนึงจัดกี่ครั้งและครั้งนึงนานเท่าไหร่
ยู่ยี่ไม่ได้เขินอาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองบน
เชอร์รีนทำงานเป็นครูและเป็นคนซื่อตรง คิดไม่ถึงว่าในเวลานี้พอได้เอ่ยปากก็ร้อนแรงเหมือนกัน “มีของดีด้วยกันทั้งคู่ คงต้องทำจนกว่าจะพอใจแน่นอน!”
นาโน “…….”
ยู่ยี่ “…….”
พูดคุยกันอยู่นานฟ้าก็ค่อยๆมืดสงัดลง ฉันทัชโทรมาถามด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า “ยังอยู่ที่โรงแรมให้ผมไปรับคุณมั้ย?”
ยู่ยี่มองดูเวลาก็ใกล้เวลาสี่ทุ่มแล้ว “คุณขับรถระวังหน่อยนะคะ ฉันรอคุณอยู่ในห้องนะ”
นาโนพูดหยอกเย้าขึ้นมาอีกว่า ตอนนี้ชีวิตของเธอสุขสบายจริงๆ ออกจากบ้านก็มีคนขับรถส่วนตัว
หลังจากผ่านไปยี่สิบนาที ฉันทัชก็มาถึงห้อง ในมือถือกล่องของขวัญที่ห่อไว้ด้วยความประณีตมีสามชิ้น
ชิ้นนึงให้นาโน อีกชิ้นนึงให้เชอร์รีน ชิ้นสุดท้ายให้ซาราง
เขาเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบมากกว่าเธอมาตลอด ยู่ยี่หรี่ตายิ้มและทักทายอีกครั้ง ฉันทัชยืนเสื้อคลุมบางๆที่เขาเอามาจากบ้านตระกูลยศณะราคินให้กับเธอ รอให้เธอใส่เสร็จเรียบร้อยก็โอบเธอเดินออกมานอกโรงแรม
หัสดินก็ไม่รู้ว่าจะทรมานตัวเองไปถึงขั้นไหน ไม่ดื่มไม่กิน แค่นั่งอยู่ตรงนั้น
ดนัยจนใจ รู้สึกว่าเขามาก็เพื่อหาสิ่งที่ทำให้สะเทือนจิตใจจากอดีตภรรยาที่ตัวเองรักอย่างลึกซึ้ง เขามาเพื่อที่จะประสมโรงอะไรกัน
ออกัสก็ไม่ได้สนใจเขาอีก แต่นั่งอยู่บนโซฟาที่อยู่ด้านข้าง พลิกนิตยสาร ขณะที่พลิกมาที่หน้านึงมือของเขาก็หยุดลงแล้วลุกขึ้น เอานิตยสารวางไว้ที่ด้านหน้าหัสดินแล้วออกไป ดนัยก็ออกไปตามติดๆ
หลังจากที่เวลาผ่านไปนาน หัสดินก็เพิ่งมองที่คำพูดที่อยู่บนนิตสาร
เคยมีคนถามผมว่าของที่สูญเสียไปถ้ามันย้อนกลับมายังอยากจะได้มั้ย? ผมบอกว่ากระดุมเม็ดนึงที่หล่นหายไป รอกว่าจะหากระดุมเม็ดนั้นเจอ ผมคงเปลี่ยนเสื้อใหม่ไปแล้ว ระหว่างคนกับคนไม่มีใครที่จะแยกออกจากใครหรอก มีแค่ใครที่ไม่ทะนุถนอมใครเท่านั้น จะมีคนนึงที่หันหลังกับความรักของเขาทั้งสอง
เขาจ้องมองอย่างตะลึง ห้องใหญ่แต่กลับว่างเปล่า เขานั่งอยู่ตรงนั้นไม่พูดไม่จาอะไร
กลับมาที่บ้าน ยู่ยี่ถอดเสื้อคลุมออก ฉันทัชไปเอาเค้กมาให้เธอ ก่อนหน้านี้เธอพูดว่าอยากกินเค้กกีวี่ เขียวๆ ดูแล้วก็ให้เกิดความอยากกินขึ้น
ยู่ยี่อดใจรอไม่ไหว ฝานเป็นสองชิ้น ชิ้นนึงให้เขา อีกชิ้นนึงให้กับตัวเองกิน
เห็นเธอกินด้วยความพอใจยิ่ง มุมปากของฉันทัชก็ยกขึ้น เอาเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดด้วยท่าทางอบอุ่น
กินอิ่มเต็มที่แล้วก็ให้รู้สึกเกิดอาการเหนื่อยหน่าย เหมือนแมวที่ขี้เกียจขดตัวอยู่อ้อมกอดเขาเพื่อหาท่าที่สบายที่สุด
“การแต่งงานจะมีขึ้นในอีกห้าวันนะ คุณพร้อมหรือยัง?” เขาโค้งตัวและกระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ
“ทำไมเร็วแบบนี้! เหลือเวลาอีกแค่ห้าวันเท่านั้นหรอ ฉันเสียใจตอนนี้จะทันมั้ยเนี่ย?” ยู่ยี่พูดอย่างเหนือยๆ สองมือเล่นเม็ดกระดุมที่อยู่บนหน้าอกเขา
เขาพูดว่า “คุณคิดว่ายังไง?”
“ทันอยู่แล้ว ตอนนี้เป็นกฎหมายอิสระจะตาย แม้ว่าก่อนแต่งหนึ่งวิเปลี่ยนใจก็ยังทัน” เธอคิดอยู่ชั่วครู่แล้วจึงพูดออกมา
คิ้วของฉันทัชขมวดขึ้น พูดอย่างจริงจังและเคร่งขรึมว่า “ผมรับไม่ได้นะ”
“อำนาจอธิปไตยอยู่ที่ฉัน ฉันจะทำยังไงก็เป็นอิสระของฉัน”
เขาก็คิดชั่วครู่แล้วเอ่ยปากขึ้นว่า “ผมไม่ถือสาที่จะใช้โซ่ตรวนคล้องขาคุณไว้หรอกนะ”
ยู่ยี่ประหลาดใจ “ทำไมแต่ก่อนไม่เคยรู้ว่าคุณก็มีช่วงที่ใช้อำนาจกดขี่เหมือนกัน?”
“ก็มีมาบ้าง…” เขายิ้มอย่างสดใส เปิดโทรทัศน์ก็เป็นช่องที่กำลังถ่ายทอดการแข่งขันว่ายน้ำ
การแข่งขันว่ายน้ำของเอเชี่ยนเกมส์ ฉันทัชเอามือวางลงไว้ตรงนั้น ยู่ยี่ก็มีความรู้สึกอยากดูเลยจ้องที่หน้าจอ
เวลานี้เป็นการถ่ายทอดย้อนหลัง สิ่งถ่ายทอดอยู่คือเมดเล่ย์ว่ายน้ำ หมู่นี้คนทั้งสองต่างยุ่งไม่มีเวลาดูโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ก็ไม่รู้ว่าผลเป็นยังไง
การแข่งขันได้เริ่มขึ้น ทีมญี่ปุ่นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทีมจีนค่อนข้างที่จะรั้งท้าย ยู่ยี่ให้รู้สึกตื่นเต้น ฉันทัชก็ยากที่จะมีสมาธิจดจ่อได้
จนมาถึงรอบที่สี่ ทีมประเทศยังคงรั้งท้าย ยู่นี่ทอดถอนหายใจ ดูเหมือนว่าอยากให้ชนะคงไม่มีความหวังเสียแล้ว
แต่ใครจะรู้ว่ามาถึงตอนสุดท้ายยี่สิบห้าเมตร หนุ่มจีนคนนั้นเหมือนร่างติดมอเตอร์ก็ไม่ปาน แขนโบกไปมาอย่างสวยงามเป็นรอยน้ำกระเพื่อม นำมาอย่างห้าวหาญ ทำให้ทีมของญี่ปุ่นสลัดรั้งท้าย ชนะแล้ว!
ยู่ยี่ชะงักไปสองสามวิ หลังจากนั้นให้รู้สึกตัว เธอโอบที่คอของผู้ชาย ส่งเสียงร้องฟินสุดๆ!
สมาชิกของทีมต่างๆก็เริ่มรวมตัวกัน ยู่ยี่กำลังมองหาหนุ่มคนสุดท้ายนั้น หมวกที่อยู่บนหัวของเขาไม่ได้ถอดออกเลยมองเห็นหน้าไม่ชัด แต่ร่างนั้นสูงยาว กล้ามแน่น ไหล่กว้างเอวสมสัดส่วน สองขาเรียวยาว หุ่นนั้นเพอร์เฟค
หลังจากนั้นเขาก็ถอดหมวกออกแล้วก็ถอดแว่นว่ายน้ำออก ใบหน้านั้นจึงผ่านเข้าม่านตา มีทั้งความหน้าเด็ก วัยรุ่นและความหล่อ
“เขาหล่อมากและเก่งมากเลย!” ยู่ยี่ให้คลั่งไคล้รายการอย่างนี้ พูดอย่างใจคิดว่า “เขาชื่ออะไรแล้วนะ?”
เงียบอยู่นาน หลังจากนั้นฉันทัชก็พูดด้วยเสียงที่ทุ้มออกมาว่า “สิ่งที่ผมถนัดมากที่สุดคือว่ายน้ำ….”