บทที่ 526 ไม่ใช่ว่าจะไม่แก้แค้นแต่ยังไม่ถึงเวลา

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

ยู่ยี่ไม่มีเวลาที่จะมาสนใจเขา เธอเปิดweibo ดูผ่านๆอย่างตั้งอกตั้งใจ “ไอดอลหนุ่ม สามีแห่งชาติ หนุ่มน้อย ฮาๆๆ ชื่อเรียกพิเศษมากๆ”

เขาขมวดคิ้ว มือหยิบโทรศัพท์ของเธอที่กำลังถืออยู่ แล้ววางออกไว้ไกลๆไม่ให้เธอหยิบได้ พูดหน้าตาขึงขังว่า “มันมีกัมมันตภาพรังสี….”

ยู่ยี่หรี่ตามอง มุมปากอดที่จะหยุดยิ้มไม่ได้ “นี่ข้ออ้างการหึงของคุณให้มันเปิดเผยกว่านี้หน่อยได้มั้ย?”

ฉันทัชจ้องมองเธอแล้วหยิบรีโมตมาปิดโทรทัศน์ ยู่ยี่ยอมให้เขาปิดเสียที่ไหน มาถึงตอนที่มอบผลรางวัลพอดี ในที่สุดเลยไม่ได้ขัดขืนเธอ เขาถอนหายใจเบาๆแล้วพูดว่า “พรุ่งนี้ไปสระว่ายน้ำดีกว่า…”

“ดี” ยู่ยี่หัวเราะพูดตอบอย่างมีความสุขและชิวๆ เขาใช้วิธีอย่างนี้มาแสดงอาการว่าเขาหึง เธอรับได้ด้วยความเต็มใจ

จะว่ากันตามเป็นจริง นิสัยของเขานั้นพาลจริงๆ…

แต่เธอชอบ!

……

ตลอดทั้งวันเรนนี่เข้าห้องน้ำทั้งหมดสี่ครั้ง เล่นเอาหมดแรงกันเลยทีเดียว เธอนอนอยู่บนเตียงก็รู้สึกว่าหน้าผากนั้นร้อนอย่างรุนแรงเหมือนไฟโหม

หรือว่ามีอะไรผิดปกติ?

ไปเอาที่วัดอุณหภูมิออกมาวัดก็ได้ 39.5 องศา

เพิ่งจะมาถึงฮ่องกงก็ต้องไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล เรนนี่ให้เหนื่อยหน่ายนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ชายสูงวัยยังมาไม่ถึงฮ่องกง เห็นบอกว่าช่วงนี้บริษัทมีงานรออยู่ เรนนี่ก็หวังว่าเขายิ่งมาช้ายิ่งดี พูดจริงๆนอกจากเงิน เธอไม่ได้ชื่นชอบอะไรเขาเลย มีแต่ความรู้สึกรังเกียจและสะอิดสะเอียน ตอนนี้มาไม่ได้ก็ดี

คุณหมอสอบถามเกี่ยวกับอาการของเธอในช่วงนี้ เรนนี่ตอบอย่างเป็นจริง คลื่นไส้ ท้องเสีย ตัวร้อน

คุณหมอก็ให้ขมวดคิ้ว เขาขมวดคิ้วค่อนข้างมาก

เห็นดังนั้นใจของเรนนี่ก็เต้นโครมคราม ไม่รู้ว่าทำไมเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดี หมอคงไม่แสดงสีหน้าออกมาอย่างไร้เหตุผลหรอก ดังนั้นเธอจึงรีบถาม

“อาการของโรคเอดส์เป็นอย่างนี้ครับ ท้องเสีย มีไข้และคลื่นไส้ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ทำการตรวจก็เลยไม่สามารถที่จะยืนยันได้ เดี๋ยวต้องไปตรวจก่อนครับ” หมอพูด

ได้ยินดังนั้นใจของเรนนี่ก็เย็นวูบขึ้นมาทันที มีความรู้สึกที่พูดออกมาไม่ถูก ทั้งตัวเหมือนอยู่ท่ามกลางอุโมงค์น้ำแข็ง!

โรคเอดส์! เธอเป็นโรคนี้ได้ไงกัน! เป็นไปได้ไง!

“อย่าเพิ่งสะเทือนใจไปครับ ใจเย็นๆก่อน ไปตรวจHIVก่อน เดี๋ยวหนึ่งชั่วโมงผลก็ออก” หมอให้เธอไปตรวจ

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่ ดวงของฉันจะซวยขนาดนั้นได้ยังไง ฉันไม่ได้เป็นโรคเอดส์แน่ เป็นไปไม่ได้….” เรนนี่พูดพรึมพรำเหมือนสวดมนต์หรือไม่ก็เหมือนเพลงกล่อมเด็ก พลางเดินไปด้วย

เจาะเลือดเพื่อตรวจโรค เรนนี่กำลังรออยู่ที่ระเบียงยาวด้านนอกของโรงพยาบาล จิตใจทั่วทั้งร่างของเธอนั้นตึงเครียด

เวลาที่รอนั้นผ่านไปช้า ทรมานและทำให้อารมณ์ยิ่งไม่ไหวติง เรนนี่กัดนิ้วมือ มันเป็นท่าทางของเธอที่เวลากดดัน

ในที่สุดก็มาถึงตาเธอแล้ว เรนนี่เดินเข้าไป หมอเอาผลให้ดูและยื่นมือมาจับที่แว่น “ผลออกมาแน่ชัดแล้วว่าคุณเป็นโรคเอดส์”

ความเครียดที่รัดตึงอยู่ในสมองให้ขาดมลาย เธอทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด

“ถ้าไม่วางใจ สองเดือนให้หลังจะมาตรวจอีกรอบนึงก็ได้ครับ” หมอพูด

แต่ในเวลานี้ไม่ว่าหมอจะพูดอะไร เรนนี่ก็ฟังไม่เข้าหู เธอรู้แค่ว่าตัวเองเป็นโรคเอดส์!

แต่ก่อนเคยดูพวกคู่มือที่โฆษณา ในนนั้นเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นเอดส์แล้วไม่มีทางรักษาให้หายได้ สิ่งเดียวที่จะทำได้คือยื้อชีวิตให้อยู่ได้นาน

เรนนี่ไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกมาจากโรงพยาบาลยังไง ร่างล่องลอย สองครั้งด้วยกันที่เธอเกือบจะถูกรถชนบนถนนเส้นสีเหลือง

คนขับรถส่งเสียงด่าว่า เธอไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น กลับมาถึงโรงแรมก็ปิดประตูแล้วย้อนกลับไปคิดอย่างละเอียด

หลังจากนั้นเธอก็คิดไปถึงครั้งแรกที่เจอกับชายสูงวัยที่เธอวางแผนว่าจะเอา สายตาของพวกเพื่อนๆของชายสูงวัยนั้นกลับมีท่าทีผิดปกติ

ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไร ตอนนี้รู้แล้วว่าผิดปกติ!

ชายสูงวัยที่มีเงินนั้นไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงข้างนอกจนเป็นเรื่องปกติ สายตาของพวกเขาในตอนนั้นคือรู้อยู่แล้วว่าชายสูงวัยเป็นโรคเอดส์

คิดมาถึงตอนนี้เรนนี่ก็เหมือนคนบ้า มีความอึดอัดอยู่เต็มอก เหมือนมีก้อนหินหลายก้อนมาทับในใจของเธอให้หายใจไม่ออก จะขาดอากาศหายใจตาย

มือข้างนึงจับเสื้อตรงบริเวณหน้าอก อีกมือนึงก็กวาดข้าวของที่อยู่ภายในห้องตกลงกับพื้นอย่างบ้าคลั่ง

และในเวลานี้เองเสียงกริ่งประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น เรนนี่เดินเข้าไปเปิดประตู เป็นชายสูงวัย และประตูห้องก็ได้ถูกปิดอีกครั้ง เธอโผเข้าไปหาทั้งตบทั้งกัด เท้าก็ถูกเอามาใช้ด้วย

ชายสูงวัยตกใจอยากจะผลักออก แต่เธอเหมือนกระทิง ผลักยังไงก็ผลักไม่ออก!

“ไอ้สาระเลว! ไอ้สาระเลว! คนแบบแกควรจะไปลงนรก! แกรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็ดเอดส์แต่ไม่ใส่ถุงยาง! ทำไมแกไม่ตายๆไปซะ!”

ระหว่างที่พูดนั้นเธอใช้แรงที่เธอมีทั่วร่างกายกัดเข้าไปที่แขนของชายสูงวัย กัดจนเป็นรอบแผลมีเลือดออก เหมือนห้อเลือด

ชายสูงวัยเจ็บจนทนไม่ไหว ในที่สุดเลยหมดความอดทน สลัดเธอทิ้งอย่างรุนแรง

เรนนี่ลุกขึ้นมาจากพื้นอีกครั้งแล้วเดินถลันเข้าไปที่ชายสูงวัย ยื่นเท้าออกไปเตะจุดสำคัญ

อยู่สองสามครั้ง ชายสูงวัยก็ไม่มีแรงแล้วจริงๆ เลยโทรหาคนขับรถให้มาข้างบนเพื่อหยุดเรนนี่

ในเมื่อเธอได้รับเชื้อเอดส์แล้ว คนทั้งสองจะเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีก ชายสูงวัยเขียนเช็คให้เธอห้าล้านพร้อมบ้าน “หลังจากนี้ไม่ต้องมาหาฉันอีก”

ในห้องก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรขึ้นอีก ชายสูงวัยจากไป ตัดความสัมพันธ์ของคนสองคนขาดสะบั้น

เช็คห้าล้าน บ้านหนึ่งหลัง เธอเป็นเอดส์โรคที่ไม่สามารถที่จะใช้ยารักษาได้ มีเงินและบ้านจะมีประโยชน์อะไร?

“กรี๊ดๆๆๆ!!!”

เสียงกรีดร้องที่เจ็บปวด เรนนี่เอาของที่สามารถทุบให้แตกได้กวาดลงกับพื้นทั้งหมด ยื่นมือออกมาทุบหน้าอกของตัวเองอย่างรุนแรง ตรงนั้นเจ็บจนทนไม่ได้

เธอในตอนนี้ควรที่จะทำยังไงดี?

งานแต่งที่กำลังจะเกิดขึ้นยู่ยี่ไม่ต้องกังวลใจใดๆ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีคนจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ญาติที่อยู่เมืองSต่างก็พากันมาหมดแล้ว ตระกูลยศณะราคินตั้งใจใช้เครื่องบินเหมาลำไปรับ ตอนนี้ทุกคนอยู่ที่โรงแรม

ยู่ยี่ก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัวเองจะมีญาติเยอะขนาดนี้ แต่ว่าตอนนี้ต่างก็พากันมาหมดแล้ว ถึงขนาดญาติของแม่เลี้ยงก็มาด้วย ทั้งๆที่เป็นญาติความสัมพันธ์ห่างๆ

ยู่ยี่รู้สึกไม่ชอบใจและร้อนใจ

อารมณ์ของเธอฉันทัชเห็นแล้วจึงใช้นิ้วอุ่นๆมาลูบที่หน้าของเธอแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “อารมณ์ไม่ดีหรอ?”

“ฉันไม่ชอบที่แม่เลี้ยงทำแบบนี้ค่ะ” ยู่ยี่พูดความจริง

“ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบ แต่งานแต่งมันมีครั้งเดียวนะ ถึงไม่ชอบยังไงก็แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น อีกอย่างตระกูลยศณะราคินก็ไม่ได้ขาดเงินพวกนั้น ก็ถือซะว่าทำให้บรรยากาศมันน่าคึกคักเป็นไง?” เขาพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “มา ยิ้มหน่อย”

ยู่ยี่ยิ้มแต่ก็ร้อนใจอยู่ดี จริงๆแล้วภาพฉากอย่างนี้เป็นสิ่งที่เธอต้องการ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเธอจะทำเกินเลยกันขนาดนี้

เพื่อให้เธอได้สบายใจขึ้นมาบ้าง ฉันทัชเลยขับรถพาเธอไปรับลมดูวิวสวยๆ เดินเล่น แล้วพาเธอมาส่งที่โรงแรม

นาโนและเชอร์รีนต่างก็อยู่ เจตนาของฉันทัชนั้นง่ายมากคืออยากที่จะให้ความร้อนใจของเธอหายไปแล้วมีความสุข

ขณะที่รอไปรับเธอตอนกลางคืน อารมณ์ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มุมปากของเขาก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้น แค่ให้เธอรู้สึกมีความสุข เขาถึงจะมีความสุข

พรุ่งนี้เป็นงานแต่ง ตามประเพณีแล้ว คนทั้งสองจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก่อนงานแต่งหนึ่งคืนและจะไม่สามารถเห็นฝ่ายตรงข้ามได้

ฉันทัชไม่เคยเชื่อประเพณีอะไรแบบนี้เลย เขากลัวว่าเธอนอนคนเดียวหลับไม่ดี บางทีผ้าห่มก็ตก

คุณแม่ธันยวีร์กับคนกลุ่มนึงขวางประตูเอาไว้ ไม่ให้เขาเข้าไป ชายวัยสามสิบกว่า ร่างสูงและหน้าตาหล่อเหลา ในเวลานี้กลับถูกเบียดเข้ามาด้านในห้อง

คุณแม่ธันยวีร์พูดว่า “ฉันทัช ลูกอดทนหน่อย แค่คืนเดียวเอง”

“ไม่มีผมเธอหลับไม่ดีแน่ ถ้าเกิดเธอรู้สึกไม่สบายท้องขึ้นมาจะทำไง?” นิ้วมือของเขามาคลึงอยู่ที่บริเวณหน้าผาก เสื้อเชิ้ตสีขาวที่โดนเบียดเข้ามานั้นมีรอยยับ

คุณท่านให้โกรธมากหยิบถั่ววอลนัทปาเข้าไปและไปโดนที่ด้านหลังของหลานชายตัวเองพอดี “ดึกขนาดนี้แล้วยังจะก่อเรื่องอะไร? ประเพณีมีเอาไว้ให้คนปฏิบัติตาม!”

น่าเบื่อจริงๆ ฉันทัชถอนหายใจพลางทำท่าว่าตัวเองเข้าใจแล้ว “ให้ผมได้พูดอะไรสักหน่อย”

ประตูเปิดแง้มๆเอาไว้ เขากำชับอย่างไม่วางใจว่า “ผมนอนที่ห้องข้างๆนะ ถ้าคุณนอนไม่หลับโทรหาผม ถ้าอยากดื่มอยากกินอะไรก็โทรหาผมนะหรือจะไปบอกผมที่ห้องก็ได้ เข้าใจมั้ย?”

ยู่ยี่รู้สึกว่าเขากังวลเกินไป หัวเราะเสียงเบาและพยักหน้า “ฉันรู้แล้วค่ะ แต่คุณบอกเองไม่ใช่หรอว่ามันมีกัมมันตภาพรังสี ไม่ให้ใช้”

“ใช้เล่นweiboไม่ได้ ใช้ได้แต่โทรหาผม….” เขาตอบกลับอย่างชิวๆ แล้วกำชับอีกครั้งนึงว่า “ผมอยู่ห้องข้างๆ”

“มีพวกเธออยู่ คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก” ยู่ยี่มองเข้ามาในห้อง นาโนกับเชอร์รีนก็อยู่ เขายังจะกังวลอะไร?

ฉันทัชจึงพยักหน้าจูบที่ริมฝีปากของเธอ แล้วเดินจากไป

นาโนหัวเราะ เทพบุตรนี่ไม่เบาเลยนะ ยู่ยี่ก็หัวเราะอย่างจนใจ

เช้าตรู่ของอีกวันนึงต้องลองสวมใส่ชุดแต่งงานแต่เช้า แล้วยังต้องแต่งหน้าอีก กลัวว่ายู่ยี่จะนอนไม่พอ คนทั้งสองจึงบังคับให้เธอพักผ่อน

ยู่ยี่จะหลับได้เสียที่ไหน!

เธอนอนอยู่บนเตียงนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ยู่ยี่มองเบอร์ที่โทรมาคือฉันทัชก็ให้ยิ้มออกทันที

“นอนไม่หลับหรอ?” เขาพูดเสียงทุ้มต่ำ มีเสียงน้ำ เหมือนอยู่ในห้องน้ำเลย

ยู่ยี่เตรียมที่จะพูด นาโนจึงแย่งโทรศัพท์ของเธอมาแล้วพูดว่า “เทพบุตรฉันทัช! คุณเป็นอย่างนี้จะให้เธอนอนยังไงคะ? พรุ่งนี้เธอต้องแต่งหน้าแต่เช้า แล้วต้องลองชุดอีก ตีสี่ตีห้าก็ต้องตื่นแล้ว ตอนนี้สี่ทุ่มแล้ว เธอได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง”

“ขอโทษนะครับ…” ฉันทัชพูดขอโทษด้วยเสียงนุ่มนวล แล้วให้พูดอย่างมีน้ำอดน้ำทนว่า “ผมจะไม่โทรมาอีก รบกวนช่วยดูแลเธอแทนผมด้วย ตอนกลางคืนบางทีเธอมักจะหิว เธออยากกินอะไรคุณบอกผมได้เลยนะ ถ้านอนไม่หลับจริงๆ ให้เธอโทรหาผมนะครับ…”

นาโนก็พ่ายแพ้ราบคาบ เธอยืนพิงกำแพงรอให้เขาพูดจบพอประมาณ เลยกดวางสาย มือจิกไปที่หน้าผากของยู่ยี่เบาๆ “ตอนนี้เธอถูกเขาตามใจมากเข้าไปทุกวันแล้วนะ!”