‘มารดามันเถอะ! ไค่เอ๋อร์กลับเป็นน้องสาวของสกาเล็ต งานเข้าแล้ว ลูกพี่กลับหลับนอนกับน้องเมีย เรื่องนี้จะอธิบายกับนางอย่างไร?’ เซียวอวี่คร่ำครวญ ไม่ทราบจะสู้หน้าสกาเล็ตได้อย่างไร

เขามาที่นี่เพื่อช่วยมารดาและน้องสาวของสกาเล็ตออกไป ทว่าผลลัพธ์กลับเป็นเขามาหลับนอนกับน้องสาวนาง เขาอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี อย่างไรก็ตาม หลังจากใคร่ครวญอยู่พักหนึ่ง เขาก็พบว่าสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายถึงเพียงนั้น อย่างไรเสีย หากไค่เอ๋อรไม่ได้มาพบกับเขา นางก็คงต้องไปร่วมเตียงกับมิรันด้าหรือคนอื่นอยู่ดี ในเมื่อทำไปแล้ว มันก็คงดีกว่าผลักไสนางไปให้ผู้อื่นปู้ยี่ปู้ยำ คิดถึงตรงนี้ เซียวอวี๋ก็ระบายลมหายใจ “อาใช่แล้ว ยังมีมารดาของสกาเล็ต…แม้อายุจะมากไปบ้าง ทว่านางก็นับเป็นสตรีชั้นยอดนางหนึ่ง ไม่ทราบคุณชายเซียวรู้สึกสนใจหรือไม่?” มิรันด้าคิดจะยกพวกนางแม่ลูกให้กับเซียวอวี๋ เพื่อประจบเอาใจเซียวอวี๋แล้ว มิรันด้าย่อมต้องทุ่มทุน ได้ยินคำพูดของมิรันด้า เซียวอวี๋ก็ตกตะลึง เขาร่วมรักกับน้องสาวของสกาเล็ตไปแล้ว หากให้ร่วมรักกับมารดาของนางอีก มันก็คงจะเกินไปมาก อย่างไรก็ตาม หากว่าเขาไม่รับเอาไว้ ไม่รู้ว่ามิรันด้าจะยกนางให้กับผู้อื่นอีกหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้น ไม่สู้รับนางมาไว้ข้างกายจะปลอดภัยกว่า “อืม ได้ทั้งแม่ทั้งลูก นั่นคงเป็นรสชาติที่ไม่เลว ฮ่าฮ่า….องค์ชายท่านช่างใจกว้างดุจมหาสมุทรจริงๆ” เซียวอวี๋เผยสีหน้ายินดี “เหอเหอ….ข้าจะจัดส่งนางไปให้ท่านที่คฤหาสน์ คืนนี้คุณชายจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน” มิรันด้าหัวเราะ เซียวอวี๋ลอบสบถอยู่ในใจ ‘รอก่อนเถอะ ลูกพี่จะจัดการเจ้าจนสิ้นซาก’ เซียวอวี๋และคนอื่นๆต่างพูดคุยสังสรรค์กันอย่างราบรื่น สุดท้าย เซียวอวี๋และมิรันด้าก็ตกลงทำธุรกิจร่วมกัน จากนั้นจึงค่อยแยกย้ายกันกลับ เมื่อเซียวอวี๋กลับมาถึงคฤหาสน์ เจ้าหน้าที่หญิงก็มาแจ้งว่า มารดาของสากเล็ตถูกส่งตัวมาแล้ว เซียวอวี๋ผงกศีรษะ ‘มิรันด้านี่รู้จักซื้อใจคนจริงๆ’ ตอนนี้ เมื่อได้ตัวมารดาและน้องสาวของสกาเล็ตมาพร้อมแล้ว เซียวอวี๋ก็สามารถจากไปได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของเขาย่อมไม่เพียงแค่ช่วยเหลือพวกนางออกมาเท่านั้น เขายังต้องการช่วยเซี่ยชานและบุคคลากรคนอื่นๆออกมาด้วย เมื่อเดินเข้าไปในคฤหาสน์ ไค่เอ๋อร์และมารดาของนางที่ต่างก็มีใบหน้าอาบน้ำตาก็สังเกตุเห็นเซียวอวี๋ ไค่เอ๋อร์รีบเดินเข้ามาหาเซียวอวี๋ก่อนจะย่อกายคำนับ “คุณชาย ข้าขอวิงวอนต่อท่าน ขอท่านอย่ารังแกท่านแม่ข้าเลย ข้าจะทำทุกอย่างตามที่คุณชายต้องการ” เซียวอวี๋มองไค่เอ๋อร์ที่ด้านหน้า ก่อนจะเบนสายตาไปมองสตรีที่มีเสน่ห์เต็มสาวที่ยืนร้องไห้อยู่ด้านหลัง ในใจก็รู้สึกเวทนา โชคดีที่พวกนางได้พบกับเขาโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชะตากรรมของพวกนางแม่ลูกคงเลวร้ายเกินบรรยาย เซียวอวี๋โบกมือไล่เจ้าหน้าที่หญิงและคนอื่นๆออกไป จากนั้นจึงปิดประตูลง ไค่อเอ๋อร์และแม่ของนางมองดูการกระทำของเซียวอวี๋แล้วก็คิดว่าเขาจะจัดการพวกนางทั้งแม่ลูก ดังนั้นนั้นทั้งสองจึงกอดกันด้วยความกลัว เซียวอวี๋ยกมือเกาจมูกก่อนจะกล่าวอย่างบริสุทธิ์ใจ “ข้าดูเป็นคนร้ายเช่นนั้นหรือ?” ไค่เอ๋อร์ร้องไห้สะอึกสะอื้น “คุณชาย วิงวอนท่าน….” ดูเหมือนมารดาของนางก็รู้สึกสิ้นหวังเช่นกัน แววตาของนางฉายแววตื่นกลัว เซียวอวี๋หย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้ก่อนจะกล่าวอย่างจนใจ “วางใจเถอะ ข้าไม่ใช่สัตว์ป่า ข้าไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก” เซียวอวี๋รินชาใส่แก้วก่อนจะยกขึ้นจิบ “พวกเจ้ารู้จักสกาเล็ตหรือไม่?” ได้ยินคำถามของเซียวอวี๋ ไค่เอ๋อร์กับมารดาก็นิ่งตะลึงงัน ทั้งคู่มองเซียวอวี๋ด้วยความตกตะลึง พวกนางไม่รู้ว่าเซียวอวี๋ต้องการจะกล่าวอะไร “แค่กๆ….อันที่จริง…นี่…ข้ารับปากสกาเล็ตว่าจะช่วยเจ้าแต่ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นน้องสาวของนาง…อืม…อ่า…ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” เซียวอวี๋กระอักกระอ่วนเมื่อพูดถึงเรื่องนั้น เขาทำกับน้องสาวของนางโดยไม่ตั้งใจ และมารดาของนางก็คิดว่าเขาจะข่มเหงพวกนางอีก “ท่าน….ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร? ท่านได้รับคำไหว้วานจากสกาเล็ตหรือ?” มารดาของไค่เอ๋อร์พบเจอกับการทรยศมากเกินไป ดังนั้นนางจึงไม่ไว้ใจเซียวอวี๋ เซียวอวี๋ทราบว่าพวกนางคงไม่เชื่อ ดังนั้นจึงหยิบเครื่องประดับที่สกาเล็ตมอบให้ออกมา ไค่เอ๋อร์รีบหยิบมันไปดูอย่างตื่นเต้น เมื่อมารดาของไค่เอ๋อร์ได้เห็น แววตาก็ทอแววโศกเศร้า นางรับเครื่องประดับนั้นจากไค่เอ๋อร์ด้วยมือสั่นเทา นางกังวลเรื่องสกาเล็มาตลอด กลัวว่านางจะถูกจับตัว ตอนนี้นางไม่ต้องการให้สกาเล็ตมาช่วยพวกนาง ตราบที่สกาเล็ตยังปลอดภัย นั่นก็เพียงพอแล้ว เมื่อเห็นเครื่องประดับที่สำคัญที่สุดของสกาเล็ต นางก็ตื่นเต้นยินดี นั่นหมายความว่าสกาเล็ตปลอดภัยดี “ท่าน….ท่านเป็นคนที่พี่สาวข้าส่งมาจริงๆ?” ไค่เอ๋อร์ตะลึง ตอนนี้นางไม่ได้มีท่าทีสิ้นหวังเหมือนก่อนหน้าแล้ว เซียวอวี๋พยักหน้า “ใช่ ข้าจะพาพวกเจ้าไปหาสกาเล็ตหลังจากช่วยเซี่ยชานได้แล้ว” “ท่านต้องการช่วยเซี่ยชานหรือ? นั่นยากเย็นยิ่ง ในคุกมีทหารยามอยู่มาก เว้นแต่เมืองนี้จะเกิดสงคราม มิเช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยเขา” ไค่เอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างอับจน นางเองก็เคยถูกขังอยู่ที่นั่นช่วงหนึ่งจนกลัวฝังใจ เซียวอวี๋กล่าวว่า “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าโจมตีเมืองนี้งั้นหรือ? เหอเหอ เจ้ายังไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าคือเซียวอวี๋ ลอร์ดแห่งดินแดนไลอ้อน และเซียวซานเทียนก็คือบิดาของข้า” “เอ๊ะ? ท่าน…ท่านคือทายาทของเซียวซานเทียน?” ไค่เอ๋อร์และมารดาตกตะลึงจนพูดไม่ออก เซียวอวี๋เชิดหน้ากล่าวอย่างภูมิใจ “ใช่แล้ว ไม่เช่นนั้น ใยมิรันด้าจึงต้องให้เกียรติข้ากันเล่า? เพื่อเอาใจข้า เขากระทั่ง….แค่กๆ….ยกเจ้าให้ข้า” “มะ…เมื่อเป็นเช่นนั้น แสดงว่าท่านมีกองทัพพอยึดเมืองนี้หรือ?” ไค่เอ๋อร์ประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม หากว่าเขาโจมตีเมืองเม็กจริงๆ นั่นก็เท่ากับว่าเขาจะกลายเป็นศัตรูกับทั้งจักรวรรดิแลนซ์ เซียวอวี๋ยิ้มพลางโอบกอดไค่เอ๋อร์ “เพื่อสาวน้อยงดงามของข้าแล้ว ต่อให้ถล่มที่นี่จนราบ ใยจะทำไม่ได้?” ในเวลานั้นเอง มีลมพัดขึ้นวูบที่ด้านข้างของเซียวอวี๋ จนเขาสะดุ้งเล็กน้อย แต่เมื่อหันไปมอง เขาก็ระบายลมหายใจอย่างโล่งอก “เมอีฟ!” ผู้ที่มาคือ เมอีฟ นางค่อยๆก้าวออกมาจากมุมมืดก่อนจะโค้งคำนับเซียวอวี๋ “นายท่าน เมอีฟมาถึงแล้ว” เมื่อสองแม่ลูกมองเห็นเมอีฟ พวกนางก็ก้าวถอยหลังอย่างตกใจ แม้เมอีฟจะสวมหน้ากากอยู่ แต่เพราะใบหูแหลมยาว เรือนร่างแบบบางผิวกายสีม่วง พวกนางก็ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นเอลฟ์ ทว่า เอล์ฟนางนี้เรียกเซียวอวี๋ว่านายท่าน? เซียวอวี๋เป็นผู้ทรงอำนาจ? “คนอื่นๆล่ะ?” เซียวอวี๋มองเมอีฟ เขาทราบว่าพวกกริฟฟ่อนคงไปแจ้งต่อคนอื่นๆแล้ว “ยังไม่มา ข้านำคนบางส่วนมาเพื่ออารักษ์ขาท่านก่อน กองทัพกำลังเดินทางมา หากไม่มีเรื่องไม่คาดฝัน ไม่นาพวกเขาคงมาถึง” เซียวอวี๋พยักหน้ารับ ด้วยกองทัพที่เข้มแข็งของเขา เขาจะสามารถบุกยึดเมืองได้โดยตรง “เป็นอย่างไร? ข้าไม่ได้คุยโม้ใช่หรือไม่? ไม่ต้องกังวลนะไค่เอ๋อร์ และ…แค่กๆ….ท่านน้า ข้าจะช่วยเซี่ยชานและชำระแค้นกับมิรันด้าให้เอง” เซียวอวี๋หรี่ตาลงขณะครุ่นคิดว่าจะจัดการกับมิรันด้าและเหล่าผู้ทรยศของหอการค้าฝูลู่อย่างไร…..