และในขณะเดียวกันยังเป็นอาณาเขตที่สำคัญของตระกูลเฉินในจงโจวอีกด้วย

หากสูญเสียเมืองก่างไป ตระกูลเฉินจะไม่สามารถรักษาตำแหน่งตระกูลรองในจงโจวเอาไว้ได้อย่างแน่นอน

และที่สำคัญที่สุดก็คือ

เขาได้ขอไปพึ่งพาอาศัยหนิงชิงเฉิงแล้ว

และหนิงชิงเฉิงก็ขอให้เขา ขัดขวางเฟิงเมิ่งกรุ๊ปให้ออกไปจากเมืองก่างด้วย

หากเขาส่งมอบเมืองก่างไปให้

หนิงชิงเฉิงจะต้องเกลียดเขาจนเข้ากระดูกอย่างแน่นอน

ถึงเวลานี้ เขาจะต้องแบกรับความโกรธของชิงเฉิงกรุ๊ปทั้งหมด!

“หยางเฟิง มึงฝันไปเถอะ!”

“แม้ว่ากูจะต้องตาย ก็จะไม่มอบเมืองก่างให้กับมึงอย่างแน่นอน!”

“ไม่มอบให้ใช่ไหม?”

“เช่นนั้นความปลอดภัยของคุณชาย ฉันคงรับประกันให้ไม่ได้”

พูดจบ หยางเฟิงก็ส่งสายตาให้ฟ่านเจี้ยน

ฟ่านเจี้ยนเข้าใจในทันที และชูแส้หนังในมือกวัดแกว่งไปมา

เพียะ!

เพียะ!

เพียะ!

โอ๊ย!

“พ่อ ช่วยฉันด้วย! ช่วยฉันด้วย!”

โอ๊ย!

“รีบเอาเมืองก่างมอบให้เขาเถอะ! หากยังไม่ช่วยฉันอีก ฉันจะต้องถูกตีจนตายแน่ๆ!”

โอ๊ย!

“ขอร้องล่ะ! อย่าตีเลย!”

เฉินเฉิงถูกฟ่านเจี้ยนตีจนสะบักสะบอม ทั้งเนื้อทั้งตัวเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก

ต้องบอกเลยว่า ฟ่านเฟี้ยนคนนี้ เป็นคนอัจฉริยะจริงๆ!

หลังจากที่ใช้แส้ตีเฉินเฉิงไปไม่กี่ที ก็ค่อยๆ ควบคุมจังหวะได้

ได้ยินสายทางด้านนั้น ฟังเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาของลูกชายตนเอง

หัวใจของเฉินเป่ยเสวียนก็แทบกระอักเลือด

เฉินเฉิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา!

และยังเป็นทายาทของตระกูลเฉินในอนาคตอีกด้วย!

จะสามารถทุกข์ทรมานขนาดนี้ได้อย่างไร!

หยางเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า : “ผู้นำตระกูลเฉิน ไตร่ตรองให้ดีๆ ก่อนไหม?”

“คุณจะมองดูลูกชายของตนเองตาปริบๆ ให้ถูกตีไปจนตายอย่างนั้นเหรอ?”

“เขาเป็นลูกคนเดียวของคุณนะ!”

“เพื่ออาณาเขตเล็กๆ น้อย คุณคิดที่จะกล่าวอำลาลูกเลยเหรอ? คุณยอมเห็นตระกูลเฉินไม่มีทายาท ดีกว่ายอมส่งมอบเมืองก่างให้อย่างนั้นเหรอ?”

คำพูดของหยางเฟิง ราวกับมีดอันแหลมคม ที่แทงเข้าไปที่หัวใจของเฉิยเป่ยเสวียนอย่างโหดเหี้ยม

ในท้ายที่สุด

เฉินเป่ยเสวียนก็เลือกที่จะประนีประนอม

“ตกลง ฉันจะส่งมอบเมืองก่างให้แก!”

แต่แกต้องรับประกันว่าลูกชายของฉันจะปลอดภัย!”

“มิเช่นนั้นละก็ ถึงแม้ว่าฉันจะต้องทิ้งชีวิตนี้ ฉันก็จะตามหาแกเพื่อแก้แค้นให้ได้!”

ไม่มีหนทางแล้ว

ระหว่างลูกชายกับเมืองก่าง

ท้ายที่สุดแล้วเฉิยเป่ยเสวียยังคงเลือกลูกชาย

เขาไม่สามารถมองดูตระกูลเฉินของตนเองขาดคนสืบทอดทายาทได้

ได้ฟังน้ำเสียงที่เกือบจะร้องไห้ของเฉินเป่ยเสวียน

มุมปากของหยางเฟิงก็ปรากฏรอยยิ้มที่พึงพอใจ : “ผู้นำตระกูลเฉินเป็นคนเฉลียวฉลาดจริงๆ คุณวางใจเถอะ ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ขอเพียงแค่คุณประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะสละเมืองก่าง ลูกชายของคุณก็จะปลอดภัย!”

“หึ เป็นเช่นนั้นจะดีที่สุด!”

เฉินเป่ยเสวียนทำเสียงไม่พอใจ หลังจากนั้นก็ตัดสายไป

หยางเฟิงมองพิจารณาวิลล่า และพยักหน้าอย่างพึงพอใจ : “วิลล่านี้ไม่เลวเลย ในอนาคตมันจะกลายเป็นฐานที่มั่นของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปในจงโจว!”

พูดจบ เขาก็มองไปที่ฟ่านเจี้ยน : “ฟ่านเจี้ยน ตระกูลเฉินใกล้จะสละเมืองก่างแล้ว คุณก็เตรียมความพร้อมให้ดี เพื่อเข้ายึดอุตสาหกรรมของตระกูลเฉินในเมืองก่างทั้งหมด!”

“ครับ!”

ฟ่านเจี้ยนมีสีหน้าตื่นเต้นดีใจ

แม่งเอ้ย!

ทำงานกับราชาตงไห่ สบายจริงๆ!

กล้าหาญองอาจอย่างตระกูลเฉิน เมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฟิง ยังต้องก้มหัวอย่างเชื่อฟังเลย!
วันต่อมา

ข่าวใหญ่ได้เผยแพร่ในจงโจว

ผู้นำตระกูลเฉินเฉินเป่ยเสวียนประกาศว่า ตระกูลเฉินจะสละเมืองก่างแล้ว!

อุตสาหกรรมทั้งหมดของเมืองก่าง จะส่งมอบให้เฟิงเมิ่งหรุ๊ปทั้งหมด!

ข่าวถูกแพร่ออกมา ดังสนั่นไปทั่วทั้งจงโจว!

ทุกคนคิดว่าเฉินเป่ยเสวียนบ้าไปแล้ว

นี่ไม่ใช่อุตสาหกรรมของเขาหรอกเหรอ?

เพล้ง!

เพล้ง!

เพล้ง!

ชิงเฉิงกรุ๊ป

หนิงชิงเฉิงโมโหขึ้นมาอย่างหาได้ยาก!

เธอนำสิ่งของในห้องทำงาน มาทุบทิ้งทั้งหมด!