บทที่ 1611 ความไม่สบายใจของจื่อเว่ย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1611 ความไม่สบายใจของจื่อเว่ย

 

วังสวรรค์

 

วิหารจํานวนมากส่องประกายสว่างไสว

 

ในวิหารแห่งหนึ่ง เทพธิดาจื่อเว่ยเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆขณะที่แสงสีม่วงสะท้อนออกมา

 

จากดวงตาของนาง

 

นางขมวดคิ้วเล็กน้อยและพึมพํา “วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติระเบิดตัวเอง”

 

หลังจากได้รับกระดานหมากรุกกลุ่มดาว เทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นหนึ่งในสามผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคปัจจุบัน ครั้งนี้นางส่งหลิวห่าวและจวินเฉินกวงออกไปจัดการฟางหยวน แล้วนางจะไม่เตรียมตัวสําหรับมือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนได้อย่างไร?

 

มนุษย์จะฉลาดขึ้นด้วยการเรียนรู้จากความผิดพลาด ฟางหยวนขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะจากฟงจิวเก้อภายใต้สายตาของเทพธิดาจื่อเว่ย แน่นอนว่านางจะไม่ทําผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง

 

“หยวนเฉียง” เทพธิดาจื่อเว่ยติดต่อผู้อมตะระดับแปดคนใหม่ที่พึ่งได้รับการคัดเลือกให้เข้าสู่วังสวรรค์

 

“ท่านหญิงจื่อเว่ย” หยวนเฉียงตูเร่งตอบกลับ

 

“ไปหลอมรวมวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ” เทพธิดาจื่อเว่ยออกคําสั่ง

 

การแสดงออกของหยวนเฉียงเปลี่ยนไป เขาเป็นคนเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมในวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าวๆ

 

คํากล่าวของเทพธิดาจื่อเว่ยหมายความว่าสถานการณ์ของหลิวห่าวไม่น่าจะดี

 

หลิวห่าวและหยวนเฉียงตูมาจากนิกายเดียวกัน หยวนเฉียงตู้ลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจถาม “ท่านหญิงจื่อเว่ย หลิวห่าว…”

 

“เขาน่าจะถูกจับโดยฟางหยวนแต่ข้าอยากให้เขาถูกฆ่าโดยฟางหยวนมากกว่า” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวด้วยน้ําเสียงที่ไม่แยแส

 

หยวนเฉียงตะลึงก่อนจะตระหนักถึงบางสิ่ง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่ได้เกลียดชังหลิวห่าวและต้องการให้ฝ่ายหลังตาย แต่หากหลิวห่าวถูกจับเป็นเชลย นั่นหมายความว่าผู้อมตะภาคใต้คนอื่นๆถูกจับเช่นกัน

 

ในกรณีที่ฟางหยวนฆ่าหลิวห่าว ผู้อมตะภาคใต้คนอื่นๆก็ไม่น่าจะได้รับการยกเว้น ด้วยวิธีนี้ความเกลียดชังระหว่างฟางหยวนกับกองกําลังของภาคใต้จะยิ่งฝังลึก พวกเขาจะไม่สามารถประนีประนอมหรือร่วมมือ ภาคใต้ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนภูเขาอี้เทียน เช่นเดียวกับการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน หากกลุ่มผู้อมตะระดับแนวหน้าของพวกเขาถูกสังหารโดยฟางหยวน รากฐานของพวกเขาจะได้รับผลกระทบอย่างมาก ความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาจะลดลงสู่จุดต่ําสุดของห้าภูมิภาค

 

เมื่อสงครามห้าภูมิภาคเริ่มขึ้น ภาคกลางจะสามารถโจมตีภาคใต้ได้อย่างง่ายดาย

 

หากภาคใต้ถูกกลืนกินโดยภาคกลาง ความแข็งแกร่งของภาคกลางจะเพิ่มขึ้นและเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกสามภูมิภาคที่เหลือ มิฉะนั้นพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเพราะการปิดล้อมของทั้งสี่ภูมิภาค

 

เปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่นี้ การเสียสละของผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นหลิวห่าวก็ไม่ถือเป็นสิ่งใด

 

หลังจากเข้าใจเรื่องนี้ ความตกใจของหยวนเฉียงตู้ก็หายไป “ข้าจะไปหลอมรวมวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติทันที”

 

หยวนเฉียงเป็นผู้อมตะระดับแปด ด้วยความช่วยเหลือจากค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทาง แห่งการหลอมรวมของวังสวรรค์ มันไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะหลอมรวมวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ หรือวิญญาณอมตะดวงอื่นๆ

 

อย่างไรก็ตามเทพธิดาจื่อเว่ยยังรู้สึกไม่สบายใจ

 

สําหรับผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ความรู้สึกดังกล่าวเหมือนลางสังหรณ์

 

วิถีแห่งปัญญามีสามองค์ประกอบคือความคิด เจตจํานง และอารมณ์ความรู้สึก

 

อารมณ์ความรู้สึกของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญามีความหมายที่แตกต่างจากผู้อมตะทั่วไป

 

“ข้าคํานวณสิ่งใดผิด เหตุใดข้าถึงรู้สึกไม่สบายใจ?” เทพธิดาจื่อเว่ยเริ่มอนุมานโดยหยิบยืมพลังอํานาจจากกระดานหมากรุกกลุ่มดาว

 

หลังจากชั่วครู่นางก็เปิดเปลือกตาขึ้นและเผยให้เห็นถึงร่องรอยของความสงสัย

 

ผลการอนุมานยังเหมือนเดิม

 

“ฟางหยวนประสบความสําเร็จในการซุ่มโจมตีเพราะเขาสามารถล่อลวงผู้อมตะภาคใต้เข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา”

 

“นี่ไม่ใช่ความสําเร็จของเขาเองแต่เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของนิกายเงา ที่หยิบยืมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา”

 

ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล เขาต้องใช้ทรัพยากรอมตะเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

เมื่อบรรลุระดับปรมาจารย์เอก พวกเขาจะสามารถหยิบยืมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากสภาพแวดล้อม

 

นิกายเงาไม่ได้ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางสายนี้ พวกเขาค้นพบสาขาของสายธารแห่งกาลเวลามานานแล้ว และยังใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะปกปิดพวกมันเอาไว้

 

แม้ค่ายกลวิญญาณอมตะที่สร้างขึ้นจากการหยิบยืมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากธรรมชาติไม่จําเป็นต้องพึ่งพาวิญญาณอมตะแต่มันก็มีข้อเสีย

 

ข้อเสียของมันคือค่ายกลวิญญาณอมตะที่จัดตั้งขึ้นจะมีความสามารถเฉพาะเจาะจงที่แตกต่างกัน ขณะที่ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจัดตั้งได้ยากมาก

ในการจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะลักษณะนี้ นอกจากผู้อมตะต้องคิดถึงเป้าหมาย พวกเขายังต้องพิจารณาถึงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ของสถานที่แห่งนั้น ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ไม่สามารถปกปิดการคงอยู่ของค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่สามารถใช้วิธีนี้เป็นครั้งที่สอง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยจ่ายด้วยราคามหาศาลและใช้เบาะแสที่ได้รับจากจวินเฉินกวงเพื่ออนุมา นเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“โดยปราศจากค่ายกลวิญญาณอมตะที่สามารถผนึกพื้นที่ แม้ฟางหยวนจะจุดชนวนกายา แห่งความฝัน แต่การขยายตัวของอาณาจักรแห่งความฝันไม่เร็วนัก ผู้อมตะสามารถหลบหนีจาก มันได้อย่างง่ายดาย

 

“หากเขาใช้เขตแดนอมตะที่ไม่ใช่เส้นทางแห่งความฝัน มันจะเป็นสิ่งแรกที่ถูกอาณาจักรแห่งความฝันทําลาย”

 

“ดังนั้นกลยุทธ์เกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันของฟางหยวนจึงไม่เป็นภัยคุกคามมากนัก”

 

“แล้วเหตุใดข้าถึงรู้สึกไม่สบายใจ? มันเป็นเพราะเทพปีศาจจิตวิญญาณงั้นหรือ?”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เทพธิดาจื่อเว่ยก็เดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่งของวังสวรรค์

มันเป็นสถานที่ที่ภูเขาตงฮันระเบิดตัวเอง เทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ที่นี่และใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณจากภูเขาตงฮันรักษาตัวและซ่อนตัวเอง

 

แต่วังสวรรค์ไม่ขาดแคลนวิธีการ เทพธิดาจื่อเว่ยสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะขนาดใหญ่ ปิดล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้แล้ว

 

“เจ้ายังคิดต่อต้านอีกงั้นหรือ? น่าเสียดายที่เจ้าจะถูกบดขยี้ภายในสามวัน การกระทําของเจ้าเป็นเพียงเรื่องที่ไร้ประโยชน์” เทพธิดาจื่อเว่ยเย้ยหยันเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

แต่เทพปีศาจจิตวิญญาญเหมือนประติมากรรมหินที่ไม่ตอบสนอง

 

ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายขึ้นขณะที่กระดานหมากรุกกลุ่มดาวในมือของนาง ปล่อยแสงสีน้ําเงินออกไปตรวจสอบค่ายกลวิญญาณทั้งหมดพร้อมกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ หลังจากตรวจสอบถึงสามครั้ง นางก็แน่ใจว่าไม่มีสิ่งผิดปกติ เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่สามารถต่อต้าน

 

“เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่มีปัญหา ดูเหมือนความไม่สบายใจของข้าจะไม่ได้มาจากที่นี่ แล้วมันมาจากที่ใด? เดี๋ยว! อาจจะเป็น…”

 

การแสดงออกของเทพธิดาจื่อเว่ยเปลี่ยนไป นางนึกถึงคนผู้หนึ่ง

 

นางออกเดินทางไปยังหุบเขาไร้นามแห่งหนึ่งในภาคกลางทันที

 

ท่ามกลางหุบเขาสีเขียว ราชันมังกรกําลังสั่งสอนและปกป้องฟงจินฮวงอยู่ที่น้ําตกแห่งภายใน

 

หุบเขาแห่งนี้

 

ฟงจินฮวง!

 

หากมีบางคนที่ทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกไม่สบายใจ มันอาจเป็นเมล็ดพันธุ์ของเทพอมตะผู้นี้

 

น้ําตกส่งเสียงคํารามและสร้างหมอกหนาทึบขึ้นรอบๆ

 

ฟงจินฮวงนั่งปิดเปลือกตาอยู่บนหินขนาดใหญ่ต่อหน้าอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ผู้อมตะที่มีเขามังกรอยู่บนหน้าผากยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ

 

“ท่านราชันมังกร” เทพธิดาจื่อเว่ยเดินเข้าไปและโค้งคํานับ

 

ราชันมังกรพยักหน้าเบาๆและยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้เทพธิดาจื่อเว่ยเงียบ

 

ในเวลาต่อมาฟงจินฮวงก็เปิดเปลือกตาขึ้นและชี้นิ้วออกไป

 

“เพล้ง!”

 

ท่าไม้ตายถูกกระตุ้นใช้งานขณะที่อาณาจักรแห่งความฝันแตกกระจายราวกับกระจกแตก มันพังทลายลงอย่างสมบูรณ์

 

“ข้าประสบความสําเร็จในการเรียนรู้ท่าไม้ตายอมตะทําลายความฝัน!” ฟงจินฮวงกรีดร้องด้วยความยินดี

 

ราชันมังกรพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

 

ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยเผยให้เห็นถึงความตกใจ ความก้าวหน้าของฟงจินฮวงบนเส้นทางแห่งความฝันอยู่นอกเหนือความคาดหมายของนาง

 

ท่าไม้ตายอมตะหรือกระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้า หากไม่ใช่เส้นทางแห่งความฝัน พวกมันจะไม่ส่งผลกระทบต่ออาณจักรแห่งความฝัน

 

แต่ผู้ใดจะคิดว่าท่าไม้ตายอมตะของฟงจินฮวงจะสามารถทําลายอาณาจักรแห่งความฝันได้โดยตรง

 

“ฮวงเอ๋อ เจ้าฝึกมาเกือบทั้งวันแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ” ราชันมังกรมองฟงจินฮวงด้วยสายตาอบอุ่น

 

“ทราบแล้ว” ฟงจินฮวงรู้ว่าเทพธิดาจื่อเว่ยและราชันมังกรมีเรื่องที่ต้องหารือ ดังนั้นนางจึงจากไปอย่างเชื่อฟัง

 

หลังจากฟงจินฮวงจากไป ราชันมังกรจึงเปิดปากถาม “สิ่งใดนําเจ้ามาที่นี่?”

 

“ ข้ารู้สึกไม่สบายใจแต่หาสาเหตุไม่ได้” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

ราชันมังกรขมวดคิ้ว “ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเจ้า ความรู้สึกไม่สบายใจถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่เจ้าไม่สามารถหาสาเหตุงั้นหรือ?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้า “ข้าอนุมานฟางหยวนและตรวจสอบเทพปีศาจจิตวิญญาณแล้ว แต่ยังไม่สามารถปลดปล่อยความรู้สึกนี้ ดังนั้นข้าจึงมาดูที่นี่”

 

ราชันมังกรยิ้ม “ตั้งแต่เจ้ามาที่นี่ เจ้าคิดอย่างไรกับสถานที่แห่งนี้

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มตอบ “ข้ากังวลเกินไป ด้วยการชี้แนะของผู้อาวุโส ความก้าวหน้าของฟงจินฮวงเหนือจินตนาการของข้าไปไกลมาก”

 

ราชันมังกรส่ายศีรษะ “ข้าไม่มีพื้นฐานใดๆเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝัน ฮวงเอ๋อประสบความสําเร็จเพราะพรสวรรค์ของตัวนางเอง ข้าเพียงปกป้องนางจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเท่านั้น”

 

ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายขึ้น “เด็กผู้นี้เป็นความหวังของวังสวรรค์ที่จะรวบรวมห้าภูมิภาคเข้าด้วยกัน”

 

ราชันมังกรพยักหน้า “ข้ารู้ว่าความไม่สบายใจของเจ้ามาจากที่ใด?”

 

“โอ้ ผู้อาวุโสโปรดชี้แนะด้วย”

 

“ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าต่ํากว่าเจ้ามาก แต่แหล่งที่มาของความไม่สบายใจมีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง เมื่อมันไม่ใช่ฟางหยวน เทพปีศาจจิตวิญญาณ หรือฟงจินฮวง คนที่เหลือก็คือเทพปีศาจบัวแดง”

 

เทพปีศาจบัวแดง!

 

ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายขึ้น “ท่านกําลังกล่าวถึงมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงงั้นหรือ?”

 

สามเทพปีศาจที่เคยโจมตีวังสวรรค์ในอดีตมีเพียงเทพปีศาจบัวแดงเท่านั้นที่สามารถทําร้ายวิญญาณชะตากรรม กระทั่งคนนอกยังตระหนักว่าผู้สืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง จะเป็นผู้สืบทอดภารกิจทําลายล้างวิญญาณชะตากรรม

 

“ความคืบหน้าในการค้นหา

 

ที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงเป็นอย่างไร?” ราชันมังกรถาม

 

เทพธิดาจื่อเว่ยตอบ “วิหารอดีตปัจจุบันอยู่ในสายธารแห่งการเวลาตลอดเวลา ตราบเท่าที่ฟางหยวนเข้าไป เราจะรู้อย่างแน่นอน นาวานิรันดรใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วและจะเข้าสู่สายธารแห่ งกาลเวลาภายในสองสามวันนี้เพื่อค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ข้ายังวางแผนที่จะสร้างรังกระเรียนใบไม้ร่วงและฉลามล่องคลื่น ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทั้งสี่ ไม่ว่าฟางหยวนจะเติบโตขึ้นมากเพียงใด เขาก็ต้องล้มเหลวอย่างสมบูรณ์ต่อหน้าปราการที่ไม่สามารถก้าวข้าม!”