ตอนที่ 938

Alchemy Emperor of the Divine Dao

การประลองดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะก็เหลือผู้ประลองอยู่เพียงสามคน จักรวรรดิราชวงศ์อีกสองก็ไม่ค่อยต่างกัน

ดูเหมือนว่านอกจากสัตว์ประหลาดอย่างหลิงฮันที่ยังไม่ลงมือแล้ว สัตว์ประหลาดของอีกสองจักรวรรดิก็ยังไม่ลงมือเช่นกัน

เมื่อหม่าชิงพ่ายแพ้ก็ถึงคราวที่เย่เชิงหยุนต้องลงมือ เขาเอาชนะศัตรูจากอีกสองจักรวรรดิได้สี่คนจนผู้ประลองคนสุดท้ายของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ต้องลงมือ

ผู้ประลองคนนี้คือสตรี

นางเป็นสตรีงดงามที่ปล่อยผมยาวถึงสะโพก นางใส่เสื้อที่ค่อนข้างสั่นทำให้มองเห็นเอวอันคอดบางได้ชัดเจน

กางเกงที่นางสวมใส่ก็เป็นการเกงหนังที่เผยท่อนขาในช่วงเข่าลงไป

“ตัวแทนของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ เยว่หลงเอ๋อ” นางประสานกำปั้นเข้าหากัน

เย่เชิงหยุนมีสีหน้าลุ่มหลงก่อนจะประสานหมัดคารวะอีกฝ่ายเช่นกัน “จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ เย่เชิงหยุน”

“ขอความกรุณาด้วย!”

“ขอความกรุณาด้วย!

เมื่อกล่าวเสร็จเยว่หลงเอ๋อก็โจมตีทันที นางกระโดดเคลื่อนไหวรวดเร็วดั่งแสงและมาปรากฏที่ด้านหน้าของเย่เชิงหยุนพร้อมกับกระแทกฝ่ามือออกไป

เย่เชิงหยุนตกตะลึง ความเร็วของอีกฝ่ายเหนือกว่าที่เขาคาดเอาไว้ แต่อย่างไรเขาก็เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้ยี่สิบเอ็ดดาว เขาปล่อยหมัดเข้าปะทะกับอีกฝ่ายอย่างไม่หวั่นเกรง

‘ตูม!’

หมัดกับฝ่ามือเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง แต่เย่เชิงหยุนกลับเป็นฝ่ายถูกผลักกระเด็นออกจากลานประลอง

เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง!

แววตาของหลิงฮันเปิดกว้างเล็กน้อย ฝ่ามือเมื่อครู่สตรีผู้นี้มีพลังต่อสู้ราวๆเกือบจะยี่สิบสองดาว หากนางใช้ทักษะและพลังทั้งหมดออกมาเป็นไปได้ว่านางจะต้องมีพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นอีกราวๆสองดาว ซึ่งเป็นไปได้ว่าพลังต่อสู้ของนางจะอยู่ที่ยี่สิบสามดาว

เย่เชิงหยุนพ่ายแพ้และถึงคราวที่ตัวแทนคนสุดท้ายของจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามลงมือ

“ตัวแทนจากจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีคราม จงไห่” เขาเป็นชายที่มีโครงร่างที่แปลก เขาไม่ใช่ชายที่รูปร่างเตี้ยหรืออะไรแต่หลังของเขามีส่วนที่โค้งนูนออกมาเหมือนกระดองเต่า

ทายาทของเต่าดำ ไม่อาจดูถูกได้เลย

ทั้งสองคนสู้กันอย่างดุเดือด เยว่หลงเอ๋อได้เปรียบในการพลังโจมตีที่รุนแรง แต่จงไห่ที่เป็นทายาทของเต่าดำก็มีพลังป้องกันที่ทนทานไม่แพ้กัน ถ้าการโจมตีใดของเยว่หลงเอ๋อมีพลังทำลายที่รุนแรงเขาก็แค่หันหลังใช้กระดองป้องกันก็พอแล้ว

แต่ก็แน่นอนว่าพลังของเยว่หลงเอ๋อยังไม่ถูกใช้ออกมาทั้งหมด นางคำราม “ร้อยขนนกยูงพิฆาต!”

ด้านหลังของนางมีปีกนกที่งดงามปรากฏขึ้นมาราวกับนกยูงที่สยายปีก ทันใดนั้นขนนกที่ปรากฏขึ้นมาก็พุ่งเข้าใส่จงไห่

แม้นางไม่มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่นางก็มีพลังโจมตีอันทรงพลัง

จงไห่แสยะยิ้มและหันหลัง ครั้งหลังของเขาถูกโจมตีจนเสื้อผ้าขาดรุ่ยทำให้กระดองเต่าสีดำที่มีอักขระศักดิ์สิทธิ์สลักเอาไว้เผยออกมาให้เห็น

เขาเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติ แต่เพราะสามารถกระตุ้นใช้งานอักขระศักดิ์สิทธิ์ได้ทำให้เขามีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่ง

นี่คืออำนาจที่ได้รับจากสายเลือด เขาสามารถใช้พลังของพระเจ้าได้เล็กน้อยก่อนที่ตนเองจะบรรลุระดับพระเจ้า

‘ตูม’ ขนนกที่ใช้โจมตีแตกสลายเป็นเส้นแสงเมื่อปะทะกับกระดอง

หลังจากขนนกทั้งหนึ่งร้อยสลายไป จงไห่ก็ยังคงไร้รอยขีดข่วน

“ฮ่าๆๆ!” จงไห่หันหลังเข้าหาเยว่หลงเอ๋อและใช้กระดองกระแทกใส่อีกฝ่าย

จุดประสงค์ของเขาชัดเจนมาก เขาคิดจะโค่นเยว่หลงเอ๋อด้วยการกระแทกให้นางร่วงออกจากเวที

ความทนทานของกระดองเต่านั่นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่ออักขระศักดิ์สิทธิ์ส่องแสงสว่าง มันไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธระดับทลายมิติจะต่อกรได้เลย เมื่อใดเยว่หลงเอ๋อถูกกระดองกระแทกเข้าใส่ นั่นก็เท่ากับว่านางได้แพ้ไปแล้ว

นางถูกกระแทกร่วงหล่นจากลานประลองทันที

เยว่หลงเอ๋อกัดฟันด้วยความโกรธ ในด้านของพลังต่อสู้นางไม่ด้อนไปกว่าจงไห่แม้แต่น้อย แต่โชคร้ายที่เมื่ออยู่ต่อหน้ากระดองของเต่าดำ พลังโจมตีที่ทรงพลังจะกลายเป็นไร้ค่าทันที

ผลลัพธ์คือการประลองในปีนี้จักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ได้อันดับที่สามและทำได้เพียงมองดูจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะกับจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามแย่งชิงอันดับหนึ่ง

ใบหน้าของจงไห่นั้นหนาไม่ต่างกับกระดองของตนเอง เขายืนอย่างภาคภูมิใจอยู่ลานประลองโดยไม่รู้สึกละเอยใจต่อวิธีชนะของตนเองแม้แต่น้อย นอกจากนั้นเขายังยกนิ้วยื่นไปทางหลิงฮันเพื่อยั่วยุอีกด้วย

“ศิษย์พี่หลิง จัดการเขาเลย!” ศิษย์ของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะเกรี้ยวกราด จงไห่จะทำตัวอวดดีเกินไปแล้ว

หลิงฮันยิ้มและค่อยๆเดินขึ้นไปบนลานประลองอย่างสงบนิ่ง

“รีบมาให้ข้าจัดการซะ จักรวรรดิของข้าจะได้เป็นอันดับหนึ่ง!” จงไห่กล่าวอย่างอวดดี

หลิงฮันเดินไม่เร็วหรือช้า เขาขึ้นไปบนลานประลองและกล่าว “ตัวแทนจากจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ หลิงฮัน”

“ตัวแทนจากจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีคราม จงไห่!”

“ขอความกรุณาด้วย!

หลังจากกล่าวเสร็จ จงไห่ก็แสยะยิ้มและแกว่งมือปล่อยหมัดใส่หลิงฮันทันที

หลิงฮันหรี่ตาชำเลืองและซัดหมัดออกไปด้วยปราณดาบ

“พลังจิ๊บจ๊อย!” จงไห่แสยะยิ้ม หมัดของเขาควบแน่นไปด้วยปราณวารี แววตาของเขาที่เคยเป็นสีดำก็เปลี่ยนเป็นสีขาว

“หมัดคลื่นพิโรธ!” จงไห่คำรามเสียงดังในขณะที่ปล่อยหมัด เงาของคลื่นสมุทรอันทรงพลังปรากฏขึ้นและถาโถมใส่หลิงฮัน

‘การโจมตีนี้มีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบสองเกือบจะยี่สิบสามดาว’

หลิงฮันครุ่นคิดในใจ แต่ด้วยพลังต่อสู้ของเขาตอนนี้เขาจำเป็นต้องกลัวด้วย?

‘ตูม’ หมัดของเขาที่ซัดออกไปส่องประกายแสงสีทองและบดขยี้คลื่นสมุทรทันที หมัดของเขายังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้และทะยานเข้าใส่จงไห่

จงไห่ชะงัก นี่มันพลังโจมตีอะไรกัน ทำไมหมัดคลื่นพิโรธของเขาถึงได้ถูกทำลายได้ง่ายดายเพียงนั้น? เขารีบหันหลังและใช้วิธีเดิมในการป้องกัน

‘ปัง!’

หมัดของหลิงฮันกระแทกเข้าใส่กระดองเต่า ทันใดนั้นอักขระศักดิ์สิทธิ์บนกระดองเต่าก็ส่องสว่าง

ป้องกันได้อีกแล้ว?

ศิษย์ของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะที่ดูอยู่รู้สึกผิดหวัง พวกเขาต่างหวังให้หลิงฮันชนะ แม้แต่ศิษย์ของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน

‘แคร่ก’ เสียงปริแตกดังขึ้นพร้อมกับรอยร้าวที่ปรากฏบนกระดองเต่า รอยร้าวค่อยๆขยายกลายเป็นรูปใยแมงมุมไปทั่วกระดองสีดำ

หลังจากนั้นกระดองเต่าก็แตกกระจายร่วงลงพื้นราวกับเป็นเพียงจานชาม