ตอนที่ 939

Alchemy Emperor of the Divine Dao

พังทลายแล้ว!

เต่าคือสัญลักษณ์ของพลังแห่งการป้องกัน แม้จะเป็นราชสีห์ที่แข็งแกร่งก็ไม่อาจกัดกระดองเต่าที่ทนทานให้แตกได้

ยิ่งหากเป็นเต่าที่เป็นสัตว์อสูรระดับพระเจ้า พลังป้องกันก็จะทนทานมากขึ้นไปอีก

จงไห่เกิดมาพร้อมกับสายเลือดของสัตว์อสูรระดับพระเจ้าที่มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง

ผู้ชมที่มองดูการประลองอยู่ต่างก็ชะงักกันทุกคน ทั้งจอมยุทธระดับภูผาวารีและระดับสุริยันจันทราก็ไม่มีข้อเว้น

หลิงฮันยังเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติแท้ๆ แต่ทำไมถึงได้มีพลังต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้?

บนที่นั่งชั้นสูง ตัวตนระดับสูงของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์รู้สึกขึ้นมาว่าหลิงฮันใช้อำนาจแห่งจักรภพรึเปล่า แต่พวกเขาก็ต้องผิดหวังเพราะพวกเขาตรวจสอบไม่เห็นร่องรอยของพลังอำนาจจากภายนอกแม้แต่น้อย แถมธงสัญลักษณ์ของจักรวรรดิก็ไม่มีชื่อของหลิงฮันสลักเอาไว้ด้วย

ถ้าไม่มีชื่อบนธงสัญลักษณ์ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้งานพลังแห่งจักรภพ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดี

พลังที่ขัดเกลาด้วยตนเอง… มันสามารถแข็งแกร่งได้ขนาดนี้จริงๆรึ?

‘ตุบ’ ร่างของจงไห่ล้มลงกับพื้นและร้องโอดครวญ

กระดองเต่าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา การที่มันพังทลายทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เมื่อเห็นเขาตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้ ศิษย์มากมายก็แสดงท่าทีมีควรมสุขออกมา

“อันดับถูกตัดสินแล้ว การประลองระหว่างจักรวรรดิราชวงศ์ครั้งนี้ จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะเป็นอันดับหนึ่ง จักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามเป็นอันดับสองและจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์เป็นอันดับสาม” เสียงของราชินีที่เก้าดังขึ้นบนที่นั่งชั้นสูงสุด

หลิงฮัน เย่เชิงหยุนและผู้เข้าร่วมประลองทั้งสิบคนได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นผลึกก่อเกิดร้อยก้อนต่อหนึ่งคน

หลิงฮันกำลังจะกลับออกไปกับผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย แต่คนรับใช้ของพระราชวังกลับเดินตามพวกเขามาและกล่าว “องค์จักรพรรดินีมีคำสั่งเรียกหลิงฮันเข้าพบ”

ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความเคารพและกล่าวตอบ “อืม!”

เซียงเฉิงหยินแทบจะเป็นบ้า จอมยุทธจากโลกใบเล็กได้รับอนุญาติให้เข้าพบองค์จักรพรรดินี! แม้แต่เขาจะที่ติดตามผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายมานานยังทำได้เพียงมองจักรพรรดินีจากระยะที่ห่างไกล

แต่นี้ก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของเขาแล้ว แต่ตอนนี้จอมยุทธระดับทลายมิติจากโลกใบเล็กกลับมีโอกาสได้เข้าใกล้จักรพรรดินี เรื่องนี้ทำให้ความภาคภูมิใจของเขาร่วงหล่นลงพื้นทันที

เขาเริ่มผิดหวังแล้วว่าทำไมเขาต้องพาตัวหลิงฮันมาที่นี่ด้วย รู้งี้ปล่อยให้เขาทำหน้าที่เป็นจักรพรรดิของดินแดนตัวเองต่อไปดีกว่า

แต่ตอนนี้เขาก็ทำได้เพียงรู้สึกผิดหวังและไม่กล้าลงมือทำอะไร

ใครกันจะกล้าขัดขวางคนที่องค์จักรพรรดินีต้องการจะให้เข้าพบ?

หลิงฮันเดินตามคนรับใช้พระราชวังไปยังส่วนลึกที่สุดของพระราชวัง บริเวณนี้เงียบเป็นอย่างมาก นอกจากองครักษ์ที่เดินตรวจความปลอดภัยแล้วก็ไม่มีร่องรอยของใครอื่นเลย แน่นอนว่าองครักษ์ทุกคนล้วนเป็นสตรี พวกนางทุกคนเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด

คนรับใช้พระราชวังพาหลิงฮันมายังประตูทางเข้าห้องโถงห้องหนึ่ง ทั่วทั้งประตูทางเต็มถูกประดับไปด้วยผลึกสีชมพูที่งดงามราวกับอัญมณี

“องค์จักรพรรดินี ข้าพาหลิงฮันมาแล้วเจ้าค่ะ” คนรับใช้กล่าวที่ด้านหน้าประตู

“เข้ามาได้” เสียงที่ทรงพลังดังขึ้น น้ำเสียงนั้นแฝงไว้ด้วยความมีเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน

คนรับใช้พระราชวังพยักหน้าให้กับหลิงฮันและเดินนำเข้าไปยังห้องโถง

หลิงฮันเดิมตามไปและพบว่าเสาหินขนาดใหญ่แต่ละต้นในห้องโถงนั้นล้วนแต่มีองครักษ์ยืนอยู่ กลิ่นอายของพวกนางทรงพลังจนหลิงฮันในตอนนี้ไม่อาจต้านทานได้

เสาหินมีทั้งหมดสิบแปดต้น แต่ละต้นเรียงยาวไปจนถึงพระที่นั่งขององค์จักรพรรดินีที่อยู่ด้านในสุด องค์จักรพรรดินีสวมชุดคลุมและมีออร่าบางอย่างปิดกั้นเอาไว้ทำให้ไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของนางได้ แต่ถึงอย่างนั้นแต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้ก็ทำให้คนที่มองเสียววูบไปจนถึงกระดูก

สมกับที่ถูกเรียกว่าสตรีที่งดงามที่สุดในโลก แค่นั่งเฉยๆก็ทำให้ทุกคนไม่อาจละสายตาออกไปได้

หลิงฮันสูดลมหายใจและย่อตัวลง “หลิงฮันเข้าพบองค์จักรพรรดินี”

อีกฝ่ายคือตัวตนระดับดาราขั้นสูงสุด แถมดูเหมือนนางจะเป็นอัจฉริยะห้าดาวอีกด้วย หากใช้อำนาจแห่งจักรภพเพิ่มเข้าไปอีก นางจะต้องไร้พ่ายในหมู่จอมยุทธระดับดาราอย่างไม่ต้องสงสัย

ตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้ ควรค่าแก่การให้ความเคารพ

องค์จักรพรรดินีกวาดสายตามองหลิงฮัน เขารู้สึกว่าภายใต้สายตาของอีกฝ่าย เขาไม่สามารถซ่อนความลับใดๆได้เลย

“เจ้าคงลำบากไม่น้อยกว่าจะเปิดสวรรค์พาโลกใบเล็กขึ้นมายังที่นี่ได้” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงชมเชย

หลิงฮันรู้สึกราวกับว่าโลหิตในร่างกำลังสูบฉีด เสน่ห์ขององค์จักรพรรดินีน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก เห็นได้ชัดว่านางไม่ใช้ใช้ทักษะลับใดๆเลยในคำพูดของนางแถมยังปิดบังใบหน้าเอาไว้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นนางกลับทำให้เขารู้สึกใจเต้นขึ้นมาได้

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมจักรพรรดิของอีกสองจักรวรรดิราชวงศ์หลงใหลในตัวนาง ตัวนางมีเสน่ห์ที่ยากจะต้านทานจริงๆ

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับคำชมจากท่าน” หลิงฮันกล่าว แววตาของเขามองลงกับพื้นโดยไม่กล้าแหงนหน้าขึ้นมอง

จักรพรรดินีผู้นี้มีเสน่ห์ยิ่งกว่าสุ่ยเยี่ยนยวี่และจูเสวียนเอ๋อเสียอีก อย่างน้อยในหมู่สตรีที่หลิงฮันรู้สึก มีเพียงผู้นำของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์เท่านั้นที่เทียบเคียงหรืออาจจะเหนือกว่านาง

เพียงแต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากสตรีทั้งสองนั้นแตกต่างกัน ผู้นำของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์นั้นให้ความรู้สึกที่อ่อนโยน แต่จักรพรรดินีผู้นี้กลับให้ความรู้สึกที่เย็นชาแทน

ความน่าดึงดูดนี้สมควรจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากทักษะบ่มเพาะของจักรพรรดินีแน่นอน ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางเลยที่สตรีผู้หนึ่งจะมีเสน่ห์ที่เย้ายวนใจเช่นนี้

หลิงฮันไม่คิดว่าพลังบ่มเพาะของเขาในตอนนี้จะสามารถต้านทานเสน่ห์ของอีกฝ่ายได้ ดังนั้นเขาจึงไม่แม้แต่จะชำเลืองอีกฝ่าย

“เจ้าเป็นผู้ทำให้จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะได้รับอันดับหนึ่งและได้รับสิทธิ์ในการเข้าไปยังเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์หนึ่งพันสิทธิ์ ดังนั้นข้าจะให้สิทธิ์เจ้าในการเข้าไปเป็นกรณีพิเศษ” องค์จักรพรรดินีกล่าว

“ข้าขอขอบคุณองค์จักรพรรดินีเป็นอย่างยิ่ง”

รางวัลเช่นนี้เป็นสิ่งที่หลิงฮันคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นองค์จักรพรรดินีที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้จะเรียกเขาเข้าพบด้วยเหตุผลอันใด? ยิ่งกว่านั้นด้วยพลังต่อสู้อันน่าอัศจรรย์ที่เขาแสดงออกไป เป็นธรรมดาที่องค์จักรพรรดินีจะเกิดความสนใจและต้องการตรวจสอบเขาอย่างใกล้ชิด