เล่มที่ 21 เล่มที่ 21 ตอนที่ 625 จิ่นซี เจ้าสบายดีหรือไม่

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ในเวลาเดียวกัน สตรีที่อยู่ข้างหลังฮูหยินเตี๋ยเมิ่งก็ชักดาบเล่มยาวออกมา และชี้ไปที่ลูกศิษย์ของสกุลจง

หากคนของอู๋จุนต่อกรกับคนของจงซูอี้เพียงลำพัง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีโอกาสชนะ อันดับแรกคือ กำลังคนของอู๋จุนค่อนข้างเสียเปรียบ

ทว่าตอนนี้มีฮูหยินเตี๋ยเมิ่งเข้ามาเป็นกำลังเสริม เช่นนี้คงพูดยาก

สตรีในชุดเขียวของฮูหยินเตี๋ยวเมิ่ง เป็นนักรบเดนตายที่ได้รับการฝึกเป็นพิเศษ แม้พวกนางจะเป็นสตรี ทว่าเวลารบกลับสามารถต่อสู้กับคนนับสิบได้

มุมปากของจงซูอี้กระตุกอย่างแรง เมื่อคำนวณดูในใจ หากต่อสู้กันจริงๆ คงมีโอกาสชนะอยู่บ้าง ทว่าหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขายังรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ไม่ถึงครึ่ง

ความคิดของจงซูอี้หมุนวนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เหลือบสายตามองไปที่จิ่วหรง ซึ่งนิ่งเงียบไม่พูดจาอยู่บนที่นั่ง

เขากำลังคิดว่าจะให้จิ่วหรงออกหน้าแทน

ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งอยู่ใกล้จงซูอี้มากที่สุด นางเป็นคนแรกที่อ่านความคิดของจงซูอี้ออก

ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งยกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชาให้จิ่วหรงที่นั่งอยู่ด้านบน

“คุณชายจิ่ว วันนี้ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้นำสกุลที่มีชื่อเสียงในวงการแพทย์ ส่วนอีกฝ่ายเป็นซูจิ่นซีศิษย์รัก คุณชายจิ่ว ท่านคิดจะช่วยเหลือผู้ใด! ”

แม้จิ่วหรงจะมาร่วมการแข่งขันซิ่งหลินเช่นกัน ทว่าเขาไม่ได้พูดอันใดตั้งแต่ต้นจนจบ เวลานี้ เขายังคงหยอกล้อกับเจ้าจิ้งจอกน้อยแสนน่ารักในอ้อมแขนอย่างผ่อนคลาย

จิ้งจอกน้อยได้ยินเสียงของฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง จึงส่งเสียงไปทางซูจิ่นซีดัง ‘จี๊ด จี๊ด จี๊ด’

ทุกคนต่างคิดว่าจิ่วหรงไม่มีทางสนใจฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง เพราะก่อนหน้านี้ หลายคนพยายามกดดันถามความคิดเห็นจากจิ่วหรง ทว่าพวกเขาเหล่านั้นล้วนไม่อยู่ในสายตาของจิ่วหรง และจิ่วหรงก็ไม่พูดตอบอันใด

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่คาดคิดว่าจิ่วหรงจะยอมเอ่ยปาก

เขาไม่เพียงตอบคำถามของฮูหยินเตี๋ยเมิ่งเท่านั้น ทว่ายังแสดงจุดยืนของตนเองอย่างชัดเจน

“เด็กน้อย อย่าทำให้อาจารย์ขายหน้าเล่า! ”

จิ่วหรงพูดพลางมองซูจิ่นซีด้วยแววตาสดใส เขายกชายแขนเสื้อกว้างขึ้น ยาเม็ดใสพลันถูกโยนออกจากฝ่ามือ และตกเข้าไปในปากของซูจิ่นซี

ดวงตางดงามของซูจิ่นซีมองจิ่วหรงอย่างเหลือเชื่อ

เมื่อจิ่วหรงปล่อยมือ จิ้งจอกน้อยแสนน่ารักในอ้อมแขนก็กระโดดออกมา และโผเข้าสู่อ้อมแขนของซูจิ่นซี

ภายใต้การจับจ้องของผู้คน จิ้งจอกน้อยใช้ศีรษะของตนเองถูไถหน้าอกของซูจิ่นซีไม่หยุด

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่น

เจ้าสัตว์น้อยตัวนี้ ชอบลวนลามมนุษย์เหมือนสัตว์เทพกิเลนนัก

ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งมองไปที่จงซูอี้ พลางเผยรอยยิ้มพึงพอใจ

จงซูอี้และลูกศิษย์ที่อยู่ข้างกาย มองจิ้งจอกน้อยในอ้อมแขนของซูจิ่นซี จากนั้นก็มองไปยังจิ่วหรงที่นั่งอยู่บนที่สูง พวกเขาต่างถือดาบและค่อยๆ ก้าวถอยหลัง

ความสามารถของจิ่วหรงนั้นยากคาดเดา ไม่มีผู้ใดบอกได้ว่าเขามีความสามารถระดับใด หากเขาลงมือจริงๆ ผลลัพธ์… คงไม่อาจคาดเดาได้

เมื่อนึกมาถึงเรื่องนี้ หน้าผากของจงซูอี้ก็ปรากฏเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นมาเป็นชั้นๆ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าในตอนนั้น จะมีบุคคลสำคัญผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา

“ผู้นำสกุลจง แพ้ชนะยังไม่ทราบผล เจ้าจะถอยหลังกลับได้อย่างไร! ”

เมื่อสิ้นเสียงพูด ก่อนที่คนผู้นั้นจะปรากฏตัว ทุกคนต่างได้กลิ่นหอมแปลกๆ โชยมา จากนั้น แมลงปอสีแดงสดจำนวนมากก็กระพือปีกและปรากฏตัวต่อสายตาผู้คน

ขณะที่คนจำนวนมากได้กลิ่นแมลงปอสีโลหิต ใบหน้าของพวกเขาก็ราวกับต้องมนตร์ ชั้นหมอกพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็เอื้อมมือออกไปจับแมลงปอ

ทว่ายังไม่ทันได้จับ ก็ถูกมันต่อยแทน

คนที่ถูกแมลงปอต่อย ใบหน้าเริ่มซีดขาว พวกเขานอนกำมือบนพื้น และหัวเราะไม่หยุด

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่น และตะโกนว่า “ทุกคนอย่าขยับ! อย่าขยับเด็ดขาด แมลงปอพวกนี้มีพิษ”

นางพูดพลางยกมือขึ้น และนำยาสีชมพูอ่อนจำนวนสามเม็ดโยนขึ้นกลางอากาศ หลังจากยาทั้งสามเม็ดถูกโยนขึ้นไปในความสูงที่พอเหมาะ ทันใดนั้น มันก็ระเบิดออกเสียงดัง ฝุ่นสีชมพูอ่อนฟุ้งกระจายไปทั่วสนามประลอง

เมื่อแมลงปอเหล่านั้นสัมผัสกับฝุ่นสีชมพูอ่อน มันก็ค่อยๆ บินออกจากสนามประลอง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงกังวานใสราวกับระฆังทองแดงดังขึ้น “พระชายาโยวอ๋อง พวกเราพบกันอีกแล้ว วิธีการถอนพิษของเจ้า ดูเหมือนจะเก่งกาจขึ้นอีกขั้น”

หลังสิ้นเสียงนั้น ร่างสีฟ้าครามก็เหาะลงมาท่ามกลางสายตาผู้คน

คนผู้นี้แต่งกายเป็นทางการแบบสตรีแคว้นไหวเจียง รูปลักษณ์พริ้มเพราสง่างาม งดงามสมเป็นประมุขของสำนักห้าพิษแห่งแคว้นไหวเจียง หลานอวี่

หลานอวี่เหาะลงมายืนข้างกายจงซูอี้ ขณะเดียวกันก็แสดงจุดยืนของตนเองว่า นางมาเพื่อช่วยเหลือจงซูอี้

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ประมุขหลาน ไม่พบกันหลายเดือน ท่านยังคงสง่างามเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เพียงแต่… วิธีการวางพิษดูเหมือนจะถดถอยลงเล็กน้อย! ”

ใบหน้าประมุขหลานพลันถมึงทึง

“ที่แท้ จงซูอี้และบุตรชายก็ร่วมมือกับคนแคว้นไหวเจียงจริงๆ ! ”

“ประมุขสำนักห้าพิษแห่งแคว้นไหวเจียงมาแล้ว ยังไม่ใช่สมรู้ร่วมคิดอีกหรือ? ”

“พ่อลูกคู่นี้ช่างร้ายกาจ น่ารังเกียจที่สุด! ”

“ไม่คิดเลยว่าพ่อลูกสกุลจงจะคิดคด”

……

“พี่หลานอวี่” ไหวชิ่งกงจู่รีบวิ่งเข้าไปหาหลานอวี่ทันที

หลานอวี่คำนับไหวชิ่งกงจู่ด้วยความเคารพ

“หลานอวี่มาสาย ทำให้องค์หญิงต้องลำบากแล้ว! ”

ไหวชิ่งกงจู่แย้มยิ้มสดใส “ไม่เป็นไร พี่หลานอวี่ ซูจิ่นซีไม่ได้ทำให้ข้าลำบากใจ! ”

ไหวชิ่งกงจู่คิดจะพูดแทนซูจิ่นซี

ดวงตาหลานอวี่เต็มไปด้วยความล้ำลึก ทว่านางไม่ได้พูดอันใด

“องค์หญิง ที่นี่ปล่อยให้ข้า ราชครูและประมุขหลานจัดการเถิด มากคนก็ยิ่งมากความ องค์หญิงโปรดกลับแคว้นไปก่อน! ”

หลังสิ้นเสียงพูด ที่บริเวณทางออก กูสือซานพากลุ่มคนจำนวนหนึ่งเข้ามา และสั่งให้องครักษ์สองสามนายนำตัวไหวชิ่งกงจู่ออกไป

เดิมทีไหวชิ่งกงจู่ไม่อยากไป ทว่าเมื่อเห็นแววตาเด็ดเดี่ยวของหลานอวี่ นางก็ไม่กล้าพูดอันใดมาก ทำได้เพียงเดินตามองครักษ์ออกไป

ดูเหมือนไหวชิ่งกงจู่จะกลัวหลานอวี่มาก

ขณะที่ไหวชิ่งกงจู่เดินมาถึงทางออก ทันใดนั้น นางก็เดินเข้าไปหาถังเสวี่ย “คุณหนูถัง อย่าลืมข้อตกลงของเรา! พวกเรายังไม่ได้สู้กันเลย! ”

ถังเสวี่ยยกกำปั้นให้ไหวชิ่งกงจู่

“วางใจได้ ข้าไม่มีทางลืมเจ้าแน่นอน! ”

ไหวชิ่งกงจู่จากไป กูสือซานและหลานอวี่ต่างยืนอยู่ข้างกายจงซูอี้

ซูจิ่นซีจับจุดทิศทางที่กูสือซานปรากฏตัวและนำกำลังคนเข้ามา นางคิดว่ากูสือซานและอู๋จุนทำเช่นเดียวกัน พวกเขาคงออกจากสนามแข่งขันไปตอนที่ผู้คนไม่ทันได้สนใจ

หากเขาออกจากสนามประลองไปก่อน แสดงว่าเขารู้บางอย่างล่วงหน้าหรือ? นอกจากนั้น ด้านนอกสนามประลองในตอนนี้ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าพวกเขาวางกับดักอันใดไว้บ้าง

การลอบออกไปของเขา ส่งผลต่อความคืบหน้าของฝ่ายมู่หรงฉีหรือไม่…?

ทั้งหมดนี้ ซูจิ่นซีไม่อาจล่วงรู้ได้ สถานการณ์ในตอนนี้ ข่าวคราวด้านนอกเข้ามาด้านในไม่ได้ ทว่าข่าวคราวที่นี่ จะเผยแพร่ออกไปข้างนอกได้หรือไม่ ก็ไม่รู้เช่นกัน

ซูจิ่นซีมองไปรอบๆ ทว่านางไม่เห็นแม้แต่เงาของ JX กับพรรคพวก

ทันใดนั้น ซูจิ่นซีก็เห็นคนคุ้นเคยที่ยืนอยู่ด้านหลังของกูสือซาน

ท่วงท่าสง่างามสูงศักดิ์ของคนผู้นั้นยังคงเหมือนเดิม ทว่าความหรูหราของเครื่องแต่งกายกลับไม่ใช่แบบฉบับของแคว้นจงหนิง แต่เป็นชุดของแคว้นไหวเจียง

ไท่จื่อองค์ก่อนของแคว้นจงหนิง เยี่ยเซิน

เยี่ยเซินเห็นซูจิ่นซีมองมาที่เขา เมื่อสบตากับซูจิ่นซี หัวใจของเขาพลันตื่นเต้น เขาเดินไปข้างหน้าสองก้าว

“จิ่นซี พวกเราพบกันอีกแล้ว แม้วันนี้ข้าจะอยู่ไกลถึงแคว้นไหวเจียง ทว่าข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก คิดถึงมาตลอด! จิ่นซี เจ้าสบายดีหรือไม่? “