บทที่ 638 นักดาบเสแสร้ง ฮาชิโมโตะ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

เนื่องจากตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ นอกจากจะมีเสียงไก่ขันหมาหอนขึ้นเป็นครั้งคราวแล้ว บนถนนก็ค่อนข้างเงียบเลย

ทันใดนั้น ก็มีร่างของใครบางคนที่กำลังหายใจหอบปรากฏออกมากลางถนน จากใบหน้าสวยๆ ที่สะท้อนอยู่ในผิวน้ำก็มองออกทันทีว่าเป็นฟู่เซิ่งหนาน!

“คิดจะขังฉันไว้ในบ้าน มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”

ฟู่เซิ่งหนานหันหลังกลับไปมองเป็นพักๆ พอเห็นว่าไม่มีใครตามมา ถึงได้ลดความเร็วลง

“หืม?!”

วินาทีต่อมา ฟู่เซิ่งหนานก็ต้องขมวดคิ้ว รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตรงซอยข้างๆ ได้อย่างชัดเจน ระหว่างที่บิดข้อมือเธอก็ได้ล้วงมีดสั้นออกมาเล่มหนึ่งแล้วปาเข้าไปในซอยมืด

ทันใดนั้นก็มีเสียงตกกระทบที่ชัดเจนดังขึ้น ประกายไฟทำให้เกิดแสงกะพริบขึ้น ทำให้มองเห็นร่างของใครบางคนรางๆ

“สมแล้วที่คุณฟู่เป็นลูกสาวของอันดับสองแห่งกิลด์ทหารรับจ้าง ไม่นึกเลยว่าผมขยับแค่นิดเดียว คุณก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของผมแล้ว”

คนที่อยู่ในซอยค่อยๆ เดินออกมา เป็นชายที่สวมชุดซามูไร ทำให้เกิดการเปรียบเทียบที่เด่นชัด

“นักดาบเสแสร้ง?!”

ฟู่เซิ่งหนานตกใจ สีหน้าเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด “นึกไม่ถึงเลยว่านักดาบเสแสร้งฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ผู้มีชื่อเสียงจะมาหาฉันได้คุณนี่ช่างให้เกียรติฉันจริงๆ เลยนะ!”

“อย่าเพิ่งเข้าใจผิด เป้าหมายแรกของผมเป็นพ่อของคุณ การปรากฏตัวของคุณถือเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของผม”

ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ส่ายหน้า “แต่ว่านะ การตายของเธอก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ผมต้องการเหมือนกัน ระหว่างฆ่าคุณกับฆ่าพ่อของคุณ การฆ่าคุณมันก็ง่ายกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย!”

“หมายความว่ายังไง? นี่คุณกำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่?”

คิ้วสวยๆ ของฟู่เซิ่งหนานขมวดเป็นปม และรีบควงมีดสั้นออกมาจากร่างกายอีกเล่ม จ้องมองไปยังฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ด้วยสีหน้าที่หวาดระแวง

“คุณคิดว่าผมจะบอกคุณมั้ยล่ะ?”

ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่อยากเซ้าซี้กับฟู่เซิ่งหนานต่อแล้ว “ว่ามา! คุณจะเป็นฝ่ายเข้ามาเอง? หรือจะให้ผมเป็นฝ่ายเข้าไป?”

ทั้งๆ ที่จะฆ่าคุณ แต่กลับให้คุณยื่นหัวออกไป ช่างมั่นใจซะเหลือเกิน!

แต่ ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ก็มีดีพอที่จะทำอย่างนั้นได้จริงๆ!

ทั่วทั้งประเทศหมิง นอกจากพวกตาแก่ที่ยังไม่ยอมตายแล้ว ถ้าเขาอยากให้ใครตาย คนๆนั้นก็ไม่มีทางที่จะไม่ตาย!

“เจ๊ไม่อาละวาดแกคงคิดว่าฉันเป็นแมวขี้โรคสินะ?”

ฟู่เซิ่งหนานโกรธจนยิ้มออกมา ทั้งๆ ที่ใบหน้าอันงดงามได้เผยรอยยิ้มอันน่าหลงใหลออกมา แต่มันกลับทำให้รู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้

ซิ่ว!

ทันทีที่พูดจบ ฟู่เซิ่งหนานก็เป็นฝ่ายโจมตีก่อน มือขวาสะบัด มีดสั้นก็พุ่งสังหารไปที่ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ พร้อมกับแสงประกายที่เยือกเย็น

แต่ตัวเธอกลับรีบหันหลัง แล้วหนีไปอย่างรวดเร็ว

เธอรู้ถึงความสามารถของตัวเองดี ถ้าสู้กันตรงๆ ก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ได้อยู่แล้ว ถ้าบุกเข้าไปก็มีแต่จะไปตายฟรี

“คิดหนีเหรอ? คิดว่าจะหนีได้รึไง?!”

ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ เอียงคอหลบมีดสั้นที่พุ่งเข้ามา จากนั้นก็รีบตามออกไป

“หรือว่า ครั้งนี้ต้องตายจริงๆ แล้วอย่างน้ันเหรอ?”

ยังไงฟู่เซิ่งหนานก็เป็นผู้หญิง อีกทั้งยังอ่อนแอกว่า ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ระยะห่างของทั้งคู่จึงลดน้อยลงทุกที ทำให้ใจของฟู่เซิ่งหนานตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วส่วนเย่เทียนในตอนนี้ กำลังสู้อย่างดุเดือดอยู่กับ อิจิโร ยามาโมโตะ

ความสามารถของอิจิโร ยามาโมโตะ นั้นดูถูกไม่ได้เลย ถึงแม้เย่เทียนจะจริงจังขึ้นมาก เย่เทียนก็ไม่สามารถจัดการเขาได้ในเวลาอันสั้น

ทั้งสองสู้กันไปกันมาอยู่บนเวที สู้จนแยกกันไม่ออก

ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างก็จดจ่อจนแทบหยุดหายใจ ไม่นึกไม่ฝันว่าม้ามืดอย่างเย่เทียนจะสู้กับ อิจิโร ยามาโมโตะ ได้สูสีถึงขนาดนี้

อิจิโร ยามาโมโตะ ร้ายกาจแค่ไหน พวกเขายังไม่เคยได้เห็น แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เคยเห็นตอนที่ อิจิโร ยามาโมโตะ สำแดงอิทธิฤทธิ์มาแล้ว บวกกับการที่เย่เทียนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดินอีก การต่อสู้ในครั้งนี้ก็ถือเป็นการต่อสู้ของมังกรกับเสือแล้ว ผู้ชมต่างไม่มีใครกล้ากะพริบตา กลัวจะพลาดฉากสำคัญอะไรไป

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนกลับมองไม่เห็นอะไรเลย

ความเร็วของทั้งสองที่สู้กันบนเวทีนั้นเร็วเกินไป พวกเขาสามารถมองเห็นได้แค่ภาพซ้อนรางๆ กับเสียงปะทะกันที่อุดอู้เท่านั้น

เย่เทียนกับอิจิโร ยามาโมโตะ ได้สวนกันไป หลังเคลื่อนที่ออกไปไกลสองเมตรแล้วก็ได้หันกลับมาอย่างรวดเร็ว จ้องมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

อิจิโร ยามาโมโตะ ได้ชักดาบทาชิที่เอาออกมาตั้งนานแล้ว ความเร็วเป็นเลิศองศาก็รับมือยาก ทำให้เย่เทียนลำบากขึ้นมามากเลย สมกับฉายาปรมาจารย์แห่งดาบจริงๆ!

จนถึงตอนนี้ ทุกคนถึงมองเห็นว่าบนตัวของเย่เทียนไม่รู้ไปถูกฟันเข้าตอนไหนตั้งหลายแผล เสื้อผ้าก็ขาดหลุดลุ่ยและถูกย้อมไปด้วยเลือด เห็นแล้วก็รู้สึกอนาถอยู่พอสมควร

หันมองมาที่ อิจิโร ยามาโมโตะ เส้นผมที่เหลืออันน้อยนิดยุ่งเหยิงไม่เป็นท่า เบ้าตาขวานั้นเกิดเป็นรอยช้ำที่ดำเขียว เสื้อผ้าบนตัวก็มีรอยเท้าประทับอยู่หลายจุด บ่งบอกว่าไม่ได้มีความได้เปรียบในการสู้กับเย่เทียนเลย

อิจิโร ยามาโมโตะ จ้องมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม อย่าคิดว่าเขากำลังได้เปรียบเย่เทียน แต่เขาก็อายุปาเข้าไปห้าสิบกว่าแล้ว แถมยังโดนเย่เทียนเล่นงานไปอีกหลายครั้ง ยังไงลมปราณก็ต้องยุ่งเหยิงไปบ้างแหละ

เขารู้ดีว่าจุดด้อยของตัวเองนั้นอยู่ตรงไหน ถ้าขืนยังสู้แบบนี้ต่อไป สุดท้ายคนที่ต้องตายก็ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน

พอคิดได้อย่างนั้น สายตาที่ขุ่นมัวคู่นั้นของอิจิโร ยามาโมโตะ ก็ดูแน่วแน่ขึ้นมา แล้วพุ่งใส่เย่เทียนอย่างรวดเร็วราวกับเสือชีตาร์คมดาบในมือเป็นประกายเยือกเย็น ฟันจากล่างขึ้นบนไปที่ไหล่ซ้ายของเย่เทียน

เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ออกแรงที่ขาเบาๆ ร่างกายก็ได้ดีดไปข้างหลังอย่างแรง

แต่ อิจิโร ยามาโมโตะ ที่ตั้งใจจะโจมตีใส่เย่เทียนจะปล่อยให้เย่เทียนหนีไปได้ยังไง รีบขยับขาไล่ตามไปด้วยความเร็วที่มากกว่า ดาบทาชิในมือก็แปรเปลี่ยนราวกับงู แลบลิ้นแล้วพุ่งเข้าใส่เย่เทียน

“คิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะกลัวเธอ!”

พอเห็นอิจิโร ยามาโมโตะ ไล่ตามมา เย่เทียนก็ได้คำรามออกมา และไม่คิดจะหลบอีก จากนั้นก็ใช้สเตปขาที่น่าเหลือเชื่อระหว่างที่หลบออก ก็ได้พุ่งเข้าหาอิจิโร ยามาโมโตะ ตามวิถีของใบดาบ

ทันใดนั้น ระยะห่างของทั้งสองก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เย่เทียนใช้กรงเล็บเสือด้วยมือข้างเดียวข่วนไปที่ลิ้นปี่ของ อิจิโร ยามาโมโตะ

ดูจากท่าทางนั้นแล้ว ถ้าโดนข่วนเข้าจริงๆ ก็คงจะถูกควักหัวใจจนตายแน่นอน

โบราณพูดไว้ดี : อาวุธยาวจะได้เปรียบ อาวุธสั้นจะเสียเปรียบ

ถึงจะบอกว่าอาวุธของอิจิโร ยามาโมโตะ จะได้เปรียบ แต่ถ้าถูกเย่เทียนเข้าประชิดตัวได้ ความได้เปรียบของเขาก็จะกลายเป็นความเสียเปรียบทันที!

ภาพที่เกิดขึ้นทำให้สีหน้าของอิจิโร ยามาโมโตะ เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ยังไงเขาก็เป็นปรมาจารย์แห่งดาบที่ผ่านศึกมานับร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ถึงกับตกอยู่ในสถานการณ์ที่ร้อนรนอะไร

เขาได้บิดเอวอย่างรวดเร็ว ขยับตัวไปข้างๆ หลายเซนต์ และสามารถหลบออกจากกรงเล็บเสือของเย่เทียนอย่างฉิวเฉียด

ถึกถึก!

แต่ทว่า เย่เทียนนั้นทั้งเร็วทั้งรีบ กระดูกซี่โครงด้านซ้ายของอิจิโร ยามาโมโตะ ข่วนใส่อยู่ดี ผิวหนังถูกข่วนจนเป็นแผลไปด้วยเกิดเป็นรอยเลือดที่น่ากลัว

“น่าเสียดาย! ช่างน่าเสียดายจริงๆ!”

ทั้งสองได้พุ่งสวนกันอีกครั้ง ทรงตัวอย่างรวดเร็วแล้วหันกลับมา อิจิโร ยามาโมโตะ ราวกับไม่ได้รู้สึกเจ็บแม้แต่นิดเดียว จ้องมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่หดหู่ “ยอดฝีมือที่มีพรสวรรค์อย่างเธอกลับไม่ได้เกิดในประเทศหมิงของฉัน”

“น่าเสียดายเหรอ?”

เย่เทียนเบ้ปากอย่างไม่ใส่ใจ พูดพร้อมกับหัวเราะชอบใจว่า “ฟังจากที่คุณพูด ถ้าผมไปที่ประเทศหมิงของคุณแล้ว ก็สามารถเป็นราชาที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วสินะ?”

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เย่เทียนกลับแอบตกใจเหมือนกัน

เมื่อกี้ที่เขาโจมตีทีเผลอ ต่อให้ต้องสลับกัน เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าตนจะได้รับบาดเจ็บแค่นิดเดียวแล้วหลบได้อย่างอิจิโร ยามาโมโตะ รึเปล่า

ปรมาจารย์แห่งดาบก็คือปรมาจารย์แห่งดาบ ประสบการณ์ในการต่อสู้นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ!