TB:บทที่ 231 ภูเขา 100000 ลูก
“เทพเจ้าแห่งทวยเทพยังทำไม่ได้เลย เพราะมีเหล็กกล้าที่เก็บไว้ไม่มากนัก และมีเพียงเมืองใหญ่ๆที่นำไปใช้ แต่คงจะเป็นการดีหากอาวุธของเราทำจากเหล็กกล้า” ไป่ไท่ฮาง รีบส่ายหัว เขารู้สึกถึงเสาเหล็กเบื้องหลังอยู่ในขณะเดียวกัน
ใช่แล้ว อาวุธของไป่ไท่ฮางคือเสาเล็กขนาดใหญ่นี่
“ไม่มีเหล็กกล้าที่เก็บไว้เพียงพอหรือ” เฉินหลงหันไปมองที่ไป่ไท่ฮางและไม่คาดหวังให้เขารู้คำตอบ “โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ การเก็บกักเหล็กกล้าจะไร้ประสิทธิภาพไปได้อย่างไร คุณไปฟังใครมา”
ขอบเขตของ คุนหลุน นั้นกว้างใหญ่กว่าโลกเป็นสิบเท่า ตราบเท่าที่ยังมีเหล็กกล้าอยู่คงจะเก็บรักษาไว้ได้น้อย
“อัศวินศักดิ์สิทธิ์ในวิหารกล่าวกันว่า ท่านเทพมาที่นี่และค้นพบแหล่งแร่เหล็ก หลังจากทำเหมืองมาหลายปี แหล่งนั้นได้พร่องไป เรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว” ไป่ไท่ฮางมีความเสียดาย
ในความคิดเขาหากมีเหล็กกล้ามากๆแล้ว อาวุธของเขาจะหนักขึ้น และเมืองของเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีของฝูงสัตวเล็กได้ครั้งหนึ่งในทศวรรษ
“นี่คุณไม่เคยเรียนการขุดเหมืองหรือ” เฉินหลงประหลาดใจ
แหล่งเหล็กสามารถจะขุดได้เป็นสองร้อยปี และยังเป็นได้ด้วยว่าที่นี่มีแร่หลายประเภทเหลือเกิน ทว่ากลับไม่มีแร่เหล็กอยู่ เฉินหลงพูดไม่ออกเลย
ไป่ไท่ฮางส่ายหัว “ตอนที่ข้าเกิด นักบุญได้ไปจากที่นี่เป็นเวลามากกว่าสองพันปีแล้ว ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรกัน”
“เพราะเขาไม่ได้สอนคุณ ผมจะสอนคุณเอง” เฉินหลงยิ้มให้
คงมีความหวังขายอยู่ในระบบ และต้องมีความรู้จำนวนมากเกี่ยวกับแร่และการสำรวจในระบบอัจฉริยะ ไอคิวของไป่ไท่ฮางไม่ได้ต่ำนัก ดังนั้นการสอนให้สำรวจคงไม่เป็นปัญหา
“จริงหรือ ท่านเทพ ท่านจะสอนให้เราสำรวจจริงๆหรือ” เมื่อฟังคำของเฉินหลง ไป่ไท่ฮางมองเฉินหลงอย่างตื่นเต้น
“ไม่ใช่แค่การจะสอนคุณหรอกนะ แต่เพื่อจะสอนพวกคุณทั้งหมด ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะไปเมืองใหญ่หรือ เช่นนั้นผมจะสอนวิธีให้คุณเปล่งประกายในหมู่คนที่คุนหลุนแล้วจากนั้นจะเปลี่ยนเมืองเล็กๆนี้เป็นเมืองใหญ่ ผู้คนแบบคุณที่ไม่เคยเข้าเมืองใหญ่จะได้มาที่เมืองแห่งนี้” เฉินหลงมองไป่ไท่ฮางอย่างจริงจัง
ในช่วงวันนั้นเองเมื่อเขาเข้ากับไป่ไท่ฮางได้แล้ว เฉินหลงรู้สึกได้ว่าไป่ไท่ฮางเป็นคนที่ช่างไร้เดียงสาจริงๆ เขาต้องอยู่ ใน “อาณาจักรคุนหลุน” แห่งนี้ เขาต้องการกองกำลังสนับสนุนด้วย ไป่ไท่ฮางจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“ท่านเทพ ข้าจะเรียนรู้จากคุณอย่างดีที่สุด” ไป่ไท่ฮางรีบพยักหน้ารับ
“ตอนนี้ คุณต้องไปกับผม ไปที่เหมืองกัน” เฉินหลงว่า
หลังจากพบกับไป่วูจีและเฮยหยางแล้ว เฉินหลงรับรู้ว่าการมีคำว่าเทพในชื่อคงไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีเท่าไหร่ ตอนนี้เขาเป็นเหมือนพระถัง ตราบใดที่เขายังมีพลังอยู่บ้าง เขาก็ต้องการจะปล่อยตัวเขาไปกับพวกเขา แม้ว่าจะมีวิหารศักดิ์สิทธิ ทว่าพวกเขาจะไม่ปฏิบัติกับตัวพวกเขาเองอย่างดี ความรู้สึกของความไม่เป็นอิสระทำให้เฉินหลงรู้สึกไม่ชอบใจเอามาก
เฉินหลงรู้จากปากของไป่ไท่ฮางว่า “เมืองไท่โจว” และ “เมืองแบล็คสโตน” ไม่ใช่เมืองที่มีกำลังแข็งแกร่ง แต่พวกเขารวดเร็วกว่าพวกที่อยู่ในเมืองปืนใหญ่ ในเมืองใหญ่ๆพวกนั้น มีแต่คนที่แข็งแกร่งๆมากกว่านี้มาก และเพื่อจะเข้าไปยุ่งกับปัญหานี้ เฉินหลงและไป่ไท่ฮางออกไปเพื่อตามหาเหมืองและหลีกเลี่ยงคนพวกนั้น
ไป่ไท่ฮางลังเลพักหนึ่ง และตอบตกลงทันที
การได้ติดตามท่านเทพเป็นโอกาสที่หาได้ยาก แม้ไป่ไท่ฮางจะไม่ต้องการออกจากบ้านก็ตาม เขารีบกลบความคิดที่ว่าไป
หลังจากนั้นเฉินหลงและไป่ไท่ฮางก็ออกจากเมืองไปยังภูเขาหนึ่งแสนลูก
ฉือหว่านต้าชาง เป็นเทือกเขาที่ยาวต่อกันในอาณาจักรคุนหลุน มีการพบแหล่งแร่เหล็กในเขาฉือหว่านต้าชางโดยท่านเทพ
“เขตแดนของคุนหลุน” ช่างที่สถานที่ที่มหัศจรรย์ ในทางตอนเหนือจะไม่อาจเห็นเหล็กกล้าและป่าที่มีต้นไม้หนาแน่นได้ ในทางทิศตะวันตกจะมีภูเขาอยู่มากเป็นหลายร้อยลูก ในทางทิศตะวันออกมีทะเลอันไร้ขอบเขต และในทางใต้มีทะเลทรายแห่งความตาย
สถานที่ทั้งสี่นั้นเป็นเจไดที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ของอาณาจักรคุนหลุน ทว่าพวกเขาไม่รู้ว่าจะเชื่อมโยงสถานที่พวกนั้นได้อย่างไร อีกทั้งไม่รู้วิธีล้อมรอบที่อาศัยของคนในคุนหลุนด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเช่นนั้น สถานที่ที่ผู้คนในคุนหลุนอาศัยนั้นช่างกว้างใหญ่ ยิ่งใหญ่ไปเสียกว่าโลกทั้งใบเสียอีก
เฉินหลงได้ไปยังป่าแห่งเหล็กกล้ามาก่อน ที่แห่งนั้นเป็นเพียงขอบนอกของป่าแห่งเหล็กกล้า ทว่าเฉินหลงกลับต้องใช้เวลากว่าสิบวันเพื่อออกมา คงจะนึกภาพออกได้ว่าป่าแห่งนี้กว้างใหญ่เพียงไหน
อีกทั้งยังเนื่องจากเพราะเจไดทั้งสี่ที่กว้างใหญ่มหาศาลอย่างที่ไม่มีใครในคุนหลุนจะล่วงรู้ได้ว่าภายนอกของสี่เจไดเป็นอย่างไร
สิบวันต่อมา เฉินหลงขี่ม้าที่มีเขาและในที่สุดเขาได้ไปถึงภูเขาหนึ่งแสนลูก
ม้ามีเขาเป็นม้าเลี้ยงของผู้คนในคุนหลุน มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับม้าบนโลก ทว่ามีกำลังแข็งแกร่งกว่าม้าบนโลกเป็นสิบเท่าและมีระดับพลังถึงระดับยอดผู้เยี่ยมยุทธ์
เช่นเดียวกับเขาหนึ่งแสนลูกนั้นที่ลักษณะคล้ายกับชื่อ ที่ราวกับเป็นภูเขาลูกยักษ์หนึ่งแสนลูกวางเรียงกันอยู่เบื้องหน้าสายตา เมื่อปรายตามองไปครั้งแรก เขาพวกนั้นทั้งหมดเป็นเหมือนลูกคลื่นภูเขา
“โห”
การได้ยินชื่อภูเขาหนึ่งแสนลูกและได้มาเห็นเองช่างแตกต่างกันนัก เนื่องจากหากไม่ได้มาเห็นกับตาเองแล้วจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่แบบไหนกัน
เช่นเดียวกัน ไป่ไท่ฮางเพิ่งได้เห็นภูเขาแสนลูกเป็นครั้งแรก และตกตะลึงไปกับเทือกเขาที่เหยียดยาวนี้
หลังจากตกตะลึงไปกับภูเขาทั้งแสนลูกแล้ว เฉินหลงหยิบ “เครื่องสำรวจครอบจักรวาล” ที่เขาแลกไปด้วยแต้มห้าร้อยแต้มจากระบบ เขาหยิบออกมาและหันเครื่องไปหาภูเขาแสนลูก
“เครื่องตรวจสอบครอบจักรวาล” นี้ มีขนาดเท่ากับนาฬิกาพก ทว่ามีลูกเล่นอันทรงพลัง
เครื่องที่ว่าไม่เพียงตรวจสอบวัตถุหลายอย่างได้เท่านั้น แต่ยังวัดปริมาณของแร่ธาตุที่มีอยู่ได้ อาจจะเรียกว่าเป็นเครื่องมือวิเศษที่ใช้ตรวจสอบก็ได้
เฉินหลงชี้เครื่อง “ตรวจสอบครอบจักรวาล” ออกไปในทิศทางของภูเขาหนึ่งแสนลูก แล้วหน้าจอของ “เครื่องตรวจสอบ” เริ่มที่จะสะบัดไปมาอย่างบ้าคลั่ง ชื่อของแร่หลายชนิดปรากฏขึ้นเรื่อยๆบนหน้าจอ
นาทีต่อมา ชื่อของแร่ทั้งหมดบนเครื่องตรวจสอบครอบจักรวาลหยุดเปลี่ยนไปมาบนหน้าจอ ในที่สุด พวกเขาก็ได้ชื่อของแร่ทั้งหมด สามหมื่นหนึ่งพันสองร้อยแปดสิบสามชนิด และปริมาณของแร่แต่ละชนิดก็สุดยอดไม่เลว
“โอ้ ช่างมีมากเหลือเกิน ในโลกมีแร่อยู่แค่สามพันชนิดเท่านั้นเอง แร่ธาตุที่นี่ยังทรงพลังกว่าที่โลกเป็นสิบเท่าด้วย แต่คงจะมากเกินกว่าเหตุไปที่จะเก็บแร่ธาตุที่ล้ำค่าพวกนี้ไว้ในเขาหากคนในคุนหลุนยังไม่มีแร่เหล็กใช้”
เฉินหลงมองไปที่ไป่ไท่ฮางที่อยู่ข้างๆเขา
“ไท่ฮาง คุณรู้วิธีจะใช้เครื่องมือตรวจสอบนี่ไหม ให้ผมสอนไหม” เฉินหลงถามไป
“ข้าจำได้” ไป่ไท่ฮางพยักหน้า
แร่บางอันเป็นสีเขียว บางอันไม่เป็นสีเขียว บางอันร้อนอย่างมาก บางอันเย็นเหยียบ
ไป่ไท่ฮางและเฉินหลงเดินเข้าไปในภูเขาที่เต็มไปด้วยพืชพรรณหลากชนิด เฉินหลงสอนหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดและใช้งานได้ดีที่สุดให้ไป่ไท่ฮาง และนั่นคือ “วิธีการหาทองคำ” ที่เขาแลกเปลี่ยนมาจากระบบ
ในตอนแรกแล้ว เฉินหลงต้องการจะสอนไป่ไท่ฮางเรื่องความรู้ของการตรวจสอบบนโลก ทว่าเรื่องนี้อาจซับซ้อนไป เขาจึงใช้แต้มแลกเปลี่ยนยี่สิบแต้มในระบบเพื่อแลกเปลี่ยนหนังสือ “ตามหาทองคำ” และสอนวิธีการให้ไป่ไท่ฮาง