TB:บทที่ 232 ‘มดสีทอง’

 

วิธีอย่าง “การหาทองคำ” เป็นวิธีการใช้งานที่ง่ายมากๆ เนื่องจากมีสถานที่เก็บแร่ธาตุหลายแห่งที่พืชพรรณงอกงามอยู่ได้ด้วยแร่ธาตุ ตราบใดที่รู้สึกถึงแร่ธาตุในพืชพรรณพวกนั้นได้ ก็จะพิสูจน์ได้ว่าสถานที่ใกล้ๆจะมีแหล่งแร่

 

เนื่องจากภูเขาหนึ่งแสนลูกนี้มีการเรียกขานกันว่าเป็น เจได ปัจจัยความเสี่ยงจึงสูงนัก ในท้ายที่สุดแล้ว แร่ธาตุเหล่านี้ก็ไม่ได้เก็บเกี่ยวอย่างง่ายดาย

เมื่อเขาไปในภูเขาแล้ว ไป่ไท่ฮางค่อยๆจับความรู้สึกจากดอกไม้และต้นพืชที่โตบนดิน พร้อมๆกันนั้นเขาระวังพวกสัตว์ป่าที่อาจพลันปรากฏมาไปด้วย

 

เฉินหลงตามไป่ไท่ฮางไปอย่างสบายๆ เขากำลังเพลิดเพลินไปกับภูมิทัศน์ของภูเขาในขณะที่บันทึกข้อมูลสถานที่และจัดเก็บข้อมูลของแร่ธาตุต่างชนิดในภูเขาด้วยเครื่องมือตรวจสอบไปด้วย

 

ในตอนนี้วัตว์ขี่ทั้งสองตัวถูกทิ้งไว้ที่ชายเขา ความแข็งแกร่งของมันอ่อนแอร์เกินไป ถ้าพวกมันเข้ามาในภูเขามันอาจจะกลายเป็นอาหารของสัตว์ประหลาดตัวอื่น สัตว์ที่เลี้ยงจะเชื่องมากพวกมันจะอยู่ที่เดิมจนกว่าเจ้าของพวกมันจะกลับมา

 

แม้ไป่ไท่ฮางจะได้เรียนรู้ศาสตร์การหาทองคำไปแล้วก็ตาม ทว่ายังคงอ่อนด้อย  สองวันต่อมา เขาเข้าภูเขาไป แล้วเขาได้ค้นพบแร่เหล็ก ในครั้งนี้เฉินหลงได้บันทึกแร่ธาตุไปหลายสิบชนิดด้วยอุปกรณ์ตรวจสอบของเขาแล้ว แน่นอนว่า แม้เขาจะไม่ได้ใช้เครื่องตรวจสอบก็ตาม แต่เฉินหลงค้นพบแหล่งแร่กว่าเจ็ดหรือแปดแห่งได้ด้วย “คู่มือตามหาทองคำ” ของเขา ไม่มีใครเป็นได้อย่างเฉินหลง

 

“ท่านเทพ ข้าค้นพบหญ้าแร่เหล็ก” ไป่ไท่ฮางชี้ไปที่หญ้าขนาดสูงที่ไม่ได้ต่างไปจากหญ้าธรรมดานัก เขากล่าวอย่างตื่นเต้น

“หญ้าแร่เหล็ก” เมื่อมองดูแล้วจะมีรูปร่างเหมือนเป็นหญ้าธรรมดา ทว่าจะมีเหล็กกล้าจำนวนมากอยู่ในต้น เนื่องจากเป็นหญ้าที่งอกงามบนแร่ธาตุมานาน แร่นี้แทบไม่มีค่าเลยในสายตาคนส่วนมาก มีเพียงผู้ที่เรียนรู้ศาสตร์แห่งการหาทองคำแล้วและคนที่มีความรู้ด้านแร่มากกว่าคนอื่นเท่านั้นที่จะพบของอย่าง “แร่ธาตุหญ้า” พวกนี้ได้

 

“ไปขุดดูแล้วจะรู้” เฉินหลงรู้อยู่แล้วว่าข้างใต้นี้เป็นแหล่งแร่อย่างแน่นอน และเพื่อที่จะทำให้ไป่ไท่ฮางมีความมั่นใจมากขึ้น เขาจึงบอกให้ไป่ไท่ฮางขุดดูเอง ความรู้สึกว่าประสบความสำเร็จเมื่อได้ค้นพบแร่ได้ด้วยเองจะทำให้ไป่ไท่ฮางมั่นใจในตัวเขาเองมากขึ้น

 

ความมั่นใจในตัวเองเป็นส่วนประกอบสำคัญของทุกๆความสำเร็จที่คนๆหนึ่งจะมีได้ ไป่ไท่ฮางก่อนหน้านี้ยังขาดความมั่นใจในตนเองไปเล็กน้อย จากนี้ไป เฉินหลงจะเพิ่มความมั่นใจในตัวเขาให้

 

เมื่อไป่ไท่ฮางได้ยินแล้ว เขาหยิบ “ที่ขุดดินเหล็ก” ขึ้นมา และเริ่มขุดลงไปในที่ที่ “หญ้าแร่เหล็ก” เติบโต

กล่าวได้ว่าหญ้าแร่เหล็กในที่นี้อุดมสมบูรณ์มากขนาดที่ว่าแทบจะโผล่ออกมาจากใต้ดินแล้ว ไป่ไท่ฮางขุดอยู่สักพักแล้วจึงขุดแร่เหล็กออกมาได้ในทันใด

 

บนโลกนั้นหลังจากขุดแร่ออกมาแล้วต้องผ่านการบด การฝน การแยกแม่เหล็กออก การนำไปลอย การแยกแรงดึงดูด และอีกหลายกระบวนการเพื่อที่จะได้แร่เหล็กออกมา ทว่าในโลกนี้หากขุดแร่ออกมาแล้วจะได้แร่ที่สมบูรณ์ซึ่งเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วย ไม่ต้องสงสัยไปว่าแร่เหล็กที่พบไปเมื่อสองพันปีก่อนทำไมจึงยังใช้ได้ถึงทุกวันนี้

 

“ท่านเทพโปรดดู ข้าได้แร่เหล็กมา และข้าพบแหล่งแร่แล้ว” ไป่ไท่ฮางหยิบเศษแร่เหล็กอันหนึ่งที่เขาขุดขึ้นมาได้อย่างตื่นเต้น และหันไปหาเฉินหลง

เฉินหลงเห็นความตื่นเต้นบนสีหน้าไป่ไท่ฮาง เขาจึงยิ้มแบบให้กำลังใจ

“หากขุดได้มากกว่านี้และนำกลับไปแล้ว ข้าจะมอบเหล็กนี่ให้ลุงเพื่อให้ซ่อมเสาเหล็กยักษ์ให้ดีๆ” สิ้นคำ ไป่ไท่ฮางยกที่ขุดไม้ขึ้นและเตรียมจะขุดหาแร่ต่อ

 

แต่อย่างไรเสีย ในขณะนั้นใบหน้าเฉินหลงพลันเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ เขาหยุดไป่ไท่ฮาง “ไท่ฮาง หยิบอาวุธออกมา ดูเหมือนว่าเราจะมี “แขก” ”

ไป่ไท่ฮางรีบโยนที่ขุดเจาะไปอีกด้านและหยิบเสาเหล็กยักษ์ที่ทำจากเหล็กกล้าแท้ๆของเขาออกมาทำท่าป้องกัน

จากนั้น เฉินหลงและไป่ไท่ฮางมองเห็น “แขก” ที่มาที่นั้น มันเป็นมดแดงที่มีขนาดใหญ่เท่ากับควาย มดแดงนี้มีเขี้ยวโค้งงอเหมือนเคียวและมีลักษณะราวทับทิม

เมื่อเห็นมดพวกนี้แล้ว ใบหน้าของไป่ไท่ฮางพลันเปลี่ยนไป “มดเขมือบทอง” เฉินหลงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว มีมดแบบนี้อยู่ใน “นิวเวิร์ล”ด้วยเช่นกัน มดนี้เป็นสัตว์กลายพันธุ์ชนิดหนึ่งที่อยู่กันเป็นฝูงและยากที่จะรับมือเป็นที่สุด แต่แม้จะเป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่มีพลังระดับพลังลมปราณ ก็ยังต้องถอยเมื่อเจอกับฝูงมด ไม่เช่นนั้น มันคงเป็นได้เพียงกระดูกที่โดนกัดแทะเข้ากระดูกไปโดย “มดเขมือบทอง” และแม้ “มดเขมือบสีทอง” จะดำรงชีวิตได้ด้วยการกินเหล็ก ทว่าบางครั้งพวกมันไม่ได้สนใจว่าจะกินอะไรเข้าไปเพื่อเป็นอาหาร

 

“ท่านเทพ ตอนนี้ท่านจงหนีไปเถิด แล้วข้าจะตามไป” เมื่อเขาเห็นว่าเป็น “มดสีทอง” ไป่ไท่ฮางรีบตัดสินใจจะให้เฉินหลงหนีไปและเขาจะต้านมันไว้ให้

สิ้นคำ ไป่ไท่ฮางพุ่งเข้าไปหามดด้วยเสาเหล็กกล้าขนาดใหญ่

ในตอนนั้นเอง ที่มี “อสูรมด” อยู่มากกว่าร้อยตัว ซึ่งไม่ใช้ฝูงที่มากมายอะไร หากว่าพวกมันทั้งหมดเคลื่อนทัพ จำนวนของมันอาจมากได้ถึงหมื่นหรือแสนตัวเลยทีเดียว

 

เมื่อได้เห็นไป่ไท่ฮางเลือกให้ตัวเขาหนีไปก่อนแม้ว่าเขาจะไม่อยากไปก็ตาม บุญคุณของไป่ไท่ฮางต่อเฉินหลงเพิ่มขึ้นมาอย่างมากโข สำหรับคนที่ยอมสละชีวิตตน หากเขาไม่ได้ต้องการ สมองเขาคงมีปัญหา

คนอย่างเฉินหลงไม่มีทางปล่อยให้เขาตายหรอก

เฉินหลงรีบตามไป่ไท่ฮางไปยังรังมด

“ท่านเทพ ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร พวก “มดสีทอง” ช่างเป็นสัตว์ที่ร้ายกาจ ท่านไม่คิดหรือว่าท่านเป็นเทพที่ไม่ควรโดนกินเข้าไป โปรดรีบไปเสียเถิด” เขามองเฉินหลงที่ตามเขามา ไป่ไท่ฮางกล่าวไปอย่างกังวล เขายืนเบื้องหน้าเฉินหลงแล้งเสาเหล็กยักษ์ก็ได้ตกลงบนหัวของ “มดเขมือบทอง”

“เพราะว่าฉันเป็นเทพ ฉันจึงไม่อาจทนมองผู้ติดตามฉันโดนพวกมดตัวจ้อยนี่กินไปได้” เขากล่าว มือเฉินหลงปรากฏมีดจากนรก

“ภูเขาดาบ”

เงาของดาบจำนวนนับไม่ถ้วน พาดผ่านไป่ไท่ฮางไปและฟันตรงไปที่ “มดสีทอง” ที่อยู่บนพื้น

พลังของ “มดสีทอง” ไปถึงระดับกำเนิด ทว่าพละกำลังของมันไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก สิ่งที่เลวร้ายคือมดพวกนี้ฆ่าช้างได้

เมื่อเสาเหล็กกล้ายักษ์ของไป่ไท่ฮางตีลงไปบนหัวของมดสีทองพวกนี้ หัวของพวกมันแหลกเละ แต่อย่างไรเสียก็ไม่ได้มีผลกับเขี้ยวแหลมเหมือนเคี่ยวทับทิมของพวกมันเลย

ในตอนที่ไป่ไท่ฮางกำลังจะทุบพวกมันอีกครั้งนั้นเอง เขาพบว่ามีเงาดาบจำนวนนับไม่ถ้วน พาดผ่านตัวเขาไปยังข้างๆเขาและสับหัวของพวกมดสีทองนี่ไป

“ฉับ ฉับ ฉับ ฉับ ฉับ”

ดาบที่ไม่อาจคะเนจำนวนได้เริ่มจากตัดหัวของมดสีทองพวกนี้ไปจนและตัดพวกมันออกเป็นสองส่วน

ด้วยดาบเพียงเล่มเดียว เฉินหลงฆ่ามดสีทองมากกว่าร้อยตัวไปได้

“เยี่ยมจริงๆ อย่ามัวตื่นตะลึงอยู่ รีบเก็บของเร็ว เราจะไปจากที่นี่แล้ว” หลังจากฆ่า “มดสีทอง” ไปมากกว่าร้อยตัว ด้วยดาบเพียงดาบเดียว เฉินหลงกล่าวกับไป่ไท่ฮางคนที่กำลังนิ่งอึ้งอยู่เพราะตัวเขาเอง

เขาฆ่า “มดสีทอง” มากกว่าร้อยตัวได้ด้วยตัวคนเดียว ทว่ามดพันกว่าตัวหรือหมื่นกว่าตัว หรือแสนกว่าตัว หรือเป็นล้านตัว พวกเขาคงได้แต่หนีตาย

หลังจากได้ยินที่เฉินหลงว่าไป่ไท่ฮางรีบทำตามที่เขากล่าวเขาเก็บของ และหยิบฟันที่เป็นอัญมณีอันใหญ่และ “ถุงพิษ” ไป ทิ้งให้ “มดสีทอง” เกลื่อนอยู่บนพื้น

จริงๆแล้ว “มดสีทอง” พวกนี้มีอีกหนึ่งความสามารถนั่นคือการพ่นพิษที่มีแรงกร่อนรุนแรงออกมา แต่อย่างไรเสียพวกมันแทบจะโดนฆ่าในทันที จึงไม่มีเวลาจะใช้พิษที่ว่านั้นเลยพิษพวกนั้นจึงกลายเป็นของไป่ไท่ฮางไป