ตอนที่ 126-2 คนเลว เอามันมาลองมือเสียเลย!

จำนนรักชายาตัวร้าย

บัดนี้ไข่และนกเขาของหลิวติงถูกสาวน้อยชุดสีชมพูผู้นี้เตะจนเละแล้ว เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเขากลายเป็นหญิง ต่อไปจะต้องนั่งยองๆ ถ่ายหนักเท่านั้นนะสิ!

 

 

อาหูอดไม่ได้ที่จะจินตนาการไปไกล ภาพที่ปรากฏในสมองนั่นก็คือหลิวติงกำลังนั่งยองๆ ปลดทุกข์ ซึ่งนั่นทำให้อาหูเองตกใจจนตัวสั่น

 

 

น่าขายหน้าที่สุด!

 

 

“คุณชาย ข้าน้อยมองผิดไปแล้ว นางน่ากลัวเหลือเกิน!”

 

 

อาหูรู้สึกเลื่อมใสในดวงตาที่เฉียบคมของคุณชายของตนเองยิ่งนัก

 

 

แม้ว่าเขาจะเคยพบยิ่งสาวที่แข็งแกร่งมาแล้ว ไม่ก็โจรสาว เช่นซยาหยิ่งผู้ที่ได้ชื่อว่าโหดเ**้ยมชั่วร้ายยิ่งนักมาก็มาก แต่ก็ไม่มีคนไหนที่รูปร่างหน้าตาน่าเกรงขามเท่านนาง ที่เพียงแค่มองดูก็รู้สึกได้ทันทีว่าไม่ควรเข้าไปหาเรื่อง

 

 

แม่นางน้อยตรงหน้า รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ยิ้มทีก็หวาดยาดเยิ้มจนทำให้จิตใจสั่นหวั่นไหว ดูแล้วเป็นเพียงสาวน้อยที่น่ารักเรียบร้อยธรรมดาๆ เท่านั้น

 

 

ใครจะคาดคิด ว่านางจะลงมือหนักหน่วงถึงขั้นทำให้ให้หลิวติงสืบสกุลไม่ได้อีกต่อไป

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่อาหูได้พบเห็นคนที่ภายนอกกับด้านในจิตใจแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เมืองอู๋โยวมีหญิงสาวที่เ**้ยมโหดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

 

 

“นังบ้า! นี่เจ้า เจ้า…”

 

 

หลิวติวเจ็บปวดจนต้องนั่งคุกเข่าเอาไว้อย่างนั้น เพราะความเจ็บปวดจากส่วนล่างที่แล่นขึ้นมาทำให้เขาถึงกับซูดซี๊ดปากด้วยความทรมาน

 

 

“เด็กน้อย อายุข้ายังไม่ทันมากเท่าไหร่ เจ้าก็รู้จักคุกเข่านอบน้อมต่อข้าเสียแล้ว เห็นทีว่าข้าจะต้องให้รางวัลเจ้าแล้วกระมัง!”

 

 

อวี้เฟยเยียนหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาโยนไปที่เบื้องหน้าของหลิวติง

 

 

“รับไว้เถอะ! ไม่ต้องเกรงใจ!”

 

 

เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เสิ่นเลี่ยถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างไม่เกรงใจ

 

 

เสียงหัวเราะของเขาดังฟังชัดเปิดกว้างผ่าเผย ทำให้อวี้เฟยเยียนรู้สึกสนใจขึ้นมาในทันที

 

 

ผู้ชาย?

 

 

ผู้ชายหล่อเสียด้วย?

 

 

ผู้ชายหล่อที่ร่าเริงสดใส? ฟันขาวสะอาดเช่นนี้ ใช้ยาสีฟันอะไรกัน?

 

 

ในปากของเขากำลังคาบหญ้าจิ้งจอกเขียว เอาไว้ แน่ใจนะว่ามิได้กำลังแอ๊บแบ๊วอยู่นะ?

 

 

อวี้เฟยเยียนยังไม่ทันได้มองดูเขาให้ละเอียด ซย่าโหวฉิงเทียนก็เข้ามาขวางกั้นทัศนวิสัยของนางเอาไว้เสียก่อน

 

 

ความเผด็จการของซย่าโหวฉิงเทียน เสิ่นถูเลี่ยมองเห็นอย่างชัดเจน นั่นยิ่งทำให้เขายิ้มกว้างมากยิ่งขึ้น เห็นทีว่าคนทั้งสองจะเป็นคนรักกัน แม่นางน้อยไร้เดียงสาแต่ก็ร่าเริง ส่วนผู้ชายก็มีท่าทีน่าเกรงขามยิ่งนัก!

 

 

 

 

 

 

 

 

“สวะ นี่พวกเจ้าตาบอดกันไปแล้วหรืออย่างไร? ยังไม่รีบจับนังผู้หญิงบังอาจคนนี้ มาให้ข้าฆ่านางอีก!”

 

 

สิ่งอ่อนนุ่มที่กำอยู่ในมือแหลกละเอียด เขาจึงรู้ได้ในทันทีว่าตนเองไม่มีวันสืบสกุลได้อีกแล้ว

 

 

และเขาไม่ใช่ผู้ชายอีกต่อไป!

 

 

แค้นนี้จะไม่ชำระได้อย่างไร!

 

 

รอเพียงแค่หลิวติงเอ่ยปากสั่งการ ลิ่วล้อที่อยู่ข้างกายของเขาก็เข้าใจในทันที พวกมมันชักมีดออกมาแล้วกากันล้อมกรอบซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนเอาไว้

 

 

“น่ากลัวจังเลย…”

 

 

เมื่อเห็นเหตุการณ์จรงหน้า อวี้เฟยเยียนก็จับที่ชายเสื้อของซย่าโหวฉิงเทียนทำท่าทีหวาดกลัวเสียเต็มประดา

 

 

“ท่านพี่ มีคนจะมารังแกข้า!”

 

 

ท่าทางออดอ้อนของอวี้เฟยเยียน ทั้งแลดูเรียบร้อยทั้งแลดูน่ารัก

 

 

หากมิใช่รอบกายยังมีพวกเศษสวะพวกนี้อยู่ละก็ ซย่าโหวฉิงเทียนคงจับนางมากดจูบนางไปตั้งนานแล้ว!

 

 

“เจ้ากำลังยั่วพี่!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนรู้สึกราวกับมีไฟสุมอยู่ในอก

 

 

หลังจากที่จากแผ่นดินหลัวอวี่มา ซย่าโหวฉิงเทียนค้นพบว่าอวี้เฟยเยียนนั้นมีหลากหลายมิติ เท่ากับว่าในตอนนี้นางกำลังปลดปล่อยความเป็นแมวน้อยที่แท้จริงออกมา ซึ่งยิ่งทำให้เขารักนางมากขึ้นไปอีก

 

 

คนทั้งสองถูกล้อมกรอบเอาไว้ ยังออดอ้อนแสดงความรักต่อกันได้ ทำให้เสิ่นถู่เลี่ยรู้สึกสนใจในตัวคู่รักคู่นี้ยิ่งนัก

 

 

พวกเขา น่าสนใจมากทีเดียว!

 

 

“พวกเจ้ารีบไป ฆ่าไอ้หนุ่มนั่นให้ได้! ส่วนผู้หญิงจับมันมาสังเวยที่เตียงของข้า!”

 

 

แววตาโหดเ**้ยมของหลิวติงปกปิดไว้ไม่มิดอีกต่อไป เขาต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดแห่งความเป็นชายไป เขาจะต้องทรมานผู้หญิงคนนี้ให้สามาสม เขาจะทำให้นางทรมานยิ่งกว่าตาย ให้นางต้องมาคุกเข่าเลียแทบเท้าเขาต่อหน้าเขาให้จงได้!

 

 

“พวกโง่!”

 

 

อวี้เฟยเยียนกล่าวจบ ลำแสงสีม่วงก็พุ่งตรงเข้ามา ไม่มีใครทันได้เห็นว่าซย่าโหวฉิงเทียนลงมืออย่างไรตอนไหน เห็นก็เพียงแต่ว่าฉับพลันลิ่วล้อของหลิวติงล้มตายราวกับใบไม้ร่วง ที่คอของพวกเขามีรอยกรีดเป็นแผลฉกรรจ์ จนเลือดไหลนอง

 

 

โจมตีได้รวดเร็วปานนี้!

 

 

เสิ่นถูเลี่ยตกตะลึง เขาถึงกับลุกยืนขึ้น ถุยหญ้าจิ้งจอกเขียวในมือทิ้งไป

 

 

ชายชุดสีม่วงผู้นี้ เก่งกล้ามาจากไหนกัน?

 

 

เพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถเด็ดหัวคนได้ถึงแปดชีวิต เขาควรจะเป็นถึงจักรพรรดิอาวุโส

 

 

ไม่สิ…

 

 

เสิ่นถู่เลี่ยถึงกับถุยหญ้าจิ้งอกเขียวในปากทิ้งไป แล้วตั้งใจมองชายในชุดสีม่วงนี้ให้เต็มตาอีกครั้ง

 

 

ความรวดเร็วระดับนี้ แม้กระทั่งตัวเขาเองยังทำไม่ได้

 

 

ชายผู้นี้อาจจะเป็นถึงราชาอาวุโส!

 

 

มองด้วยตาแล้วเขาน่าจะอายุเพียงยี่สิบต้นๆ เท่านั้นเอง อย่างมากที่สุดก็ไม่เกินยี่สิบห้า เมืองอู๋โยวปรากฏจอมราชาอาวุโสที่อายุน้อยเท่านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

 

 

เสิ่นถู่เลี่ยพยายามนึกถึงลูกหลานตระกูลทั้งแปดที่สำเร็จขั้นถึงราชาอาวุโสก็ไม่ใช่ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่ลูกหลานตระกูลทั้งแปด ทว่ากลับเก่งกาจถึงเพียงนี้ เขาเป็นใครกัน?

 

 

ในตอนนั้นเองที่เสิ่นถู่เลี่ยรู้สึกสงสัยใคร่รู้ในฐานะของซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนยิ่งนัก

 

 

“เจ้า เจ้า… หลิวติงเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็ถึงกับตกตะลึงจนเอ๋อไปชั่วขณะ”

 

 

คนของเขาที่พาออกมาด้วยมีทั้งจอมเทวาและปรมาจารย์ แต่อีกฝ่ายกลับสามารถฆ่าพวกเขาได้ภายในพริบตา ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ?

 

 

“ท่านพี่ ยอดเยี่ยมจริงๆ !” อวี้เฟยเยียนปรบมือชื่นชม นิ้วมือเรียวงามชี้มายังหลิวติงที่กำลังสะพรั่นสะพรึง

 

 

“แต่ว่าตรงนั้นยังมีเจ้าหมาเน่าลามกที่รอดมาได้อยู่อีกตัวหนึ่ง!”

 

 

“เจ้าอยากตายแบบไหน?”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนย่างสามขุมเข้าไปหาหลิวติงอย่างช้าๆ พร้อมกับพลังอำนาจที่เปล่งออกมา มันทำให้หลิวติงต้องหมอบลงด้วยความหวาดกลัว เนื้อตัวของเขาสั่นเทา

 

 

“จอมยุทธ์ ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่! ข้าผิดไปแล้ว!”

 

 

ในที่สุดหลิวติงก็รู้ว่าตนเองเจอตอเข้าให้ ทั้งตัวเองยังรนหาที่เอาเท้าไปแตะ หาเรื่องคนที่ไม่ควรจะไปมีเรื่องด้วยเข้าให้แล้ว

 

 

บัดนี้ลูกน้องลิ่วล้อของเขาก็ตายหมดแล้ว ส่วนตัวเขาเองก็เป็นเพียงแค่จอมเทวาเท่านั้น

 

 

อีกฝ่ายก้าวเข้ามาพร้อมกับไอสังหารที่คุกกรุ่น จนหลิวติงสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอแห่งความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้

 

 

เขาหวาดกลัว! เขายังไม่อยากตาย!

 

 

“ว่ามา เจ้าอยากตายอย่างไร?”

 

 

สำหรับคนที่คิดอาจเอื้อมถึงแมวน้อยของเขา ซย่าโหวฉิงเทียนคิดว่าเขาได้ให้เวลาเพียงพอแล้วกับมันให้ได้เลือกวิธีตาย ในสายตาของซย่าโหวฉิงเทียน คนเช่นมันให้ตายในดาบเดียวมันสบายเกินไป!

 

 

“จอมยุทธ์ไว้ชีวิตด้วย!”

 

 

หลิวติงถูกบีบคอจนหายใจไม่ออก เขาพยายามสะบัดหัวไปมาอย่างยากลำบากพร้อมๆ กับเหลือมองไปที่เสิ่นถู่เลี่ยที่อยู่ด้านข้าง

 

 

“คุณชายเสิ่น ช่วยด้วย…”

 

 

ถูกเขาเอ่ยนามถึง ทว่าเสิ่นถู่เลี่ยกลับยักไหล่ย่างไม่ยี่หระ แล้วส่งยิ้มสดใสให้กับอวี้เฟยเยียน

 

 

“สาวน้อย ข้าไม่รู้จักเขา เชิญพวกเจ้าตามสบาย!”

 

 

“เสิ่นถู่เลี่ย เจ้าเห็นคนจะตายกลับไม่ช่วยหรือ!”

 

 

เมื่อเห็นว่าเสิ่นถู่เลี่ยทำเฉยไม่สนใจ หลิวติงก็แทบกระอัก

 

 

“ข้าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น!”

 

 

เสิ่นถู่เลี่ยเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ท่าทางสบายอกสบายใจ

 

 

“อาหู เจ้าเห็นอะไรไหม?”

 

 

“เรียนคุณชาย อาหูมองเห็นนกฝูงหนึ่ง!” ชื่อเสียงในทางเสียหายของหลิวติงอื้ออึงลือไกล ซึ่งอาหูไม่เคยชอบขี้หน้าเจ้าหมอนี่อยู่แล้ว

 

 

ยิ่งกว่านั้น หลิวติงเองนั่นแหละที่เข้าไปแทะโลมแม่นางน้อยคนงามนี่ก่อน มันทำลายผู้หญิงมามากพอแล้ว ครั้งนี้ให้มันได้ลิ้มลองความเจ็บปวดบ้าง

 

 

อีกฝ่ายกำลังกำจัดภัยให้กับประชาชน อาหูย่อมต้องสันบสนุนอยู่แล้ว!

 

 

“พรวด——”

 

 

อวี้เฟยเยียนหัวเราะออกมา ชายรูปงามท่าทางสดใสร่าเริงผู้นี้น่าสนใจยิ่งนัก