บทที่ 439 สงครามที่พลิกผันไม่รู้จบ

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 439 สงครามที่พลิกผันไม่รู้จบ

หลังจากการมาถึงอย่างกะทันหันของหลิงตู้ฉิง ส่งผลให้สถานการณ์การรบที่เกิดขึ้นก็เริ่มแปรเปลี่ยน จากในตอนแรกที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ในตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญของทางฝั่งอาณาจักรหลงซานก็ค่อย ๆ แตกกระเจิงและหนีไปทีละคน ๆ

ซึ่งมันทำให้ขวัญกำลังใจของบรรดาทหารของอาณาจักรหลงซานเริ่มตกต่ำและยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นว่าแม่ทัพของทางฝั่งพวกเขาหลายสิบคนกลับไปเข้าร่วมกับฝั่งตรงข้าม นี่มันยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกสิ้นหวังมากเข้าไปใหญ่

และที่สำคัญไม่เพียงแต่เหล่าแม่ทัพของพวกเขาจะไปเข้าร่วมกับฝั่งตรงข้าม ผู้บัญชาการของพวกเขายังถึงขนาดไปลากรถม้าให้อีกต่างหาก ซึ่งนี่มันเป็นภาพที่น่าอับอายเกินทน

ส่วนทางด้านของผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรจันทรา พวกเขาเองก็มองไปยังหลงเฉิน และผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญอีก 30 คนที่เพิ่งแปรพักตร์ด้วยสายตางุนงง พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมคนกลุ่มนี้ที่ควรจะสู้เพื่ออาณาจักรหลงซานถึงได้เปลี่ยนฝั่งแบบนี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับบรรดาผู้ที่เคยลงชื่อสัญญาของหลิงตู้ฉิงกลับเข้าใจชัดเจนมากว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ถ้าพวกเขาเดาถูก คนกลุ่มนี้อาจจะได้พบกับกลุ่มของหลิงตู้ฉิงครึ่งทางและถูกจับตัวไป จากนั้นก็ลงนามในสัญญาสวรรค์และโลกเช่นเดียวกับพวกเขา

“เกิดอะไรขึ้นกับผู้บัญชาการหลง?” ผู้เชี่ยวชาญบางคนหันหน้าถามไปยังเหยียนฮ่าวหัว ตู้ฉิวและคนอื่น ๆ

เมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้ เหยียนฮ่าวหัว ตู้ฉิว และคนอื่น ๆ ก็ไม่รู้จะตอบอะไรกลับเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลงเฉิน และบรรดาเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ดูเหมือนจะแปรพักตร์ไปแล้ว

ในขณะที่ทุกคนยังคงลังเลและสับสน สถานการณ์ในสนามรบก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ขณะนี้มันกลับกลายเป็นว่าทางด้านของอาณาจักรจันทราไล่สังหารหมู่ฝ่ายอาณาจักรหลงซานแต่เพียงฝั่งเดียว

เหยียนฮ่าวหัวหรี่ตามองไปที่หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ จากนั้นมองไปที่สนามรบและสั่งกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ด้านข้างว่า “ส่งผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญอีก 100 คนไปช่วยในสนามรบ”

เหยียนฮ่าวหัวมั่นใจว่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญ 100 คนที่ส่งไปเพิ่มเหล่านี้จะต้องสามารถพลิกสถานการณ์ในสนามรบได้อย่างแน่นอน ส่วนผู้เชี่ยวชาญที่เหลือเขายังคงรอก่อนเพื่อจับตาดูท่าทีหลิงตู้ฉิง และคนอื่น ๆ ที่เหลือเอาไว้

แต่ยังไงซะ ทันทีที่พวกของเหยียฮ่าวหัวเคลื่อนไหว หลิงตู้ฉิงก็ได้ออกคำสั่งกับหลิงฉุยฟงทันที “ลุงสาม ข้าอนุญาตให้ท่านโจมตีได้อย่างอิสระ! ยี่เทียนบอกคนของเจ้าทั้งหมดให้ลงมือด้วยเช่นกัน”

เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงออกคำสั่ง เหลียงเฟ่ยเอ๋อเองก็รีบพูดว่า “สามี ให้หยุนเอ๋อร์กับข้าเข้าร่วมรบด้วยเถอะ”

นางแน่ใจว่าหากนางใช้เหรียญตราผนึกสวรรค์ร่วมมือกับหลิงเทียนหยุน ศึกครั้งนี้จะต้องจบลงอย่างรวดเร็วแน่นอน

แต่น่าเสียดาย หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “แม้ว่าเหรียญตราผนึกสวรรค์จะมีประโยชน์ก็จริง แต่ระยะการใช้งานของมันก็มีจำกัดและเมื่อไหร่ที่พวกเขาเห็นจุดอ่อนของมัน เจ้าจะถูกรุมทึ้งโดยผู้เชี่ยวชาญฝั่งตรงข้ามเป็นเป้าหมายแรกทันที”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหลียงเฟ่ยเอ๋อก็เงียบลง

แม้ว่าเหรียญตราผนึกสวรรค์จะทรงพลัง แต่ระยะของอำนาจผนึกมันก็เล็กเกินไปสำหรับสงครามขนาดใหญ่แบบนี้ ความสามารถในการผนึกของมันมีรัศมีแค่ 100 เมตรรอบตัวนาง หากผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ที่อยู่รอบ ๆ นับร้อยคนมองเห็นจุดอ่อนนี้เมื่อไหร่ พวกเขาจะรักษาระยะห่างจากตัวนางทันทีและจะใช้ยุทธวิธีรุมระดมโจมตีจากระยะไกลใส่นาง ซึ่งแน่นอนว่าเหลียงเฟ่ยเอ๋อ หรือ หลิงเทียนหยุนคงได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน

ในเวลานี้ เหยียนฮ่าวหัวมองไปที่สถานการณ์สนามรบด้านล่างที่กำลังดุเดือดขึ้น เนื่องจากการที่เขาส่งผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์เข้าไปเสริม เขาหรี่ตาและตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ส่งคนอีก 50 คน ลงไปช่วยในสนามรบ!”

หลังจากส่งเข้าอีก 50 คน เขายังเหลือผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญอีก 100 คนที่อยู่ข้างกาย ซึ่งคอยทำหน้าที่จับตาดูหลิงตู้ฉิงและคนของเขาด้วยสายตาระแวงระวังปนไปด้วยความโลภ

เหยียนฮ่าวหัวและคนของเขาคิดอย่างโหดเหี้ยม กลุ่มคนฝั่งตรงข้ามที่เหลืออยู่เป็นเพียงกลุ่มคนที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าระดับสวรรค์ทั้งนั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีสมบัติแห่งทะเลชางหมาง แต่มันก็คงไม่สามารถต้านทานพวกเขานับร้อยได้แน่นอนจริงไหม?

เมื่อถูกรุมจ้องมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโลภ หลิงตู้ฉิงเผยรอยยิ้มและพูดกับหลิงว่านถิง “เอา หลิงจู้ มาให้พ่อก่อน”

เมื่อได้ยินคำสั่ง หลิงว่านถิงพยักหน้าและส่งหลิงจู้ไปให้หลิงตู้ฉิงทันที

เมื่อได้รับหลิงจู้มา หลิงตู้ฉิงก็ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร เนื่องจากทางฝั่งของอาณาจักรหลงซานก็ยังไม่ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญทั้งหมดเข้าโจมตี

ในเวลานี้ หลังจากที่เหยียนฮ่าวหัวส่งผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์กว่า 50 คนลงไปช่วยในสนามรบ การรุกคืบของหลิงว่านจุนก็ต้องชะงักลงในทันที

หลิงว่านจุน เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงสั่งให้กองทัพของเขาเปลี่ยนยุทธวิธีจากการบุกตะลุยเข้าโจมตีเปลี่ยนเป็นป้องกันพร้อมกับเรียกให้หลิงฟ่างหัว หลูหลิงและเกาหยูกลับมา

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญหลักร้อย วิธีการของทั้งสามคนก็เริ่มจะใช้ไม่ได้ผล

ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์เหล่านี้มีอาณาเขตสวรรค์ปกป้องร่างกายของพวกเขาไว้ ส่งผลให้เกาหยูไม่สามารถกินพวกเขาได้ พิษของหลูหลิงก็ไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ ส่วนรอยแยกมิติของหลิงฟ่างหัวก็ไม่สามารถดูดกลืนผ่านการป้องกันของอาณาเขตสวรรค์ได้เช่นกัน

ดังนั้นหลิงว่านจุนจึงเรียกพวกเขากลับมา

แต่หลังจากที่หลิงว่านจุนเปลี่ยนยุทธวิธีได้ไม่นาน หลิงฉุยฟงก็นำทหาร 500 คนของหลิงตู้ฉิงที่ในตอนนี้กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดที่เกิดจากการรวมร่างกันของค่ายกลสัตว์เทวะทั้งห้าเข้าสู่สนามรบ

ซึ่งการมาถึงของสัตว์ประหลาดก็ได้ทำให้สนามรบทั้งหมดเริ่มปั่นป่วนอีกครั้ง มันบินผ่านสนามรบและคว้าเอาตัวผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญผู้หนึ่งมาฉีกกระชากออกเป็นสองส่วนอย่างรวดเร็วจนพวกผู้เชี่ยวชาญฝั่งตรงข้ามคนอื่น ๆ ไม่ทันได้ช่วยเหลือพวกของตัวเอง จากนั้นมันเขวี้ยงซากศพของเหยื่อผู้โชคร้ายผู้นั้นลงไปกลางวงทหารของอาณาจักรหลงซาน

เมื่อหลิงว่านจุนเห็นว่าหลิงฉุยฟงเริ่มลงมือแล้ว เขาก็ตะโกนอย่างโหดเหี้ยมทันทีว่า “ช่วยกันกำจัดพวกมันให้เร็วที่สุด”

พร้อมกันนั้น หลิงว่านจุนก็เริ่มโบกธงรบโลหิตจักรพรรดิในมือเพื่อดูดกระแสพลังชีวิตจากบริเวณโดยรอบให้พุ่งเข้าสู่ร่างกายของทหารในกองทัพมังกรของเขาทุกคนเพื่อช่วยฟื้นคืนความแข็งแกร่ง และเตรียมตัวที่จะเริ่มการทำลายล้างกองทัพของอาณาจักรหลงซานใหม่อีกรอบ

เมื่อเห็นภาพนี้สายตาของเหยียนฮ่าวหัวเปลี่ยนเป็นเย็นชายิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาจ้องมองดูกองทัพนับล้านของเขาถูกกำจัดไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ

เขามองไปที่สนามรบ จากนั้นมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์จำนวนนับร้อยที่กำลังต่อสู้กันเองอยู่ และจากนั้นเขาก็เบนสายตากลับไปที่กลุ่มของหลิงตู้ฉิง

“ทุกคน! ความลับของทะเลชางหมางอยู่กับไอ้พวกคนเหล่านั้นที่อยู่ในรถม้า ข้าคงไม่ต้องบอกว่ามันมีค่ามากแค่ไหนและข้าเองก็คงไม่จำเป็นต้องถามพวกเจ้าด้วยเช่นกันว่าพวกเจ้าอยากจะได้มันมาครอบครองไหม? ก่อนหน้านี้ที่ข้ามาที่นี่ก็เพราะจักรพรรดิของข้าสั่งมา แต่ตอนนี้ข้าถือว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของข้าแล้ว ดังนั้นถ้าใครต้องการสมบัติของพวกมันก็จงไปฉีกกระชากร่างของพวกมันออกเป็นชิ้น ๆ และเมื่อถึงเวลาที่เราได้สมบัติของพวกมันมา ข้าสัญญาว่าพวกเจ้าทุกคนที่ลงมือจะได้รับส่วนแบ่งกันอย่างงามแน่นอน!” เหยียนฮ่าวหัวตะโกนพูดกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ยังคงอยู่ข้าง ๆ เขา

เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของเหยียนฮ่าวหัว ดวงตาของเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญทุกคนก็เริ่มเป็นประกาย

“ข้าจำได้ว่าพวกมันมีสมบัติอยู่ชิ้นหนึ่งที่สามารถจำกัดระดับการบ่มเพาะของพวกเราได้ ดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถเข้าใกล้พวกมันได้แน่นอน แบบนี้พวกเราควรจะจัดการปัญหานี้ยังไงดี?” ใครบางคนถาม

เหยียนฮ่าวหัวพูดอย่างเกรี้ยวกราด “ถ้าเราเข้าใกล้ไม่ได้ก็ไม่ต้องเข้าไปใกล้พวกมัน พวกเราสามารถฆ่าพวกมันได้ด้วยการระดมโจมตีอย่างต่อเนื่องจากระยะไกลได้เช่นกัน!”

“ดีเอาตามนั้น!” ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทั้งหมดพยักหน้า

เมื่อตกลงกันเสร็จ จากนั้นทุกคนก็เริ่มใช้วิชาการโจมตีระยะไกลหลากหลายประเภทประเคนใส่กลุ่มของหลิงตู้ฉิงอย่างไม่หยุดหย่อน

แต่น่าเสียดายที่การโจมตีเช่นนี้ สำหรับหลิงตู้ฉิงแล้วมันย่อมไม่มีค่าอะไรให้เขาสนใจ!