บทที่ 2351 มีความสุขขนาดนี้เชียวหรือ? / บทที่ 2352 ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หักใจสังหารนางไม่ลงกระมัง?

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2351 มีความสุขขนาดนี้เชียวหรือ?

อวิ๋นชิงหลัวหยิบขวดยาใบหนึ่งออกมา ด้านในมียาลูกกลอนสีเขียวอ่อนกลิ้งอยู่ ยื่นมาให้

“นี่คือยาถอนพิษอีกครึ่งที่เหลือ”

นำออกมาให้ง่ายดายปานนี้เชียว?

ตี้ฝูอีรับขวดยาไป จรดที่จมูกแล้วดมดู เหมือนจะเป็นยาถอนพิษจริงๆ…

เพียงแต่ ค่อนข้างพิกล!

เขายื่นมือออกไป

“นำยาถอนพิษทั้งสองส่วนมาให้ข้า!”

อวิ๋นชิงหลัวชะงักไปแวบหนึ่ง ในที่สุดก็นำยาแก้พิษอีกส่วนมามอบให้เขา

หนึ่งแดงหนึ่งเขียว ตัดสลับขับเน้นกัน

ตี้ฝูอีหยิบทวนนิ้วของนางมาด้วย เอ่ยประโยคหนึ่งว่า

“ขออภัย”

แล้วแทงข้อมือนางแผลหนึ่ง

จากนั้นเขาก็ถามนาง

“ยาถอนพิษต้องกินกี่เม็ด?”

อวิ๋นชิงหลัวเงียบอยู่ครู่หนึ่ง นางหลับตาลง

“อย่างล่ะหนึ่งเม็ด”

ตี้ฝูอีจัดยาสองเม็ดออกมาแล้วส่งให้นาง

มองนางกินยาลูกกลอนสีแดงเข้าไปก่อน แล้วค่อยกินสีเขียวตาม จากนั้นก็นั่งสมาธิโคจรลมปราณ

ตี้ฝูอีเก็บยาทั้งสองชนิดเอาไว้ เฝ้ามองนางอยู่ด้านข้างอย่างอดทนพักหนึ่ง

ผ่านไปครู่หนึ่งอวิ๋นชิงหลัวก็ลืมตา แววตาตี้ฝูอีดุจสายธารลึกล้ำ

“แค่นี้ก็แก้พิษได้แล้วหรือ?”

อวิ๋นชิงหลัวพยักหน้า ตอบอืมคำหนึ่ง

ตี้ฝูอีเข้ามาตรวจชีพจรนางทันที

แน่นอนว่าตอนที่เขาตรวจชีพจรนางก็เป็นการจับชีพจรผ่านแขนเสื้อของนาง ไม่ได้สัมผัสถูกเนื้อตัวนางเลย

ชีพจรของนางแสดงให้เห็นว่า พิษในร่างถูกถอนออกไปแล้วจริงๆ

ดูเหมือนยาถอนพิษนี้จะเป็นของจริง

ตี้ฝูอีถอนหายใจอย่างโล่งอก ปรายตามองนางแวบหนึ่ง

“เจ้าอย่าได้หลอกลวงเปิ่นจวินอีกจะดีที่สุด มิเช่นนั้นเจ้าทนรับผลที่ตามมาไม่ไหวแน่!”

พลันหันหลังก้าวออกไป

อวิ๋นชิงหลัวหลับตาอยู่บนเตียง คล้ายจะสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิงแล้ว

รอจนตี้ฝูอีก้าวออกไปแล้ว มุมปากของนางถึงยกขึ้นนิดๆ

รอยยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็แปรเปลี่ยนเป็นการหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง…

แน่นอน นางก็เกรงว่าผู้อื่นจะได้ยินเข้า ต่อให้หัวเราะอย่างบ้าคลั่งก็ไม่กล้าหัวเราะแบบออกเสียง เพียงแต่สีหน้าแววตาล้วนเป็นการยิ้มออกมาอย่างชั่วช้าร้ายกาจ…

นางรู้ดี ตี้ฝูอีจะนำยาถอนพิษส่วนที่สองไปให้กู้ซีจิ่ว

แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมจะใช้ยาพิษส่วนที่สองได้ล่วงเลยไปนานแล้ว ยามนี้ยาถอนพิษนี้นับว่าเป็นอันตรายต่อชีวิตของกู้ซีจิ่วแล้ว!

ต่อให้กู้ซีจิ่วยังมีชีวิตอยู่ รอจนกระทั่งได้กินยาถอนพิษส่วนที่สองเข้าไปก็จะตายแน่ เทพเซียนก็ช่วยเหลือไม่ได้แล้ว!

ตี้ฝูอี ข้าปฏิบัติต่อท่านเช่นนี้ ท่านกลับไร้น้ำใจกับข้าขนาดนี้!

ข้าจะให้ท่านได้เบิกตามองคนรักตายไปต่อหน้าต่อตา ทว่าทำอะไรไม่ได้เลย นี่คือสิ่งที่ข้าจะล้างแค้นท่าน! ล้างแค้นสำหรับความโหดเหี้ยมไร้เยื่อใยของท่าน!

หัวเราะอย่างบ้าคลั่งโดยไร้สุ้มเสียง เอ่ยพึมพำกับตัวเอง ยิ้มทั้งน้ำตา

“มีความสุขขนาดนี้เชียวหรือ?”

น้ำเสียงดึงดูดสายหนึ่งพลันแว่วยะเยือกขึ้น

เส้นขนทั่วร่างอวิ๋นชิงหลัวลุกชันขึ้นมาในทันใด! ลืมตาขึ้นทันที มองเห็นตี้ฝูอียืนอยู่ตรงประตู แสงอาทิตย์โอบล้อมร่างเขาเกิดเป็นรัศมีสีเงิน ถึงแม้ใบหน้าจะพร่าเลือน ทว่าอำนาจบนร่างกลับแกร่งกล้าเป็นพิเศษ

สีเลือดเลือนหายไปจากใบหน้าของอวิ๋นชิงหลัว

“ทะ…ท่าน…”

ตี้ฝูอีค่อยๆ ก้าวเข้าไปหา

“คิดว่าเปิ่นจวินไปแล้วสินะ? อวิ๋นชิงหลัว เปิ่นจวินเคยเตือนเจ้าแล้ว อย่าได้เล่นลูกไม้อีก ดูเหมือนถ้าเจ้าไม่เห็นโลงศพคงไม่หลั่งน้ำตาสินะ…”

แผนร้ายของอวิ๋นชิงหลัวถูกเปิดโปงแล้ว จึงยอมรับความพ่ายแพ้ตรงๆ เลย

“ท่านสังหารข้าเถอะ! สามารถลากนังหญิงผู้นั้นลงหลุมไปด้วยกันได้ข้าตายก็คุ้มค่าแล้ว!”

นางมีความคิดอยากตายมาเนิ่นนานแล้ว ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว

นางไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถทำอะไรกับคนที่ไม่กลัวแม้แต่ความตายอย่างนางได้!

ตี้ฝูอีเงียบงัน ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มงดงามล่มเมืองยิ่งนัก ในดวงตาคู่นั้นคล้ายมีแสงวารีไหวระริกอยู่

“อวิ๋นชิงหลัว ที่แท้เจ้าก็มีความคิดเช่นนี้ วางใจเถิด เปิ่นจวินจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าโลกนี้ยังมีเรื่องน่ากลัวกว่าความตายอยู่…”

————————————————————————————-

บทที่ 2352 ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หักใจสังหารนางไม่ลงกระมัง?

เขาพลันโบกแขนเสื้อ ด้านนอกตำหนักบรรทมแห่งนี้ของอวิ๋นชิงหลัวก็มีเขตแดนเพิ่มขึ้นมาหนึ่งชั้น

เขตแดนสามารถปิดกั้นเสียงได้ ดังนั้นต่อให้อวิ๋นชิงหลัวกรีดร้องเหมือนหมูถูกเชือด ด้านนอกก็จะไม่มีใครได้ยินเสียงจนต้องเข้ามาดูสักแวบเลย

จากนั้นเขาก็ก้าวเข้าไป…

อวิ๋นชิงหลัวเบิกตากว้างมองดูเขา ในดวงตากลับมีความปวดร้าววาบผ่านแวบหนึ่ง ในความปวดร้าวนี้แฝงความบ้าคลั่งเอาไว้ด้วย

นางรู้ว่าในที่สุดนางก็ทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว!

เขาจะทรมานนางแล้ว!

ยามที่เขาทรมานนาง จะต้องใช้มือสัมผัสถูกตัวนางด้วย…

หากว่าใช้วิธีนี้แล้วจะได้ใกล้ชิดต้องตัวกับเขา เช่นนั้นก็คุ้มค่าแล้ว!

….

ผ่านไปครึ่งชั่วยาม

อวิ๋นชิงหลัวนอนแข็งทื่ออยู่บนเตียงเสมือนโคลนก้อนหนึ่ง ร่างกายสั่นระริกไม่หยุดดุจเป็นไข้จับสั่น

บนร่างนางไม่มีบาดแผลภายนอกเลย ตี้ฝูอีเพียงขยับนิ้วจี้จุดนางอยู่ในอากาศสองสามที กระดูกทั้งร่างของนางเจ็บปวดราวกับถูกเลาะออกไป ในไขกระดูกเสมือนมีมดนับไม่ถ้วนไต่เข้าไป มดเหล่านี้ชอนไชมุดไปมาอยู่ในกระดูกของนาง กัดแทะไขกระดูกของนาง…

เจ็บ! เจ็บปวดเหลือเกิน!

คัน! คันคะเยอเป็นที่สุด!

ความเจ็บปวดคันคะเยอเช่นนั้นทำให้นางนึกอยากโขกกำแพงตาย อยากร้องโหยหวน อยากกลิ้งเกลือก เพียงแต่ร่างกายอ่อนเปลี้ยอย่างยิ่ง ขยับเขยื้อนไม่ได้เลย ทำได้เพียงทนรับความทรมานต่อไป

ตี้ฝูอีนั่งอยู่ด้านข้าง ไม่ทราบว่าหยิบกระดานหมากออกมาจากไหน นั่งเล่นหมากอยู่ตรงนั้นอย่างสำราญ ตัวหมากขาวดำต่อสู้ฟาดฟันกันไปพร้อมกับเสียงโหยหวนของอวิ๋นชิงหลัว

หมากยังไม่ทันจบกระดาน อวิ๋นชิงหลัวก็ยอมจำนนแล้ว…

“ข…ข้าพูดแล้ว ยาถอนพิษนี้จะต้องกินเข้าไปภายในหนึ่งชั่วยามถึงจะได้ผล…”

นางกล่าวถึงลักษณะของยาพิษนี้ พูดความจริงออกมาอย่างจริงจังภายใต้สายตากดดันของตี้ฝูอี

“วัตถุดิบหลักในการกลั่นพิษนี้มาจากหนอนกู่ที่ใช้โลหิตหัวใจของข้าเพาะเลี้ยง ภายในสถานการณ์เช่นนี้หากว่านางอยากถอนพิษ จะต้องใช้สมุนไพรกว่าสิบชนิดรวมถึงหัวใจของจระเข้วงแหวนเงินเพื่อหลอมยาถอนพิษ…”

ตี้ฝูอีขมวดคิ้ว เขาก็รู้จักจระเข้วงแหวนเงินเช่นกัน เติบโตอยู่ในบึงพิษ…

บึงพิษยากจะเข้าไปได้ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ บึงพิษแห่งนี้มิได้อยู่ในอาณาจักรมาร แต่อยู่ที่แดนมนุษย์ในโลกด้านนอก…

“เอาล่ะ ข้าบอกไปหมดแล้ว ถ้าท่านอยากสังหารข้าเพื่อล้างแค้นให้นาง ก็ลงมือได้เลย!”

อวิ๋นชิงหลัวหลับตาลง

นางรู้ว่าด้วยนิสัยของเขาแล้ว สุดท้ายก็คงไม่ปล่อยนางไปอยู่ดี…

แต่นางรออยู่พักหนึ่ง ก็ไม่ได้รับการจู่โจมอันสะท้านสะเทือนจากตี้ฝูอีเลย นางลืมตาขึ้นอย่างประหลาดใจ กลับพบเพียงสีหน้าสุขุมเยือกเย็นของตี้ฝูอี

“ท่าน…”

ความหวังผุดขึ้นมาในหัวใจของนางเล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หักใจสังหารนางไม่ลงกระมัง?

ตี้ฝูอีเอ่ยอย่างเฉยเมย

“เจ้ายังไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด อวิ๋นชิงหลัว เจ้าก็รู้วิธีการของเปิ่นจวินนี่ ต่อให้เจ้าตายไปแล้ว เปิ่นจวินก็จะกักขังดวงวิญญาณของเจ้าเอาไว้เพื่อทรมาน ความเจ็บปวดจากการถูกทรมานวิญญาณจะเจ็บปวดยิ่งกว่าที่เจ้าได้รับไปเมื่อครู่เสียอีก เจ้าแน่ใจหรือว่าอยากท้าทายขีดจำกัดของเปิ่นจวิน?”

ครั้งนี้อวิ๋นชิงหลัวแข็งทื่อไปแล้วจริงๆ

“ท่าน…ท่านมองออกตั้งแต่เมื่อไหร่?!”

ตี้ฝูอีเม้มปากไม่เอ่ยวาจา เพียงมองดูนาง

อวิ๋นชิงหลัวสิ้นท่าแล้ว ในที่สุดก็ยอมคายออกมาจนหมดเปลือก

“ใช่แล้ว ใช้หัวใจของจระเข้วงแหวนเงินทั่วไปมาทำกระสายยาก็ไม่มีประโยชน์หรอก จะต้องตามหาตัวที่ข้าใช้กู่ควบคุมไว้ตั้งแต่แรกตัวนั้น แล้วเอาหัวใจมา”

“แล้วจะตามหาจระเข้วงแหวนเงินตัวนั้นได้อย่างไร?”

อวิ๋นชิงหลัวหลับตาลง

“หลังจากเข้าสู่บึงพิษแล้ว ให้นำโลหิตหัวใจของข้าแบบสดๆ ราดลงในบริเวณที่กำหนดไว้ จระเข้ตัวนั้นก็จะออกมาเอง…”

ตี้ฝูอีตกตะลึง

….

บนรถม้าที่ลักษณะภายนอกดูสามัญยิ่งนักคันหนึ่ง

สัตว์ที่ลากรถม้าคือลาตัวหนึ่งที่ร่างดำปลอด แต่เท้าทั้งสี่เป็นสีขาวพิสุทธิ์

ลาตัวนี้ยังคงเจ้าอารมณ์นัก ถูกสารถีผู้บังคับรถลงแส้นิดหน่อยหรือโดนตะคอกไม่กี่ประโยค มันก็จะโกรธจนไม่ยอมเดินต่อแล้ว!