เสี่ยวเทียนเหยา ได้ล่าช้ามากไปกับเวลาในการวางแผนของเขา เพื่อที่จะเข้าไปในวังกับหลิน ชูจิ่ว ดังนั้นทันทีที่เขากลับมา เขาก็เรียกตัวหลิวไป๋และซูฉา มาถามเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านนอก
ข่าวเรื่องของขาของเขา ศัตรูของเขาต่างก็ได้รับการการยืนยันแล้ว คนเหล่านั้นแน่นอนว่าจะไม่สามารถรอที่จะลงมือกับเขาได้
“นกพิราบนอกเมืองถูกยิงทั้งหมดลงโดยถังถัง ไม่มีเหลือรอดแม้แต่ตัวเดียว ข่าวทั้งหมด 36 เรื่องต่างก็เกี่ยวกับท่าน” ซูฉาวางกองข่าวสารไว้หน้าเสี่ยวเทียนเหยา
เสี่ยวเทียนเหยา ไม่ได้มองไปที่พวกมันและเพียงแค่ถามขึ้น “ใครคือถังถัง?” เขาดูเหมือนจะจำไม่ได้ว่ามีใครในคนของเขาที่มีชื่อนี้
“ถังถัง เป็นน้องชายของจงจิน จงจินเรียกเขาว่าถังถัง ดังนั้น … … “เมื่อเขาฟังรายงานของจงจิน เขาก็ได้ยินชื่อนี้ ดังนั้นเขาจึงใช้มัน
“อืม” เสี่ยวเทียนเหยา พยักหน้าของเขาแล้วถามขึ้น “แล้วทางหมอเทวดาโม่ เป็นอย่างไร?” หมอเทวดาโม่ใช้เวลาสามชั่วยามอยู่นอกวัง ดังนั้นจึงสามารถเห็นได้ว่าหมอหลวงฉินและอาจารย์ของเขามีอำนาจไม่น้อย
“หมอเทวดาโม่ถูกหลอกโดยอาจารย์ของหมอหลวงฉิน เขาจึงไม่ได้ไปที่นิกายลับในเมืองหลวง ”
เมื่อหมอเทวดาโม่ออกมาจากพระราชวัง เขาได้รับข้อคววาม ที่มีเพียงประโยคสามประโยคเท่านั้น : อาจารย์ ท่านยังจำศิษย์ที่ท่านเคยโยนเข้าไปฝูงหมาป่าได้หรือไม่*? ศิษย์ผู้นี้จะรออาจารย์อยู่ที่หน้าผานอกเมืองหลวง ในหนึ่งชั่วยาม ถ้าข้าไม่ได้เห็นเงาของอาจารย์ ศิษย์ผู้นี้ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น*
ตามนิสัยของหมอเทวดาโม่ เขาจะเพิกเฉยต่อสิ่งนี้ แต่เขาก็มีความผิด ดังนั้นเมื่อเขาอ่านข้อความนี้เขาก็ตกใจ เขามองหารถม้าและเดินทางตรงไปยังหน้าผานอกเมือง
ทั้งสามด้านของหน้าผา ไม่มีอะไรนอกจากเหวลึก และสามารถใช้ถนนได้เพียงถนนเส้นเดียวเท่านั้นที่จะไปถึงยอดเขา
ยอดของหน้าผา มีลมแรงมาก ผู้ใดก็ตามที่ยืนอยู่ด้านบนของมันสามารถปลิวไปกับสายลมได้ ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่นนอกเหนือจากทรายสีเหลือง คนที่ไปที่นั่นมีเพียงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นที่จะมีชีวิตอยู่
หมอเทวดาโม่ ไต่ขึ้นไปที่หน้าผ้า เสื้อคลุมของเขาถูกลมพัดไปมาอย่างแรง หน้าผากของเขาปกคลุมไปด้วยเหงื่อ แม้แต่การหายใจก็ไม่มั่นคง แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะหยุดการปีนของเขาเพื่อที่จะไปให้ถึงด้านบนสุดของหน้าผา
ลมที่ด้านบนของหน้าผาน่ากลัวมาก มันฟังเหมือนเสียงร้องของผีสาง ที่ด้านบน หมอเทวดาโม่มองไปที่ด้านต่างๆ แต่เขาก็ไม่เห็นเงาร่างใดๆ
หลังจากรออยู่ครึ่งหนึ่งของกานธูป หมอเทวดาโม่ก็ตัดสินใจว่าเขาถูกหลอกและพลาดโอกาสที่จะได้ส่งข่าว
“เสี่ยวหวางเย่นั้นช่างมากด้วยกลอุบายจริงๆ” หมอเทวดาโม่ไม่กล้าคิดว่าเรื่องนี้ทำโดยลูกศิษย์ของเขา ดังนั้นเขาจึงผลักดันทุกสิ่งทุกอย่างไปยังเสี่ยวเทียนเหยา
หลังจากหันหลังกลับไป หมอเทวดาโม่ก็รีบลงเขาไป แต่เมื่อเขาลงไปเขาก็พบว่ารถม้าที่มาส่งเขาได้หายไปแล้ว
หมอเทวดาโม่ไม่ต้องการเปิดเผยความลับของเขา ดังนั้นเมื่อเขามาถึงพระราชวัง เขาจึงได้จงใจทิ้งองครักษ์เงาเอาไว้ ตอนนี้เขาจึงสามารถเดินทางกลับไปด้วยตัวเขาเท่านั้น
จากเมืองหลวงไปยังหน้าผา เขาใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วยาม แต่ตอนนี้ที่เขาจะต้องเดินกลับ เขาไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน
หมอเทวดาโม่ ได้ส่งสัญญาณไปยังองครักษ์เงาที่ซ่อนอยู่ในเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเสี่ยวเทียนเหยาและหลิน ชูจิ่ว จะกลับมาถึงตำหนักเสี่ยวหวางฟู่แล้วก็ตาม หมอเทวดาโม่ ก็ยังไม่ได้กลับมาถึงเมืองหลวง เพราะคนของเขาในเมืองหลวงได้ตายไปนานแล้ว
หลังจากเรียนรู้ว่าหมอเทวดาโม่ ไม่ตาย เสี่ยวเทียนเหยาก็ไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป อาจารย์ของหมอหลวงฉิน มีแผนการของเขาเอง และมันไม่คุ้มค่ากับการทำให้มันกลายเป็นปัญหาของเขา
“แล้วจงจิน?” เสี่ยวเทียนเหยา เคาะนิ้วของเขาไปบนโต๊ะและถามหลิวไป๋ขึ้น
“ไม่มีปัญหาอะไร” หลิวไป๋พูดขึ้นด้วยความมั่นใจ “จงจินฆ่าพวกเขาทั้งหมดไปโดยไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ คนของเราที่ไปกับจงจินก็ทำลายทั้งสองนิกายลับที่เกี่ยวข้อง ทุกคนลงมือได้รวดเร็วมาก ”
ด้วยความคล่องตัวของพวกเขา พวกเขาสามารถฆ่านิกายลับได้อย่างแน่นอน ก่อนที่พวกเขาจะได้รับข่าว