TB:บทที่ 237 เก็บเกี่ยว

 

หลังจากที่ใช้ท่ากระชากลิ้นกับเธอแล้ว มีเพียงหัวหัวหนึ่งที่เหลืออยู่บนพื้น

พลังชีวิตของราชินีมดค่อยอ่อนลง และมีหัวหนึ่งของเธอที่ยังคงมีชีวิต

“ก่อนที่ผมจะนับถือคุณ ตอนนี้ได้เวลาที่คุณจะนับถือผมแล้ว ลาก่อน” หลังจากจบประโยคสุดท้าย เฉินหลงเหยียบลงบนหัวของราชินีมดและกระทืบลงไปบนหัวของเธอ

ราชินีไม่เหลืออะไรที่เป็นประโยชน์ทิ้งไว้หลังจากที่เธอตายไป สิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดคืออัญมณีสีคราม

ในตอนที่เฉินหลงจะออกไปจากรังมดนั่นเอง เขาพลันมองเห็นไข่ที่ราชินีมดทิ้งไว้

ยิ่งไปกว่านั้น เฉินหลงยังคิดได้ว่าก่อนที่ราชินีมดจะโดนตัดเป็นชิ้นๆจนตาย เธอได้วางไข่ไว้จำนวนหนึ่ง

เฉินหลงเดินไปข้างหน้าไข่เหล่านั้นและมองดูพวกมันอย่างรอบคอบ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเขา

“ดูท่าว่าคุณจะหลงเหลือทายาทไว้นะ แต่ตอนนี้พวกมันจะภักดีต่อผมเท่านั้น”

เฉินหลงใช้ “กระบวนท่าสัตว์อสูรทั้งหมื่น” ไปกับไข่ของราชินีมดตรงๆ ตราบเท่าที่ไข่ของราชินีมดฟักออกมาและเริ่มจะกลายเป็นมดสีทอง เขาจะมีกองทัพมดสีทองได้

หลังจากที่เฉินหลงเก็บกวาดสนามรบเสร็จแล้ว ยังมีหินอัญมณีอีกมากที่เขาทิ้งไว้ไม่ได้ ใน “อาณาจักรคุนหลุน” นี้อัญมณีที่มาจากสัตว์แปลกประหลาดพวกนี้คือเงินตราที่จะนำไปแลกเปลี่ยนสินค้าที่ต้องการได้ ยิ่งเป็นของที่ดีมากเพียงไรยิ่งมีค่ามากเท่านั้น

หลังจากใช้เวลาทั้งวันเพื่อเก็บหินอัญมณีทั้งหมดแล้ว เฉินหลงเดินลงไปจากภูเขา

และดูเหมือนกับว่าจะมีกฎในภูเขาหนึ่งแสนลูกนี้ คือสัตว์ในภูเขาแต่ละลูกไม่สามารถจะไปยังภูเขาอีกลูกได้และไม่สามารถจะลงเขาได้ด้วยเช่นกัน แม้ราชินีมดจะตายไปแล้ว ทว่าเธอได้ทิ้ง “ผู้สืบทอด” ไว้ในตอนท้ายสุด และเนื่องจากที่เป็นเช่นนั้น จึงยังคงมีราชินีมดในเขาลูกนี้ ที่ยังคงเป็นเจ้านายอยู่

เนื่องจากกฎที่ว่า เฉินหลงจึงวางใจจะปล่อยราชินีมดมี่ยังคงมีไข่มดอยู่ไป และเดินลงเขา

หลังจากออกมาจากเขาแล้ว เฉินหลงเห็นไป่ไท่ฮาง ที่กำลังพัฒนา “ระฆังทอง” อย่างหนักอยู่ที่ภายนอกภูเขา

ต้องพูดว่าเห็นไป่ไท่ฮางและ “ระฆังทอง” ช่างหมาะกันจริงๆ ในตอนนั้นเองที่พลังของเขาได้เข้าสู่ระดับที่เก้าของ “ระฆังทอง” และกำลังมุ่งผ่านเข้าไปสู่ระดับสิบ เขาเห็นเห็นไป่ไท่ฮางที่กำลังฝึกฝน เฉินหลงจึงไม่ได้รบกวน เขานั่งลงข้างๆอย่างเงียบเชียบ แล้วเขาจึงนับสิ่งที่เขาเก็บได้มาจากที่เขาออกไป

สิ่งแรกคือหินอัญมณีกว่าแสนชิ้นและเขี้ยวจากมดสีทองกว่าล้านเขี้ยวต่อมาคือไข่หลังจากที่ราชินีวางไข่ อีกอย่างคือ “ฉีหยูฉือหวู่” ที่เฉินหลงทำให้ใช้ได้ง่ายขึ้นแล้วตามเห็นมาจากวิถีดาบ “นรกระดับสิบแปด” ในท้ายที่สุด พลังของเฉินหลงไม่ห่างจากพลังลมปราณนัก “มดสีทอง” ธรรมดาทั้งแสนตัว “มดสีทอง” ระดับลมปราณอีกสองตัว และ “ราชินีมด” ที่อยู่ในระดับหลอมรวมธรรมชาติ ทำให้พลังลมปราณของเฉินหลง อยู่ห่างไปเพียงแค่เอื้อม

“ยังคงมีอนาคตให้กับการฆ่าสัตว์ประหลาดอยู่ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะพัฒนาพลังหลังจากฆ่าสัตว์อื่นได้ไหม”

หลังจากครุ่นคิดพักหนึ่ง ความรู้สึกเหนื่อยล้าได้เข้ามา

ระหว่างช่วงที่เขาขึ้นไปบนภูเขา เฉินหลงไม่ได้หลับเลย ตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายเป็นที่สุดและต้องการจะได้การพักผ่อนดีๆ

แต่อย่างไรเสีย ในตอนนั้นเองที่เห็นไป่ไท่ฮางฝึกฝนอยู่ เฉินหลงทำได้เพียงหลับตาและหายใจเข้าออก

เมื่อเห็นไป่ไท่ฮางฝึกฝนจบแล้ว เฉินหลงจึงได้พักอย่างดี

ห้าชั่วโมงต่อมาเขาเปิดตา

เนื่องจากเขารู้สึกว่าเห็นไป่ไท่ฮางได้ผ่านพ้นระดับไปอีกขั้นแล้ว

ฉีจากระฆังทองของไป่ไท่ฮางวนไปมาเรื่อยๆ เละเครื่องรางบนนั้นเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ

เฉินหลงรู้ว่าตราบใดที่ฉีของระฆังทองได้เย็นลงและลายของเครื่องรางได้พัฒนาขึ้นแล้ว ไป่ไท่ฮางจะมีพลังของระฆังทองระดับที่สิบได้

จึงพูดได้ว่าโดยพื้นฐานของไป่ไท่ฮาง เขาเหมาะกับการใช้ระฆังทอง สิบนาทีต่อมา ระฆังทองของไป่ไท่ฮางผ่านพ้นไประดับสิบ

ในทันทีทันใด ไป่ไท่ฮางค่อยๆเปิดตาและเห็นว่าเฉินหลงนั่งอยู่ข้างๆเขา เขากล่าวว่า “อาจารย์ท่านกลับมาแล้วหรือ”

“เอาล่ะ ตอนนี้นายทำดีมากๆแล้ว” เฉินหลงชมไป่ไท่ฮาง

ในเวลาหลายวันมานี้ที่เขาจากไป ไป่ไท่ฮางต้องฝึกหนักอย่างมากเพื่อพัฒนาตัวเขาเอง เพื่อให้พลังระฆังทองของเขาไปถึงระดับสิบ ในฐานะที่เป็นศิษย์ที่ขยันหมั่นเพียร เฉินหลงจะต้องชอบใจเป็นอย่างมาก

“อาจารย์ นี่คือสิ่งที่ศิษย์ควรทำ” ไป่ไท่ฮางจริงจัง

สำหรับไป่ไท่ฮาง สิ่งที่อาจารย์สั่งให้เขาทำจะต้องสำเร็จ นี่คือการประกาศตนว่าเขาเคารพอาจารย์ของเขา

 

“เยี่ยมมาก ผมไม่ได้รับศิษย์มาผิดคน” เฉินหลงพึงพอใจกับการประทำนี่และกล่าวต่อไป “ตอนนี้ฉันเหนื่อยเล็กน้อย ฉันจะต้องไปพักก่อน โปรดเฝ้าฉันให้ด้วยนะ อย่าให้ฉันโดนยุงพาตัวไป”

“อาจารย์ ไม่ต้องเป็นห่วงไป ตราบใดที่ยังมีศิษย์อยู่จะไม่มียุงตัวไหนมาคอยกวนการพักผ่อนของท่าน” ไป่ไท่ฮางยังคงจริงจังอยู่

มียุงอยู่เยอะมากในอาณาจักรคุนหลุน ทว่าพวกมันมีขนาดใหญ่เท่ากับนกบนโลก อีกทั้งคนที่โดนพวกมันกัดยังโดนดูดเลือดกว่าร้อยซีซีอีกด้วย เนื่องจากเมื่อยุงพวกนั้นกัดคนแล้ว พวกมันจะส่งสิ่งที่คล้ายกับ “ยาชา” เข้าไปเพื่อไม่ให้คนที่โดนกัดรู้ตัวว่าโดนกัด

เนื่องจากว่าที่นี่คือภูเขาแสนลูกแห่งเจไดจึงมีคนไม่มากนักที่มาที่นี่ เฉินหลงหลับอย่างสบายทั้งวันทั้งคืน

หลังจากที่เฉินหลงยืดตัวอย่างพึงพอใจ ไป่ไท่ฮางยังคงมองร่างเฉินหลงด้วยตาที่เบิกกว้าง เขาไม่ให้สัตว์ตัวใดเข้ามารบกวนเฉินหลงที่พักผ่อนอยู่

“นี่ ท่านหิวหรือไม่ ท่านอาจารย์ ให้ข้าช่วยหาอาหารให้ไหม” สิ้นคำ เฉินหลงหยิบเนื้อออกมาจากแหวนและย่าง

หลังจากที่เฉินหลงและศิษย์ของเขาได้กินอาหารมื้อดีๆแล้ว เฉินหลงและไป่ไท่ฮางเข้าไปในภูเขาอีกครั้ง

ไป่ไท่ฮางไม่รู้ว่าเฉินหลงฆ่า “มดสีทอง” ในเขาไปจนหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงเก็บพลังชีวิตไว้เพื่อไปในภูเขา

“ไท่ฮาง ไม่ต้องกังวลไป ฉันฆ่าพวกมดสีทองในเขานี่ไปจนหมดแล้ว” เฉินหลงมองไป่ไท่ฮางและกล่าวพร้อมรอยยิ้มขวยเขิน

“ทำลายไปแล้ว อย่างหมดสิ้นหรือ”

เมื่อได้ยินคำของเฉินหลงแล้ว ไป่ไท่ฮางนิ่งอึ้งไป สิ่งที่เขาได้ยินมาช่างวิเศษสุด อาจารย์คนเดียวฆ่า “มดสีทอง” ในเขาไปหมดเพียงแค่เกือบหนึ่งเดือนที่ได้เข้าภูเขาไป นี่ช่างสุดยอดมาก

“ก็  ฉันฆ่าราชินีไปก่อนแล้ว ตอนนี้พวกเราจะเข้าไปดูไข่ที่จะฟักใหม่ของราชินีกัน” เฉินหลงว่าในตอนที่เขาเข้ารังไป

ไป่ไท่ฮางไม่เข้าใจคำบางคำของเฉินหลง เพราะว่าฆ่าราชินีมดไปแล้ว ทำไมจึงต้องฟักราชินีใหม่ออกมาอีก

เขาและเฉินหลงใช้เวลาสองวันจึงจะเข้ารังมดได้

ตลอดทาง ไป่ไท่ฮางเห็นซากอวัยวะของ “มดสีทอง” และเชื่อคำของเฉินหลงไป

หลังจากที่เฉินหลงเข้าไปในรังแล้ว ไป่ไท่ฮางมองเห็นไข่ของมดเป็นพันๆฟอง

“ไม่ใช่ว่าแปลกหรือที่ฉันให้ราชินีมดใหม่ฟักออกมา” เฉินหลงตบไปบนไข่มดอย่างอ่อนโยน ที่เขาใช้ “กระบวนท่าสัตว์อสูรทั้งหมื่น” ด้วยตัวเขาเอง

“อาจารย์ ท่านต้องมีจุดประสงค์ที่ทำเช่นนั้น ข้าไม่กล้าจะเอาไปสงสัยครุ่นคิดหรอกขอรับ” ไป่ไท่ฮางว่า