ผ่านไปครู่หนึ่ง ไช่อิ้งเวินทนไม่ไหวแล้ว จึงถามเสียงเบาว่า “พ่อ อย่าบอกนะว่าไม่มีวิธีแล้วจริงๆ”

คุณท่านไช่ถอนหายใจออกมา “มีอยู่วิธีหนึ่ง แต่ฉันไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้ไหม”

“เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว คงทำได้แค่ลองดูแล้ว”

พูดจบ คุณท่านไช่หันมามองไช่อิ้งเวิน พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พละกำลังของเฉินไต้ซือเกินกว่าปกติไปแล้ว พวกเราพึ่งพาได้แค่ทางการหัวเซี่ย!”

“นายไปติดต่อคนระดับสูงของทางการหัวเซี่ย บอกว่าตระกูลไช่ยินดีให้ก่างวาน ขอแค่ได้เป็นเศรษฐีเท่านั้น”

สีหน้าไช่อิ้งเวินดูเลือกยาก การที่ตระกูลไช่เป็นหนึ่งเดียวในก่างวาน เพราะตระกูลไช่มีอำนาจควบคุมเด็ดขาดที่ก่างวาน ถ้ามอบอำนาจพวกนี้ให้คนอื่น ก็หมายความว่าตระกูลไช่จะสูญเสียอำนาจพิเศษในก่างวานไปตลอดกาล

ไช่อิ้งเวินไม่ยอมเป็นอย่างมาก แต่ถึงไม่ยอม เทียบกับมอบตระกูลไช่ให้เฉินโม่ เลือกอ่อนข้อให้ทางการหัวเซี่ย เห็นได้ชัดว่าเป็นผลดีต่อตระกูลไช่มากกว่า

ไม่รู้ว่าตอนนี้ทางการจะยอมคุ้มครองพวกเขาไหม

“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไปลองดู!”

ไช่อิ้งเวินออกไป ติดต่อคนระดับสูงของทางการหัวเซี่ยทันที ตระกูลไช่มีสิทธิพิเศษนี้

ที่ยานจิง เจียงเหอซานมาที่พักของผู้บังคับบัญชากลางดึก ปลุกผู้บังคับบัญชาที่กำลังพักผ่อนให้ตื่นจากฝัน

ผู้บังคับบัญชาดูเหมือนสุขุมตลอดเวลา แม้ภูเขาถล่มลงต่อหน้าเขาก็ยังคงนิ่ง “มีเรื่องด่วนอะไรเหรอ”

สีหน้าเจียงเหอซานดูยินดี เขาพูดว่า “ผู้นำตระกูลไช่โทรมาครับ เขายอมละทิ้งก่างวาน!”

ผู้บังคับบัญชาอึ้งไปครู่หนึ่ง มือที่จับแก้วชาอดสั่นไม่ได้ ทำให้น้ำชากระเด็นออกมาเล็กน้อย

หลายปีแล้ว พวกเขาฝันจะยึดก่างวานคืนมา แต่ไม่สามารถทำอะไรตระกูลไช่ได้

“เล่าเหตุการณ์โดยรวมมา” ผู้บังคับบัญชากลับมาใจเย็นเหมือนเดิม เขารู้ว่าหลายปีมานี้ตระกูลไช่ไม่อ่อนข้อ จู่ๆ ก็โทรมายอมอ่อนข้อกลางดึก ต้องมีสาเหตุแน่นอน

เจียงเหอซานพูดว่า “เฉินโม่ครับ เขาไปเข่นฆ่าที่ตระกูลไช่ และสู้กับนักพรตยู่หลงซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกวิชาอาคมแห่งก่างวานที่เขายู่หลง หลังจากนักพรตยู่หลงเปิดค่ายกลที่หลงเหลือมาจากสมัยโบราณ ก็ยังฆ่านักพรตยู่หลงได้ ทำให้ตระกูลไช่ตกใจจนเสียสติไปหมด!”

“พละกำลังของนักพรตยู่หลงเป็นยังไง” ผู้บังคับบัญชาถาม

“ได้ยินว่าใกล้เข้าสู่แดนเทพมากแล้วครับ!” เจียงเหอซานมีความตกใจผุดขึ้นบนหน้า

ดวงตาลึกล้ำเหมือนจักรวาลของผู้บังคับบัญชา เป็นประกายขึ้นมา “ใกล้เข้าสู่แดนเทพมาก ก็ยังโดนเฉินโม่ฆ่างั้นเหรอ”

เจียงเหอซานพยักหน้า “ใช่ครับ อีกทั้งค่ายกลหมื่นดวงดาว ก็เป็นค่ายกลที่หลงเหลือมาจากสมัยโบราณ พลานุภาพล้ำลึกเกินคาดเดา!”

ผู้บังคับบัญชาเคาะมือลงบนโต๊ะเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด

“ดูเหมือนว่าถึงเป็นหยางติ่งเทียนก็คงไม่สามารถทำอะไรเขาได้” ผู้บังคับบัญชาพูดอย่างทอดถอนใจ

เจียงเหอซานไม่ได้พูดอะไร สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย หยางติ่งเทียนยังทำอะไรเฉินโม่ไม่ได้ ถ้าเฉินโม่เป็นศัตรูกับทางการ นั่นต้องเป็นเรื่องที่วุ่นวายมากแน่นอน

“ดูจากตอนนี้ แม้เด็กนี่มีพฤติกรรมอวดดีไปหน่อย แต่ก็ยังประพฤติตัวเหมาะสม ไม่ทำสิ่งผิด อีกทั้งเขาให้ความสำคัญกับคนสนิทและเพื่อนรอบข้างมาก น่าจะเป็นขอบเขตที่เรายังสามารถควบคุมได้” เจียงเหอซานวิเคราะห์เงียบๆ

ผู้บังคับบัญชาพยักหน้า “มีความเป็นกังวลก็ดี จะกลัวก็แต่พวกแก่ที่ไม่มีความกังวล นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คนปวดหัวที่สุด”

ผู้บังคับบัญชายกแก้วชาขึ้นจิบเบาๆ อีกมือหนึ่งยังเคาะโต๊ะไม่หยุด

“ตระกูลไช่โทรมาหาในเวลาแบบนี้ ต้องโดนเฉินโม่บีบจนหมดหนทางแน่นอน นายตอบกลับพวกเขาไปว่าเมื่อไม่มีตระกูลไช่ ทำให้เรายิ่งยึดก่างวานได้สะดวกขึ้น”

เจียงเหอซานหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดว่า “ฮ่าๆ หลายปีขนาดนี้แล้ว ตระกูลไช่บางครั้งสนิทสนม บางครั้งห่างเหินกับเรามาตลอด ผมอยากสั่งสอนพวกเขามานานแล้ว ครั้งนี้ปล่อยตระกูลไช่ไปตามยถากรรมแล้วกัน!”

“อืม!” ผู้บังคับบัญชาพยักหน้า แผนการของตระกูลไช่ล้มเหลวทันที