แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1015
เมื่อแสงอาทิตย์สว่างขึ้นที่ขอบฟ้าทาทิศตะวันออก เฉินโม่ที่ปรับลมหายใจมาทั้งคืน ลืมตาขึ้นช้าๆ

“พลังทิพย์ในตัวฟื้นฟูมาบางส่วน แต่อาการบาดเจ็บของร่างกายยากที่จะฟื้นฟูให้เหมือนเดิม ต้องกลั่นยาชีวิต”

เมื่อตัดสินใจได้ เฉินโม่รีบเอาสมุนไพรเหล่านั้นออกมาจากแหวนเก็บของ จากนั้นจึงเริ่มกลั่นยา

ยาชีวิตเป็นยาที่ค่อนข้างหายากมาก เวลาในการกลั่นก็นานเล็กน้อย เฉินโม่ใช้เวลาสองชั่วโมงเต็มๆ กว่าจะกลั่นออกมาสำเร็จ

มองยาเม็ดสีเขียวที่มีเส้นสีแดงเป็นเส้นๆ เฉินโม่เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก จากนั้นกลืนยาลงไป

ยาชีวิตมีประสิทธิภาพมากต่อการรักษาอาการบาดเจ็บของผู้บำเพ็ญ แม้ร่างกายโดนซัดจนไม่สมบูรณ์ แค่ได้กินยาชีวิตเพียงเม็ดเดียว ก็สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนอาการบาดเจ็บของเฉินโม่ในตอนนี้ ยังไม่ได้สาหัสขนาดนั้น ฤทธิ์ยาชีวิตที่เหลืออยู่ สามารถชดเชยพลังทิพย์ที่เฉินโม่เสียไปได้พอดี

ใช้เวลาไปอีกสองชั่วโมง เฉินโม่ดูดซับประสิทธิภาพของยาชีวิตเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นเอาเสื้อผ้าสำรองออกจากแหวนเก็บของ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ตระกูลไช่

ในลานขนาดใหญ่ของตระกูลไช่ คนตระกูลไช่มาถึงเกือบทุกคนแล้ว ใบหน้าแต่ละคนมีความโมโหและไม่พอใจ บรรยากาศน่าอึดอัดเป็นอย่างมาก

คุณท่านไช่นั่งตรงตำแหน่งผู้นำตระกูล สีหน้าเคร่งขรึม เดาอารมณ์ไม่ออก

ที่นั่งถัดมาคือไช่อิ้งเวินผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน สีหน้าซีดเหมือนคนตาย นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

พวกคนรุ่นหลังจำนวนมากของตระกูลไช่ก็ถูกเรียกมาเหมือนกัน คนที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ อดพูดอย่างสงสัยไม่ได้ว่า “เฉินไต้ซือเก่งกาจขนาดนี้จริงเหรอ เขาคนเดียวสามารถทำให้ทั้งตระกูลไช่กลัวจนเป็นแบบนี้!”

“หึ ถ้าวันนี้เฉินไต้ซือไม่มาก็ดี แต่ถ้ากล้ามา ฉันจะสั่งสอนเขาให้ดู! ตอนนี้มันยุคสมัยใหม่แล้ว นักบู๊คนหนึ่งจะเก่งแค่ไหนกันเชียว เขาหลอกพ่อได้ แต่หลอกผมไม่ได้หรอก”

คนรุ่นหลังของตระกูลไช่คนหนึ่ง พูดเสียงเย็นชาด้วยสีหน้าไม่ยอม

“อวดเก่ง!” จู่ๆ คนระดับสูงของตระกูลไช่คนหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง ใช้ฝ่ามือตบเด็กคนนี้จนเซ

“ขนาดนักพรตยู่หลงยังโดนเขาฆ่า นายไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม”

เด็กคนนั้นมองพ่อตัวเอง ก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไร

คุณท่านไช่ดูเวลา แล้วถามว่า “เฉินไต้ซือยังไม่มาเหรอ”

พ่อบ้านเดินเข้ามา คำนับแล้วพูดว่า “ยังไม่มาครับคุณท่าน”

ขณะกำลังพูด คนเฝ้าประตูคนหนึ่งวิ่งอย่างตื่นตระหนกเข้ามา พูดอย่างเหนื่อยหอบว่า “คุณท่าน เฉิน เฉินไต้ซือมาแล้วครับ”

จู่ๆ คนตระกูลไช่หวั่นใจทันที พากันมองไปนอกประตู

เฉินโม่เดินเข้ามาในห้องโถงตระกูลไช่ กวาดตามองหนึ่งรอบ คนที่สบตากับเฉินโม่ทุกคน พากันหันไปมองทางอื่นอย่างตื่นกลัว ไม่กล้าสบตากับเฉินโม่

สุดท้ายสายตาของเฉินโม่หยุดลงที่คุณท่านไช่ เขาพูดอย่างราบเรียบว่า “ตอนนี้ผมมาเอาของที่เป็นของผมคืน พวกคุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

คนระดับสูงของตระกูลไช่ทุกคน ไม่มีใครกล้าพูดสักคน คนที่มีปัญหาโดนเฉินโม่ฆ่าตายคาที่หมดแล้ว พวกเขาไม่เอาชีวิตตัวเองไปลองเชิงกับขีดจำกัดของเฉินโม่หรอก

คนที่เคยเห็นพละกำลังของเฉินโม่ ไม่กล้าพูดอะไร แต่พวกคนรุ่นหลังที่เพิ่งเรียกกลับมาใหม่ กลับไม่เกรงกลัวเพราะยังไม่เคยเห็นถึงความน่ากลัว

คนรุ่นหลังของตระกูลไช่คนหนึ่ง อดถามออกมาไม่ได้ “นายมีสิทธิ์อะไรมาชิงทุกอย่างของตระกูลไช่”

“หุบปาก!” พ่อของชายหนุ่มคนนั้นตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี ตำหนิออกมาทันที จากนั้นรีบเดินไปตบหน้าชายหนุ่มคนนั้นจนเลือดไหลออกมาจากมุมปาก

“เฉินไต้ซือ เด็กยังไม่รู้เรื่อง หวังว่าคุณจะไม่เถียงกับคนรู้น้อยแบบเขา”

เฉินโม่มองชายหนุ่มที่ยังมีสีหน้าโมโห แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “เพราะฉันแข็งแกร่งกว่าตระกูลไช่ของพวกนายไง! เหตุผลนี้พอได้ไหม”